"ขยะ!!!"
โลกหยวนซา ภายในห้องโถงที่งดงาม
เสียงคำรามอันน่าสะพรึงกลัวก็ระเบิดออกมา
จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ของโลกหยวนซา เช่นเดียวกับจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่หลายคนที่เพิ่งมาจากโลกจิตวิญญาณแท้จริง พวกเขารวมตัวกันมองไปยังราชันระดับ 10 ที่อยู่ด้านล่าง
เป็นเพราะความประมาทเลินเล่อของพวกเขา ทำให้แผนการที่วางแผนเอาไว้อย่างยาวนานต้องพังทลายลง
มันจะไม่ทำให้พวกเขาโกรธได้อย่างไร?
หากไม่ใช่เพราะความยากลำบากในการสร้างราชันระดับ 10 พวกเขาคงถูกสังหารลงไปแล้ว
ราชันระดับ 10 ทั้ง 2 รู้ตัวว่าพวกเขาทำผิดพลาดครั้งใหญ่แล้วพวกเขาก้มศรีษะอย่างหวาดกลัว ความสูญเสียนี้มันเกินกว่าที่กษัตริย์ตัวเล็กๆอย่างพวกเขาจะรับผิดชอบได้
"เอาละ ไม่ต้องไปโทษพวกเขาแล้ว ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นไปแล้ว พวกเราก็ทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว นอกจากนี้ในครั้งนี้พวกเรายังไม่พร้อมเต็มที่อีกด้วย เราอาจจะไม่สามารถสังหารจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ของทวีปดึกดำบรรพ์ได้สำเร็จก็ได้"
สุดท้ายแล้ว ในกลุ่มของโลกจิตวิญญาณแท้จริง ชายชราที่มีผมและเคราสีขาวก็ยึนขึ้นด้วยความสงบ
จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่โลกหยวนซาที่เพิ่งคำรามออกมาเมื่อครู่พูดอย่างเย็นชา "ฮึ่มม! เห็นแก่หน้าของจักรพรรดิซีซวนนะ พวกเจ้ากลับไปเฝ้ากำแพงซะ เก็บกวาดทุกอย่างให้เรียบร้อย!"
"ขอบพระคุณท่านผู้ยิ่งใหญ่สำหรับความเมตตาขอรับ!"
"ขอบคุณจักรพรรดิซีซวนขอรับ!"
ราชาระดับ 10 ทั้ง 2 ขอบคุณซ้ำแล้วซ้ำเหล่า
เขาไม่กล้าที่จะอยู่ต่อ รีบออกจากห้องโถงอย่างเร่งรีบ หายไปในพริบตา
ไม่นานหลังจากที่พวกเขาจากไป ชายชราก็ถอนหายใจออกมาและพูดว่า "ดูเหมือนว่าครั้งนี้โชคจะไม่เข้าข้างเรา พวกเราคิดว่าจะสามารถใช้โอกาสนี้ทำลายขุมกำลังของทวีปดึกดำบรรพ์ได้ แต่ข้าไม่คิดว่าพวกเขาจะเอาตัวรอดไปได้"
"ใครจะไปคิดกันว่าจะมีราชันจากทวีปดึกดำบรรพ์ลอบเข้ามาในค่ายของพวกเรา" จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่อีกคนกล่าวขึ้นทันที
"แต่เมื่อพูดถึงมันก็ออกจะดูแปลกๆ ข้าเคยถามก่อนหน้านี้ ราชันคนนี้จากทวีปดึกดำบรรพ์ดูเหมือนจะเป็นเพียงราชันระดับ 7 เท่านั้น แม้ว่าเจ้าขยะสองคนนั้นจะอ่อนแอบัดซบแค่ไหน แต่พวกเขาก็ยังเป็นถึงราชันระดับ 10 และยังมีราชันระดับ 8 ระดับ 9 อยู่ข้างๆจำนวนมาก แต่พวกเขายังกับสามารถหนีรอดไปได้"
"ข้าได้ยินมาว่าเขาเรียกทหารที่มีสกิลพิเศษสามารถสกัดกั้นพลังแห่งกฏที่อยู่ในขอบเขตได้"
"ทหารที่สามารถสกัดกั้นพลังแห่งกฏได้? หรือว่ามันจะเป็น..."
จู่ๆ จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่องค์หนึ่งก็เหมือนจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้ ใบหน้าของเขาดูประหลาดใจ
เช่นเดียวกับจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่คนอื่น พวกเขาทั้งหมดต่างประหลาดใจอย่างบอกไม่ถูก ราวกับพวกเขานึกได้ถึงบางสิ่งที่ทำให้พวกเขาหวาดกลัว
ชายชรามีที่มีท่าทีสงบขมวดคิ้วขึ้นและพูดว่า "ข้าไม่คิดแบบนั้นนะ เพราะยังไงเขาก็เป็นเพียงแค่ราชันระดับ 7 เท่านั้นมันอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้"
"นั้นก็จริง" จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ พยักหน้าอย่างเห็นด้วยอย่างเงียบๆ "แต่ในเมื่อเขากล้าทำลายโอกาศอันดีของเรา พวกเราก็ควรตรวจสอบซักหน่อย หากว่ามันมีโอกาศที่จะเป็นภัยคุกคามของพวกเราก็กำจัดมันซะ"
"งั้นปล่อยให้พวกระดับล่างเป็นคนจัดการเถอะ"
จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เหล่านี้ไม่ได้สนใจหลิน ยู มากนัก
สุดท้ายมันก็เหมือนกับที่พวกเขาพูด เขายังเป็นเพียงราชันระดับ 7 เท่านั้น ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้ใส่ใจมากนัก
พวกเขาไม่ได้บอกว่าจะทำอย่างไรต่อ
ในไม่ช้าพวกเขาหยุดพูดเรื่องนี้ หารือเกี่ยวกับแผนความร่วมมือในอนาคตต่อไป
ในตอนนั้นเอง
หลิน ยู ที่อยู่อีกด้านหนึ่ง
หลังจากที่เขาเทเลพอร์ตกลับไปยังดินแดนของเขา
ทันใดนั้นเขายืนแข็งค้างอยู่ที่ เขาตกตะลึงกับภาพที่อยู่ตรงหน้าเสียงที่ครึกครื้นดังออกมาไกล
เขามองเห็นว่าที่ป่าด้านนอกของเมืองหวงซา พื้นที่ขนาดใหญ่นั้นเต็มไปด้วยอาคารและบ้านต้นไม้ที่ถูกสร้างขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว
บนท้องถนนระหว่างอาคาร มีผู้คนจำนวนมานับไม่ถ้วนหลั่งไหลเข้าออกระหว่างเมืองหวงซากับป่า
เขาได้ยังคงได้ยินเสียงพูดคุยและตระโกนข้างของอย่างไม่หยุดหย่อน
มันเป็นภาพที่มีชีวิตชีวามาอย่างมาก
หลิน ยู เปิดหน้าต่างอาณาเขตขึ้นมาดู
เขาตกตะลึง
มันเพิ่งผ่านไปเพียง 4 วัน
จำนวนประชากรของเมืองหวงซาเพิ่มขึ้นไปมากกว่า 100000 คนแล้ว
พลังความศรัทธาเพิ่มขึ้นกว่า 121 แต้ม
โดยเฉลี่ยแล้วมันเพิ่งขึ้นกว่าวันละ 30 แต้ม ซึ่งสูงกว่าตอนที่เขาจากไปถึง 3 เท่า
