ตอนที่ 143

บทที่ 143 : กองทัพพันธมิตรสยบซุย!

“ ท่านอาจารย์ ข้ารู้แล้วว่าต้องทำยังไง” พระตูฟากล่าวอย่างเคร่งขรึม “ เมื่อข้าไปถึงขอบเขตพระอรหันต์แล้ว ข้าก็จะมุ่งหน้าไปยังเฟิงโจวในทันที!”

“ ดีมาก!” ในที่สุดรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซวนคง เขาพนมฝ่ามือแล้วกล่าวว่า “ อมิตาพุทธ!”

….

ลมในฤดูใบไม้ร่วงช่างเยือกเย็น ต้นไม้ในโถงพุทธมามกะเป่าหลินก็เหี่ยวเฉา

หลังจากพระตูฟากล่าวคำอำลากับซวนคงแล้ว เขาก็กลับไปที่ห้องนั่งสมาธิเหมือนเดิม

เขานั่งบนเบาะนั่งสมาธิอีกครั้ง

เขาหยิบพระธาตุหยกของพระโพธิสัตว์ออกมาและถือมันอย่างระมัดระวังด้วยมือทั้งสองข้าง ความตื่นเต้นในใจของเขาไม่สามารถปกปิดได้อีกต่อไป

“ ในที่สุดข้าก็จะสามารถทะลวงผ่านจนได้! ข้ากำลังจะกลายเป็นพระอรหันต์โดยสมบูรณ์แล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่า!”

พระตูฟาตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น

เขาเข้าสันโดษมาเป็นเวลาร้อยปีเพื่อคืนความเยาว์วัยและมีชีวิตที่สอง ทั้งหมดแล้วไม่ใช่สำหรับวันนี้หรอ?

เดิมทีเขาคิดว่าจะต้องรอจนกว่าจะครบ 100 ปีเขาจึงจะบรรลุอรหันต์ได้เสียก่อนจึงจะมีโอกาสก้าวข้ามไปสู่ขอบเขตอรหันต์

เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าเขาจะพบกับโอกาสที่หายากเช่นนี้

พระธาตุหยกโพธิสัตว์!

แม้แต่ในโลกเบื้องบน มันก็ยังถือได้ว่าเป็นสมบัติที่หายาก

และตอนนี้ มันก็ได้ตกมาอยู่ในมือของเขาแล้ว

มันจะสามารถทำให้เขาทะลวงขอบเขตได้

“ ขอบคุณพระโพธิสัตว์!”

พระตูฟายิ้มแย้มแจ่มใส ทันใดนั้นเปลวเพลิงสีทองก็ลุกไหม้บนฝ่ามือของเขา มันห่อหุ้มพระธาตุหยกของพระโพธิสัตว์และเริ่มปรับแต่งพลังพุทธที่บรรจุอยู่ภายในนั้น

วิธีการใช้พระธาตุหยกของพระโพธิสัตว์เพื่อทะลวงนั้นง่ายมาก เขาเพียงต้องใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ของเขาเพื่อขัดเกลาพลังพุทธที่อยู่ภายในนั้น

อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้ว พระธาตุหยกของพระโพธิสัตว์นั้นก็เป็นซากศพของพระโพธิสัตว์ ดังนั้นพลังพุทธที่บรรจุอยู่ในนั้นจึงอยู่เหนือเกินกว่าขอบเขตสูงสุดของพระอรหันต์

ด้วยเหตุนี้เอง หากเขาใช้มันเพียงเพื่อทะลวงไปสู่ขอบเตอรหันต์ เขาจึงยังไม่สามารถขัดเกลาพระธาตุหยกของพระโพธิสัตว์ได้อย่างสมบูรณ์

แน่นอนว่าไม่มีใครยอมแพ้ในการขัดเกลาพระธาตุหยกของพระโพธิสัตว์ลงแค่ครึ่งทางแน่

วิธีการโดยทั่วไปคือการกลืนพระธาตุหยกของพระโพธิสัตว์ที่เหลืออยู่ให้หมดแม้หลังจากทะลวงไปยังขอบเขตอรหันต์แล้ว

ด้วยวิธีนี้ เขาก็จะสามารถพัฒนาไปได้อีกไกล

หนึ่งเดือนต่อมา

แสงพุทธสีทองส่องออกมาจากห้องนั่งสมาธิที่พระตูฟาอยู่อย่างสันโดษ

ในชั่วพริบตา มันก็ได้ห่อหุ้มโถงพุทธมามกะเป่าหลินทั้งหมดเอาไว้

จากนั้นมันก็กระจายตัวออกไปและปกคลุมภูเขาแสงสีทองทั้งหมดอย่างรวดเร็ว

เสียงสวดมนต์ของชาวพุทธดังกึกก้องไปทั่วโลก

กลิ่นหอมแปลกๆ แผ่กระจายออกมาราวกับว่าสมบัติอายุพันปีที่แสนบริสุทธิ์ได้ตกลงมายังโลกมนุษย์

“ อมิตาพุทธ!”

เสียงที่ดังและชัดเจนก้องไปทั่วโลก มันทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งภายในและภายนอกโถงพุทธมามกะเป่าหลินได้ยินเสียงนี้

ร่างสีทองสูง 12 ฟุตได้ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าเหนือโถงพุทธมามกะเป่าหลิน

พระตูฟาได้ทะลวงสำเร็จแล้ว ขณะนี้เขากำลังเปล่งแสงสีทองและประทับนั่งขัดสมาธิอยู่บนฟ้า เมฆและพลังพุทธกลั่นตัวกันเป็นแท่นดอกบัว

“ ตอนนี้ข้าได้พิสูจน์เต๋าของข้าในฐานะพระอรหันต์แล้ว ได้เวลาที่ข้าจะไปที่เฟิงโจวและกำจัดปีศาจร้ายแล้ว!”

ในช่วงที่พระตูฟากำลังจะกลายเป็นพระอรหันต์

หวังตงหลินก็ได้จัดตั้งกองทัพพันธมิตรทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว

มีผู้ฝึกตนขอบเขตเทพทั้งหมดเจ็ดคน!

พวกเขาคือผู้ฝึกตนของโถงพุทธมามกะเป่าหลินสองคน ทูตสวรรค์ของตระกูลเย่, ตระกูลเจียง, ตระกูลไป๋ และผู้นำของตระกูลเซี่ย

และคนสุดท้ายก็คือตัวหวังตงหลินเอง

ผู้ว่าการรัฐหยูโจว ผู้ว่าการรัฐหยานโจว ผู้ว่าการรัฐเยว่โจว และผู้ว่าการรัฐโหยวโจวเองก็ถูกเขาชักชวนให้เข้าร่วมกับกองทัพพันธมิตรแล้วเช่นกัน

เขาได้รวบรวมกำลังผู้ฝึกตนทั้งหมดมาได้ 500,000 นาย

และเมื่อรวมเข้ากับกองทหารราบ นี่ก็คือกองทัพนับล้านและพวกเขาก็เตรียมพร้อมที่จะบุกโจมตีเฟิงโจวจากสี่ทิศทางที่แตกต่างกันแล้ว พวกเขาวางแผนที่จะยึดครองเฟิงโจวทั้งหมดภายในหนึ่งเดือน

นี่เป็นเพราะมันมีเวลาน้อยกว่าหนึ่งเดือนก่อนที่เซียนและพระอรหันต์แห่งโลกเบื้องบนจะลงมา!

มันไม่ง่ายเลยที่จะระดมกองทัพและมันก็ต้องใช้เวลานาน

แค่เตรียมการศึกก็กินเวลาไปแล้วเกือบเดือน

ยิ่งไปกว่านั้น ความโกลาหลก็ยังใหญ่โตธรรมชาติอีก

หลังจากผ่านไปนาน หลายคนก็สังเกตเห็นสถานการณ์ที่นี่แล้ว

ในเวลาเดียวกัน ข่าวที่ซุยเฮ็งมีมรดกของราชาสวรรค์หงหวู่อยู่ในครอบครองก็ได้แพร่กระจายออกไปแล้ว

ด้วยเหตุนี้เอง สำนัก, ตระกูล, ขุนนางและแม้แต่ราชสำนักทั้งหมดก็ได้ระเบิดความตกใจ!

ราชาสวรรค์หงหวู่!

สำหรับคนเหล่านี้แล้ว ชื่อนี้ก็เป็นชื่อต้องห้ามและเป็นตัวแทนของศัตรู

ทันทีหลังจากนั้น กลุ่มหนึ่งก็ประกาศตนว่าพวกเขาจะเข้าร่วม “กองทัพพันธมิตรสยบซุย” และสาบานว่าจะทำให้ซุยเฮ็งหายไปจากโลกนี้

พวกเขาไม่สามารถปล่อยให้มรดกของราชาสวรรค์หงหวู่ปรากฏขึ้นอีกครั้งบนโลกได้!

เช่นเดียวกับที่ “กองทัพพันธมิตรสยบซุย” ได้เริ่มขยายตัวอย่างรวดเร็ว หวังตงลินไม่ได้คาดคิดเลยว่าเมื่อถึงเวลานี้ “กองทัพพันธมิตรสยบซุย” จะมีกำลังพลมากกว่าสองล้านคนแล้ว นอกจากนี้ มันก็ยังมีกองกำลังจำนวนมากที่ต่อสู้เพื่อตนเองและได้บุกเข้าโจมตีเฟิงโจวจากทุกทิศทุกทาง!

จำนวนผู้ฝึกตนขอบเขตเทพเพิ่มขึ้นเป็น 17 คนอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย!

ทั้งหมดนี้ได้เกินเลยไปกว่าแผนของหวังตงหลินที่ได้วางเอาไว้ตอนแรก นอกจากนี้ มันก็ยังอยู่เหนือการควบคุมของเขาโดยสิ้นเชิง

ในฐานะผู้นำเดิม เขาก็ถูกบีบออกจากการเป็นผู้นำของ “กองทัพพันธมิตรสยบซุย”

เขาไม่ได้รับอนุญาตให้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจในการโจมตีที่จะถึงอีกต่อไป นี่เป็นเพราะมันมีทูตสวรรค์ 11 คนอยู่ที่นี่แล้ว!

ตัวตนของเสือกระดาษที่หวังตงหลินสร้างขึ้นมานั้นไม่มีความหมายอะไรอีกต่อไปแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น ในฐานะผู้นำเดิม เขาก็ยังเป็นอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับทูตสวรรค์คนอื่นๆ ในการควบคุมกองกำลังขนาดใหญ่นี้