ตอนที่ 233 : สัตว์เลี้ยงของซุนเฉียน!

โจวโจวมองดูข้อมูลบนหน้าจอเกี่ยวกับเบฮีมอธสีเงินที่น่าหวาดหวั่น

เขาพบว่าตัวที่แข็งแกร่งที่สุดนั้นก็คือลอร์ดเมิ่งเฉิน แต่มันก็อยู่แค่ในระดับเงินขาวขั้นกลางเท่านั้น

สำหรับเบฮีมอธสีเงินตัวอื่นๆ ส่วนใหญ่ก็อยู่ในระดับบรอนซ์เขียว และมีเพียงจำนวนเล็กน้อยเท่านั้นที่อยู่ในระดับเงินขาว

โจวโจวไม่ได้ประหลาดใจเลย

ยิ่งสิ่งมีชีวิตมีระดับสายเลือดสูงเท่าไร มันก็ต้องใช้พลังเสริมแกร่งมากขึ้นเท่านั้นเพื่อเลื่อนระดับ

เนซาริโอ้ได้สังหารศัตรูไปเป็นจำนวนมากและด้วยพรแห่งเทพสงคราม มันก็ยังมีระดับอยู่แค่ในระดับทองคำเหลืองขั้นต้นเท่านั้น

ดังนั้นในเวลานี้ มันจึงสมเหตุสมผลมากที่ลอร์ดเมิ่งเฉินจะยังมีความแข็งแกร่งในระดับเงินขาวขั้นกลางอยู่

มันถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติแล้วที่เนซาริโอ้แข็งแกร่งได้ขนาดนี้

อีกด้านหนึ่ง

“เตรียมการโจมตีระยะไกล!”

ไป่อี้ตะโกนออกมาทันทีเมื่อเธอเห็นเบฮีมอธสีเงิน 16 ตัวกำลังพุ่งเข้ามา

ในทันทีที่เธอพูดจบ

หวือ! หวือ! หวือ! หวือ!

ปัง ปัง ปัง ปัง…

เสียงของลูกศรและกระสุนที่กำลังฉีกผ่านอากาศดังขึ้น

พวกมันกลายเป็นห่าลูกศรและกระสุนที่เต็มท้องฟ้าในขณะที่พวกมันพุ่งเข้าใส่เบฮีมอธสีเงินทั้ง 16 ตัว

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจก็คือลูกศรและกระสุนที่พวกเขาปลดปล่อยเข้าใส่เบฮีมอธสีเงินนั้นแทบจะไม่สามารถสร้างบาดแผลให้กับพวกมันได้เลย

การโจมตีของทหารหน่วยโจมตีระยะไกลระดับเงินขาวนั้นทำได้เพียงทิ้งรอยสีขาวจางๆ ไว้บนร่างกายของพวกมันเท่านั้น

ส่วนการโจมตีของทหารหน่วยโจมตีระยะไกลระดับต่ำกว่าเงินขาวนั้นก็ไม่อาจทิ้งรอยอะไรไว้บนร่างกายของพวกมันได้เลย

“โฮก!”

เนซาริโอ้คำรามใส่พวกมัน จากนั้นมันก็สยายปีกและบินออกไปจากเมืองตะวันสาดแสง และพุ่งเข้าใส่เหล่าเบฮีมอธสีเงิน

เมื่อลอร์ดเมิ่งเฉินเห็นมังกรลาวาบินเข้ามา มันก็คำรามออกมาอย่างไม่เกรงกลัวในทันที

ทันใดนั้นมันก็กระโดดสูงกว่าร้อยเมตรและพุ่งเข้าใส่เนซาริโอ้ จากนั้นมันก็จับปีกมังกรและเริ่มต่อสู้กับเนซาริโอ้กลางอากาศ

อย่างไรก็ตาม ถ้ามันเป็นเบฮีมอธระดับทองคำเหลือง มันก็คงจะมีความแข็งแกร่งพอจะใช้รับมือเนซาริโอ้ได้

แต่ลอร์ดเมิ่งเฉินผู้นี้ไม่ได้อยู่ในระดับทองคำเหลือง และความแข็งแกร่งของมันก็ยังด้อยกว่าของเนซาริโอ้มาก นอกจากนี้มันยังอยู่กลางอากาศและไม่ได้ต่อสู้บนพื้นซึ่งเป็นจุดแข็งของมัน ดังนั้นมันจึงตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างรวดเร็วและได้รับบาดเจ็บจากเนซาริโอ้

เมื่อเห็นภาพฉากนี้ เบฮีมอธสีเงินระดับเงินขาวขั้นต้น 2 ตัวก็กระโดดขึ้นไปด้วยและพยายามจะดึงเนซาริโอ้ลงมาที่พื้นก่อนที่จะล้อมมันเอาไว้

เบฮีมอธสีเงินทั้งสามตัวมองหน้ากันและกระโจนเข้าหาเนซาริโอ้ด้วยกัน

โจวโจวขมวดคิ้วเมื่อเห็นเช่นนี้

แต่ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายขึ้นอย่างรวดเร็ว

นี่เป็นเพราะเนซาริโอ้ไม่เพียงแต่จะไม่เสียเปรียบจากการล้อมโจมตีของเบฮีมอธสีเงินสามตัว แต่มันยังเป็นฝ่ายได้เปรียบอีกฝ่ายด้วย!

หลังจากนั้นเบฮีมอธสีเงินทั้งสามตัวก็ได้รับบาดเจ็บเต็มไปหมด

รอยกรงเล็บ รอยกัด แผลเพลิงเผา…

เบฮีมอธสีเงินทั้งสามตัวยิ่งหวาดกลัวมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่พวกมันต่อสู้

ในทางกลับกัน ขวัญกำลังใจของเนซาริโอ้ก็ยิ่งพุ่งทะยานขึ้น

หลังจากบังคับให้เบฮีมอธสีเงินสามตัวถอยไปด้วยลาวาลุกโชน เนซาริโอ้ก็คำรามขึ้นไปบนท้องฟ้า และสำแดงความอาจหาญของมังกรออกมาในทันใด!

ในเวลานี้ แม้ว่ามันจะได้รับบาดเจ็บบ้างจากเบฮีมอธสีเงิน แต่เนซาริโอ้ก็ไม่ได้สนใจเลย

อาการบาดเจ็บนี้ไม่นับว่าเป็นอะไรสำหรับมัน

มันรู้สึกไม่เป็นอะไรเลย

เมื่อโจวโจวเห็นเช่นนี้ เขาก็อดยิ้มออกมาไม่ได้

นับตั้งแต่วันที่เนซาริโอ้ได้ติดตามเขา การต่อสู้ที่เขาเคยประสบมาก็กลายเป็นการต่อสู้ที่แทบจะง่ายดายตลอด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลอร์ดสีชาดทั่วไป พวกมันช่างอ่อนแอเหลือเกิน!

ส่วนใหญ่แล้ว เนซาริโอ้ก็จะสามารถจบการต่อสู้ด้วยการโจมตีแค่หนึ่งหรือสองรอบเมื่อต้องเผชิญหน้ากับลอร์ดสีชาด

บางครั้ง ลอร์ดสีชาดก็จะตายลงด้วยลมหายใจมังกรลาวาแค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น

ดังนั้นเขาจึงรู้สึกอยู่บ่อยๆ ว่าเนซาริโอ้ไม่ได้รู้สึกสนุกกับการต่อสู้เลย

แต่ในการต่อสู้นี้กับเบฮีมอธสีเงิน ดูเหมือนว่ามันจะได้ต่อสู้อย่างสาแกใจสักที

ในเวลานั้นเอง เขาก็สังเกตเห็นว่าเบฮีมอธสีเงินอีกกว่า 3 ตัวได้หันมาและพุ่งเข้าใส่เนซาริโอ้เพื่อต้องการจะร่วมกันโจมตีมัน

“สนับสนุนเนซาริโอ้!”

โจวโจวสั่งการด้วยโทนเสียงต่ำ

เขาสามารถบอกได้ว่าเนซาริโอ้เกือบจะถึงขีดจำกัดแล้วในการต่อสู้กับพวกมันสามตัวเพียงลำพัง

ถ้ามันต้องต่อสู้แบบหนึ่งต่อหก แม้ว่ามันจะสามารถชนะได้ แต่นั่นก็ต้องเป็นชัยชนะที่เสียหายหนักด้วยเหมือนกัน

โจวโจวคือเจ้าของของมัน ดังนั้นเขาจึงย่อมไม่ปล่อยให้มันต้องต่อสู้เพียงลำพัง

มาริสนั่งขัดสมาธิในทันทีเมื่อมันได้ยินเช่นนั้น หลังจากนั้นเขาก็เห็นดวงวิญญาณของอีกฝ่ายลอยออกจากร่างพร้อมกับเคียวของเทพแห่งความตายในมือของมันและบินเข้าไปหาเบฮีมอธสีเงิน

สิ่งมีชีวิตธรรมดาไม่อาจมองเห็นยมทูตได้ แต่พวกมันก็สามารถมองเห็นมาริสได้อย่างชัดเจนด้วยสายเลือดของเผ่าพันธุ์ในระดับสุดยอด

พวกมันคำรามใส่มาริส

คำรามคลั่ง!

ดวงวิญญาณของมาริสที่กำลังบินเข้ามาอึ้งไปเล็กน้อย

แต่ในอึดใจต่อมา มันก็กลับคืนสู่สภาพปกติและพุ่งเข้าใส่ลอร์ดเมิ่งเฉินต่อ

ลอร์ดเมิ่งเฉินแค่นเสียงออกมาอย่างเย็นชา

หลังจากนั้น สร้อยคอกระดูกบนลำคอของมันก็เปล่งแสงสีซีดจางออกมา ทันใดนั้นเอง มาริสก็ดูเหมือนจะถูกดีดออกและกระเด็นออกไปจากเมิ่งเฉิน

ลอร์ดเมิ่งเฉินมีสมบัติป้องกันวิญญาณอยู่จริงๆ

มาริสไม่ย่อท้อ

มันเปลี่ยนเป้าหมายและพุ่งเข้าหาเบฮีมอธสีเงินระดับเงินขาวขั้นต้นอีกตัว จากนั้นมันก็บินเข้าไปในสมองของอีกฝ่ายโดยไม่ถูกขัดขวางอะไรเลย

ในไม่ช้า ดวงตาของเบฮีมอธสีเงินก็ดับแสงลงก่อนที่มันจะล้มลงกับพื้นพร้อมกับเสียงปัง

ลอร์ดเมิ่งเฉินโมโหมากเมื่อมันเห็นเช่นนี้

ทางด้านของเนซาริโอ้ ความกดดันของมันก็ลดลงในทันที

เมื่อมันเห็นว่าลอร์ดเมิ่งเฉินโมโหขึ้นมา มันก็คำรามและพุ่งเข้าใส่อีกฝ่ายอีกครั้ง

ในเวลาเดียวกัน ในขณะที่เบฮีมอธสีเงิน 6 ตัวกำลังต่อสู้กับเนซาริโอ้และมาริส

เบฮีมอธสีเงินที่เหลืออีก 10 ตัวก็กำลังจะพุ่งเข้าใส่กำแพงเมือง

เมื่อเห็นเช่นนี้ ไป่อี้และอู๋ซินก็กระโดดลงมาจากกำแพงเมืองทันที

ในทันทีที่พวกเขาเห็นความสูงในการกระโดดของเบฮีมอธสีเงิน พวกเขาก็เข้าใจได้ในทันที

กำแพงเมืองธาตุแสงของพวกเขาไม่น่าจะสามารถหยุดอีกฝ่ายได้เลย เพราะกำแพงเมืองธาตุแสงได้เพิ่มความสูงจาก 25 เมตรขึ้นมาเป็น 40 เมตรเท่านั้นหลังจากการเปลี่ยนแปลงในสองวันที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม เบฮีมอธสีเงินกลุ่มนี้ก็สามารถกระโดดได้สูงกว่าร้อยเมตรด้วยการกระโดดเพียงครั้งเดียว

ความสูงของกำแพงเมืองย่อมไม่มีประโยชน์กับพวกมันเลย

อีกฝ่ายสามารถกระโดดเข้ามาในเมืองได้โดยตรง!

เมื่อเป็นเช่นนี้ มันจึงเป็นการดีกว่าที่จะต่อสู้นอกเมือง!

นอกจากนี้ยังช่วยไม่ให้ภายในของเมืองตะวันสาดแสงถูกทำลายลงด้วย

โจวโจวเองก็เข้าใจความคิดของพวกเขา ดังนั้นเขาจึงสั่งการอย่างไม่ลังเล

“เปิดประตูเมือง ทหารระยะประชิดทุกคน ออกจากเมืองไปสู้ ฆ่าเบฮีมอธสีเงินพวกนั้นให้หมด!”

“ทหารหน่วยโจมตีระยะไกล โจมตีสนับสนุนจากบนกำแพงเมือง!”

“ขอรับ!”

ทหาร 50,000 คนคำรามออกมา

จากนั้นทหารระยะประชิดกว่า 30,000 คนก็พุ่งออกมาจากประตูเมืองที่เปิดอ้าออกและพุ่งเข้าใส่เหล่าเบฮีมอธสีเงิน

ทหารหน่วยโจมตีระยะไกลที่เหลืออีกกว่า 10,000 คนก็ยืนอยู่บนกำแพงและใช้ธนู หน้าไม้ ธนูพลังธาตุ และปืนเพื่อโจมตีเบฮีมอธสีเงินอีกกว่า 10 ตัว

“ข้าก็จะช่วยด้วยเหมือนกัน”

“เมื่อซุนเฉียนเห็นเช่นนี้ เขาก็วางหมาล่าวิญญาณขาวในอ้อมแขนลง จากนั้นเขาก็เห็นร่างกายของหมาล่าวิญญาณขาวขยายขนาดขึ้นอย่างรวดเร็ว ในชั่วพริบตา มันก็มีความสูงถึง 7-8 เมตร และมีความยาว 15-16 เมตร”

จากนั้นเขาก็อัญเชิญสัตว์เลี้ยงสายต่อสู้อีก 3 ตัวออกมา

อินทรีขนขาวดำระดับแพลตตินั่มขาวขั้นต้น!

พยัคฆ์เนตรหยกกระดูกทองระดับแพลตตินั่มขาวขั้นต้น!

ฝูงมดจอมพลังระดับแพลตตินั่มขาวขั้นต้น!