บทที่ 248 : หากไม่มีท่านเซียนซุย ก็ไม่มีต้าเว่ยเช่นกัน
หงหยินผู้ก่อตั้งราชวงศ์เว่ยคนปัจจุบันเคยเห็นซุยเฮ็งมาก่อนแล้วเมื่อร้อยปีก่อน
ในเวลานั้น ซุยเฮ็งก็เพิ่งจะเดินทางออกมาจากพื้นที่มิติสำหรับผู้เริ่มต้นและกำลังมองหาสถานที่สำหรับรวบรวมอารมณ์ทั้งเจ็ดของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด เขาได้พบกับหวังซานจุนซึ่งในเวลานั้นเรียกตนเองว่าหวังหูและมีอายุเพียงเจ็ดขวบเท่านั้น
ในตอนนั้น ซุยเฮ็งก็ได้ใช้มะเขือเทศที่เขานำออกมาจากพื้นที่มิติสำหรับผู้เริ่มต้นในการเป็นรางวัลสำหรับการตอบคำถามของหวังหู
เดิมที นี่ก็เป็นเพียงวิธีการหนึ่งสำหรับซุยเฮ็งในการรับเอาข้อมูลที่เขาต้องการมา แต่กระนั้น มันก็ได้เปลี่ยนชะตากรรมของหวังหูไปอย่างสิ้นเชิง
มะเขือเทศลูกนั้นปลูกโดยซุยเฮ็งในพื้นที่มิติสำหรับผู้เริ่มต้น มันอุดมไปด้วยพลังวิญญาณและสำหรับผู้ฝึกตนแล้ว มันก็เป็นยาศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถชุบชีวิตคนตายได้
ถ้าหวังหูกินมันโดยตรง เขาก็จะได้รับการเกิดใหม่ในทันทีและพรสวรรค์ของเขาก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก และแม้ว่าเขาจะไม่ได้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ใดๆ มาก่อน แต่เขาก็ยังสามารถกลายเป็นยอดฝีมือได้โดยง่าย
อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้กินมันเอง เขากลับนำมะเขือเทศกลับไปที่บ้านและแจกจ่ายมันให้กับพ่อแม่และปู่ย่าตายายของเขา พวกเขาแต่ละคนกินมันเข้าไปหนึ่งในห้า
การกินแบบนี้ไม่ได้ผลดีเท่ากับการกินทั้งหมดคนเดียว ถึงอย่างนั้นมันก็ยังเพิ่มพรสวรรค์ของเขาให้สูงขึ้นอย่างมาก มันทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นและจิตใจของเขาก็สดใสขึ้นมาก เขาดูแตกต่างจากคนรอบข้างมาก
ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือปู่ของหวังหูที่กำลังป่วยหนักในตอนนั้น หลังจากที่เขากินมะเขือเทศไปหนึ่งชิ้น เขาก็ฟื้นขึ้นและกลับมามีชีวิตชีวาขึ้นมาในทันที
ในขณะเดียวกัน ปู่ของเขาก็เคยได้ผูกมิตรกับชายคนหนึ่งในตอนที่เขาเคยออกเดินทางในตอนเด็ก และชายคนนี้ก็มีชื่อว่าอู๋หยิน…
อู๋หยินออกค้นหาเด็กที่มีพรสวรรค์ไปทั่วทุกที่ เดิมทีเขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะไปเมืองเซียงซีเลย
ท้ายที่สุดแล้ว มันก็เป็นยุคแห่งความโกลาหลวุ่นวาย มันมีเด็กในเมืองจำนวนมากที่อ่านหนังสือได้ ดังนั้นหากเขาต้องการจะออกค้นหาทุกเมือง มันก็คงจะต้องใช้ความพยายามมากเกินไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาได้ยินมาว่าเพื่อนเก่าของเขาอาศัยอยู่ที่นั่น ดังนั้นเขาจึงไปหาอีกฝ่ายและบังเอิญได้พบกับหวังหู
นั่นคือวิธีที่จักรพรรดิหวังซานจุนผู้สถาปนาราชวงศ์ต้าเว่ยได้ถูกค้นพบและได้รับการเลี้ยงดู
จักรพรรดิซวนเหรินอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจหลังจากได้ยินคำอธิบายของบิดา “ ความมหัศจรรย์ของโลกเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้จริงๆ ข้าเกรงว่าแม้แต่ท่านเซียนซุยคนนี้ก็คงจะไม่ได้คาดคิดว่าการกระทำที่ไม่ได้ตั้งใจของเขาจะเผลอไปสร้างจักรพรรดิเช่นท่านขึ้นมาได้”
“ ไม่เลย” หวังซานจุนส่ายหัวและยืนเอามือไพล่หลัง เขาหันหลังให้กับจักรพรรดิซวนเหรินและพูดว่า “ ข้าไม่คิดอย่างนั้น ความสำเร็จของข้าในวันนี้เป็นผลมาจากท่านเซียนซุย”
“ เอ่อ?” จักรพรรดิซวนเหรินดูสับสน
ในสายตาของเขา หวังซานจุนก็เป็นจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตั้งแต่ที่โลกเคยมีมา ความสำเร็จของเขาไม่มีใครเทียบได้ เขาเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ที่หาตัวได้ยากในรอบพันปี
ในอดีต สมัยที่เขาเรืองอำนาจ เขาก็ได้ปกครองโลกทั้งใบด้วยอำนาจอันยิ่งใหญ่
กระนั้นแล้วทำไมจู่ๆ เขาถึงได้ถ่อมตัวขนาดนี้?
“ เจ้ารู้หรือไม่ว่านายกรัฐมนตรีอู๋ครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้ติดตามของท่านเซียนซุย” หวังซานจุนหันไปมองจักรพรรดิซวนเหรินอย่างกะทันหันและพูดอย่างเฉยเมยว่า “ นอกจากนี้ ตระกูลขุนนางที่ควรจะเป็นศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเราในตอนนั้นก็ยังถูกท่านเซียนซุยปราบปรามจนไม่กล้าจะทำอะไรบุ่มบ่าม”
“ เอ่อ นี่…” จักรพรรดิซวนเหรินพูดไม่ออก และเขาก็ตกใจอย่างอธิบายไม่ถูก
ถ้ามันเป็นเรื่องจริง งั้นพ่อของเขาก็พูดถูก การสถาปนาต้าเว่ยได้รับการปูรากฐานโดยท่านเซียนซุยมาตั้งแต่ต้น
“ ยิ่งไปกว่านั้น ราชาสวรรค์หงหวู่ก็ยังเป็นศิษย์ของท่านเซียนชุย และมหาคลังสอดประสานก็ยังเป็นสิ่งที่ตกทอดมาจากท่านเซียนซุย” หวังซานจุนบอกความลับอีกอย่างแก่จักรพรรดิซวนเหริน
“ อะไรนะ?!” จักรพรรดิซวนเหรินตกตะลึง
สิ่งนี้ทำให้เขาตกใจมากกว่าสิ่งอื่นใด ทั้งหมดนี้เป็นเพราะแกนหลักในการบริหารของต้าเว่ยนั้นอิงมาจากทฤษฎีการปกครองของราชาสวรรค์หงหวู่ ซึ่งนั่นก็คือมหาคลังสอดประสาน กระนั้น ท้ายที่สุดแล้ว แม้แต่สิ่งนี้ก็ยังมาจากท่านเซียนซุย!
จากข้อมูลนี้ แม้ว่าท่านเซียนซุยจะไม่เคยปรากฏตัวขึ้นเลยในระหว่างการสถาปนาต้าเว่ย แต่ทุกอย่างนั้นก็เป็นสิ่งที่เริ่มมาจากสิ่งที่ท่านเซียนซุยได้ทิ้งเอาไว้
“ ตอนนี้เจ้าเข้าใจแล้วใช่ไหม?” หวังซานจุนจ้องมองไปที่จักรพรรดิซวนเหรินและพูดด้วยเสียงต่ำว่า “ ท่านเซียนซุยมีพลังศักดิ์สิทธิ์ยิ่งใหญ่ขนาดไหนกัน? ข้าเกรงว่าเขาจะได้วางแผนทั้งหมดนี้เอาไว้แล้วตั้งแต่เมื่อเขาได้มอบยาเซียนแก่ข้า”
“ เหตุผลที่ต้าเว่ยของเราประสบความสำเร็จได้อย่างในทุกวันนี้ก็เป็นเพราะของขวัญจากท่านเซียนซุย”
“ อันที่จริง ข้าก็ควรจะบอกเจ้าตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว และควรจะประกาศให้โลกได้รับรู้เพื่อยกย่องการกระทำของท่านเซียนซุย อย่างไรก็ตาม ท่านเซียนซุยก็ไม่เคยเปิดเผยตัวออกมา ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถเผยแพร่เรื่องนี้ออกไปได้”
“ ในตอนนี้ ช่วงเวลา 100 ปีก็กำลังจะใกล้เข้ามาแล้วและท่านเซียนซุยก็กำลังจะกลับมา ข้าจะไปถามความเห็นของเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังนั้นมันจึงไม่เป็นไรที่จะบอกเจ้าในตอนนี้”
“ จากนี้ไป เจ้าก็จะต้องจำเอาไว้ว่ามันเป็นเพราะของขวัญของท่านเซียนซุย ต้าเว่ยถึงมีอย่างในทุกวันนี้ได้ จักรพรรดิหลังจากเราทุกองค์จะต้องเคารพท่านเซียนซุยให้ดี”
“ มิฉะนั้นแล้ว พวกเขาก็จะไม่เหมาะสมที่จะสืบทอดบัลลังก์ เจ้าเข้าใจไหม?”
“ ข้าเข้าใจแล้วเสด็จพ่อ!" จักรพรรดิซวนเหรินคุกเข่าลงด้วยความเคารพ
….
บนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวนอกดาวเต๋าจู ดาวที่มีชีวิตที่ใกล้ที่สุดคือดาวเทียนจู
ตำนานเล่าว่าในช่วงการถือกำเนิดโลก เทพสวรรค์ก็ได้โยนตะเกียงลงพื้นโดยบังเอิญ ขณะเดียวกัน บ่อน้ำมันก็ได้หยดลงในจักรวาลและก่อตัวเป็นดาวเทียนจูดวงนี้
ด้วยเหตุนี้เอง ดาวเทียนจูจึงบรรจุพลังงานของแก่นแท้ธาตุไฟที่หนาแน่นมากเอาไว้ พลังของธาตุทั้งห้าบนโลกใบนี้ไม่สมดุลเป็นอย่างยิ่ง แค่ธาตุไฟก็คิดเป็นเกือบ 99% แล้ว และธาตุทั้งสี่อื่นๆ ก็มีสัดส่วนน้อยกว่าหนึ่งเปอร์เซ็นต์เท่านั้น ถ้าใครมองลงมาจากจักรวาลภายนอก พวกเขาก็จะเห็นว่าดาวเทียนจูนั้นเป็นสีแดงเพลิงอย่างสมบูรณ์ พื้นผิวเต็มไปด้วยพายุเพลิงที่พัดโหมกระหน่ำและวุ่นวาย และมันก็ดูเหมือนกับลูกไฟขนาดใหญ่ที่กำลังลุกไหม้
สถานที่ดังกล่าวอันตรายมาก ผู้ที่ยังมาไม่ถึงขอบเขตเทพลึกลับจะต้องเผชิญหน้ากับความตายอย่างแน่นอนหากพวกเขามาถึงดาวเคราะห์ดวงนี้
แต่กระนั้นตอนนี้ก็มีคนกำลังเดินอย่างสบายๆ อยู่บนพื้นผิวของดาวเทียนจู เขาสวมชุดคลุมสีดำพร้อมฮู้ด และใบหน้าของเขาก็ถูกคลุมด้วยฮู้ด สิ่งนี้ทำให้ไม่สามารถมองเห็นรูปร่างหน้าตาของเขาได้
ในขณะนี้ เขาก็มาถึงขอบแอ่งน้ำขนาดใหญ่แล้ว เขาสูดลมหายใจเข้าและหัวเราะเบาๆ “ ใช่แล้ว นี่คือสถานที่ที่หลี่ฟาถูกสังหารลงในตอนนั้น มันยังคงมีกลิ่นของแก่นแท้เซียน”
“ ข้าสงสัยจริงๆ ว่าชายคนนี้ค้นพบความลับอะไรในตอนนั้น ผู้เฒ่าจากสำนักมรณาเก้าสวรรค์จึงไม่สามารถปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปได้แม้เวลาจะผ่านไปเกือบ 7,000 ปีแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขาก็ยังคงเสนอรางวัลก้อนโต หรือมันจะเป็นความลับในการทะลวงขอบเขตปราชญ์?”
“ ในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา เรือบินของหลี่เว่ยและหลี่เฉิงก็ได้บินผ่านดวงดาวแห่งนี้ พวกเขาไม่ได้เปลี่ยนทิศทางหรือหยุด ดังนั้นพวกเขาก็น่าจะมีทิศทางที่ชัดเจนอยู่แล้ว”
“ ข้าเดาว่ามันน่าจะเป็นดาวที่มีชีวิตที่อยู่ถัดจากดาวเทียนจู มันชื่อว่าดาวอะไรนะ? โอ้ใช่ ดาวเต๋าโจว!”
“ มันจะมีมรดกที่ปราชญ์เต๋าอี้ทิ้งไว้ที่นั่นบ้างรึเปล่านะ? ว่ากันว่าปราชญ์ได้เดินทางออกมาจากที่นั่นเมื่อล้านปีก่อน อืม มันคุ้มค่าที่จะลองดู”
ชายในชุดดำยืนอยู่ท่ามกลางเปลวเพลิงที่รุนแรงและแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีแดง เขายกมือขวาขึ้นและชี้ไปทางดาวเต๋าโจว
“ ถ้าข้าก่อหายนะกับดาวที่มีชีวิตและทำลายสิ่งมีชีวิตบางส่วนลง การฝึกตนของข้าก็น่าจะสามารถก้าวไปสู่ขอบเขตต่อไปได้!”
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved