ตอนที่ 364 : ความก้าวหน้า! ความตายของหลี่ย่า!

ไอเท็มดรอปของทหารศพไร้หน้ากว่า 460,000 ตัวถูกเสริมพลังขึ้นด้วยราชาแห่งการดรอปและสมญานามลอร์ดที่แข็งแกร่งที่สุด

ไอเท็มที่ได้รับจึงประกอบไปด้วย แกนหมอกระดับมหากาพย์ 140 ชิ้น ระดับเหนือสามัญ 3,120 ชิ้น ระดับเพชร 65,430 ชิ้น ระดับแพลตตินั่มขาว 162,350 ชิ้น ระดับทองคำเหลือง 1,018,920 ชิ้น ระดับเงินขาว 1,507,810 ชิ้น และระดับบรอนซ์เขียว 2,951,360 ชิ้น!

คริสตัลต้นกำเนิด 620 อัน!

อุปกรณ์สวมใส่ 1,257,960 ชิ้น และหนังสือทักษะ 1,204,210 เล่ม!

วัสดุพื้นฐานกว่า 2,060,000,000 หน่วย!

คริสตัลสีชาดระดับศรัทธาแท้จริง 248,963 อัน ระดับจิตตั้งมั่น 151,601 อัน และระดับจิตศรัทธา 62,130 อัน

หนังสือรับสมัครนักปรุงยา 54 เล่ม!

หนังสือรับสมัครนักเล่นแร่แปรธาตุ 35 เล่ม!

สัญญาสัตว์พาหนะ 120 อัน และใบเปลี่ยนอาชีพทหารระดับจักรวรรดิ—อัศวินทลายทัพ 6 อัน!

ชิ้นส่วนคริสตัลพรสวรรค์แห่งลอร์ดสีชาดระดับบรอนซ์เขียว 12 อัน!

นอกเหนือจากไอเท็มดรอปข้างต้นแล้ว ในการป้องกันเมืองครั้งนี้ยังทำให้ทหาร 137,628 คนเลื่อนระดับ!

ในจำนวนนี้มีทหาร 52,639 ที่เลื่อนระดับเป็นระดับเหล็กดำขั้นกลางและขั้นสูง!

40,213 คนที่เลื่อนระดับเป็นระดับบรอนซ์เขียว!

25,487 คนที่เลื่อนระดับเป็นระดับเงินขาว!

15,975 คนที่เลื่อนระดับเป็นระดับทองคำเหลือง!

3,314 คนที่เลื่อนระดับเป็นระดับแพลตตินั่มขาว!

นอกจากนี้เนซาริโอ้ยังได้เลื่อนระดับขึ้นเป็นระดับแพลตตินั่มขาวขั้นกลางด้วย!

ไป่อี้เองก็เลื่อนระดับขึ้นเป็นระดับแพลตตินั่มขาวขั้นสูง!

ส่วนมาริสได้เลื่อนระดับขึ้นเป็นระดับแพลตตินั่มขาวขั้นต้น!

และออกุสต์ก็ได้เลื่อนระดับเป็นระดับทองคำเหลืองขั้นสูง!

จากนั้นโจวโจวก็มองดูสรุปความแข็งแกร่งของทหารที่บรรทัดล่าง

ในตอนนี้เขามีทหารอยู่ในกองทัพตะวันสาดแสงและกองทัพมอนสเตอร์ทั้งหมด 143,256 คน

ในจำนวนนี้มีทหารระดับเหล็กดำ 55,487 คน ระดับบรอนซ์เขียว 68,190 คน ระดับเงินขาว 58,134 คน ระดับทองคำเหลือง 39,578 คน ระดับแพลตตินั่มขาว 7,471 คน ระดับเพชร 11คน และระดับเหนือสามัญ 1 คน!

