ตอนที่ 213 : การต่อสู้สู่จุดสูงสุด! ลอร์ดแห่งเผ่าพันธุ์ผู้สืบทอดจิตวิญญาณเทพเจ้า!

สองชั่วโมงต่อมา โจวโจวก็ได้ท้าประลองในการจัดอันดับระดับเพชรไปสองครั้ง

คู่ต่อสู้อันดับเพชรทั้งสองนี้ คนแรกก็คือลอร์ดจากเผ่าพันธุ์ยูนิคอร์นศักดิ์สิทธิ์ ในขณะที่อีกคนคือลอร์ดจากเผ่าพันธุ์ปีศาจอสรพิษสี่กร

โดยเผ่าพันธุ์ยูนิคอร์นศักดิ์สิทธิ์มาจากดินแดนสวรรค์ที่มีสายเลือดระดับเหนือสามัญขั้นกลาง ในขณะที่เผ่าพันธุ์ปีศาจอสรพิษสี่กรมาจากขุมนรกซึ่งมีสายเลือดระดับเพชรขั้นสูง!

ทั้งสองต่างก็เป็นลอร์ดที่แข็งแกร่งมาก

โจวโจวต้องใช้โควต้าในการคืนชีพไปทั้งหมด 11,242 โควต้าเพื่อเอาชนะพวกมันและได้รับชัยชนะมา

ซึ่งชัยชนะทั้งสองครั้งนี้ก็ไม่เพียงแต่ทำให้เขาเลื่อนระดับขึ้นมายังอันดับเพชรขั้นสูง แต่การต่อสู้แต่ละครั้งยังมอบแต้มสมรภูมิให้กับเขาถึง 5,000 แต้มด้วย ดังนั้นหลังจากชนะมาสองรอบ เขาจึงได้รับแต้มสมรภูมิมาทั้งหมด 10,000 แต้ม!

ในที่สุดโจวโจวก็เข้าใจ ในขณะที่ลอร์ดอันดับเพชรขึ้นไปนั้นต้องท้าประลองแบบเดี่ยว แต่พวกเขาก็จะได้รับแต้มสมรภูมิมากยิ่งกว่าตอนท้าประลองแบบทีม

นอกเหนือจากผลกำไรเหล่านี้แล้ว เมื่อเขาเลื่อนระดับขึ้นมายังอันดับเพชรขั้นสูง มันก็ยังมีข้อความที่โจวโจวกำลังรออยู่ได้ปรากฏขึ้น

[หมายเหตุสมรภูมิแห่งลอร์ด: ท่านต้องการชัยชนะอีก 1 ครั้งในการท้าประลองบนสมรภูมิสรรรพเผ่าพันธุ์เพื่อกลายเป็นลอร์ดเผ่าพันธุ์มนุษย์จากดาวเคราะห์สีน้ำเงินที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นการชั่วคราวและได้รับสมญานามลอร์ดที่แข็งแกร่งที่สุดชั่วคราว!]

โจวโจวสูดลมหายใจเข้าลึกๆ

ฉันต้องชนะอีกรอบงั้นเหรอ?

เขาไม่ลังเลเลยและเลือกท้าประลองต่อ

[กำลังจับคู่กับคู่ต่อสู้ของท่าน…]

[การจับคู่เสร็จสมบูรณ์!]

[เข้าสู่สมรภูมิ!]

[ท่านได้เข้าสู่สมรภูมิระดับเพชรขั้นสูง!]

[คู่ต่อสู้ของท่านและท่านได้รับการสุ่มให้เข้าสู่สมรภูมิระดับเพชรขั้นสูง—ซากปรักหักพังแห่งความตายของครึ่งเทพ!]

[คู่ต่อสู้ของท่านคือ: ลอร์ดแห่งเผ่าพันธุ์ผู้สืบทอดจิตวิญญาณเทพเจ้า—ลุงวาโย!]

[เงื่อนไขการเอาชนะศัตรู: สังหารกองกำลังของศัตรูทั้งหมดภายในเวลา 24 ชั่วโมง!]

[หากเกินเวลาที่กำหนด ทั้งสองฝ่ายจะได้รับผลการต่อสู้เป็นลบ อันดับ-1!]

[ท่านมีเวลา 10 นาทีในการจัดเตรียมกองกำลัง!]

[เวลาคงเหลือ: 9 นาที 59 วินาที]

ลอร์ดแห่งเผ่าพันธุ์ผู้สืบทอดจิตวิญญาณเทพเจ้า?

โจวโจวขมวดคิ้วเล็กน้อย

ชื่อนี้ไม่ได้ฟังดูเหมือนเผ่าพันธุ์ที่จะรับมือได้ง่ายๆ เลย

สารบัญสรรพเผ่าพันธุ์เล่มห้าดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงความคิดของเขา มันบินออกมาโดยอัตโนมัติและเปิดใช้งานตรงหน้าของโจวโจว

ในไม่ช้า รายละเอียดของเผ่าพันธุ์ผู้สืบทอดจิตวิญญาณเทพเจ้าก็ปรากฏขึ้น

[เผ่าพันธุ์ผู้สืบทอดจิตวิญญาณเทพเจ้า: ผู้สืบทอดจิตวิญญาณเทพเจ้า เขาถือกำเนิดขึ้นมาพร้อมกับพลังเวทมนตร์ สายเลือดของเขามีพลังของกฎเกณฑ์ที่จิตวิญญาณเทพเจ้าเชี่ยวชาญ เขาจะถูกปลุกพลังขึ้นมาอย่างต่อเนื่องในขณะที่เขาเติบโตขึ้น อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังจะกลายเป็นจิตวิญญาณเทพเจ้าได้อยู่ดีไม่ว่าเขาจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว เผ่าพันธุ์ผู้สืบทอดจิตวิญญาณเทพเจ้าไม่อาจเลือกเดินบนเส้นทางสู่การกลายเป็นจิตวิญญาณเทพเจ้าที่อยู่ในสายเลือดของพวกเขาได้ พวกเขาต้องเลือกเส้นทางอื่นเพื่อกลายเป็นจิตวิญญาณเทพเจ้าหรือสังหารผู้ที่มอบสายเลือดให้แก่พวกเขา อย่างไรก็ตาม อัตราความสำเร็จก็จะต่ำมาก สุดท้ายพวกเขาส่วนใหญ่จะตายในระดับตำนานหรือต่ำกว่าเท่านั้น...]

“มันคือผู้สืบทอดจิตวิญญาณเทพเจ้าจริงๆ ไม่คิดเลยว่าจะได้มาเจอกับมันในสถานการณ์สำคัญเช่นนี้”

โจวโจวขมวดคิ้วเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่มีเวลาให้มาคิดอะไรมาก เขาใช้โอกาสนี้เพื่อเริ่มเตรียมตัว

หลังจากเตรียมตัวเสร็จแล้ว เขาก็มองไปรอบๆ

ในที่ที่ไกลที่สุดจากเมืองตะวันสาดแสงคือเมืองที่มีปราสาทโบราณสีฟ้าครามเป็นศูนย์กลาง

นี่ย่อมเป็นดินแดนของเผ่าพันธุ์ผู้สืบทอดจิตวิญญาณเทพเจ้า ลุงวาโย

ในใจกลางของทั้งสองเมืองเป็นสนามรบที่ปกคลุมไปด้วยควันสีเลือด บนสมรภูมินี้ มันมีซากศพอยู่เต็มไปหมด

ศพที่ใกล้กับโจวโจวมากที่สุดคือศีรษะขนาดใหญ่ที่สูงกว่า 20 เมตร

ศีรษะของมันซีดและมีเบ้าตาสีดำสนิท 2 ข้าง แต่เขาก็มองไม่เห็นลูกตาข้างใน ซึ่งมันก็ราวกับว่ามันกำลังจ้องมองมาที่โจวโจวอย่างน่าแปลก

มันไม่มีจมูก แต่มีปากที่ไม่มีริมฝีปาก มันปลดปล่อยการสะกดข่มและพลังที่อธิบายไม่ได้ออกมา

โจวโจวเคยรู้สึกสึกถึงพลังและการสะกดข่มนี้อย่างคลุมเครือ ณ วิหารของเทพแห่งความตายทานาทอส อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อยู่ตรงหน้าก็ทรงพลังและสะกดข่มน้อยกว่าเทพแห่งความตายทานาทอสมาก

“ซากปรักหักหักพังแห่งความตายของครึ่งเทพ… หรือว่าเจ้าของหัวนี้จะเคยเป็นครึ่งเทพมาก่อน?”

เขาเดาในขณะที่เขามองไปยังส่วนอื่นๆ ของสมรภูมิ

เขาพบว่ามันมีซากศพจำนวนมากที่สงสัยว่าเป็นครึ่งเทพ ดูเหมือนว่าพวกมันกำลังมุ่งหน้าไปยังทิศทางเดียวกัน แต่สุดท้ายแล้ว พวกมันก็ถูกฆ่าตายระหว่างทาง

“ฉันสงสัยเหลือเกินว่าใครฆ่าพวกมัน มันน่าจะเป็นจิตวิญญาณเทพเจ้าที่สามารถฆ่าครึ่งเทพได้มากมายขนาดนี้”

จากนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

มันมีศพของครึ่งเทพมากมายขนาดนี้ในสมรภูมิ มันจะทำให้เผ่าพันธุ์ผู้สืบทอดจิตวิญญาณเทพเจ้าที่อยู่ฝั่งตรงข้ามได้เปรียบขึ้นมารึเปล่า?

ถ้าเป็นอย่างนั้นมันคงไม่ใช่ข่าวดีสำหรับเขาเลย

โจวโจวขมวดคิ้วเล็กน้อย นี่คือสมรภูมิที่ถูกสุ่มมา

ลอร์ดที่ทำการท้าประลองจะไม่มีทางรู้ว่าสภาพแวดล้อมของสมรภูมิต่อไปจะเป็นประโยชน์กับพวกเขาหรือไม่

ยกตัวอย่างเช่น เขาเคยเจอกับสิ่งมีชีวิตธาตุไฟที่เรียกว่าปักษาเมฆาเพลิง ในเวลานั้น เขาและอีกฝ่ายได้ถูกสุ่มไปยังสมรภูมิหิมะ

สุดท้ายพลังธาตุไฟของปักษาเมฆาเพลิงก็แทบจะถูกสะกดไว้โดยสภาพแวดล้อมของสมรภูมิแห่งลอร์ดและเขาก็ได้รับชัยชนะมาอย่างง่ายดาย

...

โจวโจวย่อมไม่สามารถทำอะไรได้กับสถานการณ์ในปัจจุบัน

เขาทำได้เพียงแค่ยอมรับมันเท่านั้น

ในเวลาเดียวกัน ณ เมืองลุงวาโย

สิ่งมีชีวิตสี่แขนสองหัวซึ่งถูกล้อมรอบด้วยกระแสลมสีเขียวกำลังลอยอยู่เหนือปราสาทสีครามและมองไปที่สมรภูมิแห่งลอร์ดด้วยความประหลาดใจ

“มันช่างเต็มไปด้วยพลังเทวะที่ไร้เจ้าของจริงๆ… น่าเสียดายที่แก่นพลังเทวะได้สูญหายและสลายตัวไปแล้วเพราะเวลาผ่านไปนานเกินไป มิฉะนั้นมันคงเป็นสุดยอดสถานที่บ่มเพาะสำหรับข้า”

เขาส่ายหัวด้วยความเสียดาย จากนั้นเขาก็ยิ้มออกมา

“แต่ข้อได้เปรียบของข้าในสมรภูมิแห่งนี้ก็มีสูงมาก ด้วยพลังเทวะไร้เจ้าของจำนวนมากมายขนาดนี้ ความแข็งแกร่งของข้าย่อมเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10 เท่า! มันเป็นเรื่องยากจริงๆ ที่ลอร์ดเผ่าพันธุ์มนุษย์จะสามารถต่อสู้มาได้จนถึงตอนนี้ ช่างน่าเสียดายจริงๆ”

10 นาทีต่อมา

[เวลาเตรียมตัวสิ้นสุดลงแล้ว!]

[สงครามแห่งลอร์ดเริ่มได้!]

“ทุกคน ป้องกันเมืองตะวันสาดแสงเอาไว้ พวกเราจะเน้นไปที่การป้องกันเมืองในศึกนี้”

อู๋ซินได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเผ่าพันธุ์ของลอร์ดฝั่งตรงข้ามจากโจวโจวแล้ว หลังจากหารือกัน เขาจึงเลือกที่จะป้องกันเมือง

จากนั้นโจวโจวและคนอื่นๆ ก็เห็นว่าอีกฝ่ายก็กำลังเฝ้าเมืองอยู่และไม่ได้ออกมา

“พวกมันได้เปรียบในสมรภูมินี้มากขนาดนี้ แต่ลุงวาโยนี้ก็ยังขี้ระแวงจริงๆ”

ไป่อี้รู้สึกทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย

“ไม่ต้องไปกังวล พวกเรามีข้อได้เปรียบใหญ่อยู่ การถ่วงเวลาออกไปแบบนี้ไม่ได้เป็นผลดีกับพวกมันเลย”

อู๋ซินพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก

ไป่อี้พยักหน้า

โจวโจวก็ย่อมไม่มีข้อขัดแย้งอะไร

มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ

หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาก็เห็นลุงวาโยเดินออกมาจากประตูเมืองพร้อมกับสิ่งมีชีวิตพลังธาตุลม 1,000 ตัวที่ดูเหมือนกับพายุทอร์นาโด

โจวโจวมองไปที่ผู้นำอย่างลุงวาโย

ในไม่ช้าข้อมูลของอีกฝ่ายก็ปรากฏขึ้นมา

[ชื่อ: เผ่าพันธุ์ผู้สืบทอดจิตวิญญาณเทพเจ้า – ลุงวาโย]

[ระดับความแข็งแกร่ง: ระดับเงินขาวขั้นกลาง (ถูกผนึก)]

[รายละเอียด: ลอร์ดแห่งเผ่าพันธุ์ผู้สืบทอดจิตวิญญาณเทพเจ้าจากแดนสรรพธาตุ สายเลือดจิตวิญญาณเทพเจ้าที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายของเขามาจากเทพวายุกัดกร่อน โยบาล (จิตวิญญาณเทพเจ้าระดับกลาง) ในฐานะรุ่นที่หกของเทพวายุกัดกร่อน เขาเป็นที่ชื่นชอบของบรรพบุรุษเพราะพรสวรรค์ของเขา ความแข็งแกร่งดั้งเดิมของลุงวาโยอยู่ที่ระดับเพชรขั้นต้น หลังจากกลายเป็นลอร์ด ความแข็งแกร่งของเขาก็ถูกปิดผนึกไว้ที่ระดับเหล็กดำขั้นต้น ในขณะนี้เมื่อความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้น ผนึกส่วนหนึ่งก็ถูกคลายออก และความแข็งแกร่งของเขาก็กลับคืนสู่ระดับเงินขาวขั้นกลางแล้ว]

[อัตราการดรอปไอเท็ม: ไม่มี]