ตอนที่ 335

บทที่ 335: โลกที่ใกล้จะถูกทำลาย

สำหรับซุยเฮ็งแล้ว มันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะใช้พลังธรรมของเขาเพื่อส่งผลกระทบต่อกฎของโลกสูญสวรรค์และโลกใบเล็กอีกใบหนึ่ง

เขาต้องทำเพียงใช้กฎเพื่อเชื่อมต่อกฎหลักของทั้งสองโลกและทำการปรับเปลี่ยนอีกเล็กน้อยกับกฎอื่นๆ เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อที่ใกล้เคียงกันกับโลกสูญสวรรค์

ด้วยวิธีนี้ โลกใบใหม่ก็จะสามารถหลอมรวมเข้ากับโลกสูญสวรรค์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

มันเป็นเรื่องง่ายมาก

ในระหว่างกระบวนการนี้ คนธรรมดาในโลกใบเล็กก็จะไม่รู้สึกอะไรเลยด้วยซ้ำ

เฉพาะผู้ที่มาถึงขอบเขตเซียนเทียนและสามารถสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในกฎของสวรรค์และปฐพีเท่านั้นถึงจะสามารถสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงนี้

….

ลมหวีดหวิวนำกลิ่นคาวเลือดและความเน่าเปื่อยโชยมา

จางหยานเฉิงกลับไปยังบ้านเกิดของเขาที่เขาจากมาเป็นเวลาสามปี แต่ฉากที่อยู่ตรงหน้าเขาก็เป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะยอมรับมัน

เมืองที่เคยรุ่งเรืองบัดนี้ได้ทรุดโทรมลง ทั้งหมดที่เขาเห็นคือกำแพงพัง บ้านพัง และเศษซากแขนขาทุกหนทุกแห่ง

จากสภาพความเน่าเปื่อยของซากศพ มันก็น่าจะผ่านมาเป็นเวลาสี่ถึงห้าวันแล้วที่เมืองถูกทำลาย และผู้คนในนั้นก็ได้ตายไปนานแล้ว

ชายผู้มีกล้ามเนื้อสูงเก้าฟุตผู้นี้เงียบลง จู่ๆ ร่างกายของเขาก็เย็นเฉียบราวกับก้อนน้ำแข็งอายุ 10,000 ปี มันมีเพียงมือที่สั่นเล็กน้อยเท่านั้นที่แสดงออกถึงความโกรธในใจของเขา

“ ไอ้ปีศาจ!!”

เสียงของจางหยานเฉิงดูเหมือนกับจะบีบเค้นออกมาจากลำคอของเขา มันเต็มไปด้วยความโกรธและความกลัว เลือดในร่างกายของเขาลุกเป็นไฟ

ผิวของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิงในทันที รูขุมขนทั้งหมดบนร่างกายของเขาเปิดออก และกลุ่มควันจำนวนนับไม่ถ้วนก็พ่นออกมาจากพวกมัน มันกลั่นตัวเป็นหมอกหนาสีเลือดเหนือศีรษะของเขา

ข้างๆ เขามีหญิงสาวอายุ 28 ปียืนอยู่ เธอสวยและตัวเล็ก เธอสวมชุดสีแดงอ่อนบริสุทธิ์และน่ารัก

“ ศิษย์พี่ เรามาสายเกินไป” การแสดงออกของหญิงสาวดูเศร้าในขณะที่เธอจับฝ่ามือของจางหยานเฉิงอย่างอ่อนโยน เธอกัดริมฝีปากสีแดงของเธอและปลอบโยน “ อย่างน้อยเราก็ได้รับกระบี่สังหารมารในตำนานมาแล้ว เรายังสามารถฆ่าจักรพรรดิมารและกอบกู้โลกของเราได้อย่างอยู่!”

“ กระบี่สังหารมาร…” จางเหยียนเฉิงดูเหมือนจะปลุกความทรงจำบางอย่างขึ้นได้และพึมพำว่า “ ใช่แล้ว เรายังมีกระบี่สังหารมารอยู่!”

จากนั้นเขาก็เหยียดฝ่ามือออกและเพ่งสมาธิ ทันใดนั้น แสงสีเขียวก็สว่างขึ้นที่ฝ่ามือของเขา และกระบี่ยาวสามฟุตสามนิ้วก็ปรากฏขึ้นจากอากาศ

ตัวกระบี่ยาวนี้ถูกสลักด้วยลวดลายอันวิจิตร ทุกลายดูเหมือนกับจะมีพลังที่แปลกประหลาดและทรงพลังซ่อนอยู่ มันทำให้คนๆ หนึ่งต้องตะลึงอย่างอดไม่ได้

บู้มมมมม!

จางหยานเฉิงคุกเข่าลงกับพื้นพร้อมกับกระบี่ในมือ เขาโค้งคำนับและพูดเสียงดังว่า “ ท่านพ่อ ท่านแม่ และทุกคนในเมืองนี้ ข้าจะใช้กระบี่เล่มนี้สังหารปีศาจทั้งหมดบนโลกเพื่อปราบความวุ่นวายของเหล่ามารร้ายและทำให้โลกใบนี้กลับสู่ความสงบสุขเหมือนเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมาเอง!”

10 ปีที่แล้ว มันเป็นเวลาครบรอบ 60 ปีที่ราชวงศ์ใหม่ได้ก่อตั้งขึ้น และอำนาจของประเทศก็ดำเนินมาจนถึงจุดสูงสุด ประเทศมีผู้ปกครองที่ชาญฉลาดและเขาก็ทำงานหนักเพื่อปกครองประเทศ

โลกทั้งใบกำลังเจริญรุ่งเรือง

ทุกคนรู้ว่านี่จะเป็นยุคทองครั้งแรกหลังจากผ่านสงครามอันวุ่นวายมา 200 ปี

แต่แล้วคืนๆ หนึ่ง จู่ๆ พระจันทร์ก็เปล่งแสงประหลาดออกมา

ฝนนับไม่ถ้วนร่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้าพร้อมกับแสงจันทร์ มันตกลงในถิ่นทุรกันดาร

ในตอนแรก ปรากฏการณ์ดังกล่าวก็ไม่ได้ดึงดูดความสนใจของใครเลย โหรของจักรวรรดิยังอธิบายว่ามันเป็นฝนที่ตกลงมาจากท้องฟ้าซึ่งบ่งชี้ว่ายุคทองกำลังใกล้เข้ามา มันเป็นเครื่องหมายมงคลที่ฟ้าประทานมาให้

แต่แล้วในไม่ช้า ผู้คนก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ

อย่างแรก สัตว์ร้ายตัวใหญ่ขึ้น

หมาป่าที่ค่อนข้างผอมแต่เดิมได้กลายเป็นสัตว์ดุร้ายที่สูงกว่าเจ็ดฟุต เสือที่ดุร้ายก็ยิ่งตัวใหญ่มากขึ้นไปอีก เสือดุร้ายที่สูงมากกว่า 30 ฟุตได้ปรากฏขึ้นหลายแห่ง

สัตว์ร้ายตัวอื่นๆ เองก็ขยายใหญ่ขึ้นเช่นกัน

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสัตว์ร้ายมีขนาดใหญ่ขึ้น เนื้อและกระดูกของพวกมันหล่านี้ก็ยังแข็งแกร่งขึ้นด้วย และพลังป้องกันของพวกมันก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก

การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนำมาซึ่งภัยพิบัติร้ายแรงในทันที เสือดุร้ายที่สูงกว่า 30 ฟุตเป็นเสมือนกับฝันร้าย มันสามารถสังหารทหารชุดเกราะหนักจำนวนมากได้ด้วยการตบเพียงครั้งเดียว

เมื่อสัตว์ร้ายปรากฏขึ้น มันก็ต้องใช้ทหารชั้นยอดหลายพันคนเพื่อกำจัดพวกมัน นอกจากนี้ พวกเขาก็ยังเป็นทหารที่รู้วรยุทธ์และถือครองอาวุธที่เหนือกว่า

อย่างไรก็ตาม หากหมาป่าตัวใหญ่ปรากฏตัวขึ้น มันก็จะยิ่งน่ากลัวมากขึ้นไปอีก นี่เป็นเพราะหมาป่ามักจะปรากฏตัวกันเป็นกลุ่ม มันมีหมาป่าหลายสิบตัวที่สูงกว่าเจ็ดฟุตหรือสิบฟุต และพวกมันก็ทรงพลังมากพอที่จะบดขยี้เมืองทั้งเมือง!

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ แต่ราชวงศ์ใหม่ก็ยังแทบจะไม่สามารถรับมือกับมันได้โดยอาศัยอำนาจของประเทศที่รุ่งเรืองถึงขีดสุด

และเมื่อเวลาผ่านไป สัตว์ป่าบางตัวก็ยังได้รับการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น พวกมันไม่เพียงแต่จะมีร่างกายที่ทรงพลังเท่านั้น แต่พวกมันยังเริ่มได้รับความสามารถในการควบคุมพลังธาตุต่างๆ เช่นลมและสายฟ้า น้ำแข็งและไฟ และมีความสามารถในการระดมพลังของสวรรค์และปฐพี

ยิ่งไปกว่านั้น ในปีที่ห้าของการกลายพันธุ์ มันก็มี “สัตว์อสูร” ที่มีร่างเป็นมนุษย์และหัวเป็นสัตว์ร้ายปรากฏขึ้น

สิ่งนี้เรียกว่า “ปีศาจ!”

ปีศาจแข็งแกร่งกว่าสัตว์ร้ายและมีพลังที่เป็นระบบมากกว่า ร่างกายของพวกมันเองก็แข็งแกร่งมากเช่นกัน สิ่งสำคัญที่สุดคือพวกมันมีสติปัญญาเทียบเท่ากับมนุษย์ทั่วไป

ด้วยเหตุนี้เอง ภัยพิบัติจึงปรากฎออกมาในที่สุด

ตั้งแต่วันที่ปีศาจปรากฏตัวขึ้น มนุษย์บนโลกนี้ก็เริ่มพ่ายแพ้ลงอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นสำนักยุทธ์หรือราชสำนัก พวกเขาล้วนไม่สามารถต้านทานการรุกรานของสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังเช่นนี้ได้

ในเวลาไม่ถึงสองปี ราชวงศ์ใหม่ที่แต่เดิมเจริญรุ่งเรืองก็ล่มสลายลงโดยสิ้นเชิง จักรพรรดิหายตัวไปและข้าราชบริพารก็หนีตายไปทุกทิศทุกทาง แม่ทัพของกองทัพต่างๆ นำทัพของพวกเขาออกไปเพื่อปกป้องเมืองและกำจัดการดำรงอยู่ที่น่ารังเกียจเหล่านี้

อย่างไรก็ตาม ปีศาจก็กลับแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง ผู้นำในหมู่พวกมันที่สามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์ได้ปรากฏตัวขึ้น มันได้รับความเคารพในฐานะจักรพรรดิปีศาจและเป็นผู้นำปีศาจทั้งหมดบนโลก นอกจากนี้ มันก็ยังประกาศกร้าวว่าจะทำลายล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์

ในขณะที่ทุกคนกำลังรู้สึกสิ้นหวัง จางหยานเฉิงก็ได้รับหนังสือเล่นหนึ่งมาโดยบังเอิญและได้รู้ว่ามันมีความโกลาหลปีศาจนี้เคยเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อนานมาแล้ว

ในท้ายที่สุด มันก็มีวีรบุรุษที่ไม่มีใครเทียบได้ซึ่งได้รับกระบี่สังหารมารที่มอบมาให้โดยเซียนได้ยุติสงครามที่วุ่นวายนี้และทำให้โลกมนุษย์กลับสู่ความสงบสุข

ด้วยเหตุนี้เอง จางหยานเฉิงจึงออกเดินทางจากบ้านเกิดอย่างเด็ดเดี่ยว และหลังจากสามปีผ่านไป ในที่สุดเขาก็ได้รับกระบี่ในตำนานเล่มนี้

หลังจากที่จางหยานเฉิงคุกเข่าลงและโค้งคำนับแล้ว เขาก็ยืนขึ้นพร้อมกับกระบี่สังหารมารในมือของเขา ทั้งร่างของเขาแผ่เจตนาฆ่าออกมาอย่างเข้มข้นในขณะที่เขากัดฟันและพูดว่า “ กระบี่สังหารมารได้รับรู้ถึงที่อยู่ของพลังปราณปีศาจแล้ว”

“ ในวันนี้ ข้าก็จะใช้ปีศาจพวกนี้ที่ทำลายบ้านเกิดของฉันเป็นเครื่องสังเวยให้กับกระบี่ของข้า!”

….

บนเนินเขาไม่ไกลจากจางหยานเฉิง

ชายวัยกลางคนในชุดสีทองกำลังยืนอยู่เคียงข้างชายหนุ่มรูปหล่อ ทั้งสองคนมองไปที่ร่างที่จากไปของจางหยานเฉิงด้วยสายตาเวทนา

หากเจ้าหน้าที่ที่รับใช้ในราชสำนักอยู่ที่นี่ พวกเขาก็จะสามารถรับรู้ได้อย่างง่ายดายว่าชายในชุดหรูหราผู้นี้คือจักรพรรดิที่หายตัวไปเป็นเวลาหลายปี

และหากแม่ทัพคนใดที่เคยต่อสู้กับปีศาจอยู่ที่นี่ พวกเขาก็จะสามารถรับรู้ได้ทันทีว่าชายที่อยู่เคียงข้างจักรพรรดิคือผู้นำของปีศาจ ซึ่งมันก็คือ “ จักรพรรดิปีศาจ”

พวกเขากำลังยืนอยู่ด้วยกันจริงๆ

“ กระบี่สังหารมาร เป็นชื่อที่ดีนี่” จักรพรรดิปีศาจเผยรอยยิ้มที่น่ากลัว “ กระบี่ที่กลั่นมาจากโชคของเผ่ามนุษย์นั้นใช้เพื่อฆ่าปีศาจขนาดเล็กบางตัวได้เท่านั้น ช่างน่ายินดีจริงๆ!”

“ ถ้าเราไม่ใช้โชคของเผ่ามนุษย์ แล้วเราจะเร่งการเติบโตของเผ่าปีศาจได้อย่างไร?” จักรพรรดิยังคงยิ้ม เขามองไปที่จางหยานเฉิงด้วยความสงสารและหัวเราะเบาๆ “ คนโง่ผู้น่าสงสาร เขายังคงคิดว่าเขาพบหนทางที่จะช่วยโลกเอาไว้ได้แล้ว”