ตอนที่ 397

บทที่ 397 : เป้าหมายที่แท้จริงของโลกภายนอก

นอกจากนี้ยังมีประตูสวรรค์ในโลกภายนอกและลักษณะของพลังที่แตกต่างกัน?

ซุยเฮ็งขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยินสิ่งนี้ และสีหน้าของเขาก็เคร่งขรึมขึ้น ทันใดนั้นการคาดเดาก็ปรากฏขึ้นในใจของเขา และเขาก็พูดด้วยเสียงจริงจัง “ ตามที่เจ้าพูด ลักษณะของพลังที่มีอยู่ในประตูสวรรค์นอกโลกนั้นก็แตกต่างจากประตูสวรรค์ที่นี่”

“ แล้วเหตุใดโลกภายนอกจึงโจมตีด้านนี้อย่างบ้าคลั่งเพื่อสำรวจประตูสวรรค์ที่นี่เพื่อรับเอาคุณลักษณะของพลังในประตูสวรรค์ของที่นี่กัน?”

“ นี่.. นี่หมายความว่ายังไงกัน?!” พระหยวนคูส่ายศีรษะเมื่อได้ยินสิ่งนี้ “ ท่านเซียนผู้สูงส่ง ท่านกำลังจะบอกว่าคนๆ หนึ่งสามารถผ่านประตูสวรรค์ระดับเดิมซ้ำๆ ได้อย่างงั้นหรอ?”

“ ทำไมจะไม่ล่ะ?” ซุยเฮ็งหัวเราะเบาๆ และกล่าวว่า “ แก่นแท้ของการก้าวเข้าสู่ขอบเขตประตูสวรรค์คือการได้รับคุณลักษณะของพลังจากประตูสวรรค์ ด้วยเหตุนี้เอง การบุกเข้าหาประตูสวรรค์ในระดับที่สูงกว่านั้นจึงเป็นเรื่องปกติ แต่กระนั้นมันก็ใช่ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะบุกเข้าหาประตูสวรรค์ในระดับเดียวกัน”

12 ประตูสวรรค์ไม่ใช่วิธีการฝึกตน ในทางกลับกัน มันก็ต้องบุกเข้าไปในประตูสวรรค์และก้าวเข้าไปเพื่อรับเอาคุณลักษณะของพลังของมันมา ด้วยเหตุนี้เอง ทุกระดับของประตูสวรรค์จึงมีลักษณะที่แตกต่างกัน

อย่างไรก็ตาม ซุยเฮ็งที่ตรวจสอบหวู่หยงซึ่งอยู่ในขอบเขตประตูสวรรค์ขั้นที่สองแล้วก็ได้ตระหนักว่าคุณลักษณะพลังของประตูสวรรค์นั้นเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงมาก แม้ว่าเขาจะไปถึงขอบเขตประตูสวรรค์ขั้นสองแล้ว แต่ความแข็งแกร่งของเขาก็อยู่เพียงขอบเขตรวมวิญญาณขั้นสูงสุดเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น มันก็มีลักษณะเฉพาะบางอย่างเท่านั้นที่เทียบได้กับขอบเขตรวมวิญญาณขั้นสูงสุด

แม้ว่าเขาจะเดาด้วยว่าขอบเขตประตูสวรรค์ที่สามอาจสอดคล้องกับขอบเขตรวมวิญญาณขั้นสูงสุด แต่เขาก็ยังไม่เคยตรวจสอบมันแน่ชัด

หากเก้าขั้นต่อมาของขอบเขตประตูสวรรค์ให้ลักษณะพลังในทำนองเดียวกัน มันก็คงจะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรวบรวมคุณลักษณะพลังที่สมบูรณ์และไปถึงระดับของผู้ฝึกตนขอบเขตรวมวิญญาณขั้นสูงสุดอย่างแท้จริงหรือแม้แต่ผู้ฝึกตนขอบเขตรวมวิญญาณขั้นสมบูรณ์

ยิ่งไปกว่านั้น ยิ่งระดับของประตูสวรรค์สูงมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งยากต่อการทะลวงผ่านมากขึ้นเท่านั้น หากพลาดก็อาจตายได้ในทันที และแม้ว่าพวกเขาจะโชคดีพอที่จะรอดชีวิตมาได้ แต่มันก็ยังมีความเสี่ยงอย่างยิ่ง

สิ่งนี้ทำให้ซุยเฮ็งพอจะคาดเดาได้

เนื่องจากมีประตูสวรรค์ในโลกภายนอกเช่นกัน และพลังของมันก็แตกต่างจากประตูสวรรค์ที่นี่ นั่นจึงหมายความว่าพลังของประตูสวรรค์ที่นี่นั้นจะต้องแตกต่างจากโลกภายนอกด้วยเช่นกัน

ในกรณีนั้น ผู้ฝึกตนขอบเขตประตูสวรรค์ภายนอกจะสามารถมาที่นี่และเริ่มต้นจากประตูสวรรค์บานแรกใหม่เพื่อรับคุณลักษณะใหม่เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งได้หรือไม่?

ตัวอย่างเช่น หากผู้ฝึกตนขอบเขตประตูสวรรค์ขั้นสามภายนอกมาที่นี่ เขาจะสามารถเริ่มต้นจากขอบเขตประตูสวรรค์ขั้นหนึ่งได้ และด้วยความแข็งแกร่งดั้งเดิมของเขาที่ขอบเขตประตูสวรรค์ขั้นสาม เขาก็จะสามารถก้าวผ่านประตูสวรรค์ขั้นสามได้อย่างง่ายดายมากขึ้นและได้รับลักษณะพลังที่ทรงพลังมากขึ้นมาได้

ด้วยวิธีนี้ แม้ว่าเขาอาจจะไม่สามารถทะลวงไปสู่ขอบเขตถัดไปได้ แต่เขาก็ยังสามารถได้รับความแข็งแกร่งมากขึ้นมาได้

ท้ายที่สุดแล้ว แก่นแท้ของประตูสวรรค์ทั้ง 12 บานก็คือการสะสมลักษณะพลังอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม นี่ก็เป็นเพียงการคาดเดาของซุยเฮ็ง ความจริงอาจไม่เหมือนกัน

อย่างไรก็ตาม นักพรตฟางเหอก็ได้ตกอยู่ในภวังค์ไปแล้ว

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง จู่ๆ เขาก็นึกถึงบางสิ่งและอุทานว่า “ ข้าเข้าใจแล้ว ข้าเข้าใจแล้ว! หยวนคู เจ้ายังจำได้ไหม? ก่อนหน้านี้ ในตอนที่กำแพงป้องกันของสวรรค์ชั้นที่สามถูกทำลายไปบางส่วน ผู้ฝึกตนขอบเขตประตูสวรรค์ขั้นสองก็ได้รีบเข้ามา และในขณะที่พวกเขาเคลื่อนผ่านดวงดาว พวกเขาก็ดูเหมือนจะทำอะไรบางอย่างอยู่ด้วยเช่นกัน”

“ ในตอนแรก ข้าก็ไม่เข้าใจว่าทำไม แต่เมื่อข้าคิดดูแล้ว พวกเขาก็อาจจะต้องการใช้สิ่งนี้เพื่อสัมผัสกับประตูสวรรค์ของโลกใบนี้และบุกเข้าไปในประตูสวรรค์เพื่อรับพลังพิเศษ!”

“ ใช่แล้ว! ข้าเข้าใจแล้ว!” พระหยวนคูตระหนักได้และพยักหน้า “ ในตอนที่คนเหล่านั้นเคลื่อนผ่านดวงดาว พวกเขาก็ไม่ลืมที่จะสร้างค่ายกลเพื่อเสริมสร้างประสาทสัมผัสของพวกเขา”

“ ค่ายกลนี้ใช้เพื่อช่วยเหลือผู้ฝึกตนในการฝึกตน มันสามารถเพิ่มการรับรู้ของพวกเขาเกี่ยวกับอักษรรูนเต๋าได้ ดังนั้นพูดตามเหตุและผลแล้ว ถ้าพวกเขามาที่นี่เพียงเพื่อปล้นทรัพยากร มันก็ไม่จำเป็นต้องสร้างค่ายกลเช่นนี้เลย”

“ พวกเขากำลังตรวจสอบประตูสวรรค์ของโลกใบนี้งั้นหรอ? อมิตาพุทธ ไม่แปลกใจเลยที่โลกภายนอกจะรุกรานพวกเราโดยไม่คำนึงถึงชีวิตของพวกเขาเอง พวกเขาทะเยอทะยานมากจริงๆ!”

“ หากนี่คือเป้าหมายของโลกภายนอกจริงๆ อาณาจักรสวรรค์ก็ยังไม่น่าจะพ่ายแพ้” ซุยเฮ็งยิ้มและพูดว่า “ ถ้าอาณาจักรสวรรค์พ่ายแพ้ลงไปแล้วจริงๆ โลกใบนี้ก็คงจะไม่ได้อยู่อย่างสงบสุขเช่นนี้แน่”

“ เพื่อให้ได้คุณลักษณะของประตูสวรรค์ในโลกใบนี้ โลกภายนอกก็คงจะต้องพยายามอย่างหนักแน่ และพวกเจ้าก็คงจะไม่พบเจอแค่ผู้ฝึกตนขอบเขตประตูสวรรค์ขั้นหนึ่งหรือสองเท่านั้นแน่”

ก่อนหน้านี้ นักพรตฟางเหอและพระหยวรคูก็ได้บอกซุยเฮ็งเกี่ยวกับศัตรูที่พวกเขาพบ โดยพื้นฐานแล้ว พวกมันก็จำกัดอยู่เพียงขอบเขตประตูสวรรค์ขั้นหนึ่งหรือสองเท่านั้น มันเป็นเรื่องยากมากที่จะได้เห็นแม้แต่เงาของผู้ฝึกตนขอบเขตประตูสวรรค์ขั้นสาม

“ ใช่แล้ว ท่านเซียนผู้สูงส่งพูดถูก” นักพรตฟางเหอมีความสุขมากเมื่อได้ยินสิ่งนี้ เขาพยักหน้าและพูดว่า “ อาณาจักรสวรรค์ยังคงไร้พ่าย”

“ เหตุผลที่ผู้ฝึกตนนอกโลกเหล่านั้นก้าวเกินขอบเขตบันไดสวรรค์ขั้นหนึ่งไม่ได้นั้นก็คงจะเป็นเพราะอาณาจักรสวรรค์ยังคงต่อสู้อยู่ พวกเขาอาจจะแค่เสียเปรียบอยู่ก็ได้”

“ หากพวกเขายังคงต้องต่อต้านอย่างสุดกำลัง มันก็คงไม่แปลกที่พวกเขาจะไม่สามารถหันเหความสนใจมาช่วยพวกเจ้าได้”

“ และอาจเป็นเพราะเหตุนี้ อาณาจักรสวรรค์จึงหายตัวไปและทำให้เกิดการปนเปื้อนของประตูสวรรค์” นักพรตฟางเหอทันใดนั้นก็นึกถึงหลายสิ่งหลายอย่างและรู้สึกว่าข้อสงสัยมากมายของพวกเขาได้กระจ่างชัดเจนแล้ว

“ ถ้าเป็นอย่างนี้ มันก็ดูเหมือนว่าการที่เจ้าจะขอให้ข้าเปิดประตูสวรรค์ขึ้นอีกครั้งนั้นก็จะไม่จำเป็นแล้วสินะ” ซุยเฮ็งมองไปที่นักพรตฟางเหอและยิ้ม

“…” นักพรตฟางเหอตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งนี้ จากนั้นเขาก็จมดิ่งลงไปในห้วงความคิด

ถูกต้อง หากอาณาจักรสวรรค์พยายามอย่างเต็มที่แล้วที่จะต่อต้านโลกภายนอก มันก็หมายความว่าอาณาจักรสวรรค์จะไม่มีพลังงานสำรองที่จะมาช่วยพวกเขาได้อย่างแน่นอน

หากเป็นเช่นนั้น จุดประสงค์ที่พวกเขาทั้งสองร้องท่านเซียนผู้สูงส่งจะคืออะไร?

เพื่อเปิดประตูสวรรค์อีกครั้งหรอ? แต่โลกใบนี้ก็จะยังคงโดนโจมตีและถูกกัดกร่อนโดยโลกภายนอกต่อไป

“ ไม่ มันยังมีประโยชน์ ท่านเซียนผู้สูงส่ง โจวจุนเทียนน่าจะยังมีประโยชน์ในการเสริมสร้างพลังของอาณาจักรสวรรค์” พระหยวนคูกล่าวขึ้นในทันที “ ท่านเซียนผู้สูงส่ง ที่อาณาจักรสวรรค์เสียเปรียบในตอนนี้ มันก็อาจจะเกี่ยวข้องกับมลพิษของประตูสวรรค์”

“ มันมีข่าวลือว่าโจวจุนเทียนคือวิญญาณประดิษฐ์ของประตูสวรรค์กลับชาติมาเกิด ดังนั้นหากเราพบเขา เราก็อาจใช้พลังของเขากำจัดมลพิษของประตูสวรรค์ได้”

“ โอ้?” ซุยเฮ็งพยักหน้าเล็กน้อยและหัวเราะเบาๆ “ นั่นฟังดูเป็นไปได้ อืม ข้าจะลองตามหาโจวจุนเทียนดู อย่างไรก็ตาม พวกเจ้าก็ต้องช่วยข้าทำอะไรบางอย่างก่อน”

“ ท่านเซียนผู้สูงส่งโปรดพูดมา พวกเราจะทำให้ดีที่สุด!” นักพรตฟางเหอและพระหยวนคูกล่าวพร้อมกันและแสดงความเคารพ

“ รวบรวมหนังสือโบราณและความลับทั้งหมดมาให้ข้า” ซุยเฮ็งพยักหน้าเล็กน้อยและพูดว่า “ หากมีข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับโลกภายนอกด้วย พวกเจ้าก็เอามันมาให้ข้าด้วย”

“ แน่นอน ท่านเซียนผู้สูงส่งไม่ต้องกังวล พวกเราจะทำให้ดีที่สุดอย่างแน่นอน” นักพรตฟางเหอพยักหน้า

“ ท่านเซียนผู้สูงส่งไม่ต้องกังวล ข้ามีลูกศิษย์มากมาย ข้าจะส่งพวกเขาทั้งหมดออกไปค้นหาหนังสือโบราณของโลกนับไม่ถ้วน” พระหยวนคูรีบกล่าวตาม

“ ดีมาก” ซุยเฮ็งยิ้มเมื่อได้ยินสิ่งนี้ เขาโบกมือและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ ไปเถอะ ข้าจะจัดการเรื่องของโจวจุนเทียนต่อเอง”

“ ขอบพระคุณท่านเซียนผู้สูงส่ง!”

พระและนักพรตเต๋ากล่าวคำอำลาด้วยความเคารพและเดินออกจากวังไปภายใต้การนำของทหารรักษาการณ์

หลังจากออกจากวังแล้ว ทั้งสองคนก็ยังคงเดินต่อไป จนกระทั่งพวกเขาเดินออกมาจากเมืองและมาถึงถิ่นทุรกันดารนอกเมือง พวกเขาจึงกลายเป็นลำแสงและบินจากไป

ในความเห็นของพวกเขา การบินออกจากเมืองเลยก็เป็นการไม่เคารพซุยเฮ็ง

พวกเขาไม่สามารถทำเช่นนั้นได้

หลังจากที่ทั้งสองคนออกไป ซุยเฮ็งก็นั่งไขว่ห้าง ดวงตาของเขาปิดลงเล็กน้อยในขณะที่เขาปล่อยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาออกไปเพื่อสัมผัสถึงเต๋าอันยิ่งใหญ่แห่งสวรรค์และปฐพี ทันใดนั้นร่างของเขาก็เปล่งแสงสีม่วงทอง

ครู่ต่อมา แสงสว่างบนร่างกายของเขาก็หายไปและเขาก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น มุมปากของเขาโค้งขึ้นเล็กน้อยและเผยรอยยิ้มออกมา “ ไม่นึกเลยว่ามันจะมีเซอร์ไพรส์แบบนี้ด้วย”

“ การสนทนากับพวกเขาสองคนทำให้ฉันได้รู้ความลับมากมาย มันทำให้ฉันสามารถสื่อสารกับโลกได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เป็นไปได้ไหมว่ายิ่งฉันเข้าใจโลกนี้มากเท่าไหร่ ฉันก็จะยิ่งสร้างการสื่อสารได้ลึกซึ้งขึ้นมากเท่านั้น”

ก่อนหน้านี้ ซุยเฮ็งได้พยายามสื่อสารกับกฎเต๋าอันยิ่งใหญ่ต่างๆ ด้วยการสัมผัสโดยตรงจากสวรรค์และปฐพี แต่ในท้ายที่สุด แม้ว่าเขาจะสร้างสายสื่อสารได้สำเร็จ แต่ผลลัพธ์ก็ยังช้าเกินไป ต่อให้เวลาจะผ่านไปเป็นล้านหรือหลายหมื่นล้านปี แต่เขาก็คงจะยังทะลวงไม่สำเร็จ

เพื่อทะลวงขอบเขตเล็กๆ นี้ เขาจึงทำได้เพียงมองหาเส้นทางอื่นได้เท่านั้น และโดยไม่คาดคิด หลังจากทำความเข้าใจโลกอย่างลึกซึ้งแล้ว การเชื่อมต่อสื่อสารที่อ่อนแอแต่เดิมก็ได้พัฒนาขึ้น

“ จากการฝึกตนของฉัน มันก็เหมือนกับตอนที่ฉันอยู่ที่ขอบเขตรวมวิญญาณ มันสามารถเพิ่มการสื่อสารของฉันกับกฎเต๋าอันยิ่งใหญ่และเพิ่มความเร็วในการฝึกตนของฉันขึ้นได้”

“ กล่าวอีกนัยหนึ่ง ในอนาคต นอกจากจะสร้างการติดต่อสื่อสารกับผู้คนนับไม่ถ้วนผ่านร่างอวตารในโลกสังสารวัฏแล้ว ฉันก็ยังสามารถทำความเข้าใจโลกใบนี้มากขึ้นและได้รับความสัมพันธ์ทางการสื่อสารนี้ได้ด้วย”

“ ในกรณีนั้น การสืบสวนเรื่องลับๆ บางอย่างก็จะมีความสำคัญมากขึ้นสำหรับฉัน ฉันต้องตรวจสอบเรื่องของโจวจุนเทียน, อาณาจักรสวรรค์, ประตูสวรรค์, โลกภายนอก…”

“ ตราบใดที่ฉันเข้าใจโลกใบนี้อย่างลึกซึ้งเพียงพอ การสื่อสารกับมันก็จะยิ่งลึกซึ้งขึ้นตามไปด้วย ฉันจะสามารถฝึกฝนได้ด้วยความพยายามเพียงครึ่งเดียวและทะลวงไปสู่ขั้นกลางได้อย่างรวดเร็ว”

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็ค่อยๆ ยืนขึ้นและมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เขาคิดกับตัวเองว่า “ มันถึงเวลาแล้วที่ฉันจะต้องเดินทางไปยังดาวไท่หง”

“ แต่ก่อนอื่นฉันต้องเริ่มจากการตรวจสอบสถานการณ์ของประตูสวรรค์ก่อนและพยายามรับเคล็ดวิชาการฝึกตนของขอบเขตประตูสวรรค์มาเพื่อใช้ในอ้างอิง”

“ สำหรับโลกภายนอก… หากพวกเขาต้องการจะได้รับคุณลักษณะของประตูสวรรค์ของโลกนี้จริงๆ พวกเขาก็คงจะทำตัวบ้าคลั่งยิ่งกว่านี้นา มันเป็นไปได้มากว่ามันจะไม่จำกัดเพียงการโจมตีประตูสวรรค์ของที่นี่”

“ จากสถานการณ์ของหวู่หยง ตราบใดที่เขาฆ่าผู้ฝึกตนขอบเขตประตูสวรรค์ได้ เขาก็ยังสามารถปล้นลักษณะพลังของพวกเขามาได้”