บทที่ 353 ตำหนักสวรรค์ราชันสุริยันศักดิ์สิทธิ์

หลังจากที่หมิงเจินมอบหนังสือให้แล้ว เฉินถังก็เดินมาพร้อมกับหนังสือสองเล่ม

“ ท่านประมุขเซียน หนังสือทั้งสองเล่มนี้เองก็เป็นหนังสือที่หลงเหลือมาจากยุคสวรรค์ราชันสุริยัน โปรดรับพวกมันไปด้วย” เฉินถังมอบหนังสือให้กับซุยเฮ็ง

ในขณะนี้ ราชาปราชญ์คนอื่นๆ ที่อยู่ด้านข้างต่างก็สงสัยในชีวิตของพวกเขา

เราจะทำอะไรได้อีกในเมื่อพวกเจ้าคุกเข่าลงอย่างรวดเร็วเช่นนี้?

ด้วยเหตุนี้เอง พวกเขาจึงมองหน้ากันและสื่อสารด้วยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นพวกเขาก็คุกเข่าลงต่อหน้าซุยเฮ็งและพูดพร้อมกันว่า

“ คารวะท่านประมุขเซียน เราไม่รู้รูปลักษณ์ที่แท้จริงของท่านและทำให้ท่านขุ่นเคือง โปรดยกโทษให้เราด้วย!”

“…” ซุยเฮ็งมองไปที่พวกเขาและส่ายหัวพร้อมกับยิ้ม “ ลุกขึ้น”

ศาลาภัยพิบัติชะตาดารานี้เป็น “สำนักที่ชาญฉลาด”

ในขณะนี้ บุคคลที่อยู่ข้างๆ เฉินถังจู่ๆ ก็พูดว่า “ ท่านประมุขเซียน จริงๆ แล้วข้าก็มีหนังสือโบราณอยู่ในคลังด้วย มันเองก็ตกทอดมาจากยุคสวรรค์ราชันสุริยัน”

ขณะที่เขาพูด เขาก็หยิบม้วนหนังสือโบราณออกมาและส่งให้ซุยเฮ็ง ด้วยมือทั้งสองข้าง

คนอื่นๆ ตกตะลึงเมื่อเห็นสิ่งนี้

ในช่วงเวลาต่อมา พวกเขาทั้งหมดก็เริ่มที่จะเอาหนังสือโบราณของตนออกมา

คนเหล่านี้มอบหนังสือบางเล่มอย่างตั้งใจ

ด้วยเหตุนี้เอง ซุยเฮ็งจึงพลิกดูหนังสือในมืออย่างรวดเร็ว หลังจากที่ทุกคนมอบหนังสือเสร็จแล้ว เขาก็พยักหน้าเล็กน้อยและยิ้ม “ พวกเจ้าทำได้ดีมาก”

….

ดาวราชันสุริยันเป็นศูนย์กลางที่แท้จริงของอาณาจักรราชันสุริยัน

ว่ากันว่านี่เป็นแกนกลางของชิ้นส่วนสวรรค์ราชันสุริยัน กฎพิเศษของอาณาจักรราชันสุริยันทั้งหมดนั้นมาจากอิทธิพลของชิ้นส่วนนี้ ความลึกซึ้งของมันมากเกินกว่าที่ผู้สร้างจะเข้าใจได้

ในแง่ของทรัพยากร ตำหนักสวรรค์ราชันสุริยันศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นสำนักที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

นี่เป็นสำนักโบราณที่มีมาตั้งแต่ยุคสวรรค์ราชันสุริยัน มันมีอยู่มานานกว่า 400,000 ปีและได้ผลิตผู้สร้างกับจ้าวเต๋ามานับไม่ถ้วน รากฐานของมันลึกล้ำมาก

แม้ว่าตำหนักสวรรค์ราชันสุริยันศักดิ์สิทธิ์จะประสบกับความสูญเสียอยางหนักจากภัยพิบัติการล่มสลายของสวรรค์ราชันสุริยัน แต่พวกเขาก็ยังคงรักษามรดกเอาไว้ได้ประมาณ 30% และนี่คือวิธีที่พวกเขาได้รับสถานะอันสูงในอาณาจักรราชันสุริยันในปัจจุบัน

บนพื้นผิว มันก็มีผู้สร้างสามคน ผู้สร้างที่ซ่อนอยู่สิบคนและจ้าวเต๋าที่หลับใหลมาเป็นเวลานาน แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับตำหนักสวรรค์ราชันสุริยันศักดิ์สิทธิ์ที่จะกลายเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวแห่งนี้

ในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวของโลกนับไม่ถ้วน มันก็มีเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้นที่มีจ้าวเต๋า

อย่างไรก็ตาม ความผิดปกติที่พวกเขาเพิ่งค้นพบเมื่อเร็วๆ นี้ก็ทำให้ผู้อาวุโสในตำหนักสวรรค์ราชันสุริยันศักดิ์สิทธิ์ประหลาดใจ

ในต้าโจว หลี่หมิงเฉียงและเทพผู้พิทักษ์ผ้าพันคอเหลืองก็ได้ถูกค้นพบแล้วโดยตำหนักสวรรค์ราชันสุริยันศักดิ์สิทธิ์

การปรากฏตัวขึ้นโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้าใดๆ นี้ทำให้ตำหนักสวรรค์ราชันสุริยันศักดิ์สิทธิ์รู้สึกเป็นกังวลอย่างมาก และในขณะที่พวกเขากำลังรู้สึกประหลาดใจ พวกเขาก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอีกด้วยเช่นกัน ท้ายที่สุดแล้ว นี่ก็นับเป็นเรื่องสำคัญมาก

มันอาจจะเกิดเป็นปัญหาใหญ่ได้!

….

ตำหนักสวรรค์ราชันสุริยันศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้อยู่บนพื้นดิน มันเป็นกลุ่มตำหนักขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า

ยิ่งไปกว่านั้น มันถูกห่อหุ้มด้วยกระแสลมแห่งดวงดาวจำนวนมากและกลุ่มอักขระรูนที่หนาแน่น มันแยกโลกภายนอกออกจากตำหนักทั้งหลาย ในขณะเดียวกัน มันก็มีพลังในการปกปิดที่แข็งแกร่งมาก

นี่หมายความว่าถ้าใครไม่ได้เป็นเซียนสวรรค์ พวกเขาก็จะไม่มีคุณสมบัติแม้แต่จะได้เห็นตำหนักสวรรค์ราชันสุริยันศักดิ์สิทธิ์

สำหรับคนส่วนใหญ่ในดาวราชันสุริยันแล้ว ตำหนักสวรรค์ราชันสุริยันศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นผู้ปกครองที่แท้จริงของดาวดวงนี้ สำนักเซียนอื่นๆ นั้นไม่สามารถเปรียบเทียบกับพวกเขาได้เลย

แม้แต่สำนักเซียนที่มีผู้สร้างก็ยังนับเป็นแค่สำนักธรรมดาๆ เท่านั้น

มันมีเพียงตำหนักสวรรค์ราชันสุริยันศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่บนท้องฟ้า

ด้วยเหตุนี้เอง ศิษย์ทุกคนของตำหนักสวรรค์ราชันสุริยันศักดิ์สิทธิ์จึงภูมิใจในตัวตนของพวกเขามาก อย่างไรก็ตาม ความภาคภูมิใจนี้ก็ได้ถูกทำลายโดยเซียนกระบี่หญิงเมื่อกว่า 300 ปีที่แล้ว เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อตำหนักสวรรค์ราชันสุริยันศักดิ์สิทธิ์

เดิมที ตำหนักสวรรค์ราชันสุริยันศักดิ์สิทธิ์ก็อ้างตนว่าเป็นสำนักสวรรค์อันดับหนึ่งในอาณาจักรราชันสุริยันและมีความแข็งแกร่งที่แท้จริงอย่างมิอาจโต้แย้งได้ ด้วยเหตุนี้เอง พวกเขาจึงไม่ได้สนใจกองกำลังอื่นๆ ในอาณาจักรราชันสุริยันมากนัก

และเป็นเพราะเหตุนี้เอง แม้ว่าตำหนักสวรรค์ราชันสุริยันศักดิ์สิทธิ์จะมีสมบัติลับที่ใช้ในการตรวจสอบ แต่พวกเขาก็ไม่เคยใช้มัน และจึงไม่ได้ส่งใครมาดูแลมันเป็นพิเศษ

อย่างไรก็ตาม หลังจากการเผชิญหน้าเมื่อกว่า 300 ปีที่แล้ว ตำหนักสวรรค์ราชันสุริยันศักดิ์สิทธิ์ก็ได้เริ่มใช้สมบัติลับนั้นโดยตรง และเริ่มการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดในอาณาจักรราชันสุริยันทั้งหมด

สิ่งนี้ทำให้สำนักเซียนจำนวนมากคัดค้าน

ท้ายที่สุดแล้ว การเฝ้าระวังในระดับนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้สำนักเซียนจำนวนมากถูกเปิดเผยความลับออกมา

ด้วยวิธีนี้ ไม่ว่าพวกเขาจะมีปราชญ์หรือราชาปราชญ์กี่คน พวกเขาก็จะไม่สามารถเก็บเป็นความลับได้ พวกเขาไม่สามารถแม้แต่จะปกปิดผู้สร้างองค์ใหม่ที่กำลังทะลุทะลวงได้ พวกเขาทั้งหมดจะถูกสะท้อนให้เห็นในตำหนักสวรรค์ราชันสุริยันศักดิ์สิทธิ์

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายค้านใดๆ ก็ไร้ประโยชน์

ความจริงก็คือ ต่อให้สำนักเซียนทั้งหมดในอาณาจักรราชันสุริยันจะมารวมพลังกัน แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถแข่งขันกับตำหนักสวรรค์ราชันสุริยันศักดิ์สิทธิ์ได้ ตราบใดที่ตำหนักสวรรค์ราชันสุริยันศักดิ์สิทธิ์ต้องการ มันก็ไม่มีสิ่งใดจะมาหยุดพวกเขาได้

ในท้ายที่สุด ตำหนักสวรรค์ราชันสุริยันศักดิ์สิทธิ์ก็เริ่มตรวจสอบอาณาจักรราชันสุริยันทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม ในช่วง 300 ปีที่ผ่านมา พวกเขาก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ กระนั้น ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สถานการณ์บนดาวศักดิ์สิทธิ์เทวะนั้นก็ไม่ถูกต้องอย่างเห็นได้ชัด

ในวันนี้ โจวฟาน ผู้นำสำนักของตำหนักสวรรค์ราชันสุริยันศักดิ์สิทธิ์ได้เรียกเฟิงกวงหลิน ผู้รับผิดชอบในการตรวจสอบมาเพื่อหารือเกี่ยวกับดาวศักดิ์สิทธิ์เทวะ

โจวฟานเป็นชายวัยกลางคนที่ดูเหมือนจะอยู่ในวัยสี่สิบหรือห้าสิบ แม้ว่ารูปร่างหน้าตาของเขาจะดูธรรมดา แต่ออร่าของเขานั้นก็มั่นคงมาก เขาพูดเสียงเบาว่า “ ศิษย์น้องเฟิง เจ้าคิดอย่างไรเกี่ยวกับผู้สร้างทั้งสองบนดาวศักดิ์สิทธิ์?”

เฟิงกวงหลินดูเหมือนชายวัยกลางคน แต่เขาก็ดูมั่นคงกว่าโจวฟาน

เขาลูบเคราและยิ้ม “ ท่านเจ้าสำนักต้องไปสนใจพวกเขาด้วยหรอ? พวกเขาไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าคนนอกที่แอบเข้ามาที่นี่เหมือนๆ กับสิ่งที่เคยเกิดขึ้น”

“ ผู้สร้างที่ฝึกฝนกายาเต๋าจะสามารถเพิกเฉยต่ออุปสรรคของอาณาจักรราชันสุรยันได้ มันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะเข้ามาได้โดยไม่มีคำสั่งจากสวรรค์ราชันสุริยัน”

“ ถ้าท่านเห็นคุณค่าในตัวพวกเขา ข้าก็จะไปคุยกับพวกเขาเองภายในสองวัน ข้าจะถามว่าพวกเขาต้องการเข้าร่วมกับตำหนักสวรรค์ราชันสุริยันศักดิ์สิทธิ์ของเราหรือไม่ ตราบใดที่พวกเขาเข้าร่วม พวกเขาก็จะอยู่ข้างเรา”

“ เฮ้ เจ้าเล่นกลนี้อีกแล้วหรอ?” โจวฟานส่ายหัวและหัวเราะเบาๆ จากนั้นเขาก็พูดว่า “ ถ้าอย่างนั้น เพื่อรักษาระเบียบตามปกติของอาณาจักรราชันสุริยัน เจ้าก็จะฆ่าพวกเขาใช่ไหม?”

“ ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันก็คิดถึงความมั่นคงของอาณาจักรราชันสุริยันของเรา มันผิดด้วยหรอ?” เฟิงกวนหลินหัวเราะเสียงดังและพูดว่า “ พี่ใหญ่ ท่านวางแผนจะทำอะไรกับพวกเขา?”

“ อันที่จริง มันก็ไม่เป็นไรถ้าเป็นเพียงผู้สร้างจากภายนอกกลุ่มเล็กๆ” การแสดงออกของโจวฟานกลายเป็นเคร่งขรึมในขณะที่เขาพูดด้วยเสียงต่ำ “ แต่วิธีการของสองคนนั้นก็ไม่ธรรมดา พวกเขาเริ่มรุกรานความศรัทธาของเทพธิดาดอกบัวขาว พวกเขาคงจะเบื่อที่จะมีชีวิตอยู่แล้ว”

“ พวกเขาคงจะไม่รู้ถึงความยิ่งใหญ่ของสวรรค์และปฐพี” เฟิงกวงหลินหัวเราะเยาะ “ ผู้สร้างเพียงสองคนกล้าที่จะรุกรานศรัทธาของเทพธิดาดอกบัวขาว? พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะใช้สมองคิดอย่างไร”

“ เหตุใดมันจึงมีเพียงสำนักดอกบัวขาวไร้ชีวาบนดาวศักดิ์สิทธิ์เทวะขนาดใหญ่เช่นนี้? มันไม่เคยมีสำนักเซียนใดที่ไปฉกฉวยทรัพยากรและที่ดินจากที่นี่ มันยังมีเหตุผลสำหรับเรื่องนี้”

“ มันมีแม้แต่นักพรตเต๋าในหมู่ผู้ศรัทธาในเทพธิดาดอกบัวขาว พวกเขากล้าที่จะรุกรานความเชื่อของนางจริงๆ ฮ่าฮ่า” โจวฟานกล่าวด้วยเสียงต่ำ “ ตอนนี้เป็นช่วงเวลาพิเศษ มันจะต้องไม่มีปัญหาใดๆ”

“ ศิษย์น้อง เดินทางไปที่ดาวศักดิ์สิทธิ์เทวะและนำผู้สร้างทั้งสองคนนั้นกลับมา”