ตอนที่ 300 แท่นเทเลพอร์ตระยะไกลเสร็จสิ้น

"นี้คือสัตว์เลี้ยงของเจ้างั้นเหรอ"

หลิน ยู มองไปยัง ยูนิคอร์น ของ เหว่ย กัง อย่างอยากรู้อยากเห็น และข้อมูลของมันก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา

ค่าสถานะของมันเทียบเท่ากับมอนสเตอร์ระดับ 6 ทั่วไป แต่คำต่อท้ายเปลี่ยนจากมอนสเตอร์มาเป็นสัตว์อสูร ความแตกต่างอื่นๆก็ไม่ต่างกันมากนัก

เมื่อเห็นแบบนี้ หลิน ยู ก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

หลังจากนั้นเขามองไปรูปปั้นที่อยู่ใจกลางจัตุรัส เขาหยิบเอาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ดินแดนที่เพิ่งได้รับออกมาจากกระเป๋ามิติของเขา

ทันใดนั้นแสงสว่างก็ สาดส่องไปทั่วบริเวณโดยรอบในทันที

"นายท่าน นั้นคือ"

เหว่ย กัง และลูกน้องของเขามองยังวัตถุศักดิ์สิทธิ์ดินแดนที่อยู่ในมือของ หลิน ยู ด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง

แม้ว่าเหล่าผู้คนที่อยู่รอบๆ พวกเขาก็แสดงความหวาดกลัวออกมา

จากนั้นภายใต้สายตาที่จับจ้องของพวกเขา หลิน ยู นำวัตถุศักดิ์สิทธิ์ดินแดนไปยังรูปปั้นและค่อยๆยื่นมันออกไป

[ท่านต้องการแทนที่วัตถุศักดิ์สิทธิ์ดินแดนการเติบโตอันบ้าคลั่งด้วยวัตถุศักดิ์สิทธิ์ดินแดน "การอัญเชิญที่ไม่มีที่สิ้นสุด" หรือไม่]

[เมื่อแทนที่แล้ววัตถุศักดิ์สิทธิ์ดินแดนอันเก่าจะหายไป ขอท่านโปรดพิจารณาให้ดี]

"แทนที่"

หลิน ยู ตอบโดยไม่ลังเล

จากนั้นวัตถุศักดิ์สิทธิ์ดินแดนที่อยู่ในมือของเขาก็ส่องแสงเจิดจ้าออกมา ค่อยๆลอยขึ้นไปบนอากาศ

กลายเป็นแสงสว่างผสานเข้ากับรูปปั้นของราชัน

ในวินาทีต่อมา

ลมหายใจแห่งธรรมชาติที่มีความเข้มข้นซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่รูปปั้นก็พุ่งออกมาไปเป็นประกายสีเขียวมรกตที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าแผ่กระจายออกไปยังบริเวณรอบๆเมืองหวงซา แม้แต่ด้านนอกชายป่าก็ยังรู้สึกได้

แม้กระทั่งบนท้องฟ้า เหล่ามังกรพืชที่ติดตามเขามาอย่างใกล้ชิด ก็ยังส่องประกายสีเขียวกระจายลงมา

เกิดเป็นภาพที่ยิ่งใหญ่ราวกับปาฏิหาริย์

"กร๊าสสส"

เสียงคำรามของเหล่าสัตว์อสูรแต่ละตัวทั้งด้านในและด้านนอกของเมืองหวงซา

แม้แต่ ยูนิคอร์น ของ เหว่ย กัง ก็แหงนหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้าคำรามออกมาเสียงดังลั่น ราวกับร่างกายของมันได้รับพลังบางอย่าง ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

มันถูกยกระดับขึ้นเป็นขั้นปลายของระดับ 6 ในทันที

"นี้มัน..!!"

เหว่ย กัง อ้าปากค้าง มองดูการเปลี่ยนนี้ด้วยความอยากจะเชื่อ

สัตว์อสูรนของเขาที่เพิ่งอยู่ระดับกลางของระดับ 6 ทำไมจู่ๆ พลังของมันถึงได้เพิ่มขึ้นขนาดนั้น

หรือว่าจะเป็นเพราะวัตถุศักดิ์สิทธิ์ดินแดนที่นายท่านเพิ่งเปลี่ยนไป?แต่

แต่ความสามารถแข็งแกร่งเกินไปหรือไม่?

เหล่าผู้ฝึกฝนสัตว์อสูรในเมืองก็ตกใจมากด้วยเช่นกัน

แม้ว่าความแข็งแกร่งของพวกเขาเองจะเทียบไม่ได้กับผู้ฝึกตนที่อยู่ในระดับเดียวกันแต่พวกเขาก็สามารถต่อสู้ด้วยสัตว์อสูรได้

เมื่อวัตถุศักดิ์สิทธิ์ดินแดนถูกเปลี่ยนแล้ว ความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรก็เพิ่มขึ้น ทำให้พวกเขาตกตะลึงไปในทันที จากนั้นพวกเขาก็เต็มไปด้วยความสุขในทันที รีบมุ่งหน้าไปยังทิศทางของจัตุรัส

"เอาละ พวกเจ้ากลับไปลาดตะเวนต่อได้แล้ว ข้าจะกลับก่อน"

หลิน ยู ไม่ได้อยู่ในจัตุรัสต่อ

หลังจากอธิบานความสามารถของวัตถุศักดิ์สิทธิ์ดินแดนชิ้นใหม่ให้กับเหว่ย กัง และคนอื่นๆ ได้ฟัง เขาก็ขี่มังกรราชาปิศาจ กลับไปยังดินแดนทันทีโดยทิ้งผู้คนด้านล่างที่กำลังตกตะลึงไว้อยู่เบื้องหลัง

ในไม่ช้าเขาก็ได้มายังใต้ต้นไม้โลกเพื่อตรวจสอบข้อมูลของวัตถุศักดิ์สิทธิ์ดินแดน

จากตอนที่เขาได้พูดคุยกับ ซ่งเหล่ย ก่อนหน้านี้ เขาได้ถามเกี่ยวกับวัตถุศักดิ์สิทธิ์ดินแดนและความพรสวรรค์แห่งเผ่าพันธุ์ที่อยู่ในไหมมิติต้นกำเนิด

จากข้อมูลของ ซ่งเหล่ย

หลังจากที่มิติต้นกำเนิดของแต่ละระดับเต็ม

วัตถุศักดิ์สิทธิ์ดินแดนจะแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น 10% พรสวรรค์แห่งเผ่าพันธุ์ก็จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าทันทีโดยจะสะสมในแต่ละขั้น

ยกตัวอย่างเช่น หลังจากที่มิติต้นกำเนิดระดับ 7 ขยายออกจนถึง 100 เมตร

วัตถุศักดิ์สิทธิ์ดินแดนของเขาจะเพิ่มค่าสถานะสูงขึ้นถึง 33% และพรสวรรค์แห่งเผ่าพันธ์ุของเขาจะเพิ่มขึ้นสูงถึง 4%

อย่าดูถูกการเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยนี้ ยิ่งค่าสถานะพื้นฐานของทหารสูงขึ้นเท่าไร การเพิ่มขึ้น 1% มันก็มีค่ามหาศาลมากแล้ว

หากผลของการเพิ่มขึ้นนี้สะสม

ยิ่งเขาจุดสิ้นสุดมากขึ้นเท่าไร ช่องว่างในแต่ละระดับก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเรื่องยากที่ราชันระดับต่ำจะแข่งขันกับราชันระดับสูง

สิ่งเดียวที่ หลิน ยู ไม่เข้าใจก็คือขนาดที่ใหญ่เป็นสองเท่าของมิติต้นกำเนิดของเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถาม ซ่งเหล่ย เกี่ยวกับเรื่องนี้

แต่คำตอบที่เขาได้รับคือไม่รู้ เพราะซ่งเหล่ยไม่เคยได้ยินว่าใครมีมิติต้นกำเนิดที่เกิดขีดจำกัดในระดับของปัจจุบัน

อืม

ดูเหมือนเขาต้องตรวจสอบมันในภายหลัง

"แน่นอนว่า เจ้าพวกที่ออกแบบสิ่งนี้คงไม่ได้ทำอะไรสู่มสี่สู่มห้าแน่นอน"

หลิน ยู ก็ไม่ได้ที่สบถออกมาภายในใจ

เขาไม่รู้ว่าสิ่งนี้มาจากไหน เขาถามใครก็ไม่รู้ซักคน

เดิมทีมิติต้นกำเนิดของเขามีขนาดเพียงแค่ 30 เมตร เท่านั้นเมื่อคำนวนจากอัตราส่วนของพรสวรรค์แห่งเผ่าพันธุ์ มันน่าจะได้ 3%

ลืมมันไปก่อนก็แล้วกัน มาดูความสามารถของวัตถุศักดิ์สิทธิ์ดินแดนกันก่อน

หลังจากที่ละทิ้งความคิดที่วุ่นวาย หลิน ยู ก็ยังพื้นที่โล่งเพื่อตรวจสอบค่าสถานะของทหารขยายพันธ์กับทหารที่อัญเชิญตัวอื่นๆ

หลังจากที่เปลี่ยนวัตถุศักดิ์สิทธิ์ดินแดนแล้ว

ออร่าที่เพิ่มค่าสถานะในปัจจุบันของเขาทั้งหมด 10% มาจากหลิงซี 20 % มาจากชิ้นส่วนเทวะ และ 15% มาจากวัตถุศักดิ์สิทธิ์ดินแดน

และบัพให้กับทหารอัญเชิญอีก 10%

การอัญเชิญทหารระดับแปดนั้นมีค่าสถานะเฉลี่ยอยู่ที่ 1750 มันเพิ่มไปถึง 2713 ทันที ซึ่งมากกว่าทหารระดับ 8 ทั่วไปซะอีก

ในกรณีของทหารพืชขยายพันธุ์  เนืองจากค่าสถานะของร่างหลักสูงกว่าอยู่แล้ว ค่าสถานะมันจึงเกือบที่จะถึง 3000 แต้มภายใต้บัพจากออร่าต่างๆ

ซึ่งเมื่อเทียบกับค่าสถานะของราชันคนอื่นๆด้วยบัพจากออร่าระดับ 8 แม้มันจะไม่สามารถจัดการกับมอนสเตอร์โกลาหลในระดับเดียวกันได้ แต่มันก็เปลี่ยนพอที่จะใช้เป็นเกาะป้องกันให้กับเป่า ปิงได้ อย่างน้อยมันก็คงไม่อ่อนแอจนเกินไป

สุดท้ายคือ พรสวรรค์แห่งเผ่าพันธุ์ของเผ่าพฤกษาคือเพิ่มความเร็วในการฟื้นฟูและเพิ่มค่าสถานะร่างกาย

ซึ่งมันเพิ่ม ความอึดและพลังชีวิตให้มากยิ่งขึ้น

อีกทั้งหลังจากที่เขาก้าวไปสู่ระดับ 8 แล้ว เขาก็จะปลดล๊อกคุณลักษณะอันที่สามของวัตถุศักดิ์สิทธิ์ดินแดนอีกด้วย

นั้นคือตอนนี้วัตถุศักดิ์สิทธิ์ดินแดนชิ้นนี้แข็งแกร่งที่สุด

หลังจากที่ได้ตรวจสอบข้อมูลหมดแล้วมันก็ทำให้ หลิน ยู พอใจอย่างมากในทันที เข้าเปิดหน้าต่างช่องแชทขึ้นมาและพักผ่อนข้างๆ รวมถึงแยกผลกำไรจากการล่ามอนสเตอร์ในวันนี้

"ฮ่าๆ วันนี้ข้าโชคดีเป้นบ้า ข้าได้วัตถุศักดิ์สิทธิ์ดินแดนของมอนสเตอร์ราชันบนภูมิภาคหลัก ค่าสถานะของมันเพิ่มขึ้นถึง 22%"

"แมร่ง! 22% มันมากขนาดนั้นเลยเหรอพี่ชาย ท่านจะขายมันเท่าไร ข้าจะให้ราคาสูงกับท่าน"

"มันก้แค่สมบัติเล็กๆ มีอะไรน่าอวดกัน"

"นั่นคือ โดยพื้นฐานราชันทุกคนที่มีวัตถุศักดิ์สิทธิ์ดินแดนในภายหลัง ค่าสถานะของพวกมันจะไม่แตกต่างกันมากนัก หากต้องการลดช่องว่างให้มากขึ้น เจ้าต้องไปดูที่ วัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพและพรสวรรค์แห่งเผ่าพันธุ์"

"วัตถุศักดิ์สิทธิ์ดินแดนของข้าเพิ่มค่าสถานะเพียงแค่ 18% เท่านั้นแถมมันจะไม่แข็งแกร่งไปมากกว่านี้อีกแล้ว"

"ตราบใดที่ราชันระดับ 8 คนนั้นอยู่มานานเท่าไร ดินแดนของเขาเป็นธรรมดาที่มีบัพเพิ่มค่าสถานะได้ถึง 50% เจ้ายังมีหนทางอีกยาวไกล

ภายในช่องแชท มักจะได้เห็นผู้คนที่ไม่ค่อยได้เห็นมากนัก หัวข้อแต่ละประเภทถูกพูดขึ้นมาอย่างต่อนเนื่อง"

แม้แต่ หลิน ยู ก็ยังกังวลเกี่ยวกับข้อมูลของราชันระดับ 8

โดยทั่วไปแล้ว ราชันระดับ 8 สามารถบัพเพิ่มค่าสถานะถึง 50% เลยงงั้นเหรอ

หลิน ยู ถึงกับตกตะลึงไปทั้งหัวใจ

นี้กับเท่าได้กับมอนสเตอร์โกลาหลระดับ C ขึ้นไป

แม้ว่าภูมิหลังของราชันคนนั้นจะแข็งแกร่งขนาดไหน แต่เมื่อเขาได้เห็นด้วยตาของพวกเอง เขาก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจไม่น้อย

ต้องรู้ก่อนว่า แม้แต่ตัวเขาเองก้ยังต้องอาศัยชิ้นส่วนเทวะเพื่อไปยังระดับนั้น

ราชันที่สามารถก้าวขึ้นสูงระดับ 8 ไม่มีใครที่เป็นคนอ่อนแอ

อย่างไรก้ตามหลิน ยู ไม่ได้กังวลอะไรมากนัก

เพราะหลังจากที่ก้าวขึ้นสู่ระดับ 8 เขาก็จะแข็งแกร่งขึ้นอีกมาก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งมอสชีวภาพ มันสามารถคัดลอกค่าสถานะของตัวตนระดับ 8 ได้ นั้นหมายความว่าค่าสถานะของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นไปสองเท่า ไปจนถึงระดับ 9 ในทันที

มันจะทำให้เขามีทหารที่เทียบระดับ 9 กว่าสองร้อยตัวเมื่อเขาก้าวไปสู่ระดับ 8!

เมื่อคำนวนจากจำนวนแก่นแท้ที่จำเป็นในการอัพเกรดทหาร ราชันระดับ 8 เหล่านั้นคงมีเพียงทหารระดับ 9 เพียง 10 กว่าตัวเท่านั้น

แม้ว่าคนเหล่านั้นจะมีภูมิหลังที่แข็งแกร่งและสมบัติมากกว่าที่เขามี แต่เขาไม่มีอะไรที่ต้องหวาดกลัวทั้งนั้น

ดังนั้น

การอัพเกรดไปยังระดับ 8 ใกล้เข้ามาแล้ว

"ดูเหมือนว่าพรุ่งนี้ข้าต้องไปที่เมืองหลักซินะ"

หลิน ยู ปิดหน้าหน้าต่างแชท ขณะที่พึมพำกับตัวเอง

ตอนนี้เขายังต้องการพลังความศรัทธาอีก 485 แต้มเลื่อนระดับ ตามอัตราพลังความศรัทธานี้ เขาจะได้รับพลังความศรัทธา 350 แต้มใน 10 วัน มันยังมีช่องว่างอยู่อีก 200 กว่าแต้ม

ถ้าจำไม่ผิดที่เมืองหลัก มีลูกแก้วพลังความศรัทธาระดับต่ำขายอยู่กว่าร้อยลูก ซึ่งราคาของมันคือคะแนนเกียรติยศ 50000 แต้ม สามารถแลกเปลี่ยนได้เพียงหนึ่งลูกต่อหนึ่งวัน

หลังจากที่เขาซื้อพิมพ์เขียวอู่เรือเหาะ เขาก็ยังเหลือคะแนนเกียรติยศอีกกว่า 120000 แต้ม

สามารถแลกเปลี่ยนพลังแห่งความศรัทธา 200 แต้ม มันจึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไรในการเลื่อนระดับภายใน 10 วัน

ดังนั้นสิ่งที่เขาต้องทำในตอนนี้คือการใช้เวลารวบรวมพลังเวทย์ในตอนนี้ จากนั้นก็อัญเชิญทหารระดับ 8 และกลายพันธุ์พวกมันเป็นจำนวนมากเพื่อเข้าสู่สนามรบหมื่นโลกระดับ 8

หลังจากที่ครุ่นคิดเรื่องนี้ หลิน ยู ก็ลุกขึ้นเดินขึ้นบรรไดบ้านต้นไม้กลับไปพักผ่อน

....

....

สองวันถัดมา

ณ แดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งด้านในและด้านนอก ไม่มีสมบัติหรือเหตุการณ์สำคัญใดๆ ที่น่าสนใจแม้แต่น้อย

โดยทั่วไป หลิน ยู จะไปยังภูมิภาคหลักของมอนสเตอร์เพื่อล่ามอนสเตอร์และราชันจากโลกอื่นในตอนกลางวัน และกลับมายังดินแดนเพื่อพักผ่อนในตอนกลางคืน

ในช่วงเวลานั้น เขายังนำอุปกรณ์ระดับ 8 ที่สร้างโดยเหล่าคนแคระมาเพื่อขายให้กับ หอการค้าชิงฟางเก่อ เพื่อรับเอาทรัพยากรกลับไป

จนกระทั่งเช้าวันสามการเดินทางของเขาได้ถูกขัดจังหวะด้วยเหตุการณ์หนึ่ง

นั้นคือ แท่นเทเลพอร์ตระยะไกลที่เดินทางไปยังอาณาจักรครแคระได้ถูกสร้างเสร็จสิ้นแล้ว

เป็นเวลาเช้าตรู่

หลิน ยู พา เซียวฉาง กุ้ย แล้วเหว่ย กัง ออกไปด้านนอกก่อนเวลาเพียงรอเผ่าคนแคระค้อนสงคราม

เบื้องหน้าของพวกเขาคือแท่นเทเลพอร์ทรงกลมขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่

เขาเห็นว่าด้านบนแท่นทั้งหมด มีอักษรรูนลักลับถูกสลักไว้อย่างหนาแน่น เชื่อมต่อเข้าด้วยกันกับแท่งคริสตัลเวทย์มนต์หลายสิบแท่น ซึ่งดูงดงามและลึกลับเป็นอย่างมาก

ทุกครั้งที่เหล่าคนแคระเปิดใช้งานแท่งคริสตัลเวทย์ แสงสว่างสีขาวเจิดจ้าก็จะสว่างขึ้นบน แท่นเทเลพอร์ตมันจะเริ่มส่งพลังงานไปยังแท่น

เมื่อเห็นแท่งคริสตัลเวทย์ ถูกเปิดใช้งานทีละอัน เซียวฉางกุ้ยและเหว่ย กัง ที่อยู่ด้านข้างก็ยิ่งตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น ด้วยความหวังที่จะแข็งแกร่งขึ้นของพวกเขา

"เหล่าเซียว ท่านคิดว่าอาณาเขตพวกเราจะเชื่อมต่อกับอาณาจักรคนแคระจริงๆหรือไม่?"

เหว่ย กังอดไม่ได้ที่จะถามออกมา

"มันน่าจะใช่ ข้าได้ยินมาจากนายท่านว่าสหายคนแคระของนายท่านได้กลายเป็นราชาแห่งอาณาจักรคนแคระแล้ว แท่นเทเลพอร์ตระยะไกลนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เขากลับมาเยี่ยมเยียนที่เผ่าบ่อยๆ"

"ราชาคนแคระ!!?"

ดวงตาของ เหว่ย กัง เบิกกว้างขึ้น

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เขารู้ว่าเหล่าคนแคระกำลังทำบางอย่าง แต่ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องที่ใหญ่โตขนาดนี้

นายท่านของพวกเขาเป็นสหายกับราชาคนแคระจริงๆงั้นเหรอ

หากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป เขาเกรงว่ามันต้องทำให้ทุกคนตกตะลึงอย่างแน่นอน

แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังตกตะลึงจนแทบจะพูดไม่ออก

เมื่อเห็นเช่นนี้ เซียว ฉางกุ้ย ก็รีบเตือนทันที "นายท่านได้บอกก่อนหน้านี้ว่าเรื่องควรเก็บไว้เป็นความลับ เจ้าคงจะรู้ดีซินะว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร"

"ไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่พูดอะไรออกไปแม้แต่น้อย ข้าเข้าใจดี" เหว่ย กัง พยักหน้าอย่างเคร่งขรึม

ด้วยการเขาเป็นผู้บัญชาการเมืองหวงซา มานาน ทำให้เขารู้ว่าอะไรควรพูดไม่ควรพูด

ตอนนี้เมืองหวงซาของพวกเขากำลังเติบโต การโอ้อวดมาเกินไปอาจไม่ใช่เรื่องดี

แม้ว่าเขาจะมีอุปกรณ์ระดับ 8 แต่เขาก็อ้างได้เพียงแค่ภายในอาณาเขตของเขานั้นมีช่างตีเหล็กระดับ 8 อยู่เพียงเท่านั้น

แม้ว่าคนเหล่านั้นจะรู้ว่ามีคนแคระอยู่ภายในอาณาเขตของเขา แต่พวกเขาก็ไม่คาดคิดว่าที่นี้จะเชื่อมต่อกับอาณาจักรคนแคระหรอก

ขณะที่กำลังพูด

ในที่สุดแท่งคริสเวทย์มนต์ที่อยู่เหนือแท่นเทเลพอร์ตระยะไกลก็ได้เปิดใช้งาน แสงสว่างที่พร่างพราวสว่างวาบขึ้น ส่องสว่างไปทั่วทั้งหุบเขา

จากนั้นพื้นที่ด้านหน้าก็บิดเบี้ยว

มากอร์น ผู้ซึ่งสวมชุดเกราะเทพเจ้าแห่งสงคราม พร้องกับกองกำลังคนแคระขนาดใหญ่ปรากฏตัวขึ้นบนแท่นเทเลพอร์ต!!

.....

ตอนนี้ VIP 6 (300-351) เปิดให้เข้าแล้วนะ

ติดตามได้ผ่านทาง Facebook : - นิยายแปลไทย