ตอนที่ 465 : พระบิดาตกใจ!

หลังจากสยบมังกร 28 ตัวของลอร์ดเทพมังกรแล้ว โจวโจวและคนอื่นๆ ก็บินต่อไปอีกกว่า 3 ชั่วโมงก่อนที่พวกเขาจะเห็นกองยานบินอยู่ข้างหน้า

กองบินนี้มีสีน้ำเงินและมีรูปร่างเป็นรูปสามเหลี่ยม มันมียานบินทั้งหมด 20 ลำ

ในเวลานั้นเอง พวกมันก็กำลังบินหนีไปจากวายุคลั่งอยู่

“ในที่สุดฉันก็เจอแล้ว”

โจวโจวมองไปยังยานบิน 20 ลำและถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เขายิ้มออกมา

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาต้องใช้เวลามากขนาดนี้บนสมรภูมิสุดท้ายเพื่อตามหาลอร์ดคนหนึ่ง

เขาหวังว่าผลกำไรที่เขาได้รับจากพระบิดาจะไม่ทำให้เขาผิดหวัง

“เตรียมสู้ศึก!”

โจวโจวสั่งการทหารทุกคน

จากนั้นเขาก็สั่งให้เหวินหยานำราตรีประดับดาว 11 ลำล้อมพวกมันไว้อย่างรวดเร็ว

“เจ้าค่ะท่านลอร์ด!”

หลังจากเหวินหยารับคำสั่งแล้ว เธอก็ควบคุมราตรีประดับดาว 11 ลำให้บินออกไปอย่างรวดเร็ว

ความเร็วของยานบิน 20 ลำนี้ช้ากว่าราตรีประดับดาวมาก พวกมันจึงถูกล้อมไว้ด้วยราตรีประดับดาว 11 ลำอย่างรวดเร็วและจากนั้นก็ลอยอยู่ในอากาศโดยไม่ขยับเขยื้อนเลย

ในเวลาเดียวกัน ภายในยานบินลำหนึ่งจากยานบินทั้ง 20 ลำ หุ่นยนต์ทรงกลมสีเงินตัวหนึ่งมองไปที่ราตรีประดับดาวด้วยสายตาเคร่งขรึมและงงงวย

มันคือแกนกายของพระบิดานั่นเอง!

“ราตรีประดับดาว… นี่ไม่ใช่ยานบินที่เป็นบรรณาการให้กับพันธมิตรของเผ่าพันธุ์จักรกลงั้นเหรอ? พวกมันจะทำอะไร? พวกมันไม่สนใจมิตรภาพกับเผ่าพันธุ์จักรกลและต้องการจะโจมตีข้างั้นเหรอ?”

พระบิดาคิดอยู่ชั่วขณะและส่งข้อความไปหากองกำลังลึกลับนี้

บนราตรีประดับ

“ท่านลอร์ด อีกฝ่ายส่งข้อความมาถามว่าพวกเราจะไม่สนใจมิตรภาพกับเผ่าพันธุ์จักรกลและจะเริ่มสงครามกับพวกมันงั้นเหรอ”

เหวินหยารายงาน

โจวโจวส่ายหัว

ในสถานที่อันแสนอันตรายอย่างสมรภูมิสุดท้าย มิตรภาพกับเผ่าพันธุ์จักรกลจะมีค่าอะไรอีก?

อีกฝ่ายไม่น่าจะมีความคิดไร้เดียงสาเช่นนี้ พวกมันคงแค่อยากจะหลีกเลี่ยงการต่อสู้กับกองกำลังไม่ทราบฝ่ายก็เท่านั้น

ถึงกระนั้นโจวโจวก็ไม่สนใจเรื่องนี้

ไม่ต้องพูดถึงว่าเขาใช้โอกาสที่จะค้นหาศัตรูด้วยเข็มทิศวิญญาณแห่งการล้างแค้นไปหมดแล้ว

เพื่อให้ได้ความรู้ด้านการผลิตยานบินมา เขาต้องจัดการกับอีกฝ่ายให้ได้

นอกจากนี้ พระบิดายังเป็นลอร์ดแห่งเผ่าพันธุ์จักรกลที่แข็งแกร่งที่สุด

อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ได้แสดงถึงเจตจำนงของเผ่าพันธุ์จักรกลทั้งหมด!

