ตอนที่ 214 กลายพันธุ์ต้นไม้แห่งปัญญา

ชายชราสองคนได้ปรากฏตัวขึ้นทันใด

แรงกดดันที่พวกเขาปลดปล่อยออกมาเหมือนกับสายรุ้งแผดพุ่งออกมา นี้คือความแข็งแกร่งของระดับ 8

มันยิ่งกว่าข่าวลือที่กระจายออกไป

เทียนเจียนเหมิน แอบซ่อนความแข็งแกร่งไว้จริงๆด้วย

หากราชันระดับ 7 ทั่วไปพบพวกเขาเข้า พวกเขาคงไม่อาจทำอะไรได้ สุดท้ายแล้วอาจกลายเป็นเขาที่ตกหลุมกับดับแผนอันร้ายกาจของ เทียนเจียนเหมิน ต้องก่ำกลืนคำพูดของเขาลงไป

แต่น่าเสียดาย

คนที่พวกเขาได้พบนั้นคือ หลิน ยู

ด้วยเถาวัลย์ยักษ์ที่น่าสะพรึงกลัวที่ได้ปกคลุมทั่วทั้งคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ เถาวัลย์น้อยใหญ่กระจายออกไปยังรอบๆ

ชายชราระดับ 8 ทั้ง 2 คนอดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้าน ดวงตาของสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

"ท่านผู้นำ ผู้อาวุโสใหญ่ เหล่าสาวกทั้งหมดที่ฐานถูกสังหารหมดแล้วขอรับ"

ในเวลานั้น ผู้ฝึกตนระดับสูงที่อยู่ข้างๆ ตะโกนบอกเขาด้วยความหวาดกลัว

เมื่อชายชราทั้ง 2 ได้ยินคำพูด สีหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความเสียใจ พวกเขามองไปที่ หลิน ยู ด้วยจิตสังหาร

"งั้น เจ้าก็คือเจ้าเมืองหวงซา หลิน ยู ?"

คนที่พูดคือชายชราในชุดขาวที่อยู่ด้านหน้า เป็นผู้นำของ เทียนเจียนเหมิน ยี่ ลู่เฟิง

เห็นได้ชัดว่าพวกเขานั้นได้ตรวจสอบข้อมูลของ หลิน ยู มาแล้ว

"ในเมื่อพวกแกรู้ว่าฉันเป็นใคร ก็คงจะรู้เช่นกันว่าทำไมฉันถึงได้มาที่นี้ ใช่ไหม?"

แววตาที่เฉ่ยชาของ หลิน ยู มาพร้อมกับน้ำเสียงที่ปราศจากอารมณ์ของเขา

ทำให้การแสดงออกของ ยี่ ลู่เฟิง เปลี่ยนไปทันที เพราะเขารู้ว่า หลิน ยู นั้นมาเพิ่งทำอะไร ดังนั้นเขาจึงหยุดพูดเรื่องไร้สาระและขู่กลับไป

"ฮึ่ม! เจ้ากล้าบุกเข้ามายังเทียนเจียนเหมินของข้าอีกทั้งยังกล้าสังหารเหล่าสาวกของข้า เจ้าคิดว่าเทียนเจียนเหมินของเรายั่วยุได้ง่ายๆงั้นเหรอ ไป! สังหารมัน!"

ทันทีที่สิ้นเสียงลง ฝ่าเท้าของเขาก็เบิดออกทันที พร้อมกับอาวุโสใหญ่ที่อยู่ข้างๆ กระโดดขึ้นไปบนดาบบินพุ่งเข้าหาหลิน ยู

ออร่าที่แข็งแกร่งกำลังใกล้เข้ามา ราวกับทั้งร่างของพวกเขาถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นดาบ ตัดอากาศโดยรอบอย่างดุร้าย

ดูเหมือนพวกเขาจะแข็งแกร่งกว่าระดับ 8 ทั่วไปเพียงแค่เล็กน้อย

ไม่น่าแปลกใจเลยทำไมพวกเขาถึงกล้าที่จะต่อต้านเหล่าราชัน เพราะพวกเขายังพอแข็งแกร่งอยู่บ้าง อย่างน้อยมันก็มากพอที่จะจัดการกับราชันระดับ 7 ทั่วไปได้

น่าเสียดายที่เขาได้พบกับ หลิน ยู ในครั้งนี้

เมื่อเห็นทั้ง 2 เข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว เถาวัลย์ยักษ์ก็พุ่งออกมาขวางทางพวกเขาเอาไว้

"เป็นแค่ต้นไม้ กล้ามาขวางฉันงั้นเหรอ?"

"ทำลายมันซะ!"

ยี่ ลู่เฟิง และ ผู้อาวุโสใหญ่ คำรามออกมา ดาบยาวที่อยู่ใต้เท้าของพวกเขากลายเป็นลำแสงดาบนับพัน มันพุ่งออกไปราวกับจะฉีกชั้นบรรยากาศออกโจมตีไปยังเถาวัลย์ยักษ์

"เปรี้ยงง!"

การปะทะกันอย่างรุนแรงถึงกับให้แก้วหูของเขาสั่นสะท้าน

เถาวัลย์ยักษ์ไม่เป็นอะไรแม้แต่น้อย หลงเหลือไว้เพียงรอยดาบเล็กๆ

ในทางตรงข้ามลำแสงดาบเหล่านั้นได้แตะกระจายจากการปะทะ กลายเป็นละอองแสงลอยไปในอากาศ

"เป็นไปได้ยังไงกัน!"

ยี่ ลู่เฟิง และ ผู้อาวุโสใหญ่ มองหน้ากัน

การโจมตีอย่างสุดกำลังของพวกเขา ไม่แม้แต่จะสามารถทะลวงการป้องการของเถาวัลย์ยักษ์นั้นได้

มันเป็นสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวบัดซบอะไรแบบนี้

หากไม่ได้รู้จักกับอีกฝ่าย เขาต้องคิดว่าอีกฝ่ายต้องอยู่ที่จุดสูงสุดของระดับ 8 แน่ๆ!?

ทั้ง 2 ถึงกับตกตะลึงเงยหน้าขึ้นมองไปยัง หลิน ยู ที่อยู่ในอากาศ พวกเขามองเห็นรอยยิ้มเย้ยหยันที่มุมปาก

จากนั้นหัวใจของพวกเขาก็แข็งค้างรู้สึกได้ถึงอันตราย

"ระวัง!"

ยี่ ลู่เฟิง ได้ยินเพียงเสียงของ ผู้อาวุโสใหญ่และผู้ฝึกตนที่อยู่ด้านล่าง

ก่อนที่ทั้ง 2 นั้นจะทันได้ตอบสนอง เห็ดสีแดง 2 ดอกก็ร่วงลงมาที่ข้างๆพวกเขา สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปในทันที

"ตูมม!!"

เมฆรูปเห็นลอยขึ้น สั่นสะเทือนท้องฟ้าอย่างรุนแรง

ด้วยการเพิ่มพลังระเบิดเห็ด 2 เท่าของราชาปิศาจเห็ด พื้นที่ทั้งหมดบริเวณนั้นราวกับจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

พลังอันน่าสะพรึงกลัวของระเบิดเห็ดที่ระเบิดออกกลายเป็นคลื่นอัดอากาศ กวาดไปทั่วทั้งเมืองโบราณแห่งนี้ทันที ทำให้ชาวเมืองและผู้ฝึกตนจ้องมองไปยังศูนย์กลางของการระเบิด

"นั้นมัน เกิดอะไรขึ้น!?"

"ดูเหมือนว่าตรงนั้นจะเป็นคฤหาสน์ของ เทียนเจียนเหมิน"

"ฉันได้ยินมาว่า เทียนเจียนเหมิน และเจ้าเมืองหวงซา กำลังต่อสู้กันอยู่!"

"พวกเขาต่อสู้กันจริงๆงั้นเหรอ ฉันจำได้ว่า ผู้นำของเทียนเจียนเหมิน นั้นเป็นถึงผู้ฝึกตนระดับ 8"

"ผู้ฝึกตนระดับ 8!? ดูเหมือนเจ้าเมืองหวงซาจะมีปัญหาซะแล้ว ฉันกำลังคิดที่จะไปเมืองหวงซาแท้ๆ...."

ผู้คนจำนวนมากกำลังพูดคุยกัน ขณะที่ในตอนนี้เสียงการต่อสู้อันดุเดือดก็ดังมาจากที่นั้น

แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้

สุดท้าย มันเป็นการต่อสู้ระหว่างระดับ 8 พวกเขาไม่อยากหาเรื่องตายด้วยการสอดรู้สอดเห็น

และในครั้งนี้

ภายในคฤหาสน์ของเทียนเจียนเหมิน

ภาพตรงหน้านี้มันแตกต่างจากที่ผู้คนเหล่านั้นคิดอย่างสิ้นเชิง

เหล่าผู้ฝึกตนที่อยู่ด้านล่างต่างพากันตกตะลึง มองไปยังศพ 2 ศพที่ลอยอยู่บนอากาศ

ตายแล้วว...

ท่านผู้นำ และผู้อาวุโสใหญ่ของที่พวกเขา ตายหมด...

ในตอนนี้เอง มีอารมณ์เดียวอยู่ภายในหัวใจของพวกเขา นั้นคือความหวาดกลัวอย่างแท้จริง

ความหวาดกลัวที่หนาวเย็นนี้

เพียงแค่ทีเดียว!

เขาสังหารผู้ฝึกตนระดับ 8 ทั้ง 2 คนภายในเวลาไม่กี่วินาที?

เขาต้องแข็งแกร่งขนาดไหนกันถึงจะทำได้แบบนั้น?

นี้เป็นสิ่งที่ราชันระดับ 7 สามารถทำได้จริงๆงั้นหรือ?

ในตอนนั้น

ผู้ฝึกตนคนหนึ่งหน้าซีดค่อยๆก้าวถอยออกไป

"ไม่ ข้ายังไม่อยากตาย อย่าฆ่าข้า เรื่องนี้ตัวข้าไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วย อย่าฆ่าข้า!"

ก่อนที่เขาจะพูดจบ เขาก็รีบหันหลังและวิ่งหนีไป

อย่างไรก้ตามในวินาทีถัดมา เถาวัลย์ยักษ์ก็พุ่งออกมาจากพื้นดิน

"ฟุ๊ดด!!"

เลือดสาดกระจายออกไป ร่างของผู้ฝึกตนคนนั้นก็ถูกแทงในทันที

ด้วยความตายที่อนาจของ ผู้นำและผู้อาวุโสใหญ่ ทำให้เหล่าคนที่เหลือของเทียนเจียนเหมินแตกตื่นด้วยความหวาดกลัว

หนีออกไปทุกทิศทุกทาง

"สังหารพวกมันให้หมด!"

ภายในอากาศ เสียงอันเย็นชาของ หลิน ยู ก็ดังขึ้น

เถาวัลย์พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ไล่ล่าสังหารคนเหล่านั้นให้

ในตอนนั้นเอง เสียงกรีดร้องก็ดังไปทั่วคฤหาสน์ มันกินเวลาเกือบครึ่งนาทีก่อนจะสิ้นสุดลง

เถาวัลย์ของ ชิง ถังที่กระจายออกไปก็กลับมารวมกันอย่างรวดเร็ว ยกเลิกกรงเถาวัลย์ที่ปิดล้อมคฤหาสน์เทียนเจียนเหมิง ออก

เมื่อมองไปยังถนนที่อยู่ใกล้ มันว่างเปล่า ไม่มีใครอยู่ที่นั้นแม้แต่คนเดียว

"ไปกันเถอะ พาพวกเขากลับไปรักษากันก่อน"

หลิน ยู เมินเฉยต่อผู้คนที่นี้นำลูกน้องที่บาดเจ็บ 2 3 คนรีบกลับไปยังเมืองหวงซา

ด้วยการจากไปของพวกเขา

ข่าวการทำลายคฤหาสน์เทียนเจียนเหมินก็แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วภายในเมืองโบราณ และแม้แต่เมืองและกองกำลังอื่นๆ ก็ยังได้รับข่าวอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดความวุ่ยวายในทันที

"นายพูดว่าอะไรนะ ผู้ฝึกตนระดับ 8 ของเทียนเจียนเหมิน ตายลงแล้ว!"

ภายในเมือง หลินฉวย โจว เส้าหง มองไปยังลูกน้องของเขาที่กลับมารายงานด้วยความตกใจ

"ใช่ขอรับ เขาสังหารทั้งหมดไม่เหลือแม้แต่คนเดียว ไม่มีสาวกคนใดรอดชีวิต" ลูกน้องของเขารายงานด้วยความเคารพ

"เป็นไปได้ยังไงกัน..."

โจว เส้าหง นั่งลงบนเก้าอี้อย่างตกตะลึง

เขานั้นคิดว่า หากเทียนเจียนเหมินต่อสู้กับเมืองหวงซา ถึงแม้ว่าจะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะ แต่พวกเขาก็ต้องสูญเสียอย่างหนักอย่างแน่นอน

แต่เขาไม่ได้คิดว่าผลลัพธ์จะกลายเป็นแบบนี้

นั้นคือผู้ฝึกตนระดับ 8 เลยนะ

พวกเขาถูกสังหารง่ายดายขนาดนั้นเลย?

ความแข็งแกร่งของราชันเมืองหวงซาทำไมถึงน่ากลัวขนาดนี้

เขาเพิ่งก้าวขึ้นสู่ระดับ 7 ไม่ใช่หรือ? ?

ด้วยความสงสัย

ในเวลานี้ปรากฏขึ้นในหัวใจของผู้นำกองกำลังโดยรอบทันที

ทุกคนตกตะลึงกับความแข็งแกร่งอันน่าสะพรึงกลัวที่ หลิน ยู แสดงออกมา ไม่กล้าที่จะทำอะไรบุ่มบ่าม

พวกเขารีบออกไปคำสั่งไปยังลูกน้องของเขา พวกเขาจะต้องไม่ไปยั่วยุผู้คนจากเมืองหวงซา แม้ว่าคนๆนั้นจะเป็นคนธรรมดาก็ตาม

เมื่อข่าวกระจายออกไป ก็เกิดความโกลาหลในหมู่คนทั่วไปและผู้ฝึกตนที่ยังลังเล เกิดการถกเถียงกันมากมาย

"เจ้าเมืองหวงซาผู้นี้ทรงพลังจริงๆ เขาสามารถทำให้กองกำลังจำนวนมากรอบๆก้มหัวให้และไม่กล้าที่จะไปยั่วยุเขา"

"ได่รับการสนับสนุนจากราชันที่ทรงอำนาจแบบนี้ ฉันละอิจฉาผู้คนในเมืองหวงซาจริงๆ"

"ฉันก็ว่างั้น เกรงว่าในตอนนี้คงไม่มีใครกล้าที่จะยั่วยุผู้คนในเมืองหวงซาอีกต่อไปแล้ว"

"นี้ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีงั้นเหรอ ที่พวกเราจะไปยังเมืองหวงซา!?"

