ตอนที่ 96 - บทที่ 96 จัดการทั้ง 30 คนด้วยการยิงธนูเพียงอย่างเดียวงั้นเหรอ

บทที่ 96 จัดการทั้ง 30 คนด้วยการยิงธนูเพียงอย่างเดียวงั้นเหรอ?

“หยางเสี่ยวฉุน? เจ้าเป็นอะไรไป?”

ชายคนหนึ่งถือปืนไรเฟิลอยู่ในมือและเกาคางแหลมอยู่ข้างๆ ถามอย่างสงสัยเมื่อเห็นสิ่งนี้

“ใช่ เจ้าสบายดีไหม ทำไมเจ้าถึงหน้าซีดขนาดนี้”

“เจ้าได้เห็นสิ่งที่เจ้าไม่ควรเห็นหรือป่าว?”

ทันใดนั้นผู้คนรอบข้างก็รวมตัวกันและพูดด้วยความห่วงใย

"ไม่..ไม่มีอะไร"

หยางเสี่ยวฉุนกล่าวอย่างไม่มั่นใจ

“หน้าเจ้าดูซีดมาก แล้วเจ้ายังบอกว่าไม่มีอะไรงั้นเหรอ?” ชายที่ห่วงใยเขาก็พูดขึ้นอย่างขมวดคิ้วว่า “บอกข้าสิว่าเจ้าเห็นอะไร ถึงทำให้เจ้าหวาดกลัวขนาดนี้”

“ขะ..ข้าเห็นโจรขโมยม้าฆ่าคน”

หยางเสี่ยวฉุนกลืนน้ำลายเต็มปากและพูดด้วยความหวาดกลัว

“ให้ตายเถอะ สัตว์นรกพวกนั้น!”

“ข้าล่ะอยากออกไปจัดการพวกมันจริงๆ ข้าจะยิงพวกมันให้หมด!”

“เปล่าประโยชน์ คนพวกนั้นฉลาดแกมโกงอย่างมาก และพวกเขาจะถือกล้องส่องทางไกลไว้ตลอด เมื่อพวกเขาพบว่าเรากำลังเข้าใกล้ พวกเขาจะวิ่งหนีเร็วกว่ารถของเราเสียอีก!”

หลายคนพูดอย่างโกรธเคือง

"ใช่แล้วล่ะ"

ชายถือปืนไรเฟิลตบไหล่เขา “เจ้าไม่ใช่ว่าเคยเห็นมาก่อนเหรอ? ทำไมครั้งนี้เจ้าถึงกลัวขนาดนี้ล่ะ?”

“พวกเขา..วิธีการของพวกเขาโหดร้ายเกินไป”

หยางเสี่ยวฉุนพูดอย่างตะกุกตะกัก

เมื่อเห็นสิ่งนี้ หลายคนก็ปลอบโยนกันก่อนจะกลับไปประจำตำแหน่งของตัวเอง

มีเพียงชายที่มีคางแหลมเท่านั้นที่มีแววตาสงสัย

เด็กคนนี้เขากำลังปิดบังอะไรบางอย่างอยู่แน่ๆ!

“เป็นไปได้ไหมว่าข้าคิดมากไปจริงๆ?”

เมื่อเห็นว่าหมู่บ้านของพวกเขาอยู่ข้างหน้าแล้ว เฉินฟานก็รู้สึกงงงวยอย่างมาก

ระหว่างทางเขาไม่กล้าทำเรื่องอื่นเลย เขามักจะใช้กล้องส่องทางไกลเพื่อมองดูการเคลื่อนไหวที่อยู่ด้านหลังเขาทุก 2-3 กิโลเมตร เนื่องจากกลัวว่าจะมีผู้ไล่ตามจำนวนมากที่มีปืนพร้อมกระสุนจริงจะปรากฏขึ้นข้างหลังเขาอย่างกระทันหัน

เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครไล่ตามมาเลย

“เฉินฟาน เจ้ากำลังกังวลว่าจะมีคนตามเรามาหรือเปล่า?”

กู่เซ่อถามขึ้น

ระหว่างทาง เขารู้สึกสับสนเล็กน้อยเมื่อเห็นเฉินฟานมองย้อนกลับไป และใช้กล้องส่องทางไกลเพื่อดูมันเป็นครั้งคราว

เฉินฟานยิ้มให้เขา “ใช่ โชคดีที่ไม่มีผู้ไล่ตาม”

กู่เซ่อพยักหน้า คิดว่านี้คงเป็นเหตุผลที่เขาดูกังวลมาตลอดทาง จากนั้นดวงตาของเขาจ้องมองไปที่วัวป่ากลุ่มใหญ่นี้ และในดวงตาของเขาก็มีความกังวลอยู่เล็กน้อย

ไม่ต้องพูดถึงกองกำลังอื่น แค่พวกจ้าวเจียเป่าที่ใกล้ ๆ ถ้าพวกเขารู้น่าจะมีปัญหาตามมาอย่างแน่นอน

พวกเขาต้องเก็บพวกวัวป่าไว้ จนกว่าพวกเขาจะฝึกขี่จนเชี่ยวชาญเสียก่อน

เฉินฟานมองไปข้างหน้า โดยคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีสำหรับทีมของเขาที่สามารถนำวัวป่ากลับมาที่หมู่บ้านอย่างปลอดภัย แต่เขาก็ไม่ควรประมาทเหตุการณ์ในอนาคตต่างๆ

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้พิทักษ์ของซ่งเจียเป่าต้องเห็นพวกเขาอย่างแน่นอน

ปัญหาคือว่าอีกฝ่ายเป็นใครและมีตำแหน่งในซ่งเจียเป่านั้นมากขนาด ถ้าเขาเป็นคนใหญ่โตและมีความอยากที่มากมาย นี่ก็จะเป็นปัญหาอย่างมากแล้ว

แต่ถ้าอีกฝ่ายเป็นทหารยามทั่วไปก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

“ถ้ามีปัญหาจริงๆ เมื่อกลับไปแล้วขอให้เหมินหยูช่วยทำนายดูก็แล้วกัน ถ้าทำนายได้ก็จะดีมาก ถ้าทำนายไม่ได้ก็ทำได้เพียงพิจารณาไปทีละก้าวเท่านั้น ตอนนี้ข้าต้องความเข้มแข็ง ความแข็งแกร่งเท่านั้นคือทุกสิ่ง" เฉินฟานกำหมัดแน่น

บนหอสังเกตการณ์นั้น ชายคนนั้นมองเห็นทหารม้ากำลังเดินมาทางนี้ และอารมณ์ของเขาก็เริ่มไม่สบายใจขึ้นมาทันที

เป็นไปได้ไหมที่พวกโจรขโมยม้าเข้ามาโจมตีพวกเขา? ถ้าเป็นเช่นนั้นมันก็เป็นสถานการณ์ที่แย่มากไม่ใช่เหรอ? กองกำลังหลักของหมู่บ้านไม่ได้อยู่ที่นี่ แล้วเขา, จางเหริน, หวังปิง และคนหนุ่มสาวคนอื่น ๆ จะสามารถหยุดยั้งกลุ่มโจรขโมยม้าที่ชั่วร้ายได้หรือไม่?

แต่เขาก็ค่อยๆ รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เนื่องจากกลุ่มคนนี้ดูเหมือนจะจูงม้าและเดินมาที่นี่ โจรขโมยม้ามาแล้วก็ไปเหมือนสายลม เหตุใดพวกเขาถึงต้องจูงม้าอย่างเชื่องช้าขนาดนี้

"อะไรนะ?!"

เขาวางมือข้างหนึ่งบนหน้าผาก หรี่ตาลงอย่างคาดหวัง จากนั้นยืนอยู่ที่นั่นทันทีราวกับถูกฟ้าผ่า

ไม่รู้ว่าเขาต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะรู้ตัว จากนั้นเขาจึงรีบส่งเสียงเตือนทันที

"แต๊งๆๆ"

เสียงระฆังอันไพเราะและกังวาลแผ่กระจายไปทั่ว

ทันใดนั้น เด็กๆ ที่กำลังวิ่งเล่น คนแก่ที่กำลังคุยกันเรื่องการบ้าน คนหนุ่มสาวที่กำลังฝึกศิลปะการต่อสู้ ทุกคนหยุดสิ่งที่พวกเขาทำและมองไปที่ประตูหมู่บ้าน

“เสียงระฆังงั้นเหรอ?”

“ทีมล่ากลับมาแล้วเหรอ?”

“เร็วขนาดนั้นเลยเหรอ เพิ่งสี่โมงเองไม่ใช่เหรอ?”

“ไปดูกันเถอะ จะได้รู้เองแหล่ะ”

ทุกคนไปที่ประตูหมู่บ้านทีละคน

มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้น เห็นได้ชัดว่ามีคนมารวมตัวกันที่ประตูหมู่บ้านมากขึ้นเรื่อยๆ แต่บรรยากาศกับเงียบสงบอย่างมาก

“ทำไมคนถึงยืนตรงนั้นโดยไม่พูดอะไรสักคำล่ะ”

หวังปิงและคนอื่น ๆ มาถึงเป็นคนสุดท้ายพร้อมกับจางเหริน

“ใช่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

“ไปดูกันว่าพี่ฟานและคนอื่น ๆ กลับมาหรือยัง”

หลายคนเข้าหาฝูงชนขณะพูดคุย จากนั้นจึงมองตามพวกเขาไป ทันใดนั้น แต่ละปากก็เปิดกว้างพอที่จะยัดไข่ได้หลายฟอง

ดังนั้น พวกเขาจึงกลายเป็นสมาชิกของกองทัพตกตะลึงด้วยเช่นกัน

"เป็นอะไรกันว่ะ?"

จางเหรินขมวดคิ้วอย่างสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนพวกนี้?

ตอนนี้เขายังคงบ่นเกี่ยวกับคนอื่น พร้อมกับเดินแทรกฝูงชนเข้าไป

เขาเดินกะโผลกกะเผลกแทรกไปเรื่อยๆ ในที่สุดดวงตาของเขาก็ทะลุผ่านฝูงชน จากนั้นดวงตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้นอย่างกะทันหัน และเขาก็ยังคงนิ่งเฉยราวกับว่าเขาได้หลอมเป็นหนึ่งเดียวกับคนเหล่านี้แล้ว

ในขณะนี้ ทั้งหมู่บ้านดูเหมือนจะตกอยู่ในมนต์เสน่ห์และตกอยู่ในสภาวะนิ่งเงียบอย่างมาก

“ดูเหมือนทุกคนจะอยู่ที่นี่แล้ว”

“ใช่แล้ว ทุกคนกำลังดูพวกเราอยู่!”

“พวกเขาทุกคนดูประหลาดใจอย่างมาก ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้างราวกับวัวกระทิง”

“ฮ่าฮ่าฮ่า พวกเขาคงเห็นพวกเรานำวัวป่ากลับมามากมาย พวกเขาคงตกใจจนพูดไม่ออกใช่ไหม?”

ทุกคนกำลังคุยกัน แต่ละคนหน้าอกพองอย่างภาคภูมิใจพร้อมกันใบหน้าแดงก่ำ

แม้ว่าวัวป่าเหล่านี้จะถูกเฉินฟานจับเพียงลำพัง

แต่ผู้ที่ไปด้วยก็ได้รับเกียรติเช่นกัน

ระยะที่ทีมล่ากำลังใกล้เข้ามา และในที่สุดก็มีเสียงพูดคุยกันในหมู่ฝูงชน

“โอ้พระเจ้า ข้ากำลังฝันอยู่หรือเปล่า? นั่นคือกัวตงและคนอื่นๆ จริงใช่ไหม?”

“เหรอ? ถ้าไม่ใช่พวกเขาแล้วจะเป็นใครได้อีก?”

“แต่พวกเขาเอาวัวป่าจำนวนมากขนาดนี้กลับมาที่ไหนล่ะ?”

“ใช่ หนึ่ง สอง สาม…” มีคนเบิกตากว้างและเสียงของเขาก็สั่น “ยี่สิบห้า ยี่สิบห้าตัว!”

“ยี่สิบห้าตัวมันเป็นราคาเท่าไหร่?”

หลายๆ คนไม่สามารถพูดได้คล่องอีกต่อไป

“วัวป่าพวกนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่วัวป่าธรรมดาไม่ใช่เหรอ?”

มีผู้หนึ่งร้องว่า “มีอานและบังเหียนเหมือนสัตว์พาหนะ?”

“อะไรนะ วัวป่าที่ขี่ได้งั้นเหรอ?”

“วัวป่าที่ขี่ได้?!!”

ทันใดนั้น บรรยากาศในกลุ่มผู้ชมก็เงียบสงบ]’อีกครั้ง เหลือเพียงเสียงหายใจหนักเท่านั้น

แม้แต่จางเหรินก็ไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้ในขณะนี้

นั่นไม่ใช่เพียงภูเขาแห่งความมั่งคงงั้นเหรอ?

หากเป็นสิบปีก่อน สัตว์พาหนะคงเทียบไม่ได้กับพาหนะสมัยใหม่ แต่ตอนนี้มันแตกต่างไปมาก เพราะป่าเป็นสวรรค์ของสัตว์อสูร ไม่ต้องพูดถึงทางหลวง แม้แต่รางรถไฟ ล้วนถูกทำลายเป็นชิ้น ๆ ฝังลึกอยู่ในวัชพืชไปแล้ว

กรณีนี้ถ้าต้องการไปให้ไกลก็ต้องมีรถที่มีโครงสูงและกำลังแรงไม่อย่างนั้นต้องหยุดกลางทางอย่างแน่นอน แน่นอนว่านี่ยังไม่นับสิ่งกีดขวางต่างๆนาๆ

แต่สัตว์ป่านั้นแตกต่างออกไป ไม่เพียงแต่เร็วขึ้นและทนทานมากขึ้นเท่านั้น พวกมันไม่ต้องกินน้ำมันเบนซินอีกด้วย และพื้นที่รกร้างนี้เป็นเพียงทุ่งหญ้าตามธรรมชาติของพวกมันเท่านั้น

“กัวตงและคนอื่นๆ พวกเขาได้พาหนะมากมายขนาดนี้มาได้อย่างไร?”

จางเหรินรู้สึกหวาดกลัว

“หรืออาจจะเป็น…?”

ในมุมฝูงชน ผู้หญิงผมสีดำก็เบิกตากว้างเช่นกัน เธอแตกต่างจากคนส่วนใหญ่ เธอเดาได้อย่างคลุมเครือถึงที่มาของฝูงวัวป่านี้

“นั่นม้าของพวกโจรขโมยม้าไม่ใช่เหรอ?”

เหมิงหยูตกใจอย่างมาก

ดูเหมือนว่าจะไม่มีคำอธิบายอื่นนอกเหนือจากนี้

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ ตั้งแต่ทีมล่าออกเดินทางตั้งแต่เช้า เธอก็รู้สึกกังวลอย่างมาก แม้ว่าเฉินฟานจะเต็มไปด้วยความมั่นใจอย่างมาก แต่ฝ่ายตรงข้ามก็เป็นโจรขโมยม้าที่มีจำนวนมากกว่า 30 คน!

เฉินฟานหรือคนอื่นจะสามารถเป็นคู่ต่อสู้ของอีกฝ่ายได้หรือไม่?

ภาพตรงหน้าของเธออธิบายคำตอบได้อย่างชัดเจน เฉินฟานไม่เพียงแต่กลับมาพร้อมกับทุกคนโดยไม่ได้รับบาดเจ็บเท่านั้น เขายังสามารถสังหารกลุ่มโจรขโมยม้าและยังจับสัตว์พาหนะได้มากกว่า 20 ตัวอีกด้วย

แม้ว่ากลุ่มโจรขโมยม้าจะหลบหนีไปโดยบังเอิญ แต่ก็น่าจะเป็นปัญหาร้ายแรง

ในที่สุด ภายใต้สายตาอันเร่าร้อนของทุกคน เฉินกัวตงและคนอื่น ๆ ก็พาม้าเดินไปที่หมู่บ้าน

“เรากลับมาแล้ว พวกเจ้ารอนานหรือป่าว?”

เฉินกัวตงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ฝูงชนเงียบในตอนแรก จากนั้นจึงส่งเสียงเชียร์อันอบอุ่นอย่างหาที่เปรียบมิได้ออกมา ราวกับต้อนรับการกลับมาอย่างมีชัยของฮีโร่

ในที่สุดเสียงก็เงียบลง และมีคนอดไม่ได้ที่จะถามว่า "กัวตง เกิดอะไรขึ้นระหว่างทาง? พวกท่านนำวัวป่าจำนวนมากขนาดนี้กลับมาได้อย่างไร"

“ใช่..ใช่แล้ว พี่กัวตง เกิดอะไรขึ้น?”

"บอกเราหน่อยสิ"

จากนั้นพวกเขาก็จูงวัวป่าเดินข้ามสะพานแขวนเข้ามาในหมู่บ้าน

สะพานแขวนถูกดึงขึ้นทันที บังการมองเห็นจากโลกภายนอก

“เหตุการณ์นี้น่าตื่นเต้นจริงๆ ต้องขอบคุณเสี่ยวฟาน เราไม่เพียงแต่ช่วยกอบกู้ชีวิตของทุกคนได้เท่านั้น แต่ยังสามารถนำวัวป่ากลับมาได้อีกมากมายด้วย” เฉินกัวตงยิ้มเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ แม้ว่าเขายังคงมีความกลัวอยู่บ้างเล็กน้อย แต่ทุกอย่างก็ผ่านมาแล้ว

ด้วยคำพูดของเขา ทำให้ดวงตาหลายร้อยคู่ก็เพ่งไปที่เฉินฟาน ซึ่งเต็มไปด้วยความชื่นชม

“พี่ฟาน ว้าว!”

หวังปิงและคนอื่นๆ ตะโกนออกมาทันที และพวกเขาเดาว่าวัวป่าจำนวนมากมีส่วนเกี่ยวข้องกับเฉินฟาน

เฉินฟานโบกมือด้วยรอยยิ้ม ดวงตาของเขาสบกับเหมิงหยูโดยไม่ได้ตั้งใจ เขายิ้มให้เหมิงหยู คนหลังหน้าแดงแล้วก้มศีรษะลงอย่างรวดเร็ว แต่มุมปากของเธอกลับหยักขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ

ในเวลานี้หลิงหยงได้เริ่มอธิบายกระบวนการแล้ว

ทุกคนต่างตกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น เมื่อมองไปที่ฝูงวัวป่าที่อยู่ตรงหน้า ความตื่นเต้นก็ดูไม่รุนแรงเหมือนเมื่อก่อน

มันอันตรายขนาดนั้นเลยเหรอ?

หลายคนเคยได้เห็นความโหดร้ายของพวกโจรขโมยม้าด้วยตาของตัวเอง และแม้แต่ญาติบางคนก็ตายด้วยน้ำมือของพวกโจรขโมยม้าอีกด้วย

แต่เขากลับบอกว่าพวกโจรขโมยม้าที่มีจำนวนมากกว่า 30 คนถูกเฉินฟานสังหารด้วยการยิงธนูเพียงอย่างเดียว ทั้ง 30 คนเลยงั้นหรอ?!!!