ตอนที่ 298 : มรดกผู้กล้าของเฟิงลั่ว (2)

“เสร็จแล้วเหรอ? แค่ชั่วโมงเดียวเอง เจ้าไปพบกับวิญญาณผู้กล้าทั้งหมดแล้วใช่ไหม? มีกี่ตนที่ลืมตาขึ้น?”

โจวโจวถามด้วยความประหลาดใจ

“ข้าไปพบกับทุกตนมาแล้ว แต่ข้าก็ด้อยกว่าท่านลอร์ดมาก ข้าทำให้พวกเขาลืมตาขึ้นมาได้แค่ 8 ตนเท่านั้น ในจำนวนนี้มีวิญญาณผู้กล้าระดับเหนือสามัญ 6 ตน และผู้กล้าระดับมหากาพย์ 2 ตน สิ่งที่ข้าสนใจก็คือหนึ่งในสองผู้กล้าระดับมหากาพย์!”

เฟิงลั่วกล่าว

“พาข้าไปดูหน่อย”

โจวโจวกล่าว

“ขอรับ! ตามข้ามาได้เลย!”

เฟิงลั่วพยักหน้าและพาโจวโจวมาหาวิญญาณผู้กล้าตนหนึ่ง

เขามองไปที่วิญญาณผู้กล้าตนนี้

นี่คือแม่ทัพวัยกลางคนที่สวมชุดแม่ทัพและถือกระบี่อันสว่างไสวอันหนึ่งเอาไว้

[ผู้กล้าระดับมหากาพย์—จักรพรรดิผู้พิชิตสิบทิศ]

โจวโจวมองดูประวัติชีวิตของคนผู้นี้

จักรพรรดิผู้พิชิตสิบทิศ—จงเคารพข้า!

นี่คือผู้กล้าในตำนาน

ว่ากันว่าแต่เดิมคนๆ นี้เป็นขอทาน

ซุนอู๋ซึ่งเป็นขอทานตั้งแต่ยังเด็กได้แอบเรียนรู้วรยุทธ์ที่กระจัดกระจายเพื่อที่จะเอาชีวิตรอด ต่อมาเขาได้ใช้โอกาสนี้สร้างชื่อให้ตัวเอง

หลังจากนั้น เขาก็ได้เห็นโลกอยู่ในความวุ่นวาย ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจเข้าร่วมกองทัพเพื่อปราบความวุ่นวาย

ในท้ายที่สุด เขาก็สร้างความดีความชอบได้และในที่สุดก็กลายเป็นแม่ทัพใหญ่

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะเป็นแม่ทัพใหญ่ในกองทัพ แต่เขาก็ยังแตกต่างจากแม่ทัพทั่วไป เพราะแม่ทัพคนอื่นได้ฝึกฝนเคล็ดวิชาการต่อสู้ของกองทัพ ส่วนเขากลับตกหลุมรักวรยุทธ์!

นอกจากนี้ เขายังมีความสามารถในการทำความเข้าใจของอัจฉริยะในเชิงยุทธ์!

ด้วยทรัพยากรของอาณาจักร เขาจึงได้รับวรยุทธ์จำนวนนับไม่ถ้วนและเทคนิคการต่อสู้ที่หลากหลายเพียงแค่ชี้นิ้วสั่ง

สุดท้าย เขาก็ได้กลายเป็นผู้กล้าจากวรยุทธ์เหล่านี้!

ในภายหลัง มันก็มีงานชุมนุมวรยุทธ์ที่ถูกจัดขึ้นโดยผู้ฝึกยุทธ์ในโลกแห่งการต่อสู้ ผู้ฝึกยุทธ์จำนวนมากได้เข้าร่วมในงานนี้ ซุนอู๋เองก็สนใจงานนี้มาก ดังนั้นเขาจึงเลือกปิดบังตัวตนและเข้าร่วมโดยไม่เปิดเผยตัวตน

สุดท้ายเขาก็คว้าแชมป์และกลายเป็นผู้นำของโลกศิลปะการต่อสู้

นี่เป็นเพราะซุนอู๋มักจะใช้เคล็ดวิชากระบี่เพื่อแก้ไขวรยุทธ์อื่นๆ ทุกชนิดในงานชุมนุม

ในสายตาของเขา มันราวกับว่าวรยุทธ์หรืออาวุธใดๆ ก็ล้วนแล้วแต่มีข้อบกพร่องที่สามารถจัดการได้ง่ายๆ ดังนั้นเขาจึงถูกเรียกว่าจักรพรรดิผู้พิชิตสิบทิศจากผู้คนในโลกศิลปะการต่อสู้

ต่อมาแม้ว่าตัวตนของเขาในฐานะแม่ทัพใหญ่จะถูกเปิดเผย แต่สมญานามของเขาในฐานะจักรพรรดิผู้พิชิตสิบทิศก็ยังอยู่เหนือกว่าสมญานามแม่ทัพใหญ่อยู่ดี

จนกระทั่งอีกฝ่ายถูกโจมตีในสนามรบและถูกสังหารโดยผู้กล้าระดับมหากาพย์สามคน เมื่อนั้นเขาและตำนานของเขาจึงสิ้นสุดลง

หลังจากอ่านมัน โจวโจวก็ถอนหายใจออกมา เขาตระหนักได้ว่าความสามารถของอีกฝ่ายช่างคล้ายกับของเฟิงลั่วจริงๆ

จักรพรรดิผู้พิชิตสิบทิศซุนอู๋สามารถมองเห็นข้อบกพร่องของวรยุทธ์ต่างๆ ได้อย่างง่ายดายและสามารถทำลายมันได้อย่างง่ายดาย

เฟิงลั่วเองก็เดินบนเส้นทางของเขาในฐานะนักดาบโล่ นอกจากนี้ ในบรรดาทักษะของเขา มันยังมีทักษะรับมือกับอาวุธอย่างเช่นทลายโล่ ควบคุมลูกศร สะบั้นดาบ และหักหอกอยู่ด้วย

“สำหรับเฟิงลั่ว จักรพรรดิผู้พิชิตสิบทิศช่างเป็นมรดกผู้กล้าที่เหมาะสมกับเขาที่สุดจริงๆ”

โจวโจวคิด จากนั้นเขาก็มองดูมรดกผู้กล้าระดับมหากาพย์อีกอันและมั่นใจกับเรื่องนี้มากยิ่งขึ้น

“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ยอมรับมรดกของผู้อาวุโสคนนี้ละกัน”

โจวโจวบอกกับเฟิงลั่ว

“ขอรับ!”

เฟิงลั่วตื่นเต้นขึ้นมาทันที

เขายืนอยู่ตรงหน้าวิญญาณผู้กล้าของซุนอู๋และมองไปที่อีกฝ่าย

อึดใจต่อมา แสงสีทองจำนวนมากก็ถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างของซุนอู๋ จากนั้นมันก็พันรอบตัวเฟิงลั่วราวกับเส้นไหม

โจวโจวเดาะลิ้นด้วยความประหลาดใจ

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นภาพแบบนี้

การสืบทอดมรดกผู้กล้าของวิญญาณผู้กล้าช่างน่าทึ่งจริงๆ

เขาไม่ได้รบกวนอีกฝ่าย

โจวโจวเดินออกมาจากโถงวิญญาณผู้กล้าและบอกกับผู้พิทักษ์แห่งทะเลลับเกี่ยวกับเรื่องของเฟิงลั่ว

“หึๆ ถึงกับได้รับการยอมรับจากสหายผู้หยิ่งสโยอย่างซุนอู๋ ลูกน้องของเจ้าไม่ธรรมดาเลย”

ผู้พิทักษ์แห่งทะเลลับพูดด้วยความประหลาดใจ

มันมีความแตกต่างอยู่ในผู้กล้าระดับมหากาพย์อยู่ด้วย

มรดกผู้กล้าของซุนอู๋ถือได้ว่าเป็นมรดกผู้กล้าระดับมหากาพย์ชั้นยอด

โจวโจวบอกผู้พิทักษ์แห่งทะเลลับเกี่ยวกับความคล้ายคลึงกันของพวกเขา

ผู้พิทักษ์แห่งทะเลลับครุ่นคิดทันที

หลังจากคิดไปสักพัก เขาก็พูดออกมาว่า

“ถ้าอย่างนั้น… เขาก็อาจจะสามารถก้าวข้ามซุนอู๋ไปได้ในอนาคตและเดินบนเส้นทางของผู้กล้าของตัวเอง และได้รับระดับโชคชะตาผู้กล้าที่สูงกว่านี้ แต่ศักยภาพของเขายังต่ำอยู่นิดหน่อย ถ้าเขาสามารถเพิ่มศักยภาพของเขาขึ้นได้ โอกาสของเขาก็อาจจะสูงขึ้นด้วย”

“ขอบคุณสำหรับการบอกใบ้ขอรับท่านผู้พิทักษ์แห่งทะเลลับ”

โจวโจวขอบคุณเขา

“ไม่เป็นไร ข้าแค่คิดเล่นๆ นอกจากนี้ไอเท็มที่สามารถเพิ่มศักยภาพให้กับสิ่งมีชีวิตได้นั้นก็ไม่ได้หาได้ง่ายๆ”

ผู้พิทักษ์แห่งทะเลลับส่ายหัว

โจวโจวพยักหน้ารับ

ยายกระดับศักยภาพระดับสูงที่สุดที่เขามีก็คือระดับมหากาพย์

นี่ย่อมไม่สามารถเพิ่มศักยภาพของผู้กล้าระดับมหากาพย์ได้

ผู้กล้าระดับมหากาพย์นั้นจะมีศักยภาพต่ำที่สุดที่ระดับมหากาพย์!

หลังจากนั้นโจวโจวก็คุยกับอีกสักอยู่สักพัก และได้รู้จากเขาว่าการสืบทอดมรดกผู้กล้าจากวิญญาณผู้กล้านั้นต้องใช้เวลาประมาณหนึ่ง ดังนั้นโจวโจวจึงไม่คุยต่อและขอตัวกลับไปก่อน

ในห้องนั่งเล่นของปราสาทของลอร์ด

โจวโจวหยิบเอากล่องสมบัติประจำภูมิภาค 6 อันออกมาจากแหวนมิติของเขา

เขาเปิดมันทีละอัน สุดท้ายกล่องสมบัติประจำภูมิภาค 5 อันก็มอบแพ็คทรัพยากรประจำภูมิภาคให้กับเขา มีแค่กล่องสมบัติประจำภูมิภาคของเมืองรัตติกาลทมิฬเท่านั้นที่มอบใบหลอมรวมดินแดนระดับทองคำเหลืองให้กับเขา

“มันหายากจริงๆ ที่จะมีกล่องสมบัติประจำภูมิภาคที่มีไอเท็มเหมือนกับรังโกเล็ม”

โจวโจวส่ายหัว

โชคดีที่ใบหลอมรวมดินแดนระดับทองคำเหลืองนี้ก็ไม่ได้แย่

จากนั้นเขาก็ส่งคนไปเรียกมู่กู่ เจิ้งฝูกุ่ย และแครอลเข้ามาและถามพัฒนาการของพวกเขา

ในหมู่พวกเขา ความแข็งแกร่งของมู่กู่ได้เพิ่มขึ้นมาเป็นระดับทองคำเหลืองขั้นกลางหลังจากดินแดนของเขาเลื่อนระดับขึ้นเป็นระดับทองคำเหลืองขั้นกลาง ส่วนทักษะต่างๆ ของเขาก็เพิ่มขึ้นเป็นระดับทองคำเหลืองขั้นกลางด้วย

นอกจากนี้เขายังสามารถควบคุมฟาร์มมอนสเตอร์ได้ทั้งหมด 11 แห่ง ขีดจำกัดสูงสุดของมอนสเตอร์ในแต่ละฟาร์มยังได้เพิ่มขึ้นจาก 3,000 ตัวเป็น 3,500 ตัวด้วย ส่วนขีดจำกัดสูงสุดของมอนสเตอร์ที่สามารถเลี้ยงได้ก็ยังเพิ่มขึ้นเป็นระดับทองคำเหลืองขั้นกลางด้วย

โจวโจวบอกให้เขาสร้างฟาร์มมอนสเตอร์ใหม่ทันที

สำหรับมอนสเตอร์ที่จะให้เอาไปเลี้ยงในฟาร์มนี้ เขาก็ย่อมต้องเลือกวิญญาณปีศาจวายุคลั่งที่สามารถผลิตผู้เชี่ยวชาญระดับอาณาจักรได้

สำหรับคาราวานเร้นลับของเจิ้งฝูกุ่ยก็ได้เลื่อนระดับขึ้นไปด้วย จำนวนของพ่อค้าได้เพิ่มขึ้นจาก 200 คนเป็น 250 คน ส่วนความสามารถของพ่อค้าทั้งหมดก็ยังได้ถูกอัพเกรดเป็นระดับทองคำเหลืองขั้นกลางด้วย

ส่วนจำนวนของรถม้าของคาราวานเร้นลับก็ได้เพิ่มขึ้นจาก 100 คันเป็น 150 คัน

สุดท้ายที่พักพิงของเทพีแห่งชีวิตก็มีสาวกเพิ่มขึ้นมา 200 คน นักบวช 200 คน แม่ชี 200 คน และพาลาดินแห่งชีวิต 400 คน

ความแข็งแกร่งของสาวกทั้งหมดได้เพิ่มขึ้นมาเป็นระดับทองคำเหลืองขั้นกลาง ส่วนความแข็งแกร่งของแครอลก็ได้เพิ่มขึ้นมาเป็นระดับเพชรขั้นกลางด้วย

สิ่งนี้ย่อมหมายความว่าอีกฝ่ายสามารถคืนชีพให้กับสิ่งมีชีวิตที่มีระดับต่ำกว่าระดับเพชรขั้นกลางได้ นี่ยังรวมถึงผู้กล้าด้วย!

ด้วยวิธีนี้ จำนวนของผู้กล้าที่โจวโจวสามารถเลือกได้ก็จะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง!

หลังจากเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้ว เขาก็ให้ทั้งสามกลับไปและมองไปยังเมล็ดพันธุ์สีดำ

มันคือเมล็ดพันธ์ุของผลโลหิตศักดิ์สิทธิ์

โจวโจวเหลือบมองเล็กน้อยและเดินออกจากปราสาทของลอร์ดพร้อมกับมัน เขาเดินมายังค่ายกลเคลื่อนย้ายระยะไกลและวาร์ปไปยังเมืองโอสถวิญญาณ