แม้แต่รายได้ต่อวันของเมืองหวงซาก็เพิ่มขึ้นถึง 30000 หลังจากหักค่าใช้จ่าย มันยังเหลืออีกกว่า 15000
นี้ขนาดยังยกเว้นภาษีเดือนแรกอยู่นะ
"ดูเหมือนทุกคนจะทุ่มเทกันอย่างหนักเลย"
หลิน ยู อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
พลังเวทย์ 15000 แต้มต่อวันนี้มันเพียงพอที่จะให้เขาทำสิ่งต่างๆได้อย่างมากมายเขาไม่ต้องกังวลว่าสูญเสียกองกำลังอีกต่อไป
เมื่อนึกถึงกองกำลัง เขาก็ปิดหน้าต่างและเข้าไปตรวจสอบดินแดนทันที
โชคดีที่หลังจากเดินสำรวจรอบๆดูแล้ว กองกำลังส่วนใหญ่นั้นอยู่ที่นี้ มีเพียงกองกำลังที่มีสกิลขยายพันธ์เพียงไม่กี่ตัวเท่านั้นที่ตายลงไป ส่วนใหญ่จะตายจากการที่รอยแยกมิติที่แตกออกทำให้มันเผชิญหน้ากับห้วงอวกาศที่ปั่นป่วน มีเพียงส่วนเล็กๆเท่านั้นที่ถูกสังหารจากการต่อสู้กับโลกหยวนซา
ส่วนดอกไม้แห่งความตายนนั้น
เนื่องจากมันเป็นทหารที่ถูกอัญเชิญออกมาจากซากศพ เมื่อพลังงานหมดลงมันจึงหายไปตามกาลเวลา
หลังจากที่ตรวจสอบกองกำลังทั้งหมดแล้ว หลิน ยู ก็ไปยังใต้ต้นไม้โลก นำชิ้นส่วนเทวะที่ได้เขาเพิ่งได้รับออกมา
สูดหายใจเข้าลึกๆ เลือกที่จะดูดซับมันทันที
"หลอมรวม!!"
นี้คือสิ่งที่จักรพรรดิเซิ่งเหยากล่าว
ด้วยการมีชิ้นส่วนเทวะชิ้นแรกเป็นสื่อกลาง ทำให้เขาสามารถดูดซับชิ้นส่วนเทวะชิ้นอื่นๆได้
ทันทีที่สิ้นเสียง ชิ้นส่วนเทวะที่อยู่ในมือของเขาก็กลายเป็นลำแสงหลอมละลายเข้าไปยังระหว่างคิ้วของเขา
ในชั่วพริบตา พลังงานอันมหาศาลก็หลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของเขา ไหลเวียนผ่านแขนขา ทำให้วิตวิญญาณของเขากระจ่างใส
จากนั้นหน้าต่างค่าสถานะก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
ชิ้นส่วนเทวะได้รับการอัพเกรดแล้วเพิ่มจากหนึ่งชิ้นเป็นสองชิ้นทันที
ตามความสามารถของชิ้นส่วนเทวะ ค่าสถานะของกองกำลังของเขาเพิ่มขึ้น แถมขีดจำกัดจำนวนกองกำลังก็เพิ่งขึ้น พลังแห่งกฏแข็งแกร่งขึ้น ความเร็วในการประสานของแกนกลางดินแดนเพิ่มขึ้นเป็น 20% ทันที
มันแข็งแกร่งขึ้นมาก
ลองนึกดูว่าหากราชันระดับ 10 ได้รับชิ้นส่วนเทวะชิ้นนี้ ความแข็งแกร่งของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นทันที 10% มันเป็น 10% ของราชันระดับ 10!
มันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่ออย่างยิ่ง
ตอนนี้หลิน ยู เข้าใจแล้วทำไมจักรพรรดิเซิ่งเหยาถึงได้แข็งแกร่งนักตอนที่เขายังอยู่ระดับ 11
เขามีชิ้นส่วนเทวะถึง 9 ชิ้น นั้นหมายถึงความแข็งแกร่งเขาเพิ่มขึ้นถึง 90% มันเกือบ 2 เท่าของราชันระดับ 11 ปกติ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะแข็งแกร่ง
หลิน ยู ถอนหายใจออกมา หน้าปิดหน้าต่างลง ทำการเรียก ราชาปิศาจเห็ด กับชิง กังมาข้างๆ
แม้ว่าจะเกิดเรื่องราวมากมายในสงครามสองโลก แต่เข้าก้ยังสามารถรวบรวมแก่นแท้ดินแดนระดับ 7 ได้ถึง 15 อัน
นอกขากนี้ยังมีแก่นแท้ดินแดนอีก 6 อันที่จะรับเป็นรางวัลก่อนหน้านี้ มันเพียงพอสำหรับการอัพเกรดทหารระดับ 8 ถึง 2 ตัว
ตัวเลือกที่ดีที่สุดคือทหารราชวงศ์ทั้ง 2 ตัว ราชาปิศาจเห็ดและ ชิง กัง
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะทำการอัพเกรดพวกมัน หลิน ซี ใช้เวลาอยู่พอสมควรในการสร้างมอสชีวภาพระดับ 7 ขึ้นมา โดยให้มันสืบทอดสกิลแปลงกาย ด้วยพลังเวทย์กว่า 3 ล้านที่ได้รับมาจากการสังหารศัตรูก่อนหน้านี้
หลังจากที่เขาให้พวกทำการคัดลอกค่าสถานะของแต่ละตัว แล้ว เขาจึงให้ราชาปิศาจเห็ดและชิง กัง ทำการอัพเกรด
เสียงแจ้งเตือนที่คุ้นเคยดังขึ้นในหัวของ หลิน ยู
หลังจากสะสมค่าประสบการณ์มาเป็นเวลานาน กองกำลังทัพแรกๆของเขาก็มีค่าประสบการณ์เต็มแล้วไม่มีปัญหาเรื่องค่าประสบการณ์ "อัพเกรด!"
เขาตอบทันทีโดยไม่ลังเล
ในวินาทีต่อมาแสงสีขาวสว่างวาบบนร่างของราชาปิศาจเห็ดและ ชิงกัง ล้อมรอบพวกมันเอาไว้อย่างสมบูรณ์
หลังจากนั้นไม่นาน ทหารทั้งก็ก้าวออกมาจากลำแสง รูปลักษณ์ของมันเปลี่ยนไปมาก
.....
หลังจากที่ค่าประสบการณ์เต็มแล้ว ไม่มีทางที่จะไปต่อหากไม่อัพเกรด
ดังนั้นเขาจึงอัพเกรด ราชาปิศาจเห็ดกับ ชิงกังขึ้นเป็นระดับ 8
ทหารพืชทั้ง 2 มีมอสชีวภาพสิงร่างซึ่งคัดลอกค่าสถานะของพวกมันตอนที่ยังอยู่ระดับ 7 ช่วยเสริมค่าสถานะของพวกมันให้อยู่เหนือกว่าระดับเดียวกันอย่างมาก
ความรุนแรงของสกิลราชาปิศาจเห็ด รวมถึงความแข็งแกร่งในการโจมตีและป้องกันของชิงกัง เพิ่มขึ้นจนเกือบจะถึงระดับ 9
ด้วยการเพิ่มทหารขุนพลระดับ 8 ไปอีก 2 คน
หลังจากที่มาถึงระดับสูง สกิลของพวกมันก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
สกิลระเบิดเวลาของราชาปิศาจเห็ดเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากสำหรับกองกำลังพืช
ไม่ต้องพูดถึงเสียงคำรามแห่งโทสะ ของ ชิง กังที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งช่วงเวลาสั้นๆให้กับกองทัพพืช
เมื่อมีตัวช่วยที่ทรงพลังอีก 2 คนมาร่วมทัพ ในที่สุดเข้าก็มีความมั่นใจที่เข้าไปยังอาณาจักรลับได้แล้ว
สุดท้ายด้วยทหารที่แข็งแกร่งของกองกำลังของเขา
หากเขาต้องเผชิญหน้ากับราชันที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับเขา การต่อสู้ก็คงไม่เกิดความสูญเสียใหญ่หลวงนัก
เมื่อคิดแบบนี้ หลิน ยู ก็ใช้พลังเวทย์ที่เหลืออยู่ ทำการอัญเชิญทหารพืชออกมาเสริมทัพ
เพราะในเวลา ขีดจำกัดสูงสุดของกองกำลังของเขาในเวลานี้เพิ่มขึ้นเป็น 300 จากชิ้นส่วนเทวะที่เพิ่มขึ้นมา
เขามีทหารมากกว่าราชันระดับ 7 คนอื่นๆ ถึง 50 ตัว!
***นี้ยังไม่รวมใช้การขยายพันธุ์นะ
ราชันกลายพันธุ์ตอนที่ 229
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved