แค่พูดใครก็ทำได้ แต่เขาก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลอร์ดพวกนี้อยู่ที่ไหน
แม้ว่าเขาจะรู้ แต่เขาก็คงไม่กล้าบุกไปหาอีกฝ่ายอย่างผลีผลาม
เพราะด้วยความแข็งแกร่งของลอร์ดระดับแนวหน้า พวกมันก็อาจจะจัดการกับเขาได้อย่างง่ายดายเมื่อพวกมันเห็นลอร์ดหน้าไม่คุ้นปรากฏตัวขึ้น
“ฉันต้องรอโอกาสที่จะเป็นของฉัน และจากนั้นก็จะกระโจนทะยานออกไป”
เซี่ยงเสี่ยวป้าพึมพำกับตัวเอง
เขาไม่ใช่ลอร์ดโง่ๆ ที่จะกล้าออกไปข้างนอกเพียงเพราะเขามีความแข็งแกร่งเพียงเล็กน้อย
เขายังรู้ดีว่าวิธีการที่จะเป็นเหมือนกับเจ้าตะวันสาดแสงนั้นสามารถทำได้ยังไง
ความแตกต่างระหว่างเขาและเจ้าตะวันสาดแสงก็คือเขาทำได้เพียงบังคับตัวเองไม่ให้คิดถึงเรื่องนี้ มิฉะนั้นมันคงจะกระทบกับความมั่นใจของเขาเป็นแน่
…
ณ ดินแดนของเจ้าอุตสาหกรรมการทหาร
“เจ้าตะวันสาดแสงก่อตั้งพันธมิตรแห่งลอร์ดของตัวเองแล้วเหรอ”
เจ้าอุตสาหกรรมการทหารถอนหายใจออกมา
แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับเจ้าตะวันสาดแสงมากนัก แต่เขาก็รู้จากการโต้ตอบที่หายากเหล่านี้ว่าเขาเป็นคนฉลาดอย่างแน่นอน
คนฉลาดคงไม่มีทางต่อสู้เพียงลำพัง ดังนั้นเขาจึงคาดคิดถึงสิ่งนี้ไว้อยู่แล้ว
“เจ้าตะวันสาดแสงกลายเป็นลอร์ดอันดับหนึ่งของดาวเคราะห์สีน้ำเงินได้โดยไม่มีความช่วยเหลือของพันธมิตรแห่งลอร์ด เขาจะไปถึงระดับไหนได้กันถ้ามีความช่วยเหลือของพันธมิตรแห่งลอร์ดเพิ่มขึ้นมา?”
“ความคิดที่จะเป็นศัตรูกับคนแบบนี้ในอนาคต… ช่างน่าหงุดหงิดจริงๆ! ฉันอยากจะเข้าร่วมกับเขาจัง”
เจ้าอุตสาหกรรมการทหารยิ้มอย่างขมขื่น
…
ณ ดินแดนของเจ้าฟีนิกซ์เขียว
ปักษาเทวะที่สูงกว่า 300 เมตรซึ่งมีปีกสีเขียวราวกับท้องฟ้ากำลังยืนอยู่บนอาคารสูงและมองไปยังกระดานสนทนา
เธอคือเจ้าฟีนิกซ์เขียวที่เคยต่อสู้ร่วมกันกับโจวโจวบนสมรภูมิแห่งลอร์ด
ในเวลานี้ เธอกำลังสำแดงร่างเซียนฟีนิกซ์เขียวออกมา ชาวเมืองจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังบูชาเธอจากเบื้องล่าง ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความเคารพเทิดทูน
หลังจากที่เจ้าฟีนิกซ์เขียวได้แสดงความศักดิ์สิทธิ์ของเธอออกมาแบบนี้ในบางครั้ง เธอก็จะพบว่าชาวเมืองของเธอจะเพิ่มความภักดีที่มีต่อเธอ เมื่อเห็นเช่นนี้ เธอก็สำแดงร่างเซียนของเธอออกมาอยู่บ่อยๆ
อย่างไรก็ตาม ชาวเมืองก็เริ่มเคยชินกับมันแล้วเนื่องจากความถี่ที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม เธอก็ไม่เบื่อ
นี่เป็นเพราะเธอตระหนักได้ว่าสิ่งนี้จะค่อยๆ ปลุกมรดกของเผ่าพันธุ์ฟีนิกซ์เขียวในสายเลือดของเธอให้ตื่นขึ้นได้มากขึ้น
เธอค่อยๆ เริ่มเพลิดเพลินไปกับความรู้สึกที่แข็งแกร่งขึ้น ในเวลาต่อมา เธอก็ไม่สนใจมากนักเกี่ยวกับการเพิ่มความภักดีของชาวเมือง
“ในที่สุดเจ้าตะวันสาดแสงก็ก่อตั้งพันธมิตรแห่งลอร์ดของตัวเองแล้ว การคาดการณ์ก่อนหน้านี้ของฉันถูกต้องจริงๆ”
เจ้าฟีนิกซ์เขียวคิดกับตัวเองเมื่อเธอเห็นว่าเจ้าตะวันสาดแสงประกาศอะไรลงไปบนกระดานสนทนา
เหมือนอย่างเจ้าอุตสาหกรรมการทหาร เธอรู้สึกได้อยู่แล้วว่าเจ้าตะวันสาดแสงจะต้องก่อตั้งพันธมิตรแห่งลอร์ดของตัวเองแน่ๆ ในอนาคต
เธอรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยที่เห็นว่ามันเป็นจริงอย่างที่เธอคิด
มันเหมือนกับว่าเธอถูกหวยเลย
ไม่เหมือนกับลอร์ดคนอื่นๆ เมื่อลอร์ดคนอื่นๆ เห็นว่าเจ้าตะวันสาดแสงแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาจะเป็นกังวลไม่มากก็น้อยว่าเขาจะแข็งแกร่งเกินไปและมาเคาะประตูบ้านของพวกเขาในวันหนึ่ง แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกว่าเขาอยู่ไกลเกินไปและคงไม่สามารถทำแบบนั้นได้ในเวลาสั้นๆ แน่
อย่างไรก็ตาม เจ้าฟีนิกซ์เขียวก็ไม่คิดเช่นนั้นเลย นี่เป็นเพราะเธอหลงใหลกับความรู้สึกที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งของเธอและปลุกความสามารถของร่างเซียนฟีนิกซ์เขียว
เธอรู้สึกว่าเธอเหมือนกับกำลังอยู่ในการบ่มเพาะพลังในตำนาน
ซึ่งมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
เดิมทีร่างเซียนฟีนิกซ์เขียวของเธอก็มาจากโลกเซียนอยู่แล้ว เมื่อเธอเติบโตถึงขีดสุด เธอสามารถกลับไปยังโลกเซียนได้ด้วยความคิดเดียวเท่านั้น มันจะไม่เป็นปัญหาสำหรับเธอที่จะกลายเป็นเซียนเหมือนในตำนานได้เลย
เมื่อถึงเวลานั้น แม้แต่เซียนที่แท้จริงก็ยังจะต้องเรียกเธอว่าสหายเต๋า
มันเป็นเพราะความฝันนี้เองที่ค่อยๆ ทำให้เธอไม่สนใจสถานะของลอร์ดอีกต่อไป เธอสนใจเพียงวิธีเพิ่มความแข็งแกร่งและระดับสายเลือดของเธอให้เร็วขึ้นเท่านั้น
บางครั้งเธอยังรู้สึกว่าสถานะลอร์ดของเธอนั้นเป็นภาระในเส้นทางการฝึกตนด้วยซ้ำ
นั่นเป็นเพราะเธอมีความรู้สึกจางๆ ว่าถ้าเธอสามารถพัฒนาร่างกายอันบอบบางนี้ให้ถึงขีดสุดได้ พลังของร่างเซียนฟีนิกซ์เขียวก็น่าจะทำให้เธอหลุดพ้นพันธนาการทั้งปวงได้อย่างแท้จริง
เมื่อเวลานั้นมาถึง เธอก็ยังจะมีร่างเซียนฟีนิกซ์เขียวอยู่แม้ว่าเธอจะสูญเสียสถานะของเธอในฐานะลอร์ดไป
ในสถานะปัจจุบันของเธอ เธอไม่สนใจว่าเจ้าตะวันสาดแสงจะแข็งแกร่งแค่ไหน
ทันใดนั้นเอง เธอก็คิดถึงสิ่งที่เจ้าตะวันสาดแสงเพิ่งพูดออกมาและเกิดความคิดหนึ่งขึ้นมาในทันใด
“บางทีฉันอาจลองเป็นดินแดนรองดูก็ได้…”
เธอเริ่มพิจารณาอย่างจริงจังถึงความเป็นไปได้นี้
…
อีกด้านหนึ่ง หลังจากโจวโจวประกาศเรื่องทั้งหมดออกไปแล้ว เขาก็มองดูจำนวนสัญญาดินแดนบ่าวไพร่ที่เขามีอยู่ในตอนนี้
เขาพบว่าเขามีสัญญาดินแดนบ่าวไพร่ระดับเหล็กดำ 21,531 อัน ระดับบรอนซ์เขียว 295 อัน ระดับเงินขาว 56 อัน ระดับทองคำเหลือง 8 อัน และระดับแพลตตินั่มขาว 1 อัน!
ในจำนวนนี้ สัญญาดินแดนบ่าวไพร่ระดับเหล็กดำนั้นธรรมดาที่สุด แต่หลังจากขึ้นมาถึงสัญญาดินแดนบ่าวไพร่ระดับบรอนซ์เขียว จำนวนของมันก็จะลดลงในทันใด
ส่วนเหตุผลของมันนั้น ประการแรกมันก็เป็นเพราะตราบใดที่ลอร์ดเลื่อนอันดับสู่อันดับบรอนซ์เขียวขั้นต้น พวกเขาก็จะบรรลุเงื่อนไขพื้นฐานของกิจกรรมสมรภูมิสรรพเผ่าพันธุ์แล้ว ดังนั้นจึงมีลอร์ดหลายคนที่ไม่สนใจจะไต่อันดับต่อหลังจากมาถึงอันดับบรอนซ์เขียวแล้ว นี่ทำให้เกิดความแตกต่างจำนวนมากระหว่างจำนวนของสัญญาดินแดนบ่าวไพร่ทั้งสองระดับ
ประการที่สอง คะแนนการจัดอันดับในอันดับต่ำๆ นั้นมีค่ามาก และมันก็มีไอเท็มดีๆ มากมายให้แลกเปลี่ยน ดังนั้นจึงมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะเลือกไอเท็มที่ไร้ประโยชน์อย่างสัญญาดินแดนบ่าวไพร่ที่ไม่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวเองได้ในระยะเวลาสั้นๆ
ประการที่สาม ลอร์ดระดับแนวหน้าคนอื่นๆ เองก็รวบรวมสัญญาดินแดนบ่าวไพร่ไว้เองเพื่อสร้างพันธมิตรแห่งลอร์ดของตัวเองด้วย
ดังนั้นแม้ว่าจะมีลอร์ดเผ่าพันธุ์มนุษย์อยู่เป็นจำนวนมาก แต่โจวโจวก็ได้รับสัญญาดินแดนบ่าวไพร่มาแค่นี้เท่านั้น
นอกจากนี้…
“ลอร์ดส่วนใหญ่ที่ยังรอดชีวิตมาได้น่าจะมีดินแดนอยู่ในระดับบรอนซ์เขียวหรือกระทั่งระดับเงินขาวแล้ว สัญญาดินแดนบ่าวไพร่ระดับเหล็กดำพวกนี้จึงน่าจะเป็นของไร้ประโยชน์สำหรับลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม มันก็สามารถใช้กับลอร์ดดั้งเดิมบนทวีปจื้อเกาได้”
โจวโจวคิด
มันมีลอร์ดหน้าใหม่ปรากฏขึ้นในทวีปจื้อเกาอยู่ทุกวัน เขาจึงไม่กังวลว่าของสิ่งนี้จะไร้ประโยชน์
ในเวลานั้นเอง เขาก็รู้สึกได้ว่าเจ้าแผ่นดินอุดมสมบูรณ์ที่อยู่ข้างๆ เขานั้นบังเกิดความตื่นเต้นขึ้นมา
“ท่านลอร์ด! มีลอร์ดกว่าสองล้านคนที่อยากจะเข้าร่วมกับพันธมิตรแห่งลอร์ดที่ท่านก่อตั้งขึ้น! พระเจ้าช่วย จำนวนมากขนาดนี้ ถ้าพวกเราจะรับเข้ามาทั้งหมด แม้แต่พันธมิตรโลหิตมังกร สมาคมท่านเจ้า และพันธมิตรอุตสาหกรรมการทหารก็คงจะไม่สามารถเทียบชั้นกับพวกเราได้แน่ๆ และพวกเราจะกลายเป็นพันธมิตรแห่งลอร์ดที่แข็งแกร่งที่สุดของดาวเคราะห์สีน้ำเงินได้ในวันนี้เลย!”
เขาตื่นเต้นมาก
โจวโจวเลิกคิ้วขึ้นและรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ทำไมถึงมีลอร์ดมากมายขนาดนี้สนใจมาเป็นดินแดนรองของเขา?
เขาคิดว่าลอร์ดล้วนเป็นคนเกเรซะอีก
ในทันใดนั้นเอง เขาก็พบว่ามันมีการแจ้งมาจากรายชื่อเพื่อนของเขา
เขาเปิดมันขึ้นมาและเห็นข้อความจากเจ้าฟีนิกซ์เขียว
[เจ้าฟีนิกซ์เขียว: พี่ตะวันสาดแสง ฉันขอเข้าร่วมพันธมิตรแห่งลอร์ดด้วยได้ไหม? ฉันเองก็เป็นลอร์ดที่เชี่ยวชาญในสายอาชีพด้วยเหมืนกัน]
โจวโจว: “...”
[เจ้าตะวันสาดแสง: เดาสิว่าฉันเชื่อไหม?]
[เจ้าฟีนิกซ์เขียว: จริงนะ ฉันเพิ่งประกาศไปว่าดินแดนของฉันจะพัฒนาไปทางด้านสายอาชีพในอนาคต มันจึงมีเหตุผลมากเลยที่ฉันจะเรียกตัวเองว่าเป็นลอร์ดที่เชี่ยวชาญในสายอาชีพ ใช่ไหมล่ะ?]
โจวโจว “...”
จากนั้นทั้งสองคนก็คุยกันต่อสักพัก หลังจากโจวโจวยืนยันแล้วว่าอีกฝ่ายไม่ได้ล้อเล่นและอยากเข้าร่วมด้วยจริงๆ เขาก็ถามระดับดินแดนของอีกฝ่ายทันทีและส่งสัญญาดินแดนบ่าวไพร่ระดับเงินขาวไปให้กับเธอ
ก่อนหน้านี้เขาอาจเคยพูดว่าเขาต้องการรับสมัครลอร์ดที่เชี่ยวชาญด้านสายอาชีพ อย่างไรก็ตาม เขาก็ย่อมมีข้อยกเว้นสำหรับลอร์ดระดับแนวหน้าอย่างเจ้าฟีนิกซ์เขียว
โจวโจวยิ้มออกมาหลังจากที่พวกเขาสองคนลงนามในสัญญาดินแดนบ่าวไพร่กันอย่างเป็นทางการ
เขาไม่คิดเลยว่าจะมีเรื่องน่าประหลาดใจเช่นนี้เกิดขึ้นทันทีที่เขาก่อตั้งพันธมิตรแห่งลอร์ดของเขา
เขาสงสัยจริงๆ ว่าผลลัพธ์สุดท้ายของวันนี้จะเป็นเช่นไร?
โจวโจวคิดด้วยความคาดหวัง
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved