ตอนที่ 619 : สังหารเทพเจ้า! ชัยชนะ!

ฮารอสเองก็เห็นภาพฉากนี้และอดหัวเราะออกมาเสียงดังไม่ได้

นี่เป็นพลังของไอเท็มเทวะหกชิ้นรวมกัน!

แม้ว่าพวกมันจะเป็นไอเท็มเทวะระดับเทพชั้นต่ำขั้นต้น แต่มันก็เพียงพอสำหรับเขาแล้วที่จะใช้บดขยี้ศัตรูตรงหน้า

เขาพุ่งเข้าหาคีแรนอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็หยิบเอาไอเท็มเทวะระดับเทพชั้นสูงขั้นต้น—ส้อมเทวะอัคคี—ที่แผ่เปลวเพลิงแผดเผาออกมาและเริ่มต่อสู้กับคีแรน

คีแรนเป็นจิตวิญญาณเทพเจ้านักธนูที่เชี่ยวชาญในการต่อสู้ระยะไกล ดังนั้นมันจึงไม่ได้เก่งกาจในการต่อสู้ระยะประชิด

ในตอนนี้ที่มันต้องเผชิญหน้ากับฮารอสที่มีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากและเชี่ยวชาญในการต่อสู้ระยะประชิด มันก็ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากทันที ทุกวินาทีของการต่อสู้ถือว่าเป็นอันตรายต่อคีแรนเป็นอย่างยิ่ง!

“มาช่วยข้าที!”

มันขอให้จิตวิญญาณเทพเจ้าอสูรเหมันต์อีก 3 ตนมาช่วยมันด้วยความตื่นตระหนก

จิตวิญญาณเทพเจ้าอสูรเหมันต์อีก 3 ตนก็อยากจะไปช่วยคีแรนเหมือนกัน แต่ในขณะที่พวกมันจะเข้าไปช่วย พวกมันก็เห็นหมาป่าตัวหนึ่งและคนอีกสองคนปรากฏขึ้นตรงหน้าของพวกมัน

พวกเขาคือเสออู๋ ซื่อซวนเถียน และเกาเฉียว!

“ช่างเป็นออร่าของจิตวิญญาณเทพเจ้าที่คุ้นเคยซะจริง… ข้าสงสัยเหลือเกินว่าข้าจะแข็งแกร่งขึ้นขนาดไหนหลังจากได้อาบเลือดเทพของพวกเจ้า”

เกาเฉียวถือขวานสีโลหิตสองเล่มเอาไว้และมองไปยังจิตวิญญาณเทพเจ้าทั้งสามด้วยดวงตาเป็นประกาย ออร่าแห่งการต่อสู้ได้ปะทุออกมาจากร่างกายเขาในทันใด

เสออู๋มองไปยังมนุษย์ทั้งสองคนนี้และลอบตกใจ

นี่เป็นเพราะเขารู้สึกได้ถึงภัยคุกคามจางๆ จากพวกเขา

จู่ๆ มนุษย์สองคนนี้ก็มาหยุดอยู่ข้างๆ ข้า และบอกข้าว่าจะสู้ร่วมกันกับข้า บางทีพวกเขาคงจะมีอะไรที่พอจะพึ่งพาได้จริงๆ

“ข้าจะจัดการกับจิตวิญญาณเทพเจ้าระดับเทพชั้นกลางเอง พวกเจ้าสองคนจัดการกับจิตวิญญาณเทพเจ้าระดับเทพชั้นต่ำก็แล้วกัน ข้าจะไปช่วยเจ้าเองหลังจากจัดการกับมันเสร็จแล้ว ทำได้ไหม?”

เสออู๋พูดด้วยโทนเสียงต่ำ

ด้วยไอเท็มเทวะพวกนี้ เขาจึงมั่นใจขึ้นมากเลย

“ได้”

ซื่อซวนเถียนพยักหน้า

เกาเฉียวหัวเราะ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความคลั่ง เขาถือขวานสองเล่มเอาไว้และพุ่งเข้าใส่จิตวิญญาณเทพเจ้าระดับเทพชั้นต่ำที่ถือหอกน้ำแข็งเอาไว้

ช่างบ้าคลั่งเสียจริง!

เสออู๋คิดกับตัวเอง

มนุษย์ระดับมหากาพย์ขั้นสูงกลับกล้าพุ่งเข้าใส่จิตวิญญาณเทพเจ้าระดับเทพชั้นต่ำขั้นต้น

ถ้านี่ไม่ได้บ้า แล้วมันจะเรียกว่าอะไร?

อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้สนใจ เขาหยิบเอาเขี้ยวแหลมสีขาวออกมา

มันคือไอเท็มเทวะระดับเทพชั้นต่ำขั้นต้นของเผ่าพันธุ์หมาป่าขาวของพวกเขา—เขี้ยวหมาป่าขาว!

เขาหยิบเอาไอเท็มเทวะออกมาและพุ่งเข้าหาจิตวิญญาณเทพเจ้าที่มีรอยสักสีฟ้าสลักไว้บนแขน

ในเวลาเดียวกัน ซื่อซวนเถียนก็ปลดปล่อยค่ายกลหมื่นเซียนกระบี่ออกมาด้วยและควบคุมกระบี่ยักษ์ที่ควบแน่นขึ้นจากกระบี่นับหมื่นเพื่อโจมตีจิตวิญญาณเทพเจ้าที่ใช้ดาบยักษ์

“งั้นข้าก็จะช่วยด้วยเหมือนกัน”

โจวโจวเองก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ เหมือนกันเมื่อเขาเห็นเช่นนี้

เขาพลิกมือขวาของเขาและหยิบเอาลูกแก้วเทวะระดับเทพชั้นต่ำขั้นต้นจำนวนหนึ่งออกมา จากนั้นเขาก็อัญเชิญมีดสั้นบูชายัญเทพอสูรเหมันต์และผ้าคลุมบูชายัญเทพอสูรเหมันต์ออกมา เขาสังเวยลูกแก้วเทวะผ่านความสามารถแห่งกฎเกณฑ์ของไอเท็มเทวะทั้งสองอันนี้ จากนั้นเขาก็อัญเชิญการโจมตีแห่งกฎเกณฑ์ธาตุน้ำแข็งและการป้องการแห่งกฎเกณฑ์ธาตุน้ำแข็งออกมา!

การโจมตีแห่งกฎเกณฑ์ธาตุน้ำแข็งมีชื่อว่า—มหาภูเขาน้ำแข็ง!

การป้องกันแห่งกฎเกณฑ์ธาตุน้ำแข็งมีชื่อว่า—เกราะน้ำแข็งเหมันต์!

โจวโจวใช้ลูกแก้วเทวะระดับเทพชั้นต่ำขั้นต้น 250 อันเพื่อสังเวยให้กับไอเท็มเทวะทั้งสองอันนี้

ไม่เพียงแต่เขาจะสามารถสร้างชั้นเกราะน้ำแข็งเหมันต์ให้กับตัวเอง ฮารอส เสออู๋ และคนอื่นๆ ได้เท่านั้น แต่เขายังสามารถปลดปล่อยภูเขาน้ำแข็งยักษ์ห้าอันเข้าใส่จิตวิญญาณเทพเจ้าอสูรเหมันต์ทั้งสี่ตนได้ด้วย!

คีแรนและจิตวิญญาณเทพเจ้าอสูรเหมันต์ตนอื่นๆ ที่กำลังเพ่งสมาธิอยู่กับการต่อสู้กับฮารอส เสออู๋ และคนอื่นๆ ไม่คาดคิดเลยว่าเจ้าตะวันสาดแสงจะสามารถปลดปล่อยการโจมตีเช่นนี้ออกมาได้ ดังนั้นพวกมันที่ไม่ทันได้ระวังจึงพากันได้รับบาดเจ็บไปตามๆ กัน

“ราชาตะวันสาดแสง!”

คีแรนและจิตวิญญาณเทพเจ้าตนอื่นๆ คำรามออกมา

พวกมันอยากจะจัดการกับราชาตะวันสาดแสงผู้น่ารังเกียจผู้นี้ก่อน แต่ฮารอสและคนอื่นๆ จะปล่อยพวกมันไปได้ยังไง?

สุดท้ายพวกมันก็ทำได้เพียงแค่ต่อสู้กับฮารอสและคนอื่นๆ ในขณะที่ต้องระวังต่อการโจมตีของโจวโจวไปด้วย

สถานการณ์นี้ที่เหมือนกับการมีคีแรนคอยโจมตีสนับสนุนอยู่ทางด้านข้างเมื่อครู่ทำให้พวกมันไม่กล้าต่อสู้สุดกำลังเลย

หลังจากผ่านไปสักพัก ฮารอสก็หัวเราะออกมาพร้อมกับคว้าศีรษะของคีแรนเอาไว้ จากนั้นก็เก็บศพอีกฝ่ายเข้าไปในแหวนมิติ

“ฝ่าบาท!”

จิตวิญญาณเทพเจ้าอสูรเหมันต์ทั้งสามเฝ้ามองภาพฉากนี้ด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง

พวกมันเป็นทั้งสหายเก่าและลูกน้องที่ติดตามคีแรนมานานหลายร้อยปี

พวกมันจะไม่โกรธได้ยังไงเมื่อพวกมันเห็นภาพฉากนี้ที่เกิดขึ้นกับสหายของตัวเอง?

“ฮึ่ม! พวกเจ้าตะโกนหาอะไร! เดี๋ยวก็เป็นตาของพวกเจ้าแล้ว!”

ฮารอสเหลือบมองไปที่พวกมันและยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย จากนั้นเขาก็กลายร่างเป็นลูกบอลเพลิงอีกครั้งและพุ่งเข้าหาพวกมัน

“หนี!”

พลังงานมิติหนาปะทุออกมา ก่อตัวขึ้นเป็นประตูมิติที่มีแรงดูดอันมหาศาลอยู่ภายใน

จิตวิญญาณเทพเจ้าอสูรเหมันต์ทั้งสามไม่ได้โง่ พวกมันย่อมรู้ว่าพวกมันต่อสู้ต่อไป มันก็มีโอกาส 99% เลยที่พวกมันจะต้องตายอยู่ที่นี่

หลังจากบีบบังคับให้เสออู๋และคนอื่นๆ ถอยไปด้วยการโจมตีสุดกำลังแล้ว พวกมันก็ถอยไปอย่างรวดเร็วในทันที ในเวลาเดียวกัน พวกมันก็หยิบเอาคัมภีร์ข้ามมิติแบบกำหนดทิศทางระดับเทพชั้นกลางขั้นสูงออกมาและอัดพลังเทวะเข้าไปในคัมภีร์นั้น

จากนั้นคัมภีร์ข้ามมิติแบบกำหนดทิศทางก็เปล่งแสงขึ้นเล็กน้อย จากนั้นจู่ๆ มันก็ไม่เสถียรและค่อยๆ สงบลง

ดวงตาของพวกมันเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อในทันที และใบหน้าที่เป็นสีฟ้าอยู่แล้วของพวกมันก็ซีดลงไปอีกในทันที

“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมคัมภีร์ข้ามมิติแบบกำหนดทิศทางจึงใช้ไม่ได้ผล?”

จิตวิญญาณเทพเจ้าอสูรเหมันต์ที่กำลังใช้ดาบยักษ์พูดออกมาด้วยความตื่นตระหนก

“ไอ้พวกก้อนน้ำแข็งจะหนีไปไหน?”

ในเวลานั้นเอง เสียงๆ หนึ่งที่เต็มไปด้วยความน่าสะพรึงก็ดังขึ้นตรงหน้าของพวกมัน

พวกมันหันไปดู

ฮารอสกำลังมองมาที่พวกมันด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย

เปลวไฟที่ขยายตัวและระเบิดอย่างต่อเนื่องบนร่างกายของเขาดูเหมือนจะแสดงให้เห็นถึงบุคลิกที่หยิ่งผยองและกระหายสงครามภายในหัวใจของเขา

เมื่อพวกมันเห็นเช่นนี้ พวกมันจะมีกระจิตกระใจต่อสู้อีกได้ยังไง?

ในขณะที่พวกมันกำลังจะหนี พวกมันก็เห็นเสออู๋ ซื่อซวนเถียน และเกาเฉียวบินตามพวกมันมาเพื่อป้องกันเส้นทางหนีของพวกมันและกำลังมองมาที่พวกมันอย่างเย็นชา

หลังจากผ่านไปสักพัก ภายใต้การปิดล้อมของฮารอสและคนอื่นๆ จิตวิญญาณเทพเจ้าอสูรเหมันต์ทั้งสามก็พากันตายทั้งหมด