โจวโจวพยักหน้าด้วยความพึงพอใจเมื่อเขาเห็นเช่นนี้

นี่เป็นแค่การเลื่อนระดับบนสมรภูมิเท่านั้น เมื่อเขากลับไปที่เมืองตะวันสาดแสงและเดินผ่านประตูชัย มันก็คงจะมีการเลื่อนระดับอีกครั้ง

หลังจากนั้นไม่นาน สมรภูมิก็ถูกเก็บกวาดจนเสร็จ

โจวโจวนำทหารทั้งหมดกลับไปยังเมืองตะวันสาดแสงผ่านค่ายกลข้ามมิติ

จากนั้นเขาก็ให้ทหารเดินผ่านประตูชัยอีกครั้ง และก็มีทหารอีก 30,000 คนที่เลื่อนระดับ

อย่างไรก็ตาม ทหารส่วนใหญ่ที่เลื่อนระดับก็อยู่ในระดับทองคำเหลืองและระดับต่ำกว่าระดับเงินขาวขั้นต้นลงมาเท่านั้น

มันมีเพียงทหารสิบกว่าคนเท่านั้นที่เลื่อนระดับไปยังระดับแพลตตินั่มขาว ดังนั้นมันจึงไม่จำเป็นต้องทำรายละเอียดเพิ่มเติม

ในขณะที่เขากำลังจะเตรียมอัพเกรดทักษะทั้งหมดของเขาให้กลายเป็นระดับทองคำเหลืองขั้นกลาง อาลีย่าก็เข้ามารายงานเขาว่าสาวใช้ของหลี่ย่า หยูเฉียวได้มาขอเข้าพบเขา

“หยูเฉียว? มาคนเดียวเหรอ?”

โจวโจวอึ้งไปชั่วขณะและถามออกมา

“เจ้าค่ะท่านลอร์ด” อาลีย่าพยักหน้า จากนั้นเธอก็ลังเลอยู่ชั่วขณะและอดพูดออกมาไม่ได้ “ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหยูเฉียว แต่ดวงตาของเธอแดงมาก เธอไม่ได้พูดอะไรเลยไม่ว่าข้าจะถามอะไร เธอแค่บอกว่าเธออยากเจอท่านลอร์ด”

ดวงตาของหยูเฉียวแดง?

หรือว่าสาวน้อยที่มักจะยิ้มหวานและซุกซนอยู่เสมอจะร้องไห้?

ด้วยเหตุผลบางอย่าง เมื่อโจวโจวได้ยินข่าวนี้ หัวใจของเขาก็เต้นผิดจังหวะในทันใด

ในเวลานั้นเอง ร่างของหลี่ย่าก็ปรากฏขึ้นในใจของเขา

หรือว่า…

โจวโจวไม่เสียเวลาคิดอีก เขาเดินออกจากห้องของเขาและเดินออกไปจากปราสาทของลอร์ดทันที เขาเห็นหยูเฉียวกำลังยืนอยู่เพียงลำพังและมองมาที่เขาด้วยดวงตาแดงก่ำ

“พี่โจว องค์หญิงถูกลอบสังหาร!”

เมื่อหยูเฉียวเห็นโจวโจว มันก็ราวกับว่าความตึงเครียดทั้งหมดในใจของเธอได้ทะลักออกมา เธอไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของเธอได้อีกและระเบิดน้ำตาออกมา

เสียงร้องไห้นี้ทั้งสิ้นหวังและสะเทือนใจ

เมื่อโจวโจวได้ยินเช่นนี้ เขาก็อึ้งไป

หลี่ย่า… ถูกลอบสังหาร?

หญิงสาวที่คิดอยู่เสมอว่าจะกอบกู้อาณาจักรของเธอ

ตายแล้ว?!

อย่างไรก็ตาม เขาก็นึกได้ในทันทีว่าเขามีวิธีชุบชีวิตอยู่และได้สติกลับมาในทันใด

โจวโจวเดินไปหาหยูเฉียวอย่างรวดเร็วและคว้าไหล่ของเธอเอาไว้ จากนั้นก็จับให้เธอมองมาที่เขา

“อย่าร้องไห้เลย ข้ามีวิธีอยู่ บอกข้ามาว่าหลี่ย่าถูกลอบสังหารตอนไหน?”

โจวโจวถาม

สิ่งที่เขาไม่ได้สังเกตก็คือแม้ว่าเขาจะรู้ว่าเขามีวิธีที่จะชุบชีวิตอีกฝ่ายได้ แต่ก็มีความโกรธและความโหดเหี้ยมที่ไม่อาจระงับได้ในน้ำเสียงของเขา

แรงกดดันที่มองไม่เห็นแผ่กระจายออกมา ทำให้บริเวณโดยรอบของโจวโจวเย็นวาบราวกับห้วงอเวจี

อย่างไรก็ตาม แรงกดดันนี้ก็ละเว้นหยูเฉียวไว้อย่างชาญฉลาด มิฉะนั้นหยูเฉียวอาจจะถูกแรงกดดันนี้บดขยี้จนตายในทันที

“องค์หญิงถูกลอบสังหารเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว หยูเฉียว… หยูเฉียวมองเห็นอีกฝ่ายไม่ชัด อย่างไรก็ตาม หยูเฉียวก็ได้ยินจากหน่วยความยุติธรรมว่ามือสังหารคือนักฆ่าจากองค์กรนักฆ่าชั้นนำในอาณาจักรทาฮัน สมาคมหุ่นเชิดเงา”

“สหายหุ่นเชิดเงาของสมาคมหุ่นเชิดเงาสามารถซ่อนตัวอยู่ในเงาของสิ่งมีชีวิตและรอโอกาสเพื่อลอบสังหารเป้าหมายได้ คนจากหน่วยความยุติธรรมได้บอกว่ามือสังหารได้ซ่อนตัวอยู่ในเงาขององค์หญิง เมื่อองค์หญิงประมาท มันก็ปรากฏตัวออกมาจากเงาและแทงหัวใจขององค์หญิงจากทางด้านหลัง ทำให้องค์หญิงตายในทันที จากนั้นมันก็ชิงแหวนมิติขององค์หญิงไป”

หยูเฉียวร้องไห้พร้อมกับพูดออกมา

แหวนมิติ?

มันมีอะไรอยู่ในแหวนมิติของหลี่ย่างั้นเหรอ?

โจวโจวคิดอยู่ชั่วขณะและนึกได้ว่ามีคริสตัลออโรร่า 1,000 อันที่เขาเพิ่งมอบให้กับอีกฝ่ายไปเมื่อเช้า

หรือว่าอีกฝ่ายจะลงมือเพราะคริสตัลออโรร่าเหล่านั้น?

นั่นไม่ถูกต้อง

โจวโจวนึกถึงบางสิ่งขึ้นมาได้และสีหน้าของเขาก็ไม่น่าดูขึ้นมา

อีกฝ่าย… ลงมือเพราะหอคอยออโรร่าระดับเพชรขั้นต้นที่เขาเพิ่งขายให้กับอาณาจักรออโรร่า!

ถ้าแบบนี้ก็สมเหตุสมผล

เฉพาะไอเท็มที่เกี่ยวข้องกับผลลัพธ์ของสงครามระหว่างสองอาณาจักรเท่านั้นที่จะทำให้อาณาจักรทาฮันลงมือกับองค์หญิงจากอาณาจักรออโรร่าอย่างกะทันหันเช่นนี้

โจวโจวเงียบไป

นี่ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด

สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือหัวใจของหลี่ย่าได้ถูกทำลายโดยนักฆ่าผู้นั้น

เขาจำได้ว่าร่างกายของหลี่ย่าต้องอยู่ครบสมบูรณ์ 70% และสมองกับหัวใจของเธอต้องไม่ถูกทำลาย เขาจึงจะสามารถบอกให้แครอลชุบชีวิตเธอได้ด้วยคาถาชุบชีวิตขั้นต้น

อย่างไรก็ตาม หัวใจของหลี่ย่าก็ถูกทำลายไปแล้ว ดังนั้นคาถาชุบชีวิตขั้นต้นจึงไม่สามารถใช้งานได้

ทางเดียวคือต้องหาคริสตัลเทวะศรัทธาระดับจิตบริสุทธิ์และใช้คาถาชุบชีวิตขั้นสูงเพื่อชุบชีวิตอีกฝ่าย

สำหรับความคิดว่ามันคุ้มค่าหรือไม่

โจวโจวไม่เคยคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย

หลี่ย่าคือสหายของเขา ถ้าเขาอยากจะช่วยเพื่อนแล้วจะทำไม มันไม่มีเหตุผลไร้สาระอย่างมันจะคุ้มค่าหรือไม่อยู่แล้ว

ถ้าเขาทำทุกอย่างจากมุมมองของผลประโยชน์ เขาคงจะไม่ใช้ไป่อี้มาจนถึงตอนนี้และคงไม่ถือว่าเธอคือแม่ทัพที่มีค่าที่สุดของเขาไปแล้ว และเขาก็คงจะไม่มอบยาเม็ดจิตวิญญาณข้ามเคราะห์ภัยให้กับเนซาริโอ้และคงจะมอบให้กับออกุสต์แทน

โจวโจวสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และมองไปยังท้องฟ้า

มันยังมีเวลาอีกประมาณครึ่งชั่วโมงก่อนที่ท้องฟ้าจะมืดสนิท

มันยังมีเวลาอยู่

หลังจากคิดได้แล้ว โจวโจวก็หันไปมองไป่อี้ อู๋ซิน และคนอื่นๆ ทันที

“อู๋ซิน เนซานิโอ้ ซีฉือ พาทหารระดับแพลตตินั่มขาว 500 คนตามข้าไปยังอาณาจักรออโรร่า”

“ขอรับ!”

ทุกคนกล่าวออกมาโดยพร้อมเพรียงกัน

“ไป่อี้ ก่อนที่ข้าจะกลับมา เจ้าจะต้องคอยปกป้องดินแดน! ข้าจะทิ้งอวตารค้างคาวโลหิตเอาไว้ ถ้าเจ้ามีอะไรฉุกเฉินก็สามารถติดต่อกับข้าผ่านอวตารค้างคาวโลหิตนั้นได้”

โจวโจวรู้ว่าอีกฝ่ายได้รับโทเท็มหมาป่าละโมบมาแล้ว เมื่อถึงเวลาฉุกเฉิน เธอก็สามารถควบคุมอวตารหมาป่าละโมบและคงความแข็งแกร่งในระดับเหนือสามัญไว้ได้ ดังนั้นเขาจึงมั่นใจมากว่าเธอจะสามารถป้องกันเมืองไว้ได้

นอกจากนี้ เขายังมีกลับสู่เมือง ถ้าเขามีอันตรายอะไรหรือเมื่อสมรภูมิสุดท้ายเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ เขาก็สามารถพาทุกคนกลับมาที่เมืองได้ผ่านพรสวรรค์แห่งลอร์ดนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่กังวลว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในระหว่างที่เขาไม่อยู่

จากนั้นเขาก็เตรียมการบางอย่าง หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เขาก็มองไปที่หยูเฉียว

“เจ้ารู้ใช่ไหมว่าจะหาร่างของหลี่ย่าได้เร็วที่สุดจากไหน?”

เขาถาม

“เจ้าค่ะ!”

หยูเฉียวกล่าวออกมาทันที เธอปฏิบัติต่อโจวโจวเหมือนฟางเส้นสุดท้ายที่จะไขว่คว้าไว้ได้แล้ว

“พาข้าไปที”

“เจ้าค่ะ!”