ตอนที่ 252 การเก็บเกี่ยวยิ่งใหญ่และสมบัติยากแบบสู่ม

[ขอแสดงความยินดีด้วย ท่านได้เคลียร์อาณาจักรลับระดับ SSS ระดับ 7 ได้สำเร็จ คะแนนความยาก : 1000]

[ได้รับพลังเวทย์ 50000 แต้ม แก่นแท้ดินแดนระดับ 7 5 อัน]

[นี้เป็นครั้งแรกที่ท่านได้เคลียร์อาณาจักรลับระดับสูงสุด]

[ได้รับวัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพระดับ SSS]

[ได้รับสมบัติหายากแบบสู่ม]

เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากที่เป่าปิงได้สังหารร่างจุติจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้

แต่สิ่งที่หลิน ยู คาดไม่ถึงก็คือ

รางวัลสำหรับการสังหารมอนสเตอร์ราชันระดับ 8 ภายในอาณาจักรลับนั้น มีเพียงแค่แก่นแท้ดินแดนระดับ 7 5 อัน มันน้อยกว่าภายนอกถึงครึ่งหนึ่ง อีกทั้งยังไม่มีแก่นแท้ดินแดนระดับ 8 อีกด้วย

ดูเหมือนจะมีความแตกต่างกันระหว่าง 2 ที่นี้

แม้ว่าแก่นแท้ดินแดนระดับ 7 5 อันนี้จะดูเยอะ

แต่เมื่อคิดดูแล้วว่าหอคอยแห่งบาปนั้นยากเป็นอย่างมากแถมยังใช้เวลานาน หลิน ยู จึงคิดว่าเขาคงไม่มาที่นี้อีกในอนาคต

เพราะสุดท้ายมันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะโชคดีชนะมอนสเตอร์ระดับราชันซะทุกครั้ง

ในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เขาต้องเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ระดับราชันที่ทรงพลังและกองกำลังของเขาถูกสังหารไปเป็นจำนวนมาก มันคงเป็นความสูญเสียที่ไม่คุ้มค่าอย่างแน่นอน

หลังจากที่คิดดูแล้ว

เขาก็สงบจิตใจลง สั่งให้ทหารพืชออกมายืนข้างๆร่างจุติจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ซึ่งคุกเข่าอยู่พื้นในมือถือหอกอยู่

แม้ว่าหน้าอกของศัตรูจะถูกทะลวงและสูญเสียพลังชีวิตไปจนหมดแล้วนั้น

แต่เขาก็ยังรักษาความศักดิ์ศรีเอาไว้ไม่ยอมล้มลงอย่างเด็ดขาด

เขาสามารถบอกได้ว่า

ชายคนนี้ต้องเป็นผู้ฝึกตนที่ทรงพลังมากๆตอนที่เขามีชีวิตอยู่อย่างแน่นอน

แม้จะต้องเผชิญหน้าจากการปิดล้อมของทหารพืชจำนวนมาก แต่เขาก็ยังนิ่งเฉย ต่อสู้เพียงลำพังพร้อมกับหอกคู่ใจไม่ถอยแม้แต่น้อย

สำหรับคู่ต่อสู้เช่นนี้ หลิน ยู ชื่นชมเขาอย่างมาก

เพราะเขาคิดว่าตัวเขาคงไม่สามารถรักษาศักดิ์ศรีของเขาเอาไว้ได้หากต้องต่อสู้เพียงลำพัง

และหากไม่ใช่เพราะเขามี ปราญช์แห่งพงไพร รวมถึงเป่าปิงที่ได้รับการอัพเกรดในครั้งนี้ เกรงว่าฝ่ายที่แพ้คงจะเป็นเขาซะเอง

"หลับให้สบายนะ!"

หลิน ยู กล่าวเบาๆต่อร่างจุติจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้

ร่างจุติจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้เหมือนรู้สึกได้ถึงคำพูดของเขา มือที่จับหอกอยู่นั้นก็คลายออกและล้มลง

ร่างกายและหอกของเขาเริ่มสลายไปทีละน้อย กลายเป็นละอองแสงดาวลอยขึ้นไปบนยอดหอคอย

หลังจากที่สลายไป ก็ได้มีแสงสว่างควบแน่น 5 อันปรากฏขึ้นตรงหน้า หลิน ยู

นี้มัน?

หลิน ยู ตกตะลึงไม่น้อย

เพราะจำนวนของมันนั้นมากกว่าที่เขาคิดไว้?

เขารีบตรวจสอบอย่างระมัดระวัง

พบว่ามีสมบัติอยู่สามอย่างนอกเหนือจากลูกบอลค่าประสบการณ์และพลังงานต้นกำเนิด

ประกอบไปด้วยโล่สีเขียว พิมพ์เขียวสีทอง และปืนที่มีขนาดเพียง 2 นิ้ว

โดยไม่รีรอให้เขาครุ่นคิด พลังงานต้นกำเนิดก้ได้กลายเป็นลำแสงหลอมรวมเข้าไปในร่างกายของเขา ทำให้ความก้าวหน้าของพลังงานต้นกำเนิดเพิ่มขึ้นถึง 22.8%

แต่ตอนนี้เขาไม่ได้สนใจมันซักนิด

หลังจากที่เก็บลูกบอลค่าประสบการณ์ไปแล้ว เขาก็หยิบโลสีเขียวที่ดูคล้ายจะเป็นวัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพขึ้น

[วัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพ : เกราะป้องกันธรรมชาติ]

[ประเภทสมบัติ : เสริมพลัง]

[ระดับสมบัติ : ระดับ SSS]

[ความสามารถ : ค่าสถานะร่างกายจะเพิ่มขึ้น 4% ทุกครั้งที่เขาได้รับการโจมตีผลลัพธ์นี้จะซ้อนทับกันทุกๆ 1 ชั้นเป็นเวลา 10 วินาที สูงสุด 10 ชั้น เมื่อทับซ้อนจุดสูงสุด "บาเรีย" จะถูกเปิดใช้งานจะไม่ถูกดีบัพเป็นเวลา 5 วินาที ความเสียหายที่ได้รับลดลง 40%]

[หมายเหตุ : วัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ในการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับทหาร สามารถใช้กับฐานทัพ เพื่อความแข็งแกร่งให้กับทหารประเภทนั้น]

วัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพป้องกัน?

เมื่อเห็นความสามารถของวัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพโล่สีเขียวอันนี้ หลิน ยู ก็ตกใจ

ทุกครั้งที่ถูกโจมตี จะได้รับค่าสถานะร่างกายเพิ่มขึ้น 4% นี้ไม่ใช่วัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพออกแบบมาเพื่อนภูติไม้สงครามโบราณและภูติไม้ธรรมชาติโบราณงั้นเหรอ

หลังจากที่มันทับซ้อนกันถึง 10 ชั้นจะทำให้บาเรียถูกเปิดใช้งาน

ทำให้ไม่ติดดีบัพเป็นเวลา 5 วินาที แถมยังลดความเสียหายที่ได้รับลงอีก 40%

มันเป็นสิ่งนี้เหล่าภูติไม้โบราณต้องการทั้งหมด

ในเวลานั้น ไม่ว่าจะเป็นพิษ แช่แข็ง เผาไหม้ หมดสติ หรือสับสน ก็ไม่สามารถส่งผลกระทบต่อกองทัพภูติไม้โบราณของเขาได้อีก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเผชิญกับการต่อสู้ขนาดใหญ่ มันก็ยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ควบคู่ไปกับการรักษาของเอลฟ์ผู้ส่งสาสน์

มันยิ่งยกระดับการเอาตัวรอดให้กับกองทัพพืชของเขาสูงขึ้นไปอีก

"เยี่ยม!"

หลิน ยู อดไม่ได้ที่จะชื่นชมวัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพที่อยู่ในมือของเขา ไม่ว่าจะเป็นอันไหน มันก็ช่วยให้เขาพัฒนายิ่งขึ้นไปอีก

น่าเสียดาย

ที่หอคอยแห่งบาปจะมอบรางวัลให้เพียงแค่การเคลียร์ครั้งแรกเท่านั้น ไม่อย่างนั้นเขาคงจะเคลียร์มันอีกเรื่อยๆ

เมื่อเก็บวัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพกลับไปแล้วเขาก็มองไปที่สิ่งที่คล้ายกับปืน

หากเขาคิดถูก นี้ไม่น่าจะใช่สิ่งที่ได้จากการเคลียร์อาณาจักรลับครั้งแรก

เมื่อหยิบมาดูมันก็ใช่จริงๆ

[แก่นแท้วิญญาณปืน : สิ่งที่มีรูปร่างคล้ายปืน มันอัดแน่นไปด้วยพลังวิญญาณซึ่งเป็นสมบัติล้ำค่า ซึ่งสามารถหลอมรวมเข้ากับอุปกรณ์ที่ถูกสร้างขึ้น ทำให้อุปกรณ์นั้นมีจิตวิญญาณ]

ดูเหมือนจะเป็นวัตถุดิบหายาก

หลิน ยู ประหลาดใจไม่น้อยที่ตัวอุปกรณ์สามารถมีจิตวิญญาณได้

เหตุผลคือรูปร่างของมันที่เป็นปืน

หรือจะเป็นเจ้าของคนเดิมใช้ปืน?

ใช่แล้ว

เขาสามารถนำกับมันกลับไปให้มากอร์นสร้างอุปกรณ์ได้

ด้วยระดับการสร้างของ มากอร์น มันน่าจะเป็นไปได้

เขาจะได้รู้ก็ต่อเมื่ออุปกรณ์ถูกสร้างออกมาเสร็จแล้วเท่านั้น

หลังจากที่เก็บปืนจิ๋วกลับไป หลิน ยู ก็มองไปยังพิมพ์เขียวสีทองอันสุดท้าย อดไม่ได้ที่ถอนหายใจลึกๆ

ตอนนี้สมบัติทั่วไปไม่มีแล้ว ส่วนที่เหลือนี้ต้องเป็นสมบัติหายากที่ได้รับการจากเคลียร์ครั้งแรกอย่างแน่นอน

สมบัติหายาก

มันคืออะไรกันนะ

ดูเหมือนจะเป็นพิมพ์เขียว แต่สีของมันแตกต่างกัน

หรือจะเป็นพิมพ์เขียวที่หายาก?

ด้วยความคาดหวัง หลิน ยู หยิบมันขึ้นมาอย่างช้าๆ

ทันใดนั้น ข้อมูลของมันก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของหลิน ยู

[พิมพ์เขียว : เรือเหาะเวทย์มนต์]

[ระดับ : หายาก]

[ความทนทาน : 10000]

[ความเร็วในการบิน : 60 กม/ชม]

[ความเร็วสูงสุด : 60 กม/ชม]

[บรรทุกได้สูงสุด : 150 คน]

[ค่าใช้จ่ายในการบิน : พลังเวทย์ 1000 แต้ม/ชั่วโมง]

[หมายเหตุ : ผลผลิตจากยุคจักรกล ขับเคลื่อนด้วยพลังเวทย์ในการบิน]

[วัสดุในการผลิต : ไม้ 5000 ชิ้น แร่เหล็ก 5000 ชิ้น แร่ทองแดง 5000 ชิ้น พลังเวทย์ 500000 แต้ม ผงเวทย์มนต์ 50000 กรัม จาลึกล่องลอย 1 ชิ้น แกนพลังงาน 1 ชิ้น อู่เรือเหาะ 1 หลัง]

"เรือเหาะเวทย์มนต์!?"

หลิน ยู มองไปที่แนะนำที่อยู่ในพิมพ์เขียวด้วยความประหลาดใจ ดวงตาของเขาขยายขึ้นทันที

ไม่คิดว่าจะสู่มได้สมบัติหายากแบบนี้

เพียงแค่แวบเดียว

เขาก็มองเห็นโอกาสทางธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีอยู่นั้น

หากเขาสามารถผลิตสิ่งนี้ได้ มันต้องส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของเมืองหวงซาอย่างใหญ่หลวงอย่างแน่นอน

เนื่องจากเมื่อมีเรือเหาะเวทย์มนต์นี้ เมืองหวงซาจะไม่ถูกจำกัดการค้ากับแค่กองคาราวานในเมืองเฮยหยวนอีกต่อไป

เขาสามารถทำธุรกิจกับเมืองอื่นๆได้ หรือแม้แต่กับราชันจากอาณาจักรอื่นๆ

อีกทั้งมันยังเป็นไปได้ที่จะสร้างเครือข่ายการขนส่งทางอากาศสิ่งนี้จะพลิกโฉมเมืองหวงซาให้กลายเป็นเมืองศูนย์กลางการค้าขนาดใหญ่

ถึงตอนนั้นเขาจะยังกลัวพลังศรัทธาไม่พออีกอย่างงั้นเหรอ?

ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไร หลิน ยู ก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น

ในทางตรงกันข้าม วัสดุที่ใช้ในการผลิตและค่าใช้จ่ายนั้นไม่นับว่าเป็นอะไร

สิ่งที่ทำให้เขามึนงงก็คือวัสดุ 3 อย่างสุดท้ายที่ใช้ในการสร้างเรือเหาะเวทย์มนต์

สองอันแรกน่าจะเป็นแหล่งพลังงานบางอย่างที่ใช้ในการขับเคลื่อนเรือเหาะ

สำหรับอาคารอู่เรือเหาะ อันสุดท้ายนั้น ดูเหมือนว่าจะไม่มีอาคารดังกล่าวในอาคารพื้นฐานของดินแดนที่ให้มา

"ดูเหมือนต้องหาพิมพ์เขียวเพิ่มเติมซินะ"

หลิน ยู ค่อยๆขมวดคิ้ว

เขารู้สึกเหมือนเคยเห็นพิมพ์เขียวอาคารนี้ที่ไหนซักแห่ง

"ใช่แล้ว! ที่จุดแลกคะแนน!"

ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงบางสิ่งขึ้นมาได้ดวงตาของเขาก็สว่างวาบ

ดูเหมือนเขาจะเคยเห็นพิมพ์เขียวอู่เรือเหาะในการหน้าต่างการแลกเปลี่ยนคะแนนที่เมืองหลัก

ในเวลานั้นเขาไม่รู้ว่าความสามารถของอาคารนั้น จึงไม่ได้สนใจมัน

แต่เมื่อมองย้อนกลับไป ในตอนนี้ สิ่งนี้กลายเป็นอาคารที่เรือเหาะใช้เทียบท่า?

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ หลิน ยู ก็รีบเก็บพิมพ์เขียวนี้กลับไปทันที เรียกกองทัพพืชกลับมา จากนั้นก็เทเลพอร์ตกลับไปยังเกาะลอยฟ้า

หลังจากที่มองดูท้องฟ้ายามบ่ายอยู่พักหนึ่ง เขาก็เทเลพอร์ตกลับไปยังดินแดนทันที รีบมุ่งหน้าไปยังเมืองหลักหายไปในพริบตา

แต่เขานั้นไม่รู้ว่า

ในเวลานี้ ที่เกาะลอยฟ้าได้ตกอยู่ในความตื่นตระหนกแล้ว

"ดูนั้น! รายการจัดอันดับเปลี่ยนไปอีกแล้ว!"

"อะไรกัน มีคนแซงขึ้นที่ 1"

"บ้าเอ้ย! ตาข้าไม่ได้ฝาดใช่ไหม คะแนนความยาก 1000?"

"คะแนน 1000!!"

"ข้าไม่ได้ดูผิดไปใช่ไหม ความยากระดับสูงสุด?"

"มันเป็นระดับความยากที่ผู้คนสามารถผ่านได้อย่างนั้นเหรอ"

"นั้นมัน หลิน ยู อีกแล้ว! ชายผู้ยิ่งใหญ่เช่นนี้ปรากฏตัวขึ้นที่ อาณาจักรลับ ตั้งแต่เมื่อใดกัน!?"

เหล่าราชันที่กำลังเดินทางไปมาระหว่างเกาะลอยฟ้าก็สังเกตุเห็นการเปลี่ยนในรายการเหมือนกัน

ในชั่วพริบตา

ทุกคนได้มาล้อมรอบแท่นศิลารายการจัดอันดับ พวกเขาร้องออกมาอย่างต่อเนื่อง

[รายการจัดอันดับคะแนน (ระดับ 7)]

อันดับ 1 : หลิน ยู (เผ่าพฤกษา) ระดับ SSS 1000

อันดับ 2 : หยาง อี้ซิว (เผ่าแมลง) ระดับ SSS 995

อันดับ 3 : หยาง ต้าวถิง (เผ่าอันเดด) ระดับ SS 992

อันดับ 4 : เหวิน หยางหมิง (เผ่าจักรกล) ระดับ SSS 990

.....

มีหลายคนเคยได้เห็นชื่อนี้เมื่อเดือนที่แล้ว ดังนั้นเขาจึงจำได้เพราะ หลิน ยู นั้นเคยได้ที่อันดับ 1 เมื่อครั้งที่แล้ว

แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังไม่รู้สึกอะไร

สุดท้าย ภายในแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้พวกเขาก็ไม่ขาดแคลนราชันที่สามารถผ่านความยากระดับ 990+ พวกเขาจึงไม่ได้รู้สึกอะไรมากนัก

แต่ตอนนี้นั้นมันแตกต่างออกไป

เพราะพวกเขาเคยได้ยินความน่ากลัวของอาณาจักรลับระดับ 1000 มาก่อน

มีบางคนเคยเข้าไปสัมผัสมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะสามารถผ่านไปได้อย่างแน่นอน

คนที่สามารถเคลียร์ได้จะปรากฏ 2-3 เดือนครั้ง

ราชันที่สามารถเคลียร์ความยากระดับนี้ได้ล้วนแต่แข็งแกร่งและล่ำรวยระดับราชา

คงจะนึกภาพออกว่าพวกเขาตกตะลึงขนาดไหน

เขาไม่ได้คิดว่าคนที่แข็งแกร่งขนาดนี้จะปรากฏตัวขึ้นในรายการจัดอันดับอีกครั้ง

แต่สิ่งที่พวกเขาไม่คาดคิดก็คือ

เมื่อพวกเขาพยายามที่จะค้นหาตัวตนของ หลิน ยู เพื่อต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา

ก็มีเสียงร้องออกมาจากเหล่าฝูงชนอีกครั้ง

"มันเปลี่ยนอีกแล้ว! รายการจัดอันดับเปลี่ยนไปอีกแล้ว!"

"เป็นไปได้ยังไงกัน ทำไมมันถึงเพิ่มขึ้นมาถึงสองอันดับ!?"

"หยาน ลี่ กับ ซือถู เจี้ยน"

"อันดับ 1 ของหลิน ยู ถูกผลักลงไปอยู่อันดับ 3 แล้ว!"

ทุกคนดูตามเสียงร้องนั้น จ้องมองไปยังรายการจัดอันดับอีกครั้ง พวกเขาพบกว่าอันดับ 1 และอันดับ 2 เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ กลายเป็น หยาน ลี่ และ ซือถู เจี้ยน และแม้แต่ หลิน ยู ที่เพิ่งขึ้นไปยังอันดับ 1 ก็ยังถูกผลักให้ไปอยู่อันดับ 3

สิ่งนี้ทำให้พวกเขาตกตะลึงราวกับเห็นผี

"วันนี้มันเกิดอะไรขึ้นแน่!!?"

"ข้าจำไม่ได้ว่าพวกเขามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน?"

"หรือว่าพวกเขาจะโชคดีได้รับพรฟื้นคืนชีพ?"

"ไร้สาระ หากมีพรแบบนั้นจริงข้าก็คงผ่านไปแล้ว"

เหล่าราชันต่างถกเถียงกันด้วยความตกตะลึง

ในรายการจัดอันดับมีมีราชันที่ผ่านระดับความยาก 1000 ถึง 3 คน

แม้ว่า หลิน ยู จะออกมาก่อน แต่เพราะเขาเข้าไปก่อนแล้วใช้เวลานานที่สุด จึงทำให้เขาตกไปอยู่อันดับ 3 ทันที

สิ่งนี้ช่วยทำให้ความสนใจในตัว หลิน ยู ลดลงอย่างมาก ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับหลิน ยู

เพราะสุดท้ายแล้ว เขาไม่ใช่คนประเภทที่ชอบโอ้อวด

ยิ่งไปกว่านั้น หยาน ลี่ กับ ซือถู เจี้ยน ยังเป็นที่คุ้นเคยในหมู่ราชันระดับ 7 เป็นธรรมดาที่ความแข็งแกร่งของพวกเขาจะลึกล้ำมากกว่า หลิน ยู

ราชันกลายพันธุ์ตอนที่ 256