"แล้วทำไมพวกเราไม่ไปยังเมืองหวงซากันละ"

"ฉันก็คิดว่าอย่างนั้น"

ชื่อเสียงของ หลิน ยู และ เมืองหวงซาแพร่กระจายบริเวณโดยรอบอย่างรวดเร็ว จากคำพูดปากต่อปาก

คนเหล่านั้นที่ยังลังเลเนื่องจากการยั่วยุของ เทียนเจียนเหมิน ก็ตัดสินใจได้ทันทีมุ่งหน้าไปยังทิศทางเมืองหวงซา

หลังจากผ่านไปครึ่งวัน จำนวนผู้ลี้ภัยก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

และในตอนนั้นเอง

หลิน ยู ก็ได้นำผู้บาดเจ็บมาถึงเมืองหวงซาแล้ว

หลังจากที่รักษาอาการบาดเจ็บแล้ว พวกเขาก็ถูกส่งให้กับ เหว่ย กัง เพื่อพาพวกเขาไปพักฟื้น

เขารีบกลับไปยังดินแดนพร้อมกับกองกำลัง

ในครั้งนี้ เนื่องจาก หลิง ซี ต้องไปรับกองคาราวาน เขาจึงได้นำทหารราชวงศ์ไปเพียง 2 ตัวเท่านั้น มี ชิง ถัง กับ ราชาปิศาจเห็ด กับวิลโลว์หลอกลวงสำหรับบัพ

ปรากฏว่ามันง่ายดายกว่าที่เขาคิดไว้ซะอีก

ชิง ถัง ได้รับค่าสถานะจากมอสชีวภาพแถบจะบอกได้ว่ามันสามารถสังหารผู้ฝึกตนระดับ 8 2 คนได้อย่างง่ายดาย พวกเขาไม่มีเจาะผ่านการป้องกันของมันได้อย่างง่ายดาย

นี้มันน่ากลัวจริงๆ

ด้วยการสังหารของเขาในครั้งนี้ถือว่าเป็นการเชือดไก่ให้กองกำลังรอบๆดู ให้พวกเขารับรู้ถึงความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเมืองหวงซา

มันทำให้ช่วยลดไอ้พวกโง่ที่ชอบหาเรื่องใส่ตัวไปได้เยอะ

สำหรับคนอื่นๆใน เทียนเจียนเหมิน นั้น หลิน ยูไมไ่ด้สนใจมากนัก

เมื่อปราศจากผู้ฝึกตนระดับ 8 ทั้ง 2 คน กองกำลังอื่นๆรอบๆ ก็ไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวอีกต่อไป พวกมันเขาไม่พลาดโอกาศที่จะเขายึดครองพื้นที่ๆเทียนเจียนเหมินครอบครอง

สุดท้ายพวกเขาก็จะถูกควบรวมหรือไม่ก็ถูกยุบทิ้ง

ขั้นตอนนี้เรียกว่าเชือดด้วยมีด

บอกได้คำเดียวว่าเทียนเจียนเหมิน นั้นโชคร้ายเพราะพวกเขาแส่เข้ามาหาเรื่องเอง

สิ่งต่อไปที่ต้องทำคือแค่รอผู้ลี้ภัยแห่กันมาที่เมืองหวงซา

ในเวลานั้นคาดว่าคงมีงานอีกมากมายที่ต้องทำ

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ หลิน ยู จึงเดินทางยังใต้ต้นไม้โลก คอยศึกษาทหารของเขาต่อไป

ก่อนหน้านี้ ความคิดมากมายของเขาไม่สามารถกลายเป็นจริงๆได้เรื่องจากข้อจำกัดเรื่องการสู่มสกิลของสกิลกลายพันธุ์

ในตอนนี้สามารถสกิลกลายพันธุ์สามารถเลือกสกิลสืบทอดได้แล้ว มันจึงเพิ่มความเป็นไปได้โดยธรรมชาติในทันที

เช่นเดียวกับต้นไม้แห่งปัญญา

แม้ว่าทหารประเภทนี้จะเป็นเพียงระดับ 3 และไม่สามารถอัพเกรดได้

แต่มันก็ถือได้ว่าเป็นทหารสนับสนุนที่ดีที่สุดในดินแดนของเขา

เพียงแต่เงื่อนไขในการอัพเกรดของมันค่อนข้างที่จะเข้มงวด การเพิ่มค่าประสบการณ์ไม่น่าจะแตกต่างจากเมื่อก่อนอีกต่อไป

ดังนั้นโดยไม่ลังเล หลิน ยู ไปยังต้นไม้แห่งปัญญาใช้สกิลกลายพันธุ์กับมัน

[การกลายพันธุ์ทหารระดับ 3 จำเป็นต้องใช้พลังเวทย์ 10 แต้ม ท่านต้องการดำเนินการต่อหรือไม่]

"ใช่!"

[โปรดเลือกสกิลและค่าสถานะที่ต้องการ]

"สกิลเลือกเป็นภูมิปัญญาแห่งพฤกษา ส่วนค่าสถานะไม่ต้องก็แล้วกัน"

หลิน ยู ตอบทันที

วินาทีต่อไป ต้นไม้แห่งปัญญาก็ถูกห่อหุ้มด้วยแสง ร่างกายของมันเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อแสงหายไป ปิศาจต้นไม้แห่งความกลัวก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา มองไปยังร่างของมันด้วยความสงสัย

เหมือนทำไมร่างกายของฉันถึงได้กลายเป็นแบบนี้

หลิน ยู ได้กลายพันธุ์ทหารประเภทมาแล้วครั้งนี้ แถวยังถ่ายทอดสกิลได้สำเร็จอีกด้วย

แต่มันก้ยังเหมือนเดิม มันยังสืบทอดเงื่อนไขการอัพเกรดมาจาก ต้นไม้แห่งปัญญาที่ว่า "ไม่สามารถอัพเกรดได้" อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม หลิน ยู นั้นได้เตรียมใจเอาไว้แล้ว ดังนั้นการแสดงออกของเขาจึงไม่เปลี่ยนไปมากนัก เขายังคงกลายพันธุ์ปิศาจต้นไม้แห่งควาหวาดกลัวอยู่ด้วย มันยังสืบทอดสกิลภูมิปัญญาแห่งพฤกษาของมันเอาไว้

ใช่แล้ว

เขาแค่ต้องการดูว่าสกิลภูมิปัญญาแห่งพฤกษานี้จะกลายพันธุ์หรือไม่

อย่างไรก็ตาม ทหารระดับ 3 นั้นใช้พลังเวทย์เพียง แค่ 10 แต้มเท่านั้นในการกลายพันธุ์ ซึ่งมันไม่ได้เปลี่ยนปัญหาสำหรับเขาเลย

ถ้าหากเข้าโชคดีเขาก็จะได้รับทหารราชวงศ์ นี้ยิ่งเป็นเรื่องดีเลย!?

ดังนั้นในครั้งนี้ เขาจึงได้ทำการกลายพันธุ์และตรวจสอบข้อมูลมันของมันครั้งแล้วครั้งเหล่าอย่างมุ่งมั่นใต้ต้นโลก

"กลายพันธุ์!"

หวืดดด!

"เอาอีก!"

หวืดดด!

"มาอีกครั้ง!"

......

เสียงของ หลิน ยู ดังก้องอยุ่ในดินแดน

ต้นไม้ตรงหน้าเขาเปลี่ยนรูปร่างของมันไปมาอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก้ตามสิ่งที่ หลิน ยู ไม่คาดคิดก็คือ

เมื่อเขากลายพันธุ์ไปได้มากกว่า 700 ครั้ง

แสงที่สว่างวาบพร้อมกับการแจ้งเตือนการกลายพันธุ์ของสกิล

ก็โผล่ขึ้นมาพร้อมๆกัน