บทที่ 262 : เรือเหาะลำมหึมา
พลังแห่งแก่นแท้ของบัญชาสวรรค์ราชันสุริยันนี้ไม่ได้สูงนัก มันเทียบเท่าได้กับขอบเขตแก่นแท้ทองคำขั้นต้นเท่านั้น
เขาไม่ได้คาดคิดว่าตราหยกดังกล่าวจะเป็นบัญชาสวรรค์ที่มันกล่าวถึง
ซุยฮ็งถือตราไว้ในมือและขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาคิดกับตัวเองว่า “ อาณาจักรราชันสุริยัน.. งั้นนี่ก็คือหนึ่งในโลกสวรรค์อย่างงั้นหรอ? แต่ตอนนี้มันก็มีเพียงโลกเซียนราชันสุริยันเท่านั้นที่อ้างว่าก่อตัวขึ้นมาจากชิ้นส่วนของโลกสวรรค์ มันไม่มีโลกสวรรค์ราชันสุริยันอีกต่อไปแล้ว”
หากการประกาศตนเองของอาณาจักรราชันสุริยันเป็นความจริง และพวกมันก็ถูกเปลี่ยนเป็นชิ้นส่วนของโลกสวรรค์จริง งั้นนั่นก็หมายความว่ามันมีโอกาสสูงมากที่โลกสวรรค์ราชันสุริยันซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของสวรรค์จะได้แตกสลายไปแล้ว
และแม้ว่ามันจะยังไม่แตกสลาย แต่มันก็คงจะใกล้เคียงมากเพราะมันได้พบกับหายนะบางอย่างเข้า
“ เทียนจู หลี่ฟาได้ทิ้งสิ่งเหล่านี้ไว้เบื้องหลังอย่างงั้นหรอ?” ซุยฮ็งมองไปที่เทพดวงดาวเทียนจูข้างๆ เขาแล้วถาม
เขาต้องการยืนยันต้นกำเนิดของบัญชาสวรรค์ราชันสุริยันและบันทึกสมบัติราชันสุริยัน
“ ใช่แล้วท่านเซียนผู้สูงส่ง” เทพดวงดาวเทียนจูพยักหน้าและพูดว่า “ ในตอนที่เขามาที่นี่ เขาก็ได้นำสิ่งของทั้งสองนี้ติดตัวมาด้วย”
“ อืม” ซุยฮ็งพยักหน้าเล็กน้อยและคิดกับตัวเองว่า “ หลี่ฟาได้รับสองสิ่งนี้มาจากที่อื่น พวกมันไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับดาวเทียนจู งั้นในกรณีนี้ เบาะแสก็จะถูกตัดขาดและฉันก็จะไม่สามารถสำรวจต่อไปได้อีก”
ข้อมูลที่เขาได้รับมาในตอนนี้ได้เพิ่มการฝึกตนของเขาขึ้นมาไม่น้อย มันนับเป็นการเก็บเกี่ยวที่ดีเลยทีเดียว
เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับโลกหลายโลกและท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว ผลกระทบนั้นลึกล้ำมาก
วิธีการฝึกตนของพวกเขาแปลกมาก
มันจะต้องมีบางอย่างผิดปกติอย่างแน่นอน มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีใครสงสัย
ที่มันเป็นแบบนี้ก็เพียงเพราะว่าความจริงได้ถูกปกปิดเอาไว้
ในตอนนี้ ซุยเฮ็งก็มีความรู้สึกว่าถ้าเขาสามารถสืบสวนเรื่องนี้ได้ตั้งแต่ต้นจนจบ แม้ว่าเขาจะไม่สามารถก้าวไปขอบเขตรวมวิญญาณขั้นสมบูรณ์ได้ แต่อย่างน้อยเขาก็น่าจะสามารถมาถึงขั้นปลายสุดได้
สำหรับเขาแล้ว ความลึกลับนี้ก็เป็นเหมือนยาเซียนที่ยอดเยี่ยม
“ หากฉันต้องการจะตรวจสอบให้กระจ่างจริงๆ ฉันก็คงจะต้องไปที่อาณาจักรราชันสุริยัน”
ซุยฮ็งครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเงยหน้าขึ้น เขาคิดกับตัวเองว่า “ อย่างไรก็ตาม ความเข้าใจของฉันเกี่ยวกับอาณาจักรราชันสุริยันนั้นก็ยังน้อยเกินไป และฉันก็มั่นใจมากว่ามันมีอันตรายที่นั่น”
“ ฉันไม่สามารถสำรวจโดยไม่ได้เตรียมตัวได้ ฉันควรจะไปที่อาณาจักรห้าทัศนะก่อนและดูว่าฉันจะได้รับเบาะแสบางอย่างเกี่ยวกับอาณาจักรราชันสุริยันหรือไม่”
….
หลี่ฟาไม่ได้ทิ้งร่องรอยเอาไว้มากนักบนดาวเทียนจู ซุยเฮ็งจบการสำรวจอย่างรวดเร็วด้วยไกด์มืออาชีพอย่างเทพดวงดาวเทียนจู
สำหรับหลี่เฉิงและคนอื่นๆ นอกดาวเทียนจู มันก็ใช้เวลาไม่นานก่อนที่พวกเขาจะมองเห็นซุยเฮ็งบินออกมาจากดาวเทียนจู
เบื้องหลังของเขาคือบุคคลที่ปกคลุมไปด้วยแสงสีทอง เขาดูลึกลับมาก แต่ออร่าของเขาก็คุ้นเคยมาก
เทพดวงดาวเทียนจู!
หลี่เฉิงและคนอื่นๆ ต่างก็ตกใจเมื่อเห็นฉากนี้ ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้าง
ร่างที่สง่างามเมื่อครู่นี้กลับมามีขนาดเท่าคนธรรมดาแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขาก็ยังบินตามหลังซุยเฮ็งมาด้วยความเคารพ
แม้ว่าพวกเขาทั้งหมดจะเคยเห็นเทพดวงดาวเทียนจูคำนับต่อซุยเฮ็งมาก่อนแล้ว แต่พวกเขาก็ยังไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่พวกเขาเห็น
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่พวกเขาตกตะลึงเสร็จ นอกจากหลี่เฉิงแล้ว คนอื่นๆ ก็ล้วนเริ่มกังวลเกี่ยวกับชะตากรรมของพวกเขา
เมื่อเห็นซุยเฮ็งบินใกล้เข้ามา พวกเขาก็ยิ่งประหม่ามากขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตาลเชิงและซุนกวงจ้าว พวกเขาเสียใจมากจนอยากจะกัดลิ้นตัวเองตาย
“ ข้าไม่ควรรอให้เจ้าแก่นั่นหนีไป ข้าควรจะหนีไปตอนที่ยังมีโอกาส!”
“ ข้านี่มันโง่จริงๆ ที่คิดว่าเจ้าเด็กนี่จะกล้าหนีไป”
ทั้งสองคนคิดกับตัวเองอย่างขมขื่นราวกับว่าพวกเขามีความคิดเดียวกัน
หลี่เฉิงซึ่งยืนอยู่ด้านข้างรู้สึกเสียใจเล็กน้อย ไม่มีใครพยายามหลบหนี เขาเดินเข้าไปแสดงความมุ่งมั่นต่อหน้าประมุขเซียนอย่างเศร้าสร้อย
ในขณะนี้ ซุยเฮ็งก็ได้มาถึงหน้าทุกคนแล้ว สายตาที่ไม่แยแสของเขากวาดไปที่พวกเขาทั้งหมดก่อนที่จะหยุดลงที่หลี่เฉิงในที่สุด เขายิ้มและพูดว่า “ ทำได้ดีมาก”
“ ขอบพระคุณท่านประมุขเซียน!” หลี่เฉิงรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก
แม้ว่านี่จะเป็นเพียงคำชมและไม่ใช่รางวัลมากมายอะไร แต่ในความเห็นของเขา มันก็เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับการยกย่องจากประมุขเซียนผู้สูงส่ง
ซุยเฮ็งพยักหน้าเล็กน้อยและมองไปที่ตาลเชิง, ซุนกวงจ้าวและคนอื่นๆ เขาหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “ พวกเจ้าคิดว่าข้าควรจัดการกับพวกเจ้าอย่างไรดี?”
ทุกคนมองหน้ากันและไม่รู้จะตอบอย่างไร
ในขณะนี้ พวกเขาก็ไม่สามารถยืนหยัดและพูดอะไรได้
ด้วยเหตุนี้เอง มันจึงมีเพียงความเงียบงันเท่านั้น
“ ลืมมันไปเถอะ” ซุยเฮ็งส่ายหัวเบาๆ และพูดว่า “ ในเมื่อพวกเจ้าขวางทางเดินของข้า มันจึงถือเป็นอาชญากรรม และโทษของมันก็ถึงตาย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเส้นทางการฝึกตนของพวกเจ้านั้นแสนจะยากลำบาก ดังนั้นข้าก็จะลงโทษพวกเจ้าอย่างผ่อนปรน”
ตาลเชิง, ซุนกวงจ้าวและคนอื่นๆ แสดงสีหน้ามีความสุขในทันทีเมื่อพวกเขาได้ยินสิ่งนี้ พวกเขาแทบจะอ้าปากขอบคุณเขา
“ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกเจ้าจะต้องอยู่บนดาวเทียนจู พวกเจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้ก้าวออกจากดาวเทียนจูเป็นเวลาพันปี” การจ้องมองของ ซุยเฮ็งกวาดไปที่ทุกคนและเขาก็พูดอย่างเฉยเมยว่า “ ในอนาคตจะมีคนที่จะมาที่ดาวเทียนจูเพื่อต่อสู้กับพวกเจ้า พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องสุภาพก็ได้ แค่ทำให้ดีที่สุดก็พอ”
เขาวางแผนที่จะเปลี่ยนดาวเทียนจูให้เป็นสนามฝึกซ้อมสำหรับผู้ฝึกตนของดาวเต๋าโจว ในอนาคต ใครก็ตามที่บุกทะลวงเข้าสู่ขอบเขตเซียนอนันต์ทองได้ก็จะสามารถมาที่ดาวเทียนจูเพื่อรับการฝึกได้
ตราบเท่าที่พวกเขาสามารถเอาชนะเซียนอนันต์ทองทั้งหมดบนดาวเทียนจูได้ พวกเขาก็จะได้รับเรือเหาะเป็นรางวัล
ตาลเชิง, ซุนกวงจ้าวและคนอื่นๆ ล้วนมีประสบการณ์และความรู้ พวกเขาเข้าใจได้ทันทีว่าซุยเฮ็งหมายถึงอะไร และใบหน้าของพวกเขาก็ซีดลง
นี่เป็นการจำคุกหนึ่งพันปี!
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาก็ยังต้องทำหน้าที่เป็นเครื่องมือสำหรับสนามฝึกและจะต้องถูกทุบตีอย่างบ้าคลั่ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เฒ่าอย่างซุนกวงจ้าว เขารู้สึกสิ้นหวังมากยิ่งกว่าใคร
เขามีมายุ 4,300 ปีแล้ว และในอีกไม่กี่ร้อยปี เขาก็จะถึงขีดจำกัดอายุขัยแล้ว
นี่หมายความว่าเขากำลังจะตายด้วยวัยชราในดาวเทียนจู
“ ท่านประมุขเซียน ข้า…” ซุนกวงจ้าวฝืนยิ้ม เขาอ้าปากอยากจะร้องขอความเมตตา แต่เขาก็กลืนคำพูดของเขากลับไป
เขาไม่กล้าพูดจริงๆ
พูดตามตรง การลงโทษที่เขาได้รับในตอนนี้ก็ถือว่าผ่อนปรนแล้ว
หากเขาขัดขวางเรือเหาะของปราชญ์ปกติ พวกเขาก็คงจะตายกันไปนานแล้ว
ตอนนี้เป็นเพียงการจำคุกหนึ่งพันปีเท่านั้น
แม้แต่การตายด้วยวัยชราบนดาวที่รกร้างดวงนี้ก็ยังดีกว่าการถูกฆ่าตายโดยตรง
ประมุขเซียนผู้นี้มีเมตตากรุณาจริงๆ
สีหน้าของอีกฝ่ายยังคงเปลี่ยนไป ในไม่ช้า ความกลัวและความไม่เต็มใจในตอนแรกของพวกเขาก็กลายเป็นความสุขและความกตัญญู
ทันทีหลังจากนั้น พวกเขาก็ได้โค้งคำนับให้ซุยเฮ็งและขอบคุณเขา
“ ขอบพระคุณท่านประมุขเซียน!”
“ ขอบพระคุณท่านประมุขเซียน!”
“ ขอบพระคุณท่านประมุขเซียน!”
การกระทำของพวกเขาทำให้เกิดปรากฏการณ์ขนาดใหญ่
แม้แต่ในความว่างเปล่าของจักรวาล สายธารสีทองแห่งแสงและเมฆาสีแดงก็ยังคงลอยปรากฏอยู่ทุกทิศทุกทาง
ทั้งหมดนี้เป็นกฎแห่งพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ตรึงอยู่บนกายาเซียนของพวกเขา เมื่ออารมณ์ของพวกเขาเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง พวกเขาก็จะกระตุ้นกฎและปรากฏการณ์รอบตัวได้
ซุยเฮ็งมองไปที่ปรากฏการณ์และอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจในใจ
มันไม่ง่ายเลยที่จะบังคับพลังแห่งกฎ ยิ่งไปกว่านั้น กระบวนการนี้ก็ยังอันตรายเป็นอย่างยิ่ง หากมีความผิดพลาดแม้เพียงเล็กน้อย ร่างกายและจิตวิญญาณของคนๆ หนึ่งก็อาจถูกทำลายลงได้
เซียนอนันต์ทองทุกคนเคยประสบกับความเป็นและความตายมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว
อย่างไรก็ตาม ด้วยเคล็ดวิชาของพวกเขา การทำงานหนักและความสำเร็จทั้งหมดของพวกเขาจึงถูกใช้โดยคนอื่น
ถึงอย่างนั้น ซุยเฮ็งก็ไม่ใช่คนที่มีอารมณ์อ่อนไหวง่าย หลังจากถอนหายใจเล็กน้อย เขาก็หันไปมองเทพดวงดาวเทียนจูที่อยู่ข้างหลังเขาและพูดว่า “ เทพดวงดาวเทียนจู จากนี้ไปเจ้าจะเป็นผู้ปกครองดาวเทียนจูและจะต้องปกป้องท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวนี้เพื่อข้า”
“ ถ้าใครกล้ามาที่นี่เพื่อทำเรื่องชั่ว เจ้าก็จงจับตัวพวกมันและสอบสวนถึงเจตนาของพวกมันก่อนที่จะปราบปรามพวกมันลง หากพวกมันขัดขืนอย่างรุนแรง เจ้าก็สามารถฆ่าพวกมันได้เลย”
“ อีกไม่กี่วันข้าจะกลับมาที่นี่อีกครั้ง และเมื่อถึงเวลานั้น ข้าก็จะให้เรือเหาะแก่เจ้า ในอนาคตผู้คนจะมาจากดาวเต๋าโจวเพื่อเข้ารับการทดสอบเพื่อเอาชนะเซียนอนันต์ทองบนดาวดวงนี้”
“ หลังจากผ่านการทดสอบแล้ว พวกเขาก็จะสามารถรับเรือเหาะจากเจ้าและออกเดินทางไปยังดินแดนภายนอกได้”
“ ข้าเข้าใจแล้วท่านเซียนผู้สูงส่ง!” เทพดวงดาวเทียนจูโค้งคำนับและพยักหน้าด้วยความเคารพ
“ ท่านประมุขเซียน แล้วเรือเหาะขนาดใหญ่เหล่านี้ล่ะ?” หลี่เฉิงอดไม่ได้ที่จะถาม ในเวลาเดียวกัน เขาก็ชี้ไปที่เรือเหาะขนาดใหญ่ทั้ง 13 ลำ
“พวกมันจะถูกใช้เป็นเครื่องมือนำทางของเราเพื่อออกจากท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวและมุ่งหน้าตรงสู่อาณาจักรห้าทัศนะ” ซุยเฮ็งยิ้ม จากนั้นเขาก็ยกมือขวาขึ้นและชี้ไปที่เรือเหาะขนาดใหญ่ทั้ง 13 ลำ
เรือเหาะขนาดใหญ่ทั้ง 13 ลำสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงและแตกกระจายออกเป็นเศษเล็กเศษน้อยอย่างรวดเร็ว
ทันทีหลังจากนั้น ชิ้นส่วนจำนวนนับไม่ถ้วนและวัสดุพื้นฐานก็เริ่มเชื่อมต่อกันและประกอบเข้าด้วยกันอีกครั้ง
ในเวลาเดียวกัน อนุภาคพื้นฐานจำนวนนับไม่ถ้วนก็รวมตัวกันจากทุกทิศทุกทาง มันกลั่นตัวเป็นวัสดุใหม่และรวมตัวกัน
ในชั่วพริบตา เรือเหาะลำมหึมาที่สร้างขึ้นมาจากเรือเหาะขนาดใหญ่ 13 ลำก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน
มันยาว 3,000 ลี้ กว้าง 1,000 ลี้ และสูงมากกว่า 300 ลี้ มันเป็นเหมือนกับป้อมปราการขนาดใหญ่
มันเกินกว่าแนวคิดของเรือเหาะไปโดยสิ้นเชิง
“ นี่.. นี่คือเรือเหาะหรอ!” หลี่เฉิงตกตะลึง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved