หลี่ย่าเปลี่ยนไปจริงๆ
โจวโจวอดไม่ได้ที่จะนึกถึงความเสน่หาในดวงตาของเธอในตอนนี้
ดูเหมือนว่าความน่ากลัวของความเป็นความตายจะสามารถเปลี่ยนแปลงคนผู้หนึ่งได้อย่างง่ายดายเลย
ในอดีต หลี่ย่าไม่ได้กล้าหาญขนาดนี้
หรือในเวลานั้น เธอก็อาจจะมีภาระมากเกินไป จนเธอไม่กล้าคิดถึงเรื่องส่วนตัว
แต่ในตอนนี้ที่เธอได้ปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว เธอจึงสามารถแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมาได้
สำหรับเรื่องนี้ โจวโจวไม่ได้พบว่าเธอน่ารำคาญ แต่เขากลับรู้สึกดีกับเธอมากยิ่งขึ้นไปอีก
นี่คือสิ่งที่สาวน้อยควรจะเป็น!
“พรุ่งนี้ข้าจะไปพบฝ่าบาทเอง”
โจวโจวเปลี่ยนประเด็น
เมื่อหลี่ย่าเห็นเช่นนี้ มุมปากของเธอก็โค้งขึ้นเล็กน้อย ราวกับว่าเธอค้นพบบางสิ่งที่น่าสนใจ
อย่างไรก็ตาม เธอก็ไม่ได้ทำให้เขาลำบากใจแต่อย่างใด เธอได้แต่พยักหน้าและเตรียมจะกลับ
“คืนนี้ข้าอยากเจอเจ้าหน่อย”
ในขณะที่โจวโจวกำลังจะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก หลี่ย่าที่เดินไปได้ไม่ไกลก็หันกลับมาและพูดขึ้น
โจวโจวพยักหน้า
จากนั้นเขาก็มีปฏิกิริยา
ถ้าเธอมีอะไรจะพูด ทำไมเธอไม่พูดเลยตอนนี้เลย? ทำไมเธอต้องรอให้ถึงตอนกลางคืนก่อนด้วย
โจวโจวส่ายหัวและหยุดคิดเกี่ยวกับมัน เขามุ่งหน้าไปยังที่พักของทหารต่อ
หลังจากนั้นไม่นาน ณ ค่ายกองทัพตะวันสาดแสงและกองทัพมอนสเตอร์
โจวโจวมองไปยังทหารจำนวนนับไม่ถ้วนตรงหน้าของเขาและยิ้มออกมา
หลังจากได้รับทหาร 434,115 คนมาจากหนังสือรับสมัครทหารแล้ว จำนวนทหารของเขาก็เพิ่มขึ้นเป็น 1,627,671 คน!
ถ้าเขารวมกองทัพ 2.6 ล้านคนจากพันธมิตรดาราเข้าไปด้วย จำนวนทหารที่เขาสามารถควบคุมได้ในตอนนี้ก็จะเกินกว่า 4.2 ล้านคนไปแล้ว!
แม้แต่อาณาจักรทาฮันในจุดสูงสุดก็ไม่สามารถเทียบกับเขาได้ในแง่ของจำนวนทหาร!
โจวโจวมองไปยังทหารและเต็มไปด้วยความมั่นใจ
ตอนนี้เขาน่าจะไม่ต้องกลัวอาณาจักรขั้นต้นแล้ว แต่เขาก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าอาณาจักรขั้นกลางจะแข็งแกร่งแค่ไหน
เขาคิดอยู่สักพักและบอกให้ทหารเตรียมตัวเข้าไปยังสมรภูมิสุดท้าย
จากนั้นเขาก็เปิดแชทกลุ่มของพันธมิตรดาราขึ้นมาและบอกให้เจ้าโอสถวิญญาณ เจ้าฟีนิกซ์เขียว และสมาชิกคนอื่นๆ พาทหารมาเตรียมตัวเข้าสู่สมรภูมิสุดท้ายพร้อมกับเขา
เหล่าลอร์ดย่อมพากันตกลง
ยุยงแปรพักตร์ของพวกเขาพร้อมแล้ว พวกเขาเตรียมถูมือรออยู่แล้ว และรอคำสั่งของโจวโจว
หลังจากนั้นไม่นาน หลิงเอ๋อร์ หนงเฉิงหลิน เจ้าฟีนิกซ์เขียว เจ้ากระดาษอมตะ และลอร์ดคนอื่นๆ กว่า 309 คนก็พากองทัพกว่า 2 ล้านคนมายังเมืองตะวันสาดแสง
สำหรับทหารที่เหลืออีก 600,000 คน พวกเขาก็ถูกทิ้งไว้ให้เฝ้าเมืองของพวกเขา
สมาชิกพันธมิตรเหล่านี้ล้วนเต็มไปด้วยความฮึกเหิม เห็นได้ชัดว่าพวกเขาพึงพอใจกับตัวเองมากที่มีทหารมากขนาดนี้
ใครจะคิดว่าพวกเขาส่วนใหญ่ที่เป็นลอร์ดในสายอาชีพที่ไม่สามารถปกป้องดินแดนของพวกเขาได้เมื่อไม่นานนี้จะแข็งแกร่งขึ้นมาได้ขนาดนี้?
โจวโจวและลอร์ดทั้งหลายคุยกันนิดหน่อยและไม่ได้พูดอะไรอีก เขานำลอร์ดและทหารเข้าไปยังราตรีประดับดาวและกลับไปยังสมรภูมิสุดท้ายทันที
ณ สมรภูมิสุดท้าย
เมื่อภาพของสมรภูมิสุดท้ายได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าของโจวโจวอีกครั้ง เขาก็ตระหนักได้ว่าเขาได้ยืนอยู่ในยานบินที่เขาจากไปเมื่อคืนแล้ว
“เหวินหยา พายุคลั่งอยู่ห่างจากพวกเราไปแค่ไหน? ถ้าพวกเราหยุดอยู่กับที่ มันจะใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะไล่ตามพวกเราทัน?”
.
โจวโจวถามทันที
[รายงานท่านลอร์ด พวกเราอยู่ห่างจากพายุคลั่งไป 1,656,110 กิโลเมตร หลังจากเดินทางด้วยความเร็วเต็มกำลังเมื่อคืน! ถ้าพวกเราหยุดอยู่กับที่ วายุคลั่งจะมาถึงพวกเราในเวลาประมาณ 5 ชั่วโมง]
เหวินหยารายงาน
โจวโจวขมวดคิ้ว
“วายุคลั่งเร่งความเร็วขึ้นอีกแล้วเหรอ?”
โจวโจวถาม
[เจ้าค่ะ ความเร็วของวายุคลั่งในตอนนี้เร็วขึ้นกว่าเมื่อวานประมาณ 40% นอกจากนี้ ความเร็วของมันยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วย]
เหวินหยารายงาน
“นี่ไม่ใช่แค่การเร่งความเร็วเท่านั้น เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการเพิ่มความเร็วเพื่อบังคับให้พวกเราเหล่าลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์ต้องปะทะกัน”
โจวโจวพึมพำ
จากนั้นเขาก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับมันนัก
ความแข็งแกร่งของเขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เขาสามารถต่อสู้กับผู้เที่ยงแท้แห่งเผ่าพันธุ์จิตวิญญาณต้นกำเนิดได้แล้วด้วยซ้ำ นับประสาอะไรกับลอร์ดทั่วๆ ไปจากเผ่าพันธุ์อื่นๆ ดังนั้นเขาจึงไม่เกรงกลัวเลย กลับกัน เขาอยากที่จะหาศัตรูที่แข็งแกร่งเพื่อต่อสู้ด้วยซ้ำ
“แสดงฝ่ายของลอร์ดสีชาดและลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์ที่เจ้าพบในระหว่างการบินเมื่อคืน จัดการเหมือนเมื่อวานเลย”
โจวโจวกล่าว
[เจ้าค่ะท่านลอร์ด!]
เหวินหยาตอบ
อึดใจต่อมา หน้าจอแผนที่เสมือนจริงก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของโจวโจว มันแสดงให้เห็นจุดสีแดงอันหนาแน่นที่มีขนาดต่างกันไป
ที่มุมขวาบนของแผนที่ มันมีจำนวนระบุไว้ว่ามีจุดสีแดงทั้งหมด 55,451 จุด!
ในจำนวนนี้มีลอร์ดสีชาด 32,458 ตัว และลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์อีก 22,993 ตัว!
สีหน้าของโจวโจวเคร่งขรึมขึ้นมา
เมื่อวานมันมีจุดสีแดงอยู่บนแผนที่มากกว่า 100,000 จุด อย่างไรก็ตาม วันนี้มันก็เหลือเพียงแค่ 50,000 กว่าจุดเท่านั้น นอกจากนี้ มันยังมีลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์เหลืออยู่แค่ 20,000 กว่าตัวเท่านั้นเอง
แม้ว่าลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์บางส่วนจะยังไม่ได้เข้ามายังสมรภูมิสุดท้าย แต่มันก็สามารถเห็นได้เลยว่ามีลอร์ดเป็นจำนวนมากถูกกำจัดไปเมื่อคืน
“วันนี้คือวันสุดท้ายของกิจกรรมสมรภูมิสรรพเผ่าพันธุ์แล้ว การต่อสู้คงจะดุเดือดขึ้นอย่างแน่นอน และสงครามก็คงจะปะทุขึ้นบ่อยขึ้น แม้ว่าความแข็งแกร่งของฉันจะเพิ่มขึ้นมาแล้ว แต่ฉันก็ยังต้องระวังอยู่”
โจวโจวคิดกับตัวเอง
เขาไม่ได้แบ่งปันแผนที่นี้กับลอร์ดคนอื่น แต่เขาได้หยิบเข็มทิศวิญญาณแห่งการล้างแค้นออกมาแทน
“วิญญาณพยาบาทผู้ยิ่งใหญ่เอ๋ย ข้าต้องการล้างแค้นใครบางคน ท่านจงช่วยชี้นำตำแหน่งของมันให้ข้าทราบได้หรือไม่?”
โจวโจวมองไปยังเข็มทิศและพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ
หนึ่งวินาที สองวินาที สามวินาที…
หวือ…
เข็มทิศขยับเล็กน้อย จากนั้นหมอกสีเลือดจำนวนมากก็สลายไปจากเข็มทิศ
ในไม่ช้าห้องประชุมทั้งหมดก็ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีเลือด
โจวโจวได้เห็นสิ่งนี้ตอนเมื่อวานแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ตื่นตระหนกอะไร
ดวงตาสีเลือดคู่หนึ่งค่อยๆ ปรากฏขึ้นจากหมอกสีเลือด
ดวงตาคู่นี้กำลังมองมาที่โจวโจวอย่างใจเย็น
“มนุษย์แห่งความโกลาหล บอกข้ามา ศัตรูที่เจ้าอยากแก้แค้นคือใคร?”
เสียงของวิญญาณพยาบาทดังก้อง
“ศัตรูที่ข้าอยากล้างแค้นก็คือ… พระบิดาแห่งเผ่าพันธุ์จักรกล!”
โจวโจวพูดด้วยเสียงอันดัง
เขาย่อมไม่ลืมสิ่งที่เหวินหยาบอกเขาเมื่อวานนี้ว่าเธอต้องการความรู้ทางเทคโนโลยีของยานบินจากเผ่าพันธุ์จักรกลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างมัน
ในตอนนี้ที่เขามาถึงสมรภูมิสุดท้ายพร้อมกับความแข็งแกร่งขนาดนี้แล้ว ก่อนอื่นเขาก็ต้องจัดการกับพระบิดาแห่งเผ่าพันธุ์จักรกลซะก่อนและเค้นความรู้ทางเทคโนโลยีมาจากมัน
หลังจากผ่านไปสักพัก วิญญาณพยาบาทก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง
“ย่อมได้ ตามข้ามา”
จากนั้นดวงตาสีเลือดคู่นั้นก็ค่อยๆ หายไปในหมอกสีเลือด
จากนั้นหมอกสีเลือดก็ย้อนกลับเข้าไปในเข็มทิศอย่างรวดเร็ว และห้องประชุมก็กลับคืนสู่สภาพเดิมราวกับว่ามันไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นเลย สายตาของโจวโจวหันกลับไปมองเข็มทิศในมืออีกครั้ง
เข็มสีเลือดบนเข็มทิศเริ่มหมุนอย่างช้าๆ อย่างที่เขาคุ้นชิน และสุดท้ายก็ชี้ไปยังทิศตะวันออกเฉียงใต้