ตอนที่ 392 : พันธมิตรดารา!

[เจ้าตะวันสาดแสง: ฉันเข้าใจแล้ว งั้นเธอวางแผนจะทำยังไงต่อ?]

[เจ้าฟีนิกซ์เขียว: ฉันก็จะติดตามท่านลอร์ดเข้าไปในสมรภูมิสุดท้ายและต่อสู้อยู่ในนั้น]

ความคิดของเจ้าฟีนิกซ์เขียวผู้นี้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เธอได้กลายเป็นดินแดนรองของเขาไปแล้วและเรียกเขาว่าลอร์ดอยู่หลายครั้งด้วย

[เจ้าตะวันสาดแสง: งั้นก็มาได้เลย เดินผ่านประตูข้ามมิติมาละกัน]

[เจ้าฟีนิกซ์เขียว: ได้ค่ะ!]

[เจ้าฟีนิกซ์เขียว: เอ่อ… ท่านลอร์ด ฉันขอถามหน่อยได้ไหมว่าเอฟเฟกต์ของพรแห่งเทพสงครามของท่านลอร์ดเป็นไงบ้าง?]

โจวโจวย่อมไม่หลอกเธอ เขาบอกตรงๆ ว่าเขาได้รับพลังงานเสริมแกร่งเพิ่มเติม 2,000%

เมื่อเจ้าฟีนิกซ์เขียวได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของเธอก็เปล่งประกายขึ้นมาด้วยความอิจฉา

พลังงานเสริมแกร่งเพิ่มเติม 2,000%!

ถ้าเธอสามารถเพลิดเพลินไปกับมันได้ ความเร็วในการเติบโตของเธอก็จะเพิ่มขึ้นถึง 20 เท่า!

น่าเสียดายที่เธอยังไม่สามารถควบคุมร่างเซียนฟีนิกซ์เขียวได้อย่างสมบูรณ์ มิฉะนั้นเธอก็คงจะสละสถานะลอร์ดของเธอและเข้าร่วมกับเจ้าตะวันสาดแสงโดยตรงแล้ว

อีกด้านหนึ่ง หลังจากคุยกับเจ้าฟีนิกซ์เขียวแล้ว โจวโจวก็ส่งข้อความไปหาหลิงเอ๋อร์และบอกให้เธอกลับมายังเมืองตะวันสาดแสงเพื่อมาพบกับ ‘สหาย’ คนที่สองของเธอ

จากนั้นเขาก็มองไปยังหนงเฉิงหลิน

อีกฝ่ายยังวุ่นอยู่กับการยอมรับคำขอเป็นเพื่อนและเพิ่มเพื่อนทีละคนๆ

หลังจากโจวโจวบอกอีกฝ่ายถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เขาก็มอบปีกไร้เงาอีกอันให้กับอีกฝ่ายและบินกลับไปยังดินแดนตะวันสาดแสงพร้อมกับอัสนีทมิฬ

ณ เมืองตะวันสาดแสง

เมื่อโจวโจวกลับมาถึง เขาก็เห็นว่าหลิงเอ๋อร์กำลังคุยอยู่กับเจ้าฟีนิกซ์เขียวอยู่แล้ว

เจ้าฟีนิกซ์เขียวทั้งสูงและผอมเพรียว ใบหน้าของเธอนั้นช่างงดงาม และผิวของเธอก็ขาวราวกับหิมะ ร่างกายของเธอเปล่งแสงสว่างออกมาจางๆ ที่เต็มไปด้วยพลังชีวิต

เธอสวมชุดสีเขียวที่งดงามและดูเป็นธรรมชาติมาก ทั้งบรรยากาศของเธอก็ราวกับเซียน เธอดูเหมือนกับนางฟ้าที่จุติลงมายังโลกมนุษย์เลย

โจวโจวอึ้งไปชั่วขณะเมื่อเขาเห็นเธอเป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ใช่หมูที่เดินไม่เป็นเพียงเพราะเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เขาไม่ใช่หมูที่ไม่สามารถเดินหนีเพียงเพราะเขาเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง สีหน้าของเขากลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็วและเขาก็เดินเข้าไปด้วยรอยยิ้ม

เมื่อโจวโจวเดินเข้ามา การรับรู้อันเฉียบคมของเจ้าฟีนิกซ์เขียวก็ตรวจพบอีกฝ่ายในทันที

อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอมองไป เธอก็อึ้งไปในทันที

นี่…

มันมีคนที่หล่อขนาดนี้อยู่ในโลกด้วยเหรอ?!

ยิ่งเธอมองไปที่โจวโจวเท่าไร เธอก็ยิ่งหมกมุ่นมากขึ้นเท่านั้น ดวงตาของเธอกำลังจะเปลี่ยนเป็นสีแดง เสื้อคลุมเซียนฟีนิกซ์ที่ถักทอจากพลังของฟีนิกซ์เขียวบนร่างกายของเธอกระพือราวกับว่าเธอตื่นตระหนกกับรูปลักษณ์ที่หล่อเหลาของโจวโจว

เมื่อโจวโจวเห็นปฏิกิริยาของอีกฝ่าย ฝีเท้าของเขาก็ช้าลงโดยไม่รู้ตัว จากนั้นเขาก็ตระหนักว่าอีกฝ่ายต้องตกตะลึงกับลักษณ์สวรรค์สรรค์สร้างของเขาเป็นแน่

เขามองไปที่ความคืบหน้าของพรสวรรค์ลักษณ์สวรรค์สรรค์สร้างทันที

[ความคืบหน้าในการปรับปรุงปัจจุบัน: 50%]

มันแค่ 50% เท่านั้น และเขาก็สามารถทำให้เกิดปฏิกิริยาเช่นนี้ได้แล้วเหรอ?

โจวโจวพึมพำอยู่ในใจ

จากนั้นเขาก็เดินมาหาอีกฝ่ายโดยไม่คิดมากเกินไป

“ฉันคือเจ้าตะวันสาดแสง”

โจวโจวเอื้อมมือออกมาหาเธอ

เจ้าฟีนิกซ์เขียวเอื้อมมือออกไปโดยไม่รู้ตัวและจับมันไว้… และก็ไม่ปล่อย

โจวโจว: “...”

สาวน้อย ยับยั้งชั่งใจหน่อย!

โชคดีที่เจ้าฟีนิกซ์เขียวได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงในขณะที่เธอแสร้งทำเป็นถอนมือกลับมา

“ฉันจะไม่เสียเวลาพูดนะ ในเมื่อเธอมาแล้ว ฉันก็จะพาเธอไปยังค่ายทหารชั่วคราวในสมรภูมิสุดท้าย พวกเราได้ค้นพบฐานที่มั่นของลอร์ดบางส่วนและลอร์ดสีชาดบางตัวแล้ว ถ้ามีเวลาก็ไปจัดการได้เลย สำหรับเมืองฟีนิกซ์เขียวของเธอ เธอยังเป็นลอร์ดอยู่ แต่ฉันสามารถส่งคนไปช่วยเธอจัดการกับสิ่งต่างๆ ได้ถ้าเธอไม่อยากแบ่งสมาธิมาจัดการ”

โจวโจวกล่าว

เนื่องจากอีกฝ่ายอยากจะเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเอง เขาก็จะให้โอกาสเธอ เพราะอีกฝ่ายก็แข็งแกร่งมากอยู่แล้ว หลังจากเธอเข้าร่วมกับกองทัพตะวันสาดแสง เธอก็จะสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นไปได้อีก

ในเวลาเดียวกัน เขาก็จะได้ดินแดนฟรีๆ มาอีกแห่งด้วย

“ขอบคุณค่ะท่านลอร์ด!”

เจ้าฟีนิกซ์เขียวตั้งตารอทันที

ในที่สุดเธอก็สามารถตั้งสมาธิไปที่การเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองได้แล้ว

โจวโจวพยักหน้าและถาม “ความแข็งแกร่งของเธออยู่ในระดับไหนแล้ว?”

“ความแข็งแกร่งของฉันอยู่ในระดับเงินขาวขั้นสูงแล้ว และอยู่ไม่ไกลจากระดับทองคำเหลืองขั้นต้นแล้วด้วย มีอะไรงั้นเหรอท่านลอร์ด?”

เจ้าฟีนิกซ์เขียวกล่าวอย่างภาคภูมิใจก่อนที่จะถามออกมาด้วยความสงสัย

“ฉันอยู่ในระดับทองคำเหลืองขั้นกลางแล้ว และอยู่ไม่ไกลจากระดับทองคำเหลืองขั้นสูง”

โจวโจวพูดออกมา

เจ้าฟีนิกซ์เขียวอึ้ง

ความแข็งแกร่งของเธอถือว่าอยู่ในระดับแนวหน้าของลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์แล้ว ทุกเผ่าพันธุ์ต่างก็รู้ดีว่าลอร์ดจะเพิ่มความแข็งแกร่งได้ยากแค่ไหน

เธอไม่คาดคิดเลยว่าลอร์ดที่เธอเพิ่งยอมรับนั้นจะแข็งแกร่งกว่าเธอมากขนาดนี้

ตามที่คาดไว้จากลอร์ดอันดับหนึ่งของดาวเคราะห์สีน้ำเงิน!

เธอลอบเดาะลิ้น

มันก็เป็นอีกครั้งที่เธอรู้สึกว่าการยอมจำนนต่อเจ้าตะวันสาดแสงนั้นเป็นตัวเลือกที่ถูกต้องแล้ว

“ว่าแต่ชื่อจริงของเธอคืออะไรเหรอ? ชื่อจริงของฉันคือโจวโจว”

โจวโจวถาม

ในเมื่อพวกเขาเป็นฝ่ายเดียวกันแล้ว เขาก็อยากจะรู้ชื่อจริงของอีกฝ่าย

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือร่างกายของอีกฝ่ายแข็งค้างไปในทันใดที่เขาถามออกไป

จากนั้นเธอก็พูดอย่างไม่เป็นธรรมชาติว่า “ฉันชื่อหลี่ชิงหลวน”

โจวโจวขมวดคิ้ว “...นี่คือชื่อจริงของเธอใช่ไหม?”

ทำไมเธอถึงไม่เต็มใจที่จะบอกชื่อจริงของเธอ? มันเป็นเพราะความภักดีของเธอไม่สูงพองั้นเหรอ?

โจวโจวมองดูความภักดีของเธอ

88!

โจวโจวตกใจ

ความภักดีเริ่มต้นนี้แทบจะเทียบได้กับลูกน้องที่กึ่งภักดีจนตาย

งั้นมันเกิดอะไรขึ้นกับเธอกัน?

บรรยากาศเงียบไปชั่วขณะ

โจวโจวไม่คิดจะถามอีกเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่คิดจะพูดอะไรออกมา

มันไม่สำคัญตราบใดที่เธอไว้ใจได้

ในขณะที่เขากำลังจะเปลี่ยนเรื่อง เขาก็เห็นหน้าของเจ้าฟีนิกซ์เขียวที่อยู่ตรงข้ามเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงและเธอก็กัดฟัน จากนั้นเสียงของเธอปรากฏขึ้นในใจของโจวโจวในทันใด

“ชื่อจริงของฉันคือ… หลี่ชิง!”

สีหน้าของโจวโจวแปลกไปชั่วขณะ แต่มันก็หายไปในทันทีและกลับมาเป็นปกติ

อย่างไรก็ตาม แม้ว่ามันจะหายไปในทันใด แต่อีกฝ่ายก็สังเกตเห็นมันได้

“ฮือ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงไม่อยากจะบอกมัน! นี่เป็นชื่อที่แม่ตั้งให้ฉันหลังจากอ่าน ‘เพลงรักอสรพิษขาวไป’ ตอนแรกมันก็ฟังดูดีอยู่หรอก แต่เกมยอดนิยมบางเกมก็มีตัวละครชื่อเดียวกัน มันทำให้ฉันอายมาก! นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงเปลี่ยนชื่อเป็นหลี่ชิงหลวนในภายหลัง!”

หลี่ชิง… ไม่สิ หลี่ชิงหลวนพูดอย่างเศร้าๆ

“ไม่เป็นไร ฉันคิดว่าชื่อจริงของเธอก็ฟังดูน่ารักดีออก”

โจวโจวเองก็ใช้การสื่อสารทางจิตตอบกลับไป “แต่ถ้าเธออยากให้ฉันเรียกว่าหลี่ชิงหลวน ฉันก็จะเคารพการตัดสินใจของเธอ”

“งั้นก็เรียกฉันว่าหลี่ชิงหลวนละกัน!”

หลี่ชิงหลวนแน่วแน่มาก

“ตกลง!”

โจวโจวตอบรับ

“พี่ พี่ฟีนิกซ์เขียวบอกหนูว่าเธอมีสมบัติธรรมชาติบางอย่าง หนูอยากดูว่าหนูจะสามารถปลูกมันได้ไหมด้วยสวนสมุนไพรเทวะของหนู”

ในเวลานั้นเอง หลิงเอ๋อร์ก็พูดออกมาในทันใด

“ได้สิ ลองดูได้เลย”

โจวโจวรู้สึกว่ามันไม่ใช่ปัญหาอะไร

ดวงตาของหลิงเอ๋อร์และหลี่ชิงหลวนเปล่งประกายขึ้นมา

หลังจากนั้นโจวโจวก็ให้พวกเธอแนะนำตัวเอง จากนั้นโจวโจวก็พาเจ้าฟีนิกซ์เขียวไปยังสมรภูมิสุดท้ายเพื่อติดตามกองทัพของเขาไปจัดการกับศัตรูที่อยู่รอบๆ

สิ่งที่ไม่คาดคิดเพียงอย่างเดียวคือเจ้าฟีนิกซ์เขียวใช้ฟังก์ชั่นถ่ายรูปของกระดานสนทนาเพื่อถ่ายรูปโจวโจวก่อนจะออกเดินทาง

โจวโจวไม่ได้ใส่ใจนักและปล่อยให้เธอถ่ายไป

หลังจากจัดการเรื่องต่างๆ ของเจ้าฟีนิกซ์เขียวแล้ว เขาก็กลับมายังดินแดนตะวันสาดแสงอีกครั้งและไปหาหนงเฉิงหลินที่กำลังวุ่นอยู่

“เป็นไงบ้าง?”

โจวโจวถาม

“มีลอร์ด 14 คนที่มีพรสวรรค์แห่งลอร์ดในสายอาชีพอยากจะเข้าร่วมกับพันธมิตรแห่งลอร์ดของพวกเรา หนึ่งในนั้นมีพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับแพลตตินั่มขาวด้วย”

“ว่าแต่ท่านลอร์ด หลายคนถามว่าพันธมิตรแห่งลอร์ดของพวกเราชื่ออะไร ข้าควรตอบไปว่ายังไงดี?”

หนงเฉิงหลินถามด้วยความสงสัย

โจวโจวได้เตรียมการสำหรับเรื่องนี้ไว้อยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงพูดออกไปด้วยโทนเสียงต่ำว่า

“พันธมิตรแห่งลอร์ดของพวกเราชื่อว่า… พันธมิตรดารา!”