ฮารอสและเสออู๋เดินเข้ามาพร้อมกับศพของจิตวิญญาณเทพเจ้าทั้งสี่ พวกเขามองไปยังศพเหล่านี้อย่างไม่เต็มใจเท่าไร และสุดท้ายพวกเขาก็กัดฟันและมอบศพพวกนี้ให้กับโจวโจว

“ข้ายังจะไม่คืนไอเท็มเทวะให้กับเจ้าหรอกนะ ข้าจะใช้มันอีก มันรู้สึกดีจริงๆ” ฮารอสกล่าว

“ได้สิ” โจวโจวไม่ได้ติดใจอะไร

ฮารอสพยักหน้า จากนั้นเขาก็บินไปหากองทัพทั้งสองที่กำลังต่อสู้กันอยู่และเริ่มใช้ไอเท็มเทวะบนร่างกายของเขาเพื่อสังหารศัตรูตามอำเภอใจ

“ข้าก็จะไปด้วยเหมือนกัน”

เสออู๋เองก็ไม่เต็มใจจะแยกจากไอเท็มเทวะทั้งหกอันนี้เหมือนกัน หลังจากพูดออกมา เขาเองก็บินลงไปเพื่อเข่นฆ่าทหารจากอาณาจักรอสูรเหมันต์ด้วย

“ฝ่าบาท”

ซื่อซวนเถียนและเสออู๋บินเข้ามาและกล่าวด้วยความเคารพ

ทั้งสองคนเต็มไปด้วยเลือดและดูสภาพไม่ค่อยดีเท่าไรนัก

“พวกเจ้าไม่เป็นอะไรนะ?”

โจวโจวถามด้วยความเป็นกังวล

“มันก็แค่อาการบาดเจ็บเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นขอรับ พวกเราได้รับการรักษาแล้ว หลังจากนอนพักสักคืนก็คงจะหายดี”

เกาเฉียวยิ้มและตอบกลับมาในขณะซื่อซวนเถียนเองก็พยักหน้า

โจวโจวพยักหน้าและกระซิบ “พวกเจ้าคงจะเลื่อนระดับเมื่อกลับไป”

ทั้งคู่ต่างก็เป็นผู้พิฆาตมังกรและสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้ผ่านพรสวรรค์ลำนำอาบโลหิตและอาบโลหิตของสิ่งมีชีวิตสายเลือดระดับสูง

แม้ว่าเผ่าพันธุ์อสูรเหมันต์จะไม่ใช่เผ่าพันธุ์ที่มีสายเลือดระดับสูง แต่จิตวิญญาณเทพเจ้าของพวกมันก็ต่างออกไป

จิตวิญญาณเทพเจ้า แม้ว่าจะเป็นจิตวิญญาณเทพเจ้าของเผ่าพันธุ์ที่อ่อนแอที่สุดแต่ก็ยังเคยสัมผัสกับพลังเทวะของเจตจำนงสูงสุด ดังนั้นร่างกายของพวกมันจึงถือได้ว่าเป็นร่างกายของสิ่งมีชีวิตที่มีสายเลือดระดับสูงเลยก็ว่าได้

มันย่อมไม่เป็นปัญหาอะไรที่จะใช้เลือดเทวะของพวกมันเพื่อกระตุ้นลำนำอาบโลหิต

“ขอรับฝ่าบาท!”

ทั้งสองกล่าวออกมาด้วยความเคารพ

โจวโจวพยักหน้า

หลังจากผ่านไปสามชั่วโมง สมรภูมิก็ค่อยๆ สงบลง

ทหารฝ่ายอาณาจักรอสูรเหมันต์ทุกตัวได้ถูกกำจัดไปหมดแล้ว

มันมีเพียงเสียงของทหารอาณาจักรตะวันสาดแสงที่กำลังเก็บกวาดสมรภูมิและเก็บไอเท็มดรอปดังออกมาเท่านั้น

หลังจากเก็บกวาดสมรภูมิเสร็จแล้ว โจวโจวก็สั่งให้ยานราตรีประดับดาวทุกลำมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงของอาณาจักรอสูรเหมันต์

อาณาจักรอสูรเหมันต์ไม่เหลือพลังที่จะต่อสู้ได้อีกแล้ว ในตอนนี้เขาจึงสามารถพิชิตอาณาจักรขั้นกลางนี้ได้ตามชอบใจแล้วโดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีอะไรไม่คาดฝันเกิดขึ้นอีก