โจวโจวมองดูข้อมูลบนหน้าจอเกี่ยวกับเบฮีมอธสีเงินที่น่าหวาดหวั่น
เขาพบว่าตัวที่แข็งแกร่งที่สุดนั้นก็คือลอร์ดเมิ่งเฉิน แต่มันก็อยู่แค่ในระดับเงินขาวขั้นกลางเท่านั้น
สำหรับเบฮีมอธสีเงินตัวอื่นๆ ส่วนใหญ่ก็อยู่ในระดับบรอนซ์เขียว และมีเพียงจำนวนเล็กน้อยเท่านั้นที่อยู่ในระดับเงินขาว
โจวโจวไม่ได้ประหลาดใจเลย
ยิ่งสิ่งมีชีวิตมีระดับสายเลือดสูงเท่าไร มันก็ต้องใช้พลังเสริมแกร่งมากขึ้นเท่านั้นเพื่อเลื่อนระดับ
เนซาริโอ้ได้สังหารศัตรูไปเป็นจำนวนมากและด้วยพรแห่งเทพสงคราม มันก็ยังมีระดับอยู่แค่ในระดับทองคำเหลืองขั้นต้นเท่านั้น
ดังนั้นในเวลานี้ มันจึงสมเหตุสมผลมากที่ลอร์ดเมิ่งเฉินจะยังมีความแข็งแกร่งในระดับเงินขาวขั้นกลางอยู่
มันถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติแล้วที่เนซาริโอ้แข็งแกร่งได้ขนาดนี้
อีกด้านหนึ่ง
“เตรียมการโจมตีระยะไกล!”
ไป่อี้ตะโกนออกมาทันทีเมื่อเธอเห็นเบฮีมอธสีเงิน 16 ตัวกำลังพุ่งเข้ามา
ในทันทีที่เธอพูดจบ
หวือ! หวือ! หวือ! หวือ!
ปัง ปัง ปัง ปัง…
เสียงของลูกศรและกระสุนที่กำลังฉีกผ่านอากาศดังขึ้น
พวกมันกลายเป็นห่าลูกศรและกระสุนที่เต็มท้องฟ้าในขณะที่พวกมันพุ่งเข้าใส่เบฮีมอธสีเงินทั้ง 16 ตัว
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจก็คือลูกศรและกระสุนที่พวกเขาปลดปล่อยเข้าใส่เบฮีมอธสีเงินนั้นแทบจะไม่สามารถสร้างบาดแผลให้กับพวกมันได้เลย
การโจมตีของทหารหน่วยโจมตีระยะไกลระดับเงินขาวนั้นทำได้เพียงทิ้งรอยสีขาวจางๆ ไว้บนร่างกายของพวกมันเท่านั้น
ส่วนการโจมตีของทหารหน่วยโจมตีระยะไกลระดับต่ำกว่าเงินขาวนั้นก็ไม่อาจทิ้งรอยอะไรไว้บนร่างกายของพวกมันได้เลย
“โฮก!”
เนซาริโอ้คำรามใส่พวกมัน จากนั้นมันก็สยายปีกและบินออกไปจากเมืองตะวันสาดแสง และพุ่งเข้าใส่เหล่าเบฮีมอธสีเงิน
เมื่อลอร์ดเมิ่งเฉินเห็นมังกรลาวาบินเข้ามา มันก็คำรามออกมาอย่างไม่เกรงกลัวในทันที
ทันใดนั้นมันก็กระโดดสูงกว่าร้อยเมตรและพุ่งเข้าใส่เนซาริโอ้ จากนั้นมันก็จับปีกมังกรและเริ่มต่อสู้กับเนซาริโอ้กลางอากาศ
อย่างไรก็ตาม ถ้ามันเป็นเบฮีมอธระดับทองคำเหลือง มันก็คงจะมีความแข็งแกร่งพอจะใช้รับมือเนซาริโอ้ได้
แต่ลอร์ดเมิ่งเฉินผู้นี้ไม่ได้อยู่ในระดับทองคำเหลือง และความแข็งแกร่งของมันก็ยังด้อยกว่าของเนซาริโอ้มาก นอกจากนี้มันยังอยู่กลางอากาศและไม่ได้ต่อสู้บนพื้นซึ่งเป็นจุดแข็งของมัน ดังนั้นมันจึงตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างรวดเร็วและได้รับบาดเจ็บจากเนซาริโอ้
เมื่อเห็นภาพฉากนี้ เบฮีมอธสีเงินระดับเงินขาวขั้นต้น 2 ตัวก็กระโดดขึ้นไปด้วยและพยายามจะดึงเนซาริโอ้ลงมาที่พื้นก่อนที่จะล้อมมันเอาไว้
เบฮีมอธสีเงินทั้งสามตัวมองหน้ากันและกระโจนเข้าหาเนซาริโอ้ด้วยกัน
โจวโจวขมวดคิ้วเมื่อเห็นเช่นนี้
แต่ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายขึ้นอย่างรวดเร็ว
นี่เป็นเพราะเนซาริโอ้ไม่เพียงแต่จะไม่เสียเปรียบจากการล้อมโจมตีของเบฮีมอธสีเงินสามตัว แต่มันยังเป็นฝ่ายได้เปรียบอีกฝ่ายด้วย!
หลังจากนั้นเบฮีมอธสีเงินทั้งสามตัวก็ได้รับบาดเจ็บเต็มไปหมด
รอยกรงเล็บ รอยกัด แผลเพลิงเผา…
เบฮีมอธสีเงินทั้งสามตัวยิ่งหวาดกลัวมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่พวกมันต่อสู้
ในทางกลับกัน ขวัญกำลังใจของเนซาริโอ้ก็ยิ่งพุ่งทะยานขึ้น
หลังจากบังคับให้เบฮีมอธสีเงินสามตัวถอยไปด้วยลาวาลุกโชน เนซาริโอ้ก็คำรามขึ้นไปบนท้องฟ้า และสำแดงความอาจหาญของมังกรออกมาในทันใด!
ในเวลานี้ แม้ว่ามันจะได้รับบาดเจ็บบ้างจากเบฮีมอธสีเงิน แต่เนซาริโอ้ก็ไม่ได้สนใจเลย
อาการบาดเจ็บนี้ไม่นับว่าเป็นอะไรสำหรับมัน
มันรู้สึกไม่เป็นอะไรเลย
เมื่อโจวโจวเห็นเช่นนี้ เขาก็อดยิ้มออกมาไม่ได้
นับตั้งแต่วันที่เนซาริโอ้ได้ติดตามเขา การต่อสู้ที่เขาเคยประสบมาก็กลายเป็นการต่อสู้ที่แทบจะง่ายดายตลอด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลอร์ดสีชาดทั่วไป พวกมันช่างอ่อนแอเหลือเกิน!
ส่วนใหญ่แล้ว เนซาริโอ้ก็จะสามารถจบการต่อสู้ด้วยการโจมตีแค่หนึ่งหรือสองรอบเมื่อต้องเผชิญหน้ากับลอร์ดสีชาด
บางครั้ง ลอร์ดสีชาดก็จะตายลงด้วยลมหายใจมังกรลาวาแค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
ดังนั้นเขาจึงรู้สึกอยู่บ่อยๆ ว่าเนซาริโอ้ไม่ได้รู้สึกสนุกกับการต่อสู้เลย
แต่ในการต่อสู้นี้กับเบฮีมอธสีเงิน ดูเหมือนว่ามันจะได้ต่อสู้อย่างสาแกใจสักที
ในเวลานั้นเอง เขาก็สังเกตเห็นว่าเบฮีมอธสีเงินอีกกว่า 3 ตัวได้หันมาและพุ่งเข้าใส่เนซาริโอ้เพื่อต้องการจะร่วมกันโจมตีมัน
“สนับสนุนเนซาริโอ้!”
โจวโจวสั่งการด้วยโทนเสียงต่ำ
เขาสามารถบอกได้ว่าเนซาริโอ้เกือบจะถึงขีดจำกัดแล้วในการต่อสู้กับพวกมันสามตัวเพียงลำพัง
ถ้ามันต้องต่อสู้แบบหนึ่งต่อหก แม้ว่ามันจะสามารถชนะได้ แต่นั่นก็ต้องเป็นชัยชนะที่เสียหายหนักด้วยเหมือนกัน
โจวโจวคือเจ้าของของมัน ดังนั้นเขาจึงย่อมไม่ปล่อยให้มันต้องต่อสู้เพียงลำพัง
มาริสนั่งขัดสมาธิในทันทีเมื่อมันได้ยินเช่นนั้น หลังจากนั้นเขาก็เห็นดวงวิญญาณของอีกฝ่ายลอยออกจากร่างพร้อมกับเคียวของเทพแห่งความตายในมือของมันและบินเข้าไปหาเบฮีมอธสีเงิน
สิ่งมีชีวิตธรรมดาไม่อาจมองเห็นยมทูตได้ แต่พวกมันก็สามารถมองเห็นมาริสได้อย่างชัดเจนด้วยสายเลือดของเผ่าพันธุ์ในระดับสุดยอด
พวกมันคำรามใส่มาริส
คำรามคลั่ง!
ดวงวิญญาณของมาริสที่กำลังบินเข้ามาอึ้งไปเล็กน้อย
แต่ในอึดใจต่อมา มันก็กลับคืนสู่สภาพปกติและพุ่งเข้าใส่ลอร์ดเมิ่งเฉินต่อ
ลอร์ดเมิ่งเฉินแค่นเสียงออกมาอย่างเย็นชา
หลังจากนั้น สร้อยคอกระดูกบนลำคอของมันก็เปล่งแสงสีซีดจางออกมา ทันใดนั้นเอง มาริสก็ดูเหมือนจะถูกดีดออกและกระเด็นออกไปจากเมิ่งเฉิน
ลอร์ดเมิ่งเฉินมีสมบัติป้องกันวิญญาณอยู่จริงๆ
มาริสไม่ย่อท้อ
มันเปลี่ยนเป้าหมายและพุ่งเข้าหาเบฮีมอธสีเงินระดับเงินขาวขั้นต้นอีกตัว จากนั้นมันก็บินเข้าไปในสมองของอีกฝ่ายโดยไม่ถูกขัดขวางอะไรเลย
ในไม่ช้า ดวงตาของเบฮีมอธสีเงินก็ดับแสงลงก่อนที่มันจะล้มลงกับพื้นพร้อมกับเสียงปัง
ลอร์ดเมิ่งเฉินโมโหมากเมื่อมันเห็นเช่นนี้
ทางด้านของเนซาริโอ้ ความกดดันของมันก็ลดลงในทันที
เมื่อมันเห็นว่าลอร์ดเมิ่งเฉินโมโหขึ้นมา มันก็คำรามและพุ่งเข้าใส่อีกฝ่ายอีกครั้ง
ในเวลาเดียวกัน ในขณะที่เบฮีมอธสีเงิน 6 ตัวกำลังต่อสู้กับเนซาริโอ้และมาริส
เบฮีมอธสีเงินที่เหลืออีก 10 ตัวก็กำลังจะพุ่งเข้าใส่กำแพงเมือง
เมื่อเห็นเช่นนี้ ไป่อี้และอู๋ซินก็กระโดดลงมาจากกำแพงเมืองทันที
ในทันทีที่พวกเขาเห็นความสูงในการกระโดดของเบฮีมอธสีเงิน พวกเขาก็เข้าใจได้ในทันที
กำแพงเมืองธาตุแสงของพวกเขาไม่น่าจะสามารถหยุดอีกฝ่ายได้เลย เพราะกำแพงเมืองธาตุแสงได้เพิ่มความสูงจาก 25 เมตรขึ้นมาเป็น 40 เมตรเท่านั้นหลังจากการเปลี่ยนแปลงในสองวันที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม เบฮีมอธสีเงินกลุ่มนี้ก็สามารถกระโดดได้สูงกว่าร้อยเมตรด้วยการกระโดดเพียงครั้งเดียว
ความสูงของกำแพงเมืองย่อมไม่มีประโยชน์กับพวกมันเลย
อีกฝ่ายสามารถกระโดดเข้ามาในเมืองได้โดยตรง!
เมื่อเป็นเช่นนี้ มันจึงเป็นการดีกว่าที่จะต่อสู้นอกเมือง!
นอกจากนี้ยังช่วยไม่ให้ภายในของเมืองตะวันสาดแสงถูกทำลายลงด้วย
โจวโจวเองก็เข้าใจความคิดของพวกเขา ดังนั้นเขาจึงสั่งการอย่างไม่ลังเล
“เปิดประตูเมือง ทหารระยะประชิดทุกคน ออกจากเมืองไปสู้ ฆ่าเบฮีมอธสีเงินพวกนั้นให้หมด!”
“ทหารหน่วยโจมตีระยะไกล โจมตีสนับสนุนจากบนกำแพงเมือง!”
“ขอรับ!”
ทหาร 50,000 คนคำรามออกมา
จากนั้นทหารระยะประชิดกว่า 30,000 คนก็พุ่งออกมาจากประตูเมืองที่เปิดอ้าออกและพุ่งเข้าใส่เหล่าเบฮีมอธสีเงิน
ทหารหน่วยโจมตีระยะไกลที่เหลืออีกกว่า 10,000 คนก็ยืนอยู่บนกำแพงและใช้ธนู หน้าไม้ ธนูพลังธาตุ และปืนเพื่อโจมตีเบฮีมอธสีเงินอีกกว่า 10 ตัว
“ข้าก็จะช่วยด้วยเหมือนกัน”
“เมื่อซุนเฉียนเห็นเช่นนี้ เขาก็วางหมาล่าวิญญาณขาวในอ้อมแขนลง จากนั้นเขาก็เห็นร่างกายของหมาล่าวิญญาณขาวขยายขนาดขึ้นอย่างรวดเร็ว ในชั่วพริบตา มันก็มีความสูงถึง 7-8 เมตร และมีความยาว 15-16 เมตร”
จากนั้นเขาก็อัญเชิญสัตว์เลี้ยงสายต่อสู้อีก 3 ตัวออกมา
อินทรีขนขาวดำระดับแพลตตินั่มขาวขั้นต้น!
พยัคฆ์เนตรหยกกระดูกทองระดับแพลตตินั่มขาวขั้นต้น!
ฝูงมดจอมพลังระดับแพลตตินั่มขาวขั้นต้น!