โจวโจวและคนอื่นๆ ออกมาจากเมืองมหาอำนาจและนำราตรีประดับดาวไปยังชานเมืองที่ไม่มีใครอยู่ซึ่งอยู่ห่างออกไป 10 กิโลเมตร
พวกเขาเห็นมอนสเตอร์แห่งหมอกกว่า 70,000 ตัวอยู่ที่นี่ด้วย
“พวกเจ้าเหลือกันอยู่กี่ตัว?”
โจวโจวมองไปยังผู้เชี่ยวชาญระดับเหนือสามัญ 9 ตัวที่เป็นผู้นำและถาม
“รายงานท่านลอร์ด เมื่อพวกเราล่าถอยกลับมา มันมีทหารระดับเงินขาวและต่ำกว่านั้นกว่า 1,000 ตัวได้ถูกสังหารไป ทำให้พวกเราเหลือทหารอยู่ทั้งหมด 73,021 ตัว!”
ผู้นำมอนสเตอร์ระดับเหนือสามัญยืนขึ้นและกล่าวด้วยความเคารพ
โจวโจวพยักหน้ารับ
โชคดีที่ความสูญเสียไม่ได้มากมายนัก
หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เขาพามอนสเตอร์เหล่านี้ขึ้นไปบนราตรีประดับดาวและกลับไปยังดินแดนตะวันสาดแสงผ่านทางค่ายกลข้ามมิติ
…
15 นาทีต่อมา ณ เมืองตะวันสาดแสง
หลังจากโจวโจวและคนอื่นๆ กลับมาถึงแล้ว เขาก็บอกให้ไป่อี้พาทหารใหม่ไปเข้าร่วมกับกองทัพมอนสเตอร์ ส่วนเขาก็ตรงไปยังที่พักพิงของเทพีแห่งชีวิตเพื่อไปพบกับแครอล
…
ณ ที่พักพิงของเทพีแห่งชีวิต ในโถงภาวนา
“คาราวะท่านลอร์ด!”
แครอลกล่าวด้วยความเคารพ
“ข้ามาที่นี่เพื่ออยากจะชุบชีวิตใครบางคน”
โจวโจวตรงเข้าประเด็น
“ท่านลอร์ด ตามข้ามาได้เลย”
แครอลไม่ได้เสียเวลาและพาโจวโจวไปยังรูปปั้นของเทพีแห่งชีวิต
“ท่านลอร์ด โปรดนำสื่อกลางออกมาด้วยเจ้าค่ะ”
โจวโจวโบกมือขวาของเขา และโรงศพคริสตัลของหลี่ย่าก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของรูปปั้น
สีหน้าของแครอลเปลี่ยนเป็นจริงจัง
เธอชูคทาในมือขึ้นด้วยมือทั้งสองข้าง หลับตาลง และพึมพำบางสิ่ง
ทันใดนั้นแรงกดดันที่มองไม่เห็นก็ปรากฏขึ้นรอบตัวของเธอ
มันคือแรงกดดันจากจิตวิญญาณเทพเจ้า!
นี่เป็นครั้งที่สองที่โจวโจวได้สัมผัสกับมัน ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ตื่นตระหนก
หวือ!
พื้นผิวของรูปปั้นเทพีแห่งชีวิตเปล่งแสงสีทองที่อ่อนโยนและเข้มข้นออกมา แสงสีทองนี้ปกคลุมไปทั่วทั้งวิหารอย่างรวดเร็ว
สิ่งที่มาพร้อมกับแสงสีทองคือแรงกดดันที่รุนแรงอย่างยิ่งของกฎเกณฑ์แห่งจิตวิญญาณเทพเจ้า
ใบหน้าของโจวโจวค่อยๆ ซีดลงภายใต้แรงกดดันของกฎเกณฑ์แห่งจิตวิญญาณเทพเจ้า
เขาระงับความรู้สึกไม่สบายและลดศีรษะลง
ในเวลาเดียวกัน เขาก็ไม่รู้ว่ามันเป็นภาพลวงตาหรือไม่
โจวโจวดูเหมือนจะรู้สึกได้ว่ารูปปั้นของเทพีแห่งชีวิตกำลังมองมาที่เขา
มันไม่มีเวลาให้คิดมากแล้ว
เขาแค่ต้องการให้พิธีชุบชีวิตนี้สำเร็จลุล่วงเท่านั้น
…
หลังจากผ่านไปนาน ในที่สุดเจตจำนงของจิตวิญญาณเทพเจ้าอันน่าพรั่นพรึงก็หายไปจากการรับรู้ของโจวโจว
ในทันทีที่เจตจำนงนี้หายไป แสงสีทองที่ปกคลุมทั้งที่พักพิงก็หายไปด้วย
“ท่านลอร์ด มันเสร็จแล้ว”
เสียงของแครอลดังขึ้น
โจวโจวเงยหน้าขึ้นและตรงเข้าไปประคองแครอลที่มีสีหน้าซีดเซียวในทันที
“เจ้าเป็นยังไงบ้าง?”
“ท่านลอร์ดไม่ต้องห่วง ข้าอยู่ในระดับเหนือสามัญขั้นต้นแล้ว แม้ว่ามันจะยังยากอยู่เล็กน้อยที่จะใช้คาถาชุบชีวิตขั้นสูง แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อข้ามากอีกแล้วเจ้าค่ะ”
แครอลยิ้ม
โจวโจวสัมผัสได้ถึงสภาพร่างกายของเธอ
เขาถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเมื่อเขาตระหนักได้ว่าเธอแค่ใช้พลังงานไปเป็นจำนวนมาก แต่ร่างกายของเธอนั้นยังปกติดีอยู่
“ดีจริงๆ ที่เธอไม่เป็นอะไร”
โจวโจวยิ้มและพยักหน้า เขาคลายมือออกจากอีกฝ่าย
ร่องรอยของความผิดหวังส่องประกายผ่านสายตาของแครอล จากนั้นมันก็กลายเป็นรอยยิ้มที่อ่อนโยนทันที
“ไปดูเธอก่อนเถอะ เธอน่าจะไม่เป็นอะไรแล้ว”
แครอลยิ้ม
โจวโจวพยักหน้าและหันกลับไปเห็นหลี่ย่าที่กำลังมองมาที่พวกเขา
“...โจวโจว เกิดอะไรขึ้น? ข้า… ตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ?”
สีหน้าของหลี่ย่ากลับเป็นปกติอย่างรวดเร็ว เธอแตะหลังของเธอและถามด้วยความประหลาดใจ
เธอจำได้ว่าเธอได้กลับไปยังเมืองหลวงพร้อมกับหอคอยออโรร่าระดับเพชรขั้นต้นและกำลังจะกลับไปยังวังเพื่อบอกพ่อของเธอถึงข่าวดีนี้ แต่จู่ๆ เธอก็รู้สึกเย็นวาบไปถึงกระดูกสันหลัง จากนั้นเธอก็เห็นมีดสั้นเสียบทะลุหัวใจของเธอและปรากฏขึ้นตรงหน้าของเธอ จากนั้นเธอก็หมดสติไป
พูดตามหลักการแล้ว เธอก็ควรจะตายไปแล้วหนิ?
ทำไมเธอถึงยังมีชีวิตอยู่?
“ข้าจะเล่าให้เจ้าฟังอย่างช้าๆ นะ”
โจวโจวเดินมาหาเธอและใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงในการเล่าทุกสิ่งให้เธอฟัง
แน่นอนว่ามันก็มีบางสิ่งที่ถือว่าเป็นความลับของเขาซึ่งเขาไม่ได้เล่าให้ใครฟัง
“...แม้ว่าวิกฤตในอาณาจักรออโรร่าจะยังคงอยู่ แต่มันก็ไม่ได้อันตรายเท่าเดิมแล้ว”
โจวโจวพูดจนจบ
หลี่ย่าดูสับสน
เธอไม่คาดคิดเลย
มันมีหลายสิ่งเกิดขึ้นขนาดนี้เลยเหรอในเวลาแค่ 2 วัน?
อาณาจักรออโรร่าเกือบจะถูกทำลายโดยอาณาจักรทาฮันงั้นเหรอ?
และพ่อของเธอก็จะยกทั้งอาณาจักรให้กับโจวโจวเพื่อช่วยชุบชีวิตเธองั้นเหรอ?
บางที… พ่อของเธออาจจะเหนื่อยมากแล้วจริงๆ…
นี่อาจจะเป็นสิ่งที่ดีกับทั้งพ่อของเธอและโจวโจวก็ได้
ความคิดเช่นนี้ปรากฏขึ้นในใจของหลี่ย่าอย่างกะทันหัน
“ขอบคุณมาก หลี่ย่าจะตอบแทนท่านแน่ๆ ในอนาคต แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าจะตอบแทนท่านยังไงดี แต่หลี่ย่าก็ไม่ใช่คนอกตัญญู… โจวโจว ข้าอยากกลับไปเจอท่านพ่อหน่อยได้ไหม?”
หลี่ย่าพูดออกมาไม่หยุด
พูดตามหลักแล้ว เธอควรจะอยู่ที่นี่และขอบคุณโจวโจวก่อนเพราะเธอเพิ่งถูกเขาชุบชีวิตมา
อย่างไรก็ตาม เธอก็อยากจะกลับไปเจอกับพ่อของเธอผู้ทำทุกอย่างเพื่อเธอจริงๆ
“ได้สิ ข้าจะให้ลูกน้องระดับเหนือสามัญและราตรีประดับดาวไปส่งเจ้าเดี๋ยวนี้แหละ ฝ่าบาทน่าจะยังบัญชาการศึกอยู่ในเมืองมหาอำนาจ ถ้าเจ้าไปถึงที่นั่นก็คงจะมีคนพาไปหาพ่อของเจ้าเอง”
โจวโจวตกลงโดยไม่ลังเล
“ขอบคุณมากนะโจวโจว”
ริมฝีปากของหลี่ย่าขยับและเธอก็พูดด้วยเสียงแหบแห้ง
เธอรู้สึกว่าเธอติดหนี้บุญคุณโจวโจวมากเลย
อึดใจต่อมา เธอก็รู้สึกได้ถึงมืออันอบอุ่นที่กำลังแตะที่ศีรษะของเธอและถูมันอย่างอ่อนโยน
“ไม่เอาน่า พวกเราเป็นเพื่อนกันนะ”
โจวโจวยิ้มและเรียกคนเข้ามาจัดการต่อ
หลังจากจัดการทุกอย่างจนเสร็จแล้ว หลี่ย่าก็กล่าวลาโจวโจวไปแบบไม่เต็มใจเท่าไร
โจวโจวไม่ได้พูดอะไรอีก เขาได้ตรงไปยังประตูอัญเชิญและทำการอัญเชิญสำหรับวันนี้
[ท่านต้องการอัญเชิญหรือไม่?]
“ต้องการ!”
โจวโจวมองไปยังประตูอัญเชิญตรงหน้าของเขา และอึดใจต่อมา ประตูอัญเชิญก็เปล่งแสงสีขาวเจิดจ้า จากนั้นก็มีลูกน้องเป็นจำนวนมากเดินออกมา
ประตูอัญเชิญที่ถูกอัพเกรดแล้วมีขนาดใหญ่ขึ้นมาก ดังนั้นมันจึงใช้เวลาไม่ถึง 15 นาทีก็ทำให้ลูกน้องใหม่ 1,425 คนเดินออกมาจนครบ
“คาราวะท่านลอร์ด!” x1,425
ลูกน้องใหม่ 1,425 คนกล่าวด้วยความเคารพ
“ยินดีต้อนรับสู่เมืองตะวันสาดแสง”
โจวโจวพยักหน้า
จากนั้นเขาก็บอกให้ผู้เชี่ยวชาญทุกคนยืนขึ้นและตระหนักได้ว่าเขาได้อัญเชิญผู้เชี่ยวชาญออกมาถึง 85 คนในคราวนี้!
มันมีผู้เชี่ยวชาญมากกว่าปกติถึง 30 คน!
โจวโจวพึงพอใจกับสิ่งนี้มาก จากนั้นเขาก็เริ่มตรวจสอบข้อมูลของผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้
ในจำนวนผู้เชี่ยวชาญ 85 คน มันมีสถาปนิกระดับแพลตตินั่มขาวขั้นต้น 1 คน ทหารม้าระดับแพลตตินั่มขาวขั้นต้น 1 คน นักธนูระดับแพลตตินั่มขาวขั้นต้น 1 คน พ่อค้าระดับแพลตตินั่มขาวขั้นต้น 1 คน และนักฝึกสัตว์ระดับแพลตตินั่มขาวขั้นต้น 1 คน!
ส่วนที่เหลือก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในสายอาชีพและสายต่อสู้ที่อยู่ต่ำกว่าระดับทองคำเหลืองลงมา
โจวโจวมองไปยังผู้เชี่ยวชาญระดับแพลตตินั่มขาวขั้นต้น 5 คนด้วยสีหน้าพึงพอใจ
ในอดีต คนพวกนี้คงจะเป็นเหล่าผู้มีพรสวรรค์ที่ถูกดึงดูดมาด้วยคะแนนชื่อเสียงของเขา แต่ในตอนนี้ เขากลับอัญเชิญคนพวกนี้ออกมาได้ตรงๆ
สุดยอด!
เขาสงสัยเหลือเกินว่าผู้มีพรสวรรค์ที่ถูกดึงดูดมาในวันนี้จะทำให้เขาประหลาดใจได้ไหม
มันคงจะไร้ความหมายถ้ามีผู้มีพรสวรรค์ระดับแพลตตินั่มขาวปรากฏตัวขึ้นมาอีก