การมีความขัดแย้งกับมันอาจไม่ทำลายมิตรภาพของเขากับเผ่าจักรกลก็ได้

โจวโจวไม่เสียเวลาอีกและสั่งการทหารทุกคนผ่านหน้าจอกองทัพ

ในเวลาเดียวกัน พระบิดาที่ยังรอข่าวของศัตรูที่ไม่ทราบฝ่ายในยานบินของมันก็ได้ให้กองทัพจักรกลเตรียมพร้อมรับศึกทุกเมื่อ

อัลกอริทึมขั้นสูงสุดทำให้มันมีพลังในการคำนวณอันมหาศาล

ดังนั้นแม้ว่ามันจะไม่รู้ท่าทีของอีกฝ่าย แต่มันก็คำนวณไว้แล้วว่ามันมีโอกาส 80% ที่อีกฝ่ายจะโจมตีและมีโอกาสอีก 20% ที่พวกมันจะไม่โจมตี

“หวังว่าพวกมันจะไม่โจมตีจริงๆ”

พระบิดาคิด

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของสมรภูมิสุดท้ายแล้ว

แม้ว่ามันจะคิดว่าเป็นลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์ระดับแนวหน้า แต่มันก็รู้ว่าผู้ที่สามารถเอาชีวิตรอดมาได้จนถึงตอนนี้ต่างก็เป็นลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์ที่ทรงพลังหรือมีทักษะการเอาชีวิตรอดที่แข็งแกร่งแน่ๆ

ในความทรงจำของมันบนสมรภูมิแห่งลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์ มันก็มีลอร์ดมากมายที่มีความแข็งแกร่งในการต่อสู้ไม่ด้อยไปกว่ามันเลย

ยกตัวอย่างเช่น ผู้เที่ยงแท้ มหาเทพ เจ้าตะวันสาดแสง เจ้าเหนือหัว เจ้าหุ่นเชิดอนันต์ ลอร์ดเทพแมลง…

เหตุผลที่มันสามารถไต่อันดับมาได้สูงขนาดนี้บนสมรภูมิสุดท้าย ส่วนใหญ่แล้วก็เป็นเพราะเผ่าพันธุ์จักรกลสามารถเอาชีวิตรอดและเคลื่อนที่ไปรอบๆ บนสมรภูมิสุดท้ายในตอนกลางคืนได้โดยไม่ต้องเกรงกลัวหมอกสีชาด

สิ่งนี้ทำให้มันได้รับคะแนนการจัดอันดับมาเป็นจำนวนมาก และทำให้มันติดอันดับที่ห้าบนสมรภูมิสุดท้ายแล้ว

หากไม่มีข้อได้เปรียบนี้ มันคงจะไม่ได้แข็งแกร่งกว่าลอร์ดระดับแนวหน้าคนอื่นๆ เท่าไร และในขณะที่มันคิด ราตรีประดับดาว 11 ลำก็สั่นไหวเล็กน้อย

จากนั้นมังกร 92 ตัวก็บินออกมาจากราตรีประดับดาว

หลังจากนั้นทหารระดับเพชร 120,000 คน และทหารระดับเหนือสามัญ 2,200 คนก็ลอยออกมาจากราตรีประดับดาว และจ้องมองอย่างเยือกเย็นไปยังยานบิน 20 ลำนี้

หลังจากที่ความแข็งแกร่งของสิ่งมีชีวิตมาถึงระดับเพชร แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีความสามารถในการบิน แต่การพึ่งพาพลังงานในร่างกายของพวกเขาเพื่อพยุงตัวเองก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้พวกเขาสามารถบินได้

นอกจากนี้ ทหารเหล่านี้บางคนยังเชี่ยวชาญทักษะการบินที่แลกเปลี่ยนมาจากระบบแลกเปลี่ยนความดีความชอบและยังมีปีกเหยี่ยวเวหาอีกกว่า 60,000 อันที่พวกเขาได้รับมาเมื่อเช้านี้ นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาสามารถดำเนินการปิดล้อมทางอากาศได้สำเร็จ แต่นี่ก็ยังไม่ใช่จุดสิ้นสุด

จากนั้นอวตารหมาป่าละโมบ 3 ตัวที่ก่อตัวขึ้นจากทหาร 600,000 คนของไป่อี้ อู๋ซิน และลั่วเซิงก็พุ่งออกมาจากยานบินและล้อมยานบิน 20 ลำของพระบิดาไว้จากสามทิศทาง

หลังจากนั้นศรวิญญาณอู๋ตู่ก็ได้นำกองทัพวาดสวรรค์ 50,000 คนขึ้นขี่เมคาโนสไตรเดอร์พุ่งออกมาจากยานบิน จากนั้นเทพดาบราคชาซารัตติกาลซวีอันก็ลอยออกมาจากยานบินเพียงลำพังด้วย

เขาถือดาบเงาโลหิตไว้และมองไปยังพระบิดาในยานบินอย่างเย็นชา มันราวกับว่าเขาสามารถมองเห็นร่างหลักของพระบิดาที่อยู่ในยานบินได้เลย

สุดท้าย สมาชิกของพันธมิตรดาราก็ได้ส่งมอนสเตอร์ที่สามารถบินได้ออกมาล้อมยานบิน 20 ลำนี้ไว้ด้วย

ในชั่วพริบตา ก่อนที่พระบิดาจะทันได้ตอบสนอง มันก็ตระหนักได้ว่ายานบินของมันได้ถูกล้อมไว้ด้วยสิ่งมีชีวิตกว่าหนึ่งล้านตน

และสิ่งที่น่าเหลือเชื่อที่สุดก็คือความแข็งแกร่งของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ก็มหาศาลมาก

มันมองอยู่นาน แต่มันก็ไม่เห็นทหารที่มีระดับต่ำกว่าระดับทองคำเหลืองเลย

ทหารที่อ่อนแอที่สุดอยู่ในระดับทองคำเหลืองแล้ว และทหารที่แข็งแกร่งที่สุดก็อยู่ในระดับเหนือสามัญ นอกจากนี้มันยังเห็นการดำรงอยู่ที่น่าสะพรึงกลัวหลายตนซึ่งแผ่แรงกดดันของผู้กล้าออกมาด้วย!

พระบิดาอึ้งไปเมื่อมันเห็นภาพฉากนี้

เกิดอะไรขึ้น? ทำไมกองกำลังของทวีปจื้อเกาถึงสามารถเข้ามายังสมรภูมิสุดท้ายได้? ไม่ใช่ว่ามันเป็นการรังแกกันเกินไปหน่อยเหรอ?

“ยอมจำนนหรือตาย!”

ในเวลานั้นเอง เสียงของโจวโจวก็ดังขึ้นในใจของพระบิดาผ่านการสื่อสารทางจิต

พระบิดามีพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับเทวะอย่างอัลกอริทึมขั้นสูงสุด ซึ่งเป็นพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับสูงสุดแล้ว ดังนั้นแม้ว่าโจวโจวจะมีวิธีการพิเศษ แต่เขาก็ไม่สามารถเพิ่มคุณภาพของมันได้อีก ดังนั้นโจวโจวจึงไม่ได้คิดที่จะทำลายมัน

ถ้าอีกฝ่ายเริ่มต่อสู้กลับเหมือนสัตว์จนตรอก มันก็จะทำให้เขาเสียหายได้อย่างแน่นอน

ถ้าเขาสามารถทำให้อีกฝ่ายยอมจำนนได้ เขาก็จะได้รับพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับเทวะของอีกฝ่ายมาด้วย

“เจ้าคือเจ้าตะวันสาดแสงงั้นเหรอ?!”

พระบิดาตกใจเมื่อมันได้ยินน้ำเสียงคุ้นหู

มันเคยต่อสู้กับเจ้าตะวันสาดแสงบนสมรภูมิแห่งลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์มาแล้ว ดังนั้นมันจึงยังจำเสียงของเจ้าตะวันสาดแสงได้อยู่

อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่เคยคาดคิดเลยว่าความแข็งแกร่งของเจ้าตะวันสาดแสงจะเพิ่มขึ้นได้ถึงขนาดนี้ภายในระยะเวลาสั้นๆ เช่นนี้!?

แม้ว่าผู้เที่ยงแท้และมหาเทพจะมา พวกมันก็น่าจะไม่สามารถเทียบกับหมอนี่ได้เลยใช่ไหม?