หลังจากคิดอยู่สักพัก โจวโจวก็กลับไปดูการแจ้งเตือนสัญญาดินแดนบ่าวไพร่ตรงหน้าของเขา
ในตอนนี้เขาได้ลงนามในสัญญาดินแดนบ่าวไพร่กับเจ้าฟีนิกซ์เขียวแล้ว และอีกฝ่ายก็กลายเป็นพวกของเขาโดยสมบูรณ์ ดังนั้นเขาจึงควรพิจารณาถึงพรสวรรค์แห่งลอร์ดที่เขาควรจะแบ่งปันให้กับอีกฝ่าย
เขาคิดอยู่สักพักและไม่ได้ตัดสินใจในทันที กลับกัน เขาต้องถามอีกฝ่ายก่อน
[เจ้าตะวันสาดแสง: เธอถือได้ว่าเป็นลอร์ดระดับแนวหน้าของลอร์ดจากดาวเคราะห์สีน้ำเงินเลย ทำไมจู่ๆ เธอถึงอยากเป็นลูกน้องของฉันล่ะ?]
เขาสามารถเข้าใจได้ว่าทำไมลอร์ดคนอื่นๆ ถึงยินดีเป็นดินแดนรองของเขา เพราะลอร์ดพวกนั้นคงอ่อนแอและไม่สามารถรับมือกับอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการทดสอบของเจตจำนงสูงสุดได้
แต่ในฐานะเจ้าของพรสวรรค์แห่งลอร์ดอย่างร่างเซียนฟีนิกซ์เขียว เจ้าฟีนิกซ์เขียวย่อมมีอนาคตที่สดใส ทำไมจู่ๆ เธอถึงยินดียอมจำนนต่อเขาและกลายเป็นลูกน้องของเขาได้?
[เจ้าฟีนิกซ์เขียว: ฮี่ๆ ฉันคิดว่าลอร์ดของฉันจะถามมันก่อนที่จะลงนามในสัญญาดินแดนบ่าวไพร่ซะอีก? ตอนนี้เมื่อมาคิดเรื่องนี้ดู พี่คิดว่าฉันจะมีแรงจูงใจไม่ดีถึงยอมเป็นดินแดนรองของพี่งั้นเหรอ? พี่ไม่ตื่นตูมไปหน่อยเหรอ?]
เมื่อโจวโจวเห็นคำตอบของอีกฝ่าย เขาก็หรี่ตาลงและไม่ได้ตอบกลับไปในทันที
ตื่นตูม?
ฉันมีพรสวรรค์แห่งลอร์ดสุขสงบอยู่ แม้ว่าเธอจะเป็นคนทรยศที่สุดในโลก เธอก็ต้องพักดีต่อฉันถ้าเธออยู่กับฉันไปมากกว่า 10 วัน ทำไมฉันจะต้องตื่นตูมด้วย?
อีกด้านหนึ่ง เมื่อเห็นว่าเจ้าตะวันสาดแสงยังไม่ตอบกลับมา เจ้าฟีนิกซ์เขียวก็หยุดล้อเขาและบอกเขาถึงเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมเธอถึงเข้าร่วมกับเขา
มันยังเป็นเพราะว่าเธอไม่ได้มีใจจะพัฒนาดินแดนอยู่แล้ว กลับกัน เธออยากจะอุทิศตัวเองเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งและพัฒนาร่างเซียนฟีนิกซ์เขียวให้กลายเป็นร่างกายที่สมบูรณ์
[...นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงคิดว่าการติดตามเกวียนใหญ่ไปใกล้ๆ โดยมีเจ้านายของฉันอยู่ใกล้ๆ ถึงเป็นเรื่องดีกว่า แม้ว่าฉันจะไม่สนใจดินแดนของตัวเอง แต่ชาวเมืองก็น่าจะไม่มีปัญหาเท่าไร]
[ด้วยวิธีนี้ ฉันก็จะสามารถทุ่มสมาธิไปที่การเพิ่มความแข็งแกร่งและปลุกสายเลือดของร่างเซียนฟีนิกซ์เขียวของฉันขึ้นมาได้]
เจ้าฟีนิกซ์เขียวกล่าว
โจวโจว: “...”
ดีจริงๆ
นี่เป็นครั้งแรกเลยที่มีคนเปรียบเทียบเขาแบบนี้ อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้โกรธ เพราะมันก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร และเขายังได้กำลังรบระดับแนวหน้ามาแบบฟรีๆ ด้วย!
สิ่งนี้ยังพิสูจน์ทางอ้อมถึงอิทธิพลของเขาที่มีต่อลอร์ดจากดาวเคราะห์สีน้ำเงิน มิฉะนั้นเจ้าฟีนิกซ์เขียวก็คงจะไม่นึกถึงเขาแน่ๆ
[เจ้าตะวันสาดแสง: เธอสามารถเพิ่มความเร็วการพัฒนาร่างเซียนฟีนิกซ์เขียวของเธอได้ยังไง?]
โจวโจวคิดอยู่ชั่วขณะและถาม
[เจ้าฟีนิกซ์เขียว: ตราบใดที่ฉันเพิ่มระดับความแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ระดับการตื่นขึ้นของสายเลือดจากร่างเซียนฟีนิกซ์เขียวของฉันก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วย นอกเหนือจากนั้น ไอเท็มวิเศษบางอันก็ยังส่งผลต่อการพัฒนาสายเลือดของฉันด้วย]
โจวโจวพยักหน้า เข้าใจแล้ว
เขาแบ่งปันพรแห่งเทพเจ้าทั้งสิบ—พรแห่งเทพสงครามให้กับเธอโดยตรง
สำหรับเวอร์ชั่นเต็มที่อยู่ในระดับแพลตตินั่มขาวนั้น เขาไม่อาจแบ่งปันมันได้
พรสวรรค์แห่งลอร์ดที่สามารถแบ่งปันให้กับดินแดนรองนั้นจะต้องไม่สูงกว่าหรือเท่ากับระดับดินแดนของดินแดนหลักเท่านั้น
…
อีกด้านหนึ่ง เจ้าฟีนิกซ์เขียวก็สงสัยเหมือนกันว่าเจ้าตะวันสาดแสงจะแบ่งปันพรสวรรค์แห่งลอร์ดอะไรให้กับเธอ
ลอร์ดจากดาวเคราะห์สีน้ำเงินทุกคนสงสัยเกี่ยวกับพรสวรรค์แห่งลอร์ดของเจ้าตะวันสาดแสงมานานแล้ว ในที่สุดวันนี้เขาก็ต้องเผยความลับออกมาสักที
เจ้าฟีนิกซ์เขียวคาดหวังและตื่นเต้นมาก
ในเวลานั้นเอง ข้อความแจ้งเตือนที่เธอกำลังรอคอยอยู่ก็ปรากฏขึ้น
[ลอร์ดของดินแดนหลักได้แบ่งปันพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับทองคำเหลือง – พรแห่งเทพเจ้าทั้งสิบ—พรแห่งเทพสงครามให้กับท่าน!]
[ท่านสามารถตรวจสอบรายละเอียดของพรสวรรค์นี้ได้แล้ว]
เจ้าฟีนิกซ์เขียวอึ้งไป
พรสวรรค์แห่งลอร์ด—พรแห่งเทพเจ้าทั้งสิบ?
ลอร์ดบางคนได้ทำสถิติคร่าวๆ เกี่ยวกับพรสวรรค์แห่งลอร์ดของลอร์ดจากดาวเคราะห์สีน้ำเงินไว้บนกระดานสนทนาแล้ว ดังนั้นมันจึงมีสรุปรายการพรสวรรค์แห่งลอร์ดปรากฏขึ้นมา
สรุปรายการพรสวรรค์แห่งลอร์ดนี้บันทึกรายละเอียดของพรสวรรค์แห่งลอร์ดไว้มากมาย และเจ้าฟีนิกซ์เขียวก็เคยเปิดดูแล้ว
ด้วยความจำอันเป็นเลิศของเธอ เธอจึงจำพรแห่งเทพเจ้าทั้งสิบอันโด่งดังได้ในทันที
เขามีพรสวรรค์แห่งลอร์ดอันนี้จริงๆ เหรอ?
เธอไม่สนใจเกี่ยวกับระดับทองคำเหลืองของมัน
เธอย่อมรู้ว่าลอร์ดของดินแดนหลักสามารถควบคุมระดับของพรสวรรค์แห่งลอร์ดที่แบ่งปันได้
อย่างไรก็ตาม เธอก็เพิ่งเข้าร่วมกับดินแดนของเจ้าตะวันสาดแสง เธอจะไปมีสิทธิ์อะไรที่เขาจะมอบพรสวรรค์แห่งลอร์ดในระดับสูงสุดให้?
เพราะความสวยของเธองั้นเหรอ?
มันก็จริงที่เธอสวย แต่เธอก็เชื่อว่าเจ้าตะวันสาดแสงไม่ใช่คนแบบนั้น
เธอหยุดคิดเกี่ยวกับมันและมองดูรายละเอียดของพรสวรรค์ทันที
เมื่อเธออ่านจนจบ ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างขึ้น
“...หลังจากท่านและทหารสังหารศัตรู ท่านจะได้รับพลังงานเสริมแกร่งเพิ่มเติม 1,000%... พลังงานเสริมแกร่งเพิ่มขึ้นสิบเท่า…”
เจ้าฟีนิกซ์เขียวอึ้งไป
นี่มันพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับทองคำเหลืองงั้นเหรอ?
บ้าชัดๆ!
นี่หมายความว่าความเร็วในการพัฒนาดินแดนของคนที่มีพรสวรรค์แห่งลอร์ดอันนี้จะเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า!
บ้าชัดๆ!
นี่คือสิ่งเดียวที่เจ้าฟีนิกซ์เขียวคิดอยู่ในใจ
จากนั้นเธอก็มีเต็มไปด้วยความดีใจ
ไม่ใช่อะไร แต่พรสวรรค์แห่งลอร์ดนี้เหมาะสมกับเธอมาก!
ความแข็งแกร่งของเธอจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในอนาคตด้วยพรสวรรค์แห่งลอร์ดนี้ นอกจากนี้ การปลุกสายเลือดของร่างเซียนฟีนิกซ์เขียวก็จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างแน่นอน
การเข้าร่วมกับเจ้าตะวันสาดแสงและกลายเป็นดินแดนรองของเขาช่างเป็นการตัดสินใจที่ถูกสำหรับเธอจริงๆ!
เจ้าฟีนิกซ์เขียวรู้สึกว่านี่คือการตัดสินใจที่ฉลาดที่สุดของเธอเลย!
ในเวลานั้นเอง เจ้าตะวันสาดแสงก็ส่งข้อความาหาเธอ
[เจ้าตะวันสาดแสง: เธอพอใจกับพรสวรรค์แห่งลอร์ดที่ฉันแบ่งปันให้ไหม?]
[เจ้าฟีนิกซ์เขียว: พอใจมากค่ะ! ฉันพอใจมากไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว!]
[เจ้าตะวันสาดแสง: ฉันขอเตือนเธอไว้หน่อยนะว่าในฐานะลอร์ด วิธีหลักที่พวกเราใช้ในการเพิ่มความแข็งแกร่งก็ยังต้องพึ่งพาลูกน้องอยู่ดี เธอคิดดีแล้วเหรอว่าจะละทิ้งชาวเมืองไปทั้งแบบนี้?]
[เจ้าฟีนิกซ์เขียว: ฉันคิดมาดีแล้ว นอกจากนี้ ท่านลอร์ดคงไม่รู้สถานการณ์ในดินแดนของฉันเท่าไร มันมีทหารน้อยมากในดินแดนของฉัน จนถึงตอนนี้ มันก็ยังมีทหารไม่ถึง 500 คนในดินแดนของฉันเลย]
[เจ้าฟีนิกซ์เขียว: จนถึงตอนนี้ ฉันคือผู้ที่แก้ไขอันตรายเกือบทั้งหมดที่ฉันพบระหว่างทางด้วยตัวคนเดียว แม้แต่การทดสอบลอร์ดมือใหม่และกิจกรรมสมรภูมิสรรพเผ่าพันธุ์ก็เป็นฝีมือของฉันคนเดียว]
[เจ้าฟีนิกซ์เขียว: ดังนั้นมันคงเป็นการดีกว่าที่ฉันจะสนุกกับมันคนเดียว ดีกว่าพึ่งพาพลังงานเสริมแกร่งจากลูกน้อง]
โจวโจวอดเงียบไปไม่ได้เมื่อเขาเห็นคำตอบของอีกฝ่าย
ในฐานะลอร์ดระดับแนวหน้า เจ้าฟีนิกซ์เขียวยังมีทหารไม่ถึง 500 คนเลยงั้นเหรอ?
ดูเหมือนว่าเขาจะมีทหารมากขนาดนี้นับตั้งแต่วันที่สามที่เขามายังทวีปจื้อเกาแล้วใช่ไหม?
ด้วยเหตุนี้ มันจึงไม่แปลกใจเลยที่อีกฝ่ายจะไม่เชื่อใจในชาวเมืองของตัวเองว่าจะสามารถช่วยเลื่อนระดับให้เธอได้และเชื่อในความแข็งแกร่งของตัวเองเท่านั้น
เขาก็คงจะเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของตัวเองด้วยเหมือนกันถ้าเขาเจอกับเรื่องแบบนี้
แต่ก็เป็นอีกครั้ง ความจริงที่ว่าดินแดนของเจ้าฟีนิกซ์เขียวสามารถเติบโตได้ด้วยความสามารถของเธอเพียงคนเดียวก็แสดงให้เห็นแล้วว่าร่างเซียนฟีนิกซ์เขียวของเธอนั้นทรงพลังแค่ไหน