ตอนที่ 274 : ความสับสนของท่านจ้าวและนางพญามังกร!

“เจ้าอยากยอมรับข้าเป็นอาจารย์ของเจ้าจริงๆ เหรอ?”

ลั่วเฟิงมองลงมาที่อีกฝ่ายและถาม

“ขอรับๆ แต่ท่านลอร์ดบอกว่าข้าควรไปที่โรงฝึกในดินแดนก่อน…”

เขาดูลังเลขึ้นมาในทันใด

“ฮ่าๆๆ ทำไมเจ้าต้องยอมอ่อนข้อให้กับครูฝึกวรยุทธ์ที่ทำตามกฎทั่วไปด้วย! พวกมันเป็นแค่ไก่อ่อนแอฝูงหนึ่งเท่านั้น! ในแง่ของผู้ฝึกยุทธ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองตะวันสาดแสง มันก็คือข้า กระบี่ปีศาจโลหิต ลั่วเฟิง! การยอมรับข้าเป็นอาจารย์จะไม่เป็นปัญหาอะไรเลยกับเจ้า! ถ้าเจ้าไม่เชื่อข้า เจ้าก็ไปถามท่านลอร์ดดูได้!”

ลั่วเฟิงหยิ่งผยองมาก

แม้ว่าเขาจะต้องลอบคุ้มกันทีมทหารรับจ้างดับดาราในช่วงเวลานี้ แต่ความแข็งแกร่งของเขาก็ไม่ได้ลดลงเลยและมันกลับเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากด้วยซ้ำ!

เขาได้กลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับแพลตตินั่มขาวขั้นสูงแล้ว!

เขาอยู่ไม่ไกลจากการกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับเพชรขั้นต้นแล้ว!

แม้ว่าความแข็งแกร่งเช่นนี้จะไม่ได้แข็งแกร่งที่สุดในบรรดายอดฝีมืออีกหลายคนในดินแดน ยกตัวอย่างเช่น เนซาริโอ้และอู๋ซิน แต่เขาก็ถือได้ว่าเป็นผู้ฝึกยุทธ์อันดับหนึ่งในเมืองตะวันสาดแสง!

“ตกลงขอรับ! ข้าจะไปถามท่านลอร์ดเดี๋ยวนี้แหละ”

เซียวซวนพูดออกมาเมื่อเขาได้ยินเช่นนี้ จากนั้นเขาก็กลับไปหาโจวโจวทันที

“ลั่วเฟิงเหรอ? เจ้าอยากให้เขาเป็นอาจารย์ของเจ้างั้นเหรอ?”

โจวโจวประหลาดใจเล็กน้อย

เขาย่อมไม่ลืมลั่วเฟิงผู้นี้ แม้ว่าคนผู้นี้จะเกเรเล็กน้อย แต่ความภักดีของอีกฝ่ายก็ใช้ได้เลย

นอกจากนี้ ศักยภาพของอีกฝ่ายยังอยู่ในระดับเหนือสามัญขั้นกลางและความแข็งแกร่งของเขาก็สูงมาก เมื่อรวมกับประสบการณ์ของเขา อนาคตของเขาจึงสดใสมาก

เมื่อคิดได้เช่นนี้ อีกฝ่ายก็เหมาะจะเป็นอาจารย์ของเซียวซวนจริงๆ

เซียวซวนพยักหน้าด้วยความตื่นเต้นหลังจากโจวโจวเล่าความคิดของตนให้ฟัง จากนั้นเขาก็กล่าวลาโจวโจวและกลับไปหาลั่วเฟิงทันที

โจวโจวมองดูเขาจากไปและขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเขาคิดถึงความแข็งแกร่งระดับแพลตตินั่มขาวขั้นสูงของลั่วเฟิง

ความแข็งแกร่งระดับแพลตตินั่มขาวขั้นสูงถือได้ว่าเป็นขุมกำลังหลักในฝ่ายระดับอาณาจักรแล้ว มันไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไรในการปกป้องเซียวซวนใช่ไหม?

เขาคิดเกี่ยวกับมันแต่ก็ยังเป็นกังวลเล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงส่งคนไปเรียกซุนเฉียน นักฝึกสัตว์ระดับแพลตตินั่มขาวขั้นต้นมา และบอกให้อีกฝ่ายลอบส่งข้อความไปหาลั่วเฟิงเพื่อให้คอยปกป้องเซียวซวน

ในเวลาเดียวกัน เขาก็บอกให้ซุนเฉียนคอยปกป้องเซียวซวนจากในความมืด

แม้ว่าสัตว์เลี้ยงหลายๆ ประเภทของซุนเฉียนจะไม่ได้แข็งแกร่งมาก แต่ความสามารถในการเอาชีวิตรอดของพวกมันก็สูงกว่าลั่วเฟิงมาก

ด้วยการปกป้องนี้ การเติบโตของเซียวซวนก็ไม่น่าจะพบกับอันตรายอะไรในระหว่างนี้

โจวโจวย่อมเป็นกังวลเรื่องการปกป้องการเติบโตของสหายร่วมเผ่าพันธุ์คนนี้ที่มีศักยภาพระดับเทพแท้จริงขั้นสูง อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังรู้สึกว่านี่ยังไม่พอ

“หาทางอื่นเพิ่มน่าจะดีกว่า ในอนาคตฉันจะหาวิธีป้องกันตัวเองเพิ่มให้กับเซียวซวนอีก”

โจวโจวคิด

ถ้าลูกน้องที่มีศักยภาพระดับเทพแท้จริงขั้นสูงเช่นนี้ตายไปในระหว่างการเจริญเติบโต หัวใจของเขาก็คงจะเจ็บปวดเป็นแน่

ในเวลาเดียวกัน ลอร์ดบนกระดานสนทนาก็พบว่าโจวโจวได้เลื่อนอันดับขึ้นเป็นอันดับเทวะขั้นสูงแล้ว

ลอร์ดทุกคนตื่นเต้นมาก!

[พระเจ้าช่วย! ลอร์ดจากดาวเคราะห์สีน้ำเงินอย่างพวกเราสามารถไปถึงระดับสูงสุดบนการจัดอันดับสรรพเผ่าพันธุ์ได้จริงๆ เหรอ?? ฉันไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม???]

[พวกเราไม่น่าจะมองผิดนะถ้ามันไม่มีมนุษย์จากดาวเคราะห์สีน้ำเงินอื่นในจักรวาลนี้ หรือไม่มีเจ้าตะวันสาดแสงคนที่สองแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์จากดาวเคราะห์สีน้ำเงิน!]

[ทุกคน มองมาทางนี้หน่อย ฉันมีเรื่องจะประกาศ เจ้าตะวันสาดแสงคือพ่อของฉันเอง!]

[...ไร้สาระ]

[ไม่ใช่ว่าคนอื่นบอกว่าระดับสายเลือดของมนุษย์จากดาวเคราะห์สีน้ำเงินไม่ได้สูงเท่าไรเหรอ? ทำไมหนึ่งในพวกเราถึงไปถึงอันดับเทวะขั้นสูงได้?]

[ฉันสามารถพูดได้แค่ว่าเจ้าตะวันสาดแสงนั้นโคตรแข็งแกร่ง]

[เขาแค่โชคดี ถ้าฉันโชคดีและมีโอกาสแบบเจ้าตะวันสาดแสง ฉันคงทำได้ดีกว่าเขาอีก!]

[รายงานการชันสูตรของผู้โพสต์ก่อนหน้านี้ออกมาแล้ว ร่างกายทั้งหมดของเขาปวกเปียก และมีเพียงปากเท่านั้นที่เก่ง]

[มันยากขนาดนั้นเลยเหรอที่จะชมคนอื่นว่าเก่ง?]

[ไม่แปลกเลยที่เจ้าอัศวินไม่สามารถจัดการกับเจ้าตะวันสาดแสงได้แม้ว่าจะรวบรวมลอร์ดได้มากกว่า 100 คน เขาช่างแข็งแกร่งจริงๆ]

[นายคงต้องตั้งใจมากกว่านี้ถ้านายอยากจะจัดการกับเจ้าตะวันสาดแสง อย่าทำผิดพลาดแบบเดียวกันกับเจ้าอัศวิน ถ้าไม่มีการร่วมมือกันของลอร์ดมากกว่า 500 คนก็อย่าคิดลองดีกับเจ้าตะวันสาดแสงเลย]

[หรือในอนาคตพวกเราถูกลิขิตให้ต้องใช้ชีวิตอยู่ใต้ร่มเงาของเจ้าตะวันสาดแสงแล้ว?]

[เจ้าตะวันสาดแสง นายแอบส่องอยู่รึเปล่า? ฉันเป็นแฟนคลับของนายนะ! ฉันขอเป็นเพื่อนกับนายได้ไหม?]

ณ ดินแดนของท่านจ้าว

ท่านจ้าวลอยอยู่กลางอากาศโดยที่ร่างกายท่อนบนของเขาเปลือยเปล่าและมีหนังสัตว์สีเลือดเป็นวงกลมผูกติดอยู่ที่เอวของเขา

ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยรอยสลักสีแดงโลหิต เขามีเขามังกรบิดเกลียวสีม่วงคู่หนึ่งบนหัวของเขา และมีปีกมังกรสีแดงโลหิตคู่หนึ่งอยู่บนหลังของเขา

ในเวลานั้นเอง เขาก็ขมวดคิ้วในขณะที่เขามองดูการพูดคุยกันของลอร์ดบนกระดานสนทนา

จากนั้นเขาก็เปิดการจัดอันดับสรรพเผ่าพันธุ์ขึ้นมาและมองไปยังคำว่าเจ้าตะวันสาดแสงที่อยู่ในอันดับที่เก้า

“เขาเลื่อนอันดับขึ้นเป็นอันดับเทวะขั้นสูงแล้วจริงๆ เขาทำได้ยังไงกัน?”

เซี่ยงเสี่ยวป้าพึมพำ

เขามีความทะเยอทะยานอันใหญ่ยิ่งและจะไม่ถูกสิ่งภายนอกมาครอบงำง่ายๆ

อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังต้องเงียบไปเมื่อเขาเห็นอันดับของเจ้าตะวันสาดแสง

เขาคิดว่าพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับตำนานอย่างร่างปีศาจแห่งความตะกละของเขาแข็งแกร่งมากแล้ว

อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้แม้ว่าเขาจะพยายามอย่างเต็มที่ แต่เขาก็ยังรู้สึกว่ามันยากมากสำหรับเขาที่จะเข้าสู่อันดับเหนือสามัญ นับประสาอะไรกับอันดับเทวะ

เพราะพรสวรรค์แห่งลอร์ดของเขามีแนวโน้มที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งในการต่อสู้ส่วนตัวของเขา พรสวรรค์แห่งลอร์ดของเขาไม่ได้ทำให้เขาได้เปรียบเท่าไรในสถานที่อย่างสมรภูมิแห่งลอร์ดที่เป็นการทดสอบความแข็งแกร่งโดยรวมของลอร์ด

“ลอร์ดบนกระดานสนทนาพูดถูก แม้แต่พรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับเทวะก็ไม่อาจพาลอร์ดเผ่าพันธุ์มนุษย์จากดาวเคราะห์สีน้ำเงินทะยานขึ้นไปสู่อันดับเทวะขั้นสูงได้ เจ้าตะวันสาดแสงน่าจะใช้วิธีอื่นในการเพิ่มพลังรบของเขาในสมรภูมิแห่งลอร์ด ดีจริงๆ… ช่างเป็นคู่ต่อสู้ที่คู่ควรกับการต่อสู้จริงๆ!”

ดวงตาของเซี่ยงเสี่ยวป้าลุกโชนขึ้นด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้อีกครั้ง จากนั้นเขาก็มองไปยังทิศทางหนึ่ง

ในการรับรู้ของเขา มันมีมอนสเตอร์แห่งหมอกอันทรงพลังอยู่ในทิศทางนั้นที่มีระดับทองคำเหลืองแล้ว

ฆ่าและกินเนื้อมันให้หมด!

บางทีเขาอาจจะสามารถพึ่งพาร่างปีศาจแห่งความตะกละเพื่อได้รับความสามารถที่แข็งแกร่งขึ้นจากมันได้และร่นระยะห่างระหว่างเขากับเจ้าตะวันสาดแสงได้!

เมื่อคิดได้เช่นนี้ เขาก็กลายเป็นลำแสงสีเลือดและพุ่งเข้าหามอนสเตอร์แห่งหมอกทันที

ณ ตรงหน้ารังไวเวิร์น

นางพญามังกรเองก็เห็นอันดับล่าสุดของเจ้าตะวันสาดแสงและการพูดคุยกันของลอร์ดบนกระดานสนทนา

มันก็เหมือนกับท่านจ้าว

เธอเองก็อึ้งเมื่อเธอเห็นผลลัพธ์ของเจ้าตะวันสาดแสง

หมอนั่นไปถึงอันดับเทวะขั้นสูงได้ด้วยตัวเองจริงๆ?!

เธอได้ก่อตั้งพันธมิตรแห่งลอร์ดของเธอมาตั้งแต่ต้น แต่เธอก็ยังติดอยู่ที่อันดับเพชรเท่านั้น เธอไม่อาจก้าวหน้าไปมากกว่านี้ได้เลย

เธอกำลังทำอะไรอยู่? มันมีความหมายจริงๆ เหรอ?

นางพญามังกรคิดอย่างว่างเปล่า

ณ วิหารอัศวิน

อัศวินอุกกาบาตสีเงินร็อบกำลังนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น

เขาเพิ่งไปต่อสู้ในขุมนรกมาและแทบจะหมดแรง แต่เขาก็ยังยิ้มได้อยู่

“มันสนุกจริงๆ ที่ได้ฆ่าพวกมัน!”

เขาถอนหายใจออกมา

มันมีศัตรูไม่มากนักบนทวีปจื้อเกาที่สามารถทำให้เขาโจมตีด้วยพลังทั้งหมดที่มีได้อย่างไม่เกรงกลัว

มีแค่สถานที่อย่างขุมนรกเท่านั้นที่เป็นโลกของศัตรูซึ่งสามารถทำให้เขาสามารถต่อสู้ได้อย่างมีความสุขเช่นนี้

“เจ้าได้ยินรึยัง? ลอร์ดเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้ทะยานขึ้นสู่อันดับเทวะขั้นสูงในกิจกรรมสรรพเผ่าพันธุ์ที่ถูกจัดขึ้นโดยเจตจำนงสูงสุดแล้ว!”

“บ้าเอ้ย โคตรสุดยอด? มันเป็นลอร์ดเผ่าพันธุ์มนุษย์จากไหนกัน?”

“ข้าคิดว่ามันน่าจะเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์จากดาวเคราะห์สีน้ำเงินนะ”

“เผ่าพันธุ์มนุษย์จากดาวเคราะห์สีน้ำเงินเหรอ? มันมีมนุษย์ที่สุดยอดแบบนั้นอยู่ด้วยเหรอ?”

“ข้าก็จำไม่ได้เหมือนกัน”

“ข้าก็เหมือนกัน”

“แล้วเจ้าตะวันสาดแสงผู้นี้มาจากไหนกัน?”

เมื่อร็อบได้ยินครั้งแรก หูของเขาก็ผึ่ง

แต่เมื่อเขาได้ยินชื่อของเจ้าตะวันสาดแสง เขาก็ลุกขึ้นในทันที

“เผ่าพันธุ์มนุษย์จากดาวเคราะห์สีน้ำเงินงั้นเหรอ?! เจ้าตะวันสาดแสง!? เขาไปถึงอันดับเทวะขั้นสูงแล้วเหรอ?! หรือว่าเขาจะใช้พลังนั้นอีก?”

ร็อบอดขมวดคิ้วไม่ได้เมื่อเขาคิดถึงผลที่ตามมา

หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็เดินออกไปจากห้องโถงทันที

ในเวลาเดียวกัน ณ เมืองตะวันสาดแสง

โจวโจวก็กำลังมองชายคนหนึ่งตรงหน้าของเขาด้วยความประหลาดใจ

นี่คือผู้มีพรสวรรค์ที่ถูกดึงดูดมาโดยคะแนนชื่อเสียงงั้นเหรอ?