หมอนี่… เขาเพิ่งมาถึงทวีปจื้อเกาได้ไม่นาน แต่เขาก็สร้างปัญหาไปมากแล้ว
ร็อบอดเดาะลิ้นไม่ได้เมื่อเขาคิดถึงสิ่งที่อีกฝ่ายได้ทำลงไปในระหว่างเวลาที่ผ่านมา
เขาได้กลายเป็นลอร์ดมือใหม่แห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์จากดาวเคราะห์สีน้ำเงินที่แข็งแกร่งที่สุด ได้คืนชีพผู้กล้าเผ่าพันธุ์มนุษย์ และไต่อันดับไปจนถึงอันดับเทวะบนสมรภูมิแห่งลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์ นอกจากนี้เขายังได้กลายเป็นลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุด เขากระทั่งได้รับยุทธภัณฑ์เทวะประจำเผ่าพันธุ์—ดาวนำโชค ซึ่งมีประโยชน์กับเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งหมด
โจวโจวในตอนนี้คงไม่เกินจริงไปเลยที่จะบอกว่าเขาได้นำพาผลประโยชน์มาให้กับเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งหมด
นี่ยังเป็นเหตุผลว่าทำไมเบื้องบนของวิหารอัศวินและเผ่าพันธุ์มนุษย์จำนวนมากจึงมาที่นี่ พวกเขากระทั่งปฏิบัติต่ออีกฝ่ายเป็นอย่างดีและอยากดึงอีกฝ่ายเข้าไปยังฝ่ายของตนด้วย
พวกเขาเป็นหนี้บุญคุณโจวโจวมากเลย
ตอนอายุเท่านี้เขากำลังทำอะไรอยู่นะ? เขาเพิ่งถูกยอมรับเป็นศิษย์ของท่านอาจารย์และยังคงฝึกฝนเทคนิคการต่อสู้อย่างเชื่อฟังภายใต้คำสั่งของท่านอาจารย์อยู่เลย
แม้ว่าการได้รับการยอมรับให้เป็นศิษย์ของราชาแห่งอัศวินอเวจีในตำนานจะเป็นโอกาสที่ดีในสายตาของมนุษย์จำนวนมากและแม้แต่คนจากต่างเผ่าพันธุ์ก็ตาม แต่มันก็เทียบไม่ได้เลยกับเจ้าตะวันสาดแสงที่อยู่ตรงหน้าของเขา
ร็อบคิดถึงสิ่งที่ไป่เหอเคยพูดถึงเจ้าตะวันสาดแสง
“เขาคือรุ่นเยาว์อันดับหนึ่งจากสรรพเผ่าพันธุ์!”
…
“อย่ามัวมายืนคุยกันอยู่ตรงนี้เลย เข้าไปคุยกันข้างในเถอะ”
ไป่เหอยิ้ม
ทุกคนพยักหน้าและเข้าไปยังวิหารอัศวินพร้อมกัน จากนั้นพวกเขาก็มาถึงห้องโถงจัดเลี้ยงขนาดใหญ่
โต๊ะหรูหราหลายสิบโต๊ะถูกจัดวางไว้ในห้องโถง มันเต็มไปด้วยอาหารรสเลิศทุกประเภทที่โจวโจวไม่เคยเห็นมาก่อน
กลิ่นหอมหลากหลายรสชาติจู่โจมประสาทสัมผัสของเขาทันที
โจวโจวสูดกลิ่นเข้าไปและรู้สึกได้ว่าพลังงานในร่างกายของเขาซึ่งเพิ่งเลื่อนระดับขึ้นสู่ระดับเพชรขั้นสูงได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อยอีกครั้ง
มันเพิ่มขึ้นประมาณ 0.1%
เขาอดเดาะลิ้นไม่ได้
เขาคือลอร์ด การเลื่อนระดับจึงต้องใช้พลังงานเสริมแกร่งเป็นจำนวนมากตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
เขาไม่คาดคิดเลยว่าพลังงานเสริมแกร่งในร่างกายของเขาจะเพิ่มขึ้น 0.1% เพียงแค่สูดกลิ่นอาหารเข้าไป
ถ้ามันเป็นคนอื่น คนผู้นั้นก็น่าจะได้รับพลังงานเสริมแกร่งเพิ่มขึ้นมาประมาณ 20% ทันที
มันมีลูกชิ้นสีทองสี่ลูกที่เปล่งแสงจางๆ ออกมา จากนั้นข้อความแจ้งเตือนก็ปรากฏขึ้นมา
[ชื่ออาหาร: เนื้อทองคำจิตวิญญาณสูงสุด]
[ระดับ: ระดับเทพชั้นต่ำขั้นต้น]
[รายละเอียด: อาหารอันโอชะระดับเทพที่ทำจากใบหยกสามสี ผิวกวางสดใส วารีขอบเขตแก่นแท้ และส่วนผสมระดับเทพอื่นๆ มันมีรสชาติอร่อยจนลืมไม่ลง นอกจากนี้ยังสามารถฟื้นฟูร่างกายและเพิ่มขีดจำกัดอายุขัยได้ 50-100 ปี]
ดวงตาของโจวโจวเบิกกว้างขึ้น
พระเจ้าช่วย! ฉันแค่มองดูผ่านๆ และมันก็เป็นอาหารระดับเทพชั้นต่ำเลยเหรอ นอกจากนี้มันยังมีเอฟเฟกต์ในการเพิ่มอายุขัยด้วย
เขาอดไม่ได้ที่จะมองไปที่จานอื่นๆ
ยิ่งเขาดู เขาก็ยิ่งตกใจ นี่เป็นเพราะเขาพบว่าระดับของอาหารจานอื่นๆ ไม่ได้ต่ำไปกว่าระดับเทพชั้นต่ำเลย
อาหารที่มีระดับต่ำที่สุดคือระดับเทพชั้นต่ำขั้นต้น และอาหารที่มีระดับสูงที่สุดก็คือระดับเทพแท้จริงขั้นต้นที่มีชื่อว่าปลามังกรล้ำค่าต้นกำเนิดสวรรค์ ซึ่งมันก็ตั้งไว้ตรงกลางของจานอาหารทั้งหมด
เชี่ย
เขาได้เรียนรู้สิ่งใหม่แล้ว
นี่คืองานเลี้ยงสำหรับชนชั้นสูงงั้นเหรอ?
โจวโจวอึ้ง
เขาอดสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ไม่ได้และบอกตัวเองว่าอย่าแสดงความกลัวออกไป จากนั้นเขาจึงดึงสายตากลับมาอย่างไม่เต็มใจและมองไปที่คนอื่นๆ
จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าแม้แต่คนเหล่านี้ก็ประหลาดใจเล็กน้อยด้วยเมื่อพวกเขามองไปยังอาหารเหล่านี้ แต่พวกเขาก็ไม่ได้มีปฏิกิริยามากเกินไปนัก
เห็นได้ชัดว่าแม้ว่าคุณภาพของอาหารเหล่านี้จะสูง แต่ก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาตกใจได้เท่าไร
พวกเขาต่างก็เป็นคนใหญ่คนโตจริงๆ
โจวโจวเดาะลิ้นด้วยความประหลาดใจมากยิ่งขึ้นไปอีก
เบื้องบนของเผ่าพันธุ์มนุษย์เหล่านี้ คนที่อ่อนแอที่สุดก็น่าจะเป็นตัวตนระดับเทพแล้ว มิฉะนั้นทำไมพวกเขาถึงได้มองไปยังอาหารเหล่านี้อย่างสงบนิ่งขนาดนี้?
เขาประทับใจกับคนเหล่านี้มากยิ่งขึ้นไปอีก
หลังจากนั้นทุกคนก็หาที่นั่ง และโจวโจวก็ถูกจัดให้นั่งอยู่ทางด้านซ้ายของไป่อี้
ในขณะที่โจวโจวนั่งลง เขาก็มองไปยังรอยยิ้มของพี่ใหญ่ที่นั่งอยู่ตรงหน้าของเขา ไม่ว่าเขาจะมีความแข็งแกร่งทางจิตใจมากเพียงใด แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหม่าเล็กน้อย
มันต้องรู้ว่าในฐานะเจ้าวิหารอัศวินและคนจัดงานเลี้ยงนี้ ไป่เหอจึงนั่งอยู่บนเก้าอี้หลักของงานเลี้ยง
และตอนนี้เขาก็กำลังนั่งอยู่ข้างๆ ไป่เหอ นี่มันไม่เป็นการยกยอเขาไปหน่อยเหรอ?
อย่างไรก็ตาม เมื่อมองไปที่สีหน้าของคนใหญ่คนโตพวกนี้แล้ว พวกเขาก็ไม่ได้ดูเหมือนจะคัดค้านตำแหน่งของเขาเลย แต่พวกเขากลับยิ้มออกมาอย่างเมตตา ราวกับว่าพวกเขากำลังมองมาที่ลูกหลานของตัวเอง
พวกเขาคิดจริงๆ ว่าพวกเขากำลังมองมาที่ลูกหลานของตัวเอง หรือว่าพวกเขาแค่แสร้งทำและคิดเรื่องอื่นอยู่ภายใน?
จิตใจของโจวโจวปั่นป่วน
“เริ่มงานเลี้ยงได้”
ในเวลานั้นเอง ไป่เหอก็ยิ้มออกมา ซึ่งทุกคนก็ตอบสนองด้วยรอยยิ้ม
เมื่อเห็นภาพฉากนี้ โจวโจวก็หยุดคิดและมองไปยังอาหารระดับเทพตรงหน้าของเขา
ใครจะสน?
อาหารพวกนี้ล้วนแล้วแต่เป็นอาหารระดับเทพ พวกมันต่างก็เป็นสุดยอดอาหารและมีประโยชน์มากมาย
เขาต้องกินให้หมด!
เขาหยิบช้อนส้อมขึ้นมาและเริ่มกินโดยไม่ลังเลอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะตัดสินใจว่าจะกินให้เต็มอิ่ม แต่เขาก็ไม่อยากจะทำตัวตะกละตะกลาม ดังนั้นภายนอกเขาจึงกินตามมารยาทบนโต๊ะอาหารไปตามปกติ ซึ่งถ้าหากสังเกตดีๆ มันก็จะเห็นว่าตะเกียบของเขาไม่ได้หยุดนิ่งเลย
สิ่งนี้ทำให้คนใหญ่คนโตบางคนที่อยากจะเข้ามาพูดคุยกับเขาล้มเลิกความคิดนี้ไปชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่รีบร้อน
หลังจากผ่านไปสักพักทุกคนก็ทานอาหารกันจนเกือบจะเสร็จแล้วและสายตาของพวกเขาก็มองมาที่โจวโจว
เมื่อเห็นเช่นนี้โจวโจวก็เขินเกินกว่าที่จะกินต่อได้ ดังนั้นเขาจึงวางตะเกียบลงอย่างไม่เต็มใจเท่าไร
“เจ้าตะวันสาดแสง”
ชายหนุ่มรูปหล่อพูดด้วยน้ำเสียงโบราณว่า “ขอบคุณเจ้ามากที่นำพาดาวนำโชคมาสู่เผ่าพันธุ์มนุษย์ของพวกเราจนทุกคนได้รับพรจากดาวนำโชค”
[นี่คือซวนหยวนอี้ ปรมาจารย์อันดับสองแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ นอกจากนี้เขายังเป็นลำดับที่สองของสภาสูงสุดของเผ่าพันธุ์มนุษย์และเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าพันธุ์มนุษย์ด้วย]
[อย่าถูกหลอกโดยรูปร่างหน้าตาของเขา เขามีความสามารถในการคงความเยาว์วัยไว้และได้บ่มเพาะคัมภีร์อมตะ อันที่จริงเขามีอายุเกือบ 20,000 ปีแล้ว]
โจวโจวได้ยินเสียงของไป่เหอดังขึ้นในจิตใจของเขาในขณะที่เขากำลังสงสัยว่าชายหนุ่มผู้นี้เป็นใคร
เขาอดตกใจไม่ได้
สุดยอด!
กลับเป็นว่าคนผู้นี้คือคนใหญ่คนโตที่สามารถรักษาความเยาว์วัยไว้ได้!
“ในฐานะสมาชิกของเผ่าพันธุ์มนุษย์ มันนับเป็นเกียรติของข้าแล้วที่ได้ทำเพื่อเผ่าพันธุ์มนุษย์”
โจวโจวยืนขึ้นและกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ไม่ว่าเรื่องนี้จะเป็นจริงหรือไม่ก็ตาม แต่อย่างน้อยที่สุด คนใหญ่คนโตของเผ่าพันธุ์มนุษย์ทุกคนก็ยิ้มออกมาเมื่อพวกเขาได้ยินเช่นนี้
รอยยิ้มที่พึงพอใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซวยหยวนอี้ด้วย เขาพยักหน้า “มันหาได้ยากจริงๆ ที่จะพบกับคนที่มีโอกาสและความตั้งใจเช่นนี้ ตามที่คาดไว้จากอัจฉริยะของเผ่าพันธุ์มนุษย์ เจ้าคู่ควรกับมันจริงๆ”
หลังจากพูดเช่นนั้นออกไป สีหน้าของเขาก็ค่อยๆ จริงจังขึ้นมา
“อย่างไรก็ตาม เจ้าก็รู้ใช่ไหมว่ายุทธภัณฑ์เทวะนี้ที่รวบรวมมาจากศรัทธาของสิ่งมีชีวิตจากสรรพเผ่าพันธุ์นั้นมีความสำคัญยังไง?”
“ข้าพอรู้มาบ้างขอรับ มันไม่เพียงแต่จะมีผลแค่กับเผ่าพันธุ์มนุษย์เท่านั้น แต่ยังมีผลกับสิ่งมีชีวิตในเผ่าพันธุ์อื่นๆ ด้วย”
โจวโจวกล่าว
บางทีเบื้องบนพวกนี้คงจะอยากให้ฉันมอบดาวนำโชคให้กับพวกเขาและให้พวกเขาเก็บรักษาไว้ใช่ไหม?
ความคิดนี้ปรากฏขึ้นในใจของเขา
แม้ว่ารอยยิ้มของเขาจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป แต่เขาก็รู้สึกไม่ดีแล้ว
ในเวลานั้นเอง เบื้องบนของเผ่าพันธุ์มนุษย์คนอื่นๆ ก็มองมาที่ซวนหยวนอี้ด้วยสีหน้าที่ต่างออกไปด้วย มันไม่รู้เหมือนกันว่าพวกเขากำลังคิดอะไรอยู่