บทที่ 221 อุปกรณ์มิติของกวนเต๋อฮวา
เหมิงหยูพูดพร้อมกับกัดฟันแล้วพูดว่า "พี่สาวเธอแก่เร็วมาก อย่างน้อยหนึ่งในสามก็เป็นเพราะผู้ชายคนนี้"
ขณะที่เธอพูด เธอก็ควบคุมตัวเองไม่ได้และลุกขึ้นเตะศพอย่างแรงสองสามครั้ง
เฉินฟานยืนเคียงข้างอย่างเงียบๆ
เป็นที่เข้าใจได้ และการกระทำที่รุนแรงของเหมิงหยูเช่นนี้ก็สมเหตุสมผล แต่พวกเธอสองพี่น้องทุกข์ทรมานอย่างมากจากคนพวกนี้
หลังจากนั้นไม่นาน เหมิงหยูก็เช็ดน้ำตา หันไปมองเฉินฟานแล้วพูดว่า "ขะ..ข้าขอโทษ ข้า..."
"ไม่เป็นไร ข้าเข้าใจ"
เฉินฟานยิ้มให้เธอ
“ข้าได้ยินมาว่าเจ้าบอกว่าน้องสาวของเจ้าใช้พลังชีวิตมากเกินไป หนึ่งในสามต้องโทษเขาคนนี้ แล้วอีกสองในสามล่ะ? มันคือใคร?”
“ใช่ มีอีกสามคน คนหนึ่งคือเจ้าเมืองอันชาน ชื่อหยานหมิง อีกสองคนคือฟางหยุนและหม่าเซิง ฟางหยุนนั้นมีสามารถในการเปลี่ยนร่างเป็นโลหะทั้งร่างได้ ข้าได้ยินมาว่าแม้แต่ปืนใหญ่ก็ไม่สามารถทำร้ายเขาได้ ส่วนหม่าเซิงนั้นมีความสามารถควบคุมแรงโน้มถ่วง ซึ่งสามารถบดขยี้คนเป็นเนื้อบดได้"
เหมิงหยูแสดงสีหน้าหวาดกลัว "แม้ว่าจะเป็นผู้แซ่กวนคนนี้ก็ตาม เมื่อเขาได้พบกับคนเหล่านี้เขาก็ยังต้องสุภาพอย่างมาก"
"อย่างนั้นหรือ"
เฉินฟานพยักหน้า ข้อลูที่เหมิงหยูและจางเหรินพูดนั้นเหมือนกัน และยังมีผู้อเวคอีกคนที่ไม่รู้ว่าเขามีพลังแบบไหน
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะพูดอย่างอยากรู้อยากเห็น "เหมิงหยู จเ่ได้ยินมาว่านอกเหนือจากผู้อเวคสามคนที่เจ้าพูดถึงแล้ว น่าจะมีผู้อเวคระดับ C อีกคนหนึ่งในเมืองอันชานใช่ไหม?"
"อืม"
เหมิงหยูขมวดคิ้วเล็กน้อย จำได้ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "ชื่อของเขาคือ เหอฉางซู และเขาค่อนข้างลึกลับอย่างมาก แม้แต่พี่สาวของข้าหรือผู้ยิงใหญ่ทั้งสี่คนอื่น ๆ ก็ไม่ค่อยได้เห็นเขามากนัก"
"ลึกลับจัง"
เฉินฟานขมวดคิ้วเล็กน้อย
“แล้วเจ้ารู้ไหมว่าพลังของเขาคืออะไร”
"ข้ารู้" เหมิงหยูพูดโดยไม่ต้องคิด
"..?"
เฉินฟานผงะและมองดูเหมิงหยูอย่างไม่เชื่อ
จริงๆ แล้วเมื่อกี้เขาไปอย่างนั้นโดยไม่ได้คาดหวังอะไร แต่ไม่ได้คาดคิดว่าเธอกลับรู้ซ่ะอย่างนั้น?
“จริงๆข้าก็ไม่เคยรู้มาก่อน แต่เป็นพี่สาวที่บอกข้า”
เหมิงหยูหน้าแดงเล็กน้อย และก่อนที่เฉินฟานจะถามต่อ เธอก็พูดต่อ "ความสามารถของเขาคือการล่องหน"
"การล่องหน?"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เฉินฟานก็อดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้าง
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ผู้ชายคนนี้เป็นคนลึกลับอย่างมาก กลับกลายเป็นว่าความสามารถของเขาคือการล่องหน
“ข้าได้ยินจากพี่สาวของข้าว่าการควบคุมความสามารถของเขานัน้ถึงระดับที่สูงมาก แม้แต่ผู้อเวคคนอื่น ๆ ก็ยากที่จะค้นพบเขา ดังนั้นคนอื่นๆจึงเกรงกลัวเขาอย่างมาก”
ดวงตาของเหมิงหยูแสดงความกังวล "ถ้าท่านเผชิญหน้ากับเขา ท่านต้องระวังตัวให้มากขึ้น"
"ข้าจะระวัง"
เฉินฟานพยักหน้า และคิดกับตัวเองเมื่อฟังสิ่งที่เหมิงหยูพูดก่อนหน้านี้ ผู้ชายที่สามารถล่องหนได้คนนี้ไม่ได้บังคับให้พี่สาวของเหมิงหยูทำนายงั้นหรือ
แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้พวกเขาก็ได้เป็นศัตรูกันแล้ว
ถ้าถึงเวลาต้องสู้ก็ไม่ต้องออมมือหรือมีความเมตตาอะไร ไม่เช่นนั้นจะเป็นเขาเองที่พ่ายแพ้
“ยังไงก็ตาม เฉินฟาน ท่านบอกว่ามีสิ่งที่ต้องการให้ข้าช่วยท่านงั้นหรือ?” เหมิงหยูถามอย่างประหม่าเล็กน้อย
เธอคงเดาได้ว่าเฉินฟานต้องการใช้ความสามารถของเธอ
แต่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เธอกลับตกอยู่ในภาวะสับสนอีกครั้ง เพราะไม่ว่าเธอตั้งใจใช้ความสามารถมากแค่ไหนเธอก็ไม่สามารถทำนายอนาคตได้เลย
“มันเป็นอย่างนี้”
เฉินฟานมองไปที่ร่างของกวนเต๋อฮวาบนพื้นแล้วบอกว่า “ควรมีอุปกรณ์มิติอยู่บนร่างของเขา ข้าอยากให้เจ้าลองหาดูหน่อย ดูว่าจะพบมันได้หรือไม่ และหาทางเปิดอุปกรณ์มิตินี้ แน่นอนว่าความสามารถของเจ้าคือการคาดเดา ถ้าเจ้าทำไม่ได้มันก็ไม่สำคัญ"
จริงๆ แล้ว เมื่อพิจารณาจากคำอธิบายของเหมิงหยู เฉินฟานรู้สึกว่าความสามารถของสองพี่น้องคู่นี้เป็นเหมือนกับสัพพัญญูมากกว่า
กล่าวอีกนัยหนึ่ง เมื่อระดับการควบคุมความสามารถของตัวเธอลึกซึ้งขึ้น เธอก็น่าจะจะค่อยๆ เปลี่ยนจากการรู้ล่วงหน้าไปสู่การเป็นสัพพัญญู
“ถ้าเป็นคำขอนี่ ข้าจะทำให้ได้ตอนนี้เลย” รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเหมิงหยู
"จริงหรือ?"
การหายใจของเฉินฟานรวดเร็วขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ
นี้เธอสามารถทำได้เลยงั้นเหรอ? ไม่ต้องอาศัยความฝันหรือการนั่งสมาธิงั้นเหรอ?
เป็นไปได้ไหมว่าเหมิงหยูมีความเชี่ยวชาญในการใช้ความสามารถของเธอมากขึ้นแล้ว?
หากเป็นกรณีนี้ บางทีมันอาจจะไม่ต้องใช้ความพยายามมากนักสำหรับเขาในการเผชิญหน้ากับผู้อเวคเหล่านั้นต่อไป
“เรื่องนี้ข้ารู้อยู่แล้ว”
ดูเหมือนเหมิงหยูจะเห็นว่าเฉินฟานกำลังคิดอะไรอยู่ เธอจึงใช้นิ้วดันปอยผมไปด้านหลังใบหู และพูดอย่างเขินอายว่า "แต่ข้ายังใช้ความสามารถของตัวเองไม่ได้ตามที่ต้องการหรอก"
"หืม..แล้ว..?"
เฉินฟานตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และนึกถึงคำตอบในใจทันที
“พี่สาวของเจ้าเป็นคนบอกเจ้าอีกแล้วเหรอ?”
"อืม"
เหมิงหยูพยักหน้า "พี่สาวของข้าเล่าให้ข้าฟังเกี่ยวกับอุปกรณ์มิติของผู้อเวคในเมืองอันชานและวิธีการเปิดพวกมัน อย่างไรก็ตามหลังจากผ่านไปหลายปี ข้าไม่รู้ว่าพวกเขาได้เปลี่ยนอุปกรณ์มิติหรือเปลี่ยนวิธีการเปิดหรือไม่ ดังนั้นข้าทำได้แค่ต้องลองมันก่อนเท่านั้น”
"อืม"
เฉินฟานสูดหายใจเข้าลึกๆ และคลายอารมณ์ที่ตื่นเต้นกลับสู่ความสงบ
“โอเค แล้วเจ้าจำได้ไหมว่ามันคืออะไร? หรือข้าควรจะเอาสิ่งของของเขาออกมาทั้งหมดก่อนดี?”
“ข้าจำได้ว่ามันคือกรรไกรตัดเล็บที่ทำจากทองคำ” เหมิงหยูกล่าวอย่างเร่งรีบ
"กรรไกรตัดเล็บทำจากทองคำ"
เฉินฟานพึมพำ นั่งยองๆ และค้นหาศพ
เหมิงหยูจ้องมองไปที่ศพอย่างไม่เกรงกลัว
เพราะท้ายที่สุดแล้ว เธออยู่ในวันสิ้นโลกและเธอก็คุ้นเคยกับศพ ไม่ต้องพูดถึงว่านี่คือศพของศัตรู
ในไม่ช้าเฉินฟานก็พบกรรไกรตัดเล็บสีทองคู่หนึ่งจากกระเป๋ากางเกงด้านซ้ายของคู่ต่อสู้ กรรไกรตัดเล็บทั้งหมดทำด้วยทองคำและเป็นประกาย
"เจอแล้ว!"
เหมิงหยูกล่าวอย่างมีความสุข
เฉินฟานยังถอนหายใจด้วยความโล่งอก อย่างน้อยๆจากมุมมองนี้กวนเต๋อฮวาก็ไม่ได้เปลี่ยนอุปกรณ์มิติในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
เขาหันกลับมามองเหมิงหยูแล้วพูดว่า
“ต่อไป เราต้องใช้ลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคก่อนหรือไม่?”
“นิ้วหัวแม่มือขวาของเขาเล็งไปที่ตรงกลางหัวของกรรไกร”
เฉินฟานคว้ามือขวาของกวนเต๋อฮวาแล้วกดลงไป
ต่อหน้าต่อตาของเขา รูปภาพที่คล้ายกับหน้าจอโทรศัพท์มือถือปรากฏขึ้นทันที โดยมีข้อความอยู่ตรงกลางและแป้นพิมพ์ตัวเลข
กรุณากรอกรหัสผ่าน
"15934627"
ก่อนที่เฉินฟานจะถาม เหมิงหยูก็พูดออกมาอีกครั้ง
เฉินฟานกรอกเข้าไปและครู่ต่อมา ภาพตรงหน้าเขาก็ทำให้เขาตกใจ
ขนาดของพื้นที่ภายในนี้ใหญ่กว่าอุปกรณ์มิติในมือของกวนเต๋อซีถึงสิบเท่า! แถมมันยังเต็มไปด้วยสิ่งของมากมาย! ใช้พื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของอุปกรณ์มิตินี้เลย
แม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นสิ่งของเบ็ดเตล็ด แต่ที่แย่ที่สุดคือมีแม้กระทั่งจักรยานด้วยซ้ำ
"มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับจักรยานคันนี้หรือไม่?"
เฉินฟานไม่กล้าที่จะประมาทจึงได้หันไปถามว่า "เหมิงหยู พี่สาวของเจ้าบอกเจ้าเกี่ยวกับอุปกรณ์มิติของผู้อเวคคนอื่นๆหรือเปล่า?"
"อืม"
เหมิงหยูคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่ายหัว
“พี่สาวข้าเล่าเรื่องพวกนี้ให้ฟังจริงๆ แต่เป็นเพราะแม้ว่าพวกเราจะรู้แต่พวกเราก็ไม่สามารถเอาอุปกรณ์มิติมาจากมือของอีกฝ่ายได้ เพียงแต่ว่าตอนนั้นข้าอยากรู้มาก ก็เลยจำไว้อย่างจริงจัง"
"ข้าเข้าใจแล้ว"
เฉินฟานยิ้ม “เหมิงหยูต้องขอบคุณเจ้า ถ้าไม่ใช่สำหรับเจ้าข้าคงไม่รู้รหัสผ่านว่าอะไร แม้ว่าข้าจะรู้ว่าอุปกรณ์มิติของชายคนนี้คือสิ่งนี้”
“ไม่เป็นไร ทั้งหมดนี้ข้าไม่ได้ใช้ความพยายามอะไรเลย”
ดวงตาของเหมิงหยูเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
จากนั้นเฉินฟานก็เปลี่ยนรหัสผ่าน ใส่สิ่งของในกระเป๋าของเขา และหลังจากกลับไปแล้วก็คงไม่สายเกินไปที่จะค่อยๆ ศึกษาสิ่งของที่อยู่ภายใน
ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น แค่พื้นที่เก็บของ 10 ลูกบาศก์เมตรเพียงอย่างเดียวก็ทำอะไรได้มากมายแล้ว และจะทำให้สะดวกสบายมากขึ้นในอนาคต
มันคุ้มค่ามากจริงๆ
เรื่องราคาแสนแพงของมันไม่ต้องพูดถึง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือมันสามารถซื้อได้แค่ในสมาคมผู้อเวคเท่านั้น บางทีอาจจะต้องได้รับอนุญาตก่อนด้วยซ้ำ เมื่อเขามีตำแหน่งสูงขึ้น เขาจึงจะมีสิทธิ์ซื้อสินค้าที่มีพื้นที่จัดเก็บที่มีขนาดใหญ่ขึ้น
“ลุงจางและคนอื่นๆ ยังไม่กลับมา งั้นข้าจะสอนวิธีฝึกนั่งม้าให้เจ้าก่อนก็แล้วกัน”
เฉินฟานหัวเราะ
“อ้าว? ท่านจะสอนข้าเหรอ?” เมฆสีแดงสองก้อนบินขึ้นไปบนใบหน้าของเหมิงหยู
"ใช่ ไปฝึกกันเถอะ"
"เอ่อฮะ"
เหมิงหยูรีบเดินออกจากห้องไปด้วยความหน้าแดง
เฉินฟานมองย้อนกลับไปที่ศพ
เนื่องจากได้รับอุปกรณ์มิติแล้ว ศพนี้จึงสามารถกำจัดได้ตามต้องการ
ชั่วพริบตาเดียวก็มาถึงเที่ยงแล้ว และหยินฟางก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นเฉินฟานกลับมา ทำให้เธอทำอาหารออมาเต็มโต๊ะ
ที่โต๊ะอาหารนั้นเธอเอาแต่เติมผักลงในชามของเขา
เฉินฟานไม่สามารถหัวเราะหรือร้องไห้ได้
เฉินเฉินบอกกับเฉินฟานอย่างมีความสุขว่าเขาเริ่มเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้แล้ว และเขาจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในเวลาอันสั้น
เฉินฟานยิ้มและแตะหัวเพื่อให้กำลังใจเขา
มีเพียงเฉินกัวตงเท่านั้นที่เงียบขรึมและดูหมกมุ่นอย่างมากอยู่
เพราะเขาเพิ่งออกไปเมื่อเห็นสภาพอันเละเทะของเฉินเจียไจ้ หัวใจของเขาจึงเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและความโกรธอย่างมาก
พวกเขาทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างหมู่บ้านนั้นขึ้นมา แต่ตอนนี้มันถูกทำลายลงไปแล้ว
หลังจากรับประทานอาหารและพูดคุยกับครอบครัวของเขาได้สักพัก เฉินฟานก็ขึ้นไปชั้นบน
เขาต้องการจัดการกับศิลปะการต่อสู้สองสามอย่างในมือของเขา และเปลี่ยนพวกมันให้เป็นพลังการต่อสู้ของเขาเองโดยเร็วที่สุด ในเวลาเดียวกันเขายังต้องการดูว่ามีอะไรอยู่ในอุปกรณ์มิติของกวนเต๋อฮวาหรือไม่
เมื่อได้ยินเสียงปิดประตูชั้นบน หยินฟางก็มองไปที่เฉินกัวตงอย่างเป็นกังวล "กัวตง, เสี่ยวฟานจะไม่อยู่ที่นี่นานเมื่อเขากลับมาในครั้งนี้ใช่ไหม?"
“ใช่แล้วท่านพ่อ พี่ชายเขาคงไม่ออกไปตอนบ่ายนี้ใช่ไหมครับ?”
เฉินเฉินเต็มไปด้วยท่าทางที่ไม่พอใจที่จะให้พี่ชายออกไป
"เอาน่า"
เฉินกัวตงลูกหัวของเขาและมองขึ้นไปชั้นบนแล้วถอนหายใจ "ตามคำบอกเล่าของตาเฒ่ากู่ เสี่ยวฟานจะออกไปในตอนบ่ายและพากู่เจ๋อไปด้วย"
“พากู่เจ๋อไปด้วยกันงั้นเหรอ?”
หยินฟางมองเขาอย่างงงงวย
"อืม"
เฉินกัวตงพยักหน้า ความฝืนความคิดและความยุ่งเหยิงในดวงตาของเขากลายเป็นความแน่วแน่อย่างรวดเร็ว “เจ้าเด็กกู่เจ๋อคนนั้นก็มีสถานที่ที่ควรจะไป เช่นเดียวกับเสี่ยวฟาน พวกเขาไม่มีอนาคตหากพวกเขาอยู่ที่นี่ต่อไป”
หลังจากฟังแล้ว หยินฟางพยักหน้าด้วยความเข้าใจที่คลุมเครือ
หากเฉินฟานจากที่นี่ไป เขาจะมีอนาคตที่ดีกว่า เธอจะเห็นด้วยกับสิ่งที่เขาตัดสินใจ….
………………….
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved