บทที่ 146 เพิ่ม 5 ระดับและทะลวงขอบเขต
นอกประตูก็มีเสียงแผ่วเบาดังขึ้น
“พี่อู๋ เมื่อกี้ข้าไม่ได้พูดมากเกินไปเหรอ? พี่เฉินจะไม่พอใจหรือป่าว?”
“ไม่ต้องกังวล พี่เฉินไม่ใช่คนใจแคบขนาดนั้น” เสียงของอู๋กวงดังขึ้น
“ดีแล้ว ข้าแค่มีความสุขมากไป ข้าไม่ได้คาดคิดว่าไม่เพียงแต่ข้าจะได้รับอิสระเท่านั้น แต่ยังได้รับอาหารมากมายในคราวเดียวอีกด้วย”
“คงจะดีไม่น้อยหากวันนี้มาถึงเร็วกว่านี้น้องชายของข้าจะไม่เหนื่อย”
"แต่ตอนนี้มันก็ดีมากแล้ว.."
จากนั้นเสียงก็ค่อยๆลดลง
เฉินฟานถอนหายใจออกมาเบา ๆ
สิ่งที่เขาทำในวันนี้น่าจะเป็นการรักษาเสถียรภาพของสถานการณ์ได้ดีที่สุด แม้ว่าบางคนยังไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้ แต่ก็ไม่น่าจะมีคลื่นลมอะไรภายในอีกแล้ว เมื่อพ่อและคนอื่นๆมาถึง ทุกอย่างก็จะสามารถควบคุมได้อย่างง่ายดาย
แม้ว่าจำนวนคนจะเพิ่มขึ้นหลายเท่า แต่พวกเขาเหล่านี้แทบจะไม่สามารถพึ่งพาตัวเองได้เลย แต่ถ้าอาหารไม่พอจริงๆ พวกเขาก็ยังสามารถเพาะปลูกอาหารและข้าวได้
นอกจากนี้ยังมีคนหนุ่มสาวและชายวัยกลางคนจำนวนไม่น้อย ด้วยการฝึกฝนเพียงเล็กน้อย พวกเขาสามารถรวมเข้ากับทีมล่าหรือปกป้องหมู่บ้านได้ ซึ่งไม่ได้ขาดแคลนกำลังเหมือนเมื่อก่อน
โดยทั่วไปแล้วทุกอย่างกำลังพัฒนาไปในทางที่ดีอย่างแน่นอน
แน่นอนว่าในฐานะเสาหลักของหมู่บ้าน เขาจะต้องปรับปรุงความแข็งแกร่งของตัวเองอย่างต่อเนื่อง ไม่เช่นนั้นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยก็สามารถทำลายสถานการณ์ที่ดีในปัจจุบันได้เช่นกัน
"ถึงเวลาเปลี่ยนการเก็บเกี่ยวในครั้งนี้ให้เป็นความแข็งแกร่งของตัวเองแล้ว"
เฉินฟานคิดจากนั้นเขาก็หยิบขวดเม็ดยาพลังงานเลือดสามขวดออกมาจากกระเป๋าของเขา และวางไว้บนโต๊ะตรงหน้าเขา ในเวลาเดียวกันเขาก็มองไปที่แผงคุณสมบัติ
ขอบเขต: การปรับแต่งกล้ามเนื้อขั้นปลาย
ระดับ: 10 (0/300)
กายภาพ: 206.97
ความแข็งแกร่ง: 221.95
ความคล่องตัว: 131.76
พลังจิตวิญญาณ: 104.28
แต้มศักยภาพ: 1,652 (20 คะแนน/1 วัน)
แต้มค่าประสบการณ์: 155
เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของปฏิบัติการนี้ เฉินฟานได้ยกระดับขอบเขรของเขาจากขั้นกลางของขอบเขตการปรับแต่งกล้ามเนื้อไปจนถึงขั้นปลายของขอบเขตการปรับแต่งกล้ามเนื้อเมื่อเขาออกเดินทางออกมา
ทำให้ค่าสถานะทางกายภาพและความแข็งแกร่งเกิน 200 แต้มแล้วในขณะนี้ โดยเฉพาะค่าสถานะความแข็งแกร่งถึง 220 แต้ม
กล่าวอีกนัยหนึ่ง เขาได้มาถึงขีดจำกัดของการพัฒนาขอบเขตอีกครั้งแล้ว
เฉินฟานกลืนน้ำลายของเขาลง และมองดูเครื่องหมายบวกที่ด้านหลังของขอบเขตแล้วคลิกมันอย่างตื่นเต้น
【เกณฑ์การบุกทะลวง: ค่าสถานะทางกายภาพ ความแข็งแกร่งซึ่งถึง 200 แต้ม ถึงค่าเกณฑ์แล้ว】
【ค่าเฉลี่ยของค่าสถานะทางกายภาพ ความแข็งแกร่ง และความคล่องตัวทั้งสามนั้นเกิน 170 คะแนน ระดับของร่างกายโดยรวมถึงระดับ 15 จะทำให้อัตราความสำเร็จในการบุกทะลวงถึง 100% และความน่าจะเป็นความสำเร็จในการบุกทะลวงในปัจจุบันคือ 78% 】
【ท่านต้องการก้าวหน้าหรือไม่? 】
เมื่อมองดูข้อมูลสามบรรทัดที่คุ้นเคย สายตาของเฉินฟานก็จ้องมองไปที่บรรทัดที่สอง ด้วยความประหลาดใจในดวงตาของเขา
มีถึงสองเงื่อนไข?
เงื่อนไขที่ 1 ค่าเฉลี่ยของค่าสถานทั้งสามประการ ได้แก่ ร่างกาย ความแข็งแกร่ง และความคล่องตัว เกิน 170 คะแนน เขาคำนวณว่าค่าเฉลี่ยของค่าสถถานะทั้งสามของเขาถึง 177 คะแนนแล้ว ซึ่งพอใจอย่างเห็นได้ชัด
เงื่อนไขที่ 2 ระดับโดยรวมของร่างกายถึงระดับ 15 และขณะนี้เขาอยู่ที่ระดับ 10 เท่านั้น นี่ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องยากที่จะบรรลุความสำเร็จ 100% เนื่องจากแต้มศักยภาพของเขาคือมีถึง 1,652 แต้ม
หากแต้มศักยภาพจำนวนมากเหล่านี้ไม่เพียงพอ ไม่ต้องกังวล เพราะเขายังมีเม็ดยาพลังงานเลือดระดับกลางสามขวดอยู่ตรงหน้าของเขาซึ่งยังไม่ได้กลืนกิน
หากเงื่อนไขแรกอยู่ในความคาดเดาของเขา แม้ว่าเขาจะเพิ่มคุณค่าพลังจิตวิญญาณเข้าไปอีก เขาก็จะไม่แปลกใจ
แต่เงื่อนไขที่สองต่างหากที่ทำให้เขารู้สึกคาดไม่ถึงเล็กน้อย
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าแต้มศักยภาพที่จำเป็นสำหรับเพิ่มระดับโดยรวมจะมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ในภายหลัง ดังนั้นเขาจึงพยายามใช้แต้มค่าประสบการณ์เพื่อปรับปรุงค่าสถานะให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้แทน และรักษาแต้มศักยภาพเอาไว้ให้มากที่สุด
ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะคิดมากเกินไป
จากขอบเขตการชำระล้างร่างกายไปสู่ขอบเขตการปรับแต่งกล้ามเนื้อไม่มีข้อกำหนดเกี่ยวกับการระดับ แต่ขอบเขตการปรับแต่งกล้ามเนื้อเพื่อจะเข้าสู่ขอบเขตหมิงจินนั้นต้องการระดับ 15
ถ้าเป็นอย่างนี้ ข้อกำหนดสำหรับการเพิ่มระดับนั้นน่าจะสูงขึ้นจากการบุกทะลวงเข้าสู่ขอบเขตหมิงจินและทะลวงไปสู่ขอบเขตที่สูงขึ้นต่อไปหรือไม่?
"ไม่ค่อยดีแล้ว"
เฉินฟานยิ้มแห้งๆออกมา
เป็นเรื่องธรรมดาที่ระดับต่ำจะใช้แต้มศักยภาพน้อย แต่เมื่อระดับจะสูงขึ้นในอนาคต และแต้มศักยภาพที่จำเป็นสำหรับการเลื่อนระดับแต่ละระดับอาจจะสูงเทียมฟ้า
และเขาไม่ได้คาดคิดว่ายังคงมีเกณฑ์ดังกล่าวสำหรับการพัฒนาขอบเขตอีกด้วย แต่เนื่องจากมันปรากฏขึ้นแล้ว จึงไม่มีทางอื่นนอกจากต้องยอมรับมัน
เมื่อนึกถึงสิ่งที่ลุงจางพูด ดูเหมือนว่าจะสามารถใช้เป็นคำอธิบายเหตุการณ์นี้ได้
เขากล่าวว่าสำหรับคนธรรมดา แม้ว่าพวกเขาจะโง่เขลาเล็กน้อย แต่ถ้าพวกเขาเต็มใจจะฝึกหนัก และมีเงินเพียงพอที่จะพัฒนาความแข็งแกร่งของพวกเขา มันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่พวกเขาจะไปถึงขั้นที่ 3 ของขอบเขตการชำระล้างร่างกาย หรือแม้แต่กลายเป็นนักรบของเขตการปรับแต่งกล้ามเนื้อ
อย่างไรก็ตาม มันยากที่จะทะลุผ่านจากของเขตการปรับแต่งกล้ามเนื้อและกลายเป็นนักรบขอบเขตหมิงจิน
บางคนเมื่อมาถึงขั้นปลายของขอบเขตการปรับแต่งกล้ามเนื้อ หลังจากผ่านมาหนึ่งหรือสองปีของยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง แต่นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาไม่ว่าพวกเขาจะพยายามหนักแค่ไหน แม้ว่าความแข็งแกร่งทางกายภาพจะดีขึ้นมากขนาดไหน พวกเขาก็ยังไม่สามารถทะลายขีดจำกัดของตัวเองเพื่อเข้าสู่ขอบเขตหมิงจินได้ แม้จะผ่านมาเป็นเวลานาน
สิ่งนี้ไม่สามารถก้าวข้ามด้วยความแข็งแกร่งของร่างกายเพียงอย่างเดียว มันมีกฏเกณฑ์ที่ต้องบรรลุก่อนด้วย
ลุงจางเรียกสิ่งนี้ว่ากฏเกณฑ์ที่มองไม่เห็น
ผู้ที่มีความสามารถสูง หลังจากเข้าถึงขั้นปลายของของเขตการปรับแต่งกล้ามเนื้อแล้ว อาจตระหนักถึงการมีอยู่กฏเกณฑ์นี้ภายในหนึ่งปีหรือสองปี จากนั้นพวกเขาค่อยสามารถทะลวงกฏเกณฑ์ที่มองไม่เห็นนี้ และกลายเป็นนักรบขอบเขตหมิงจินที่ทรงพลัง
ผู้มีความสามารถต่ำจะถูกปิดกั้นจากเกณฑ์ที่มองไม่เห็นนี้ไปตลอดชีวิต และจะอยู่ในขั้นปลายของของเขตการปรับแต่งกล้ามเนื้อตลอดไป ความแข็งแกร่งทางกายภาพที่บริสุทธิ์บางคนอาจจะเกินกว่านักรบขอบเขตหมิงจินไปแล้ว หากพวกเขาต้องการต่อสู้จริงๆ แน่นอนว่าพวกเขามักจะพ่ายแพ้ต่อนักรบหมิงจิน
นี่เป็นกฏเกณฑ์จากของเขตการปรับแต่งกล้ามเนื้อไปจนถึงขอบเขตหมิงจิน จากขอบเขตหมิงจินไปถึงขอบเขตเห่ยจินก็มีกฏเกณฑ์เช่นเดียวกัน และเห่ยจินไปจนถึงฮั่วจินก็เช่นเดียวกัน
“ดังนั้น สำหรับนักรบธรรมดากฏเกณฑ์ที่มองไม่เห็นนั้นยากที่จะสัมผัสและจับต้องไม่ได้ แต่สำหรับข้า ตราบใดที่ระดับของข้าเพิ่มขึ้น ข้าก็ผ่านมันไปได้ แต่แน่นอนว่าข้าต้องจ่ายแต้มศักยภาพออกไปเป็นจำนวนมาก"
เฉินฟานพยักหน้าอย่างลับๆ
ข้ารู้สึกว่าการเดานี้ควรเป็นความจริงเสียแปดส่วน
“ในกรณีนี้ งั้นข้าก็จะเพิ่มระดับเป็น 15 เลยก็แล้วกัน”
แม้ว่าเขาจะรู้สึกลำบากใจเล็กน้อยจากการทำเช่นนี้ แต่ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าถ้าเขายกระดับของเขาและบุกทะลวงขอบเขตอีกครั้ง ค่าสถานะต่างๆ ของเขาอาจเกินกว่านักรบหมิงจินธรรมดาไปมาก และยังสามารถเทียบได้กับนักรบเห่ยจินด้วยซ้ำ
เพื่อป้องกันการขาดแต้มศักยภาพในการเพิ่มระดับ เขาจึงเปิดขวดเล็กของเขาและเทเม็ดยาพลังงานเลือดระดับกลางออกมา และใส่เข้าไปในปากของเขาพร้อมกับกลืนมันลงไป
เม็ดยานี้ละลายในปาก
จากนั้นพลังงานอันมหาศาลก็ไหลไปทั่วร่างกายพร้อมกับเลือดของเขา
【แต้มศักยภาพ +2,000 แต้ม】
เมื่อมองดูการเพิ่มขึ้นของแต้มศักยภาพที่เกิดขึ้นในใจของเขา ดวงตาของเฉินฟานก็แสดงความตื่นเต้นออกมา
มันสมควรแล้วที่จะเป็นเม็ดยาพลังงานเลือดระดับกลาง แม้ว่าราคามันจะสูงกว่ายาเม็ดยาพลังงานเลือดระดับต่ำถึงห้าเท่า แต่แต้มศักยภาพที่สามารถได้รับก็มากกว่าเม็ดยาพลังงานเลือดระดับต่ำประมาณ 7 เท่า!
มันคุ้มค่าอย่างมาก!
หากเป็นเม็ดยาพลังงานเลือดระดับสูง ราคาจะอยู่ที่ 20,000 หยวนต่อเม็ดซึ่งเป็นสี่เท่าขอเม็ดยาพลังงานเลือดระดับกลาง และแต้มศักยภาพที่น่าจะได้รับคงเกือบห้าเท่าซึ่งประมาณ 10,000 แต้มอย่างแน่นอน
เมื่อเฉินฟานคิดถึงเรื่องนี้ หัวใจของเขาก็เต้นรัว
แน่นอนว่ายิ่งยาระดับสูงมากเท่าไรก็ยิ่งคุ้มค่ามากขึ้นเท่านั้น
ดูเหมือนว่าเขาจะต้องออมเงินในอนาคตไว้อย่างมาก หากเขาสามารถซื้อเม็ดยาพลังงานเลือดระดับสูงได้ ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อระดับกลางไม่เช่นนั้นจะเสียเงินเปล่า
จากนั้นเขาก็ไม่หยุดและโยนเม็ดยาพลังงานเลือดระดับกลางเข้าไปในปากของเขาเหมือนกับการกินถั่ว
เขากังวลเล็กน้อยว่าจะการแจ้งเตือนจะรวนหรือป่าว?
แต่โชคดีที่มันไม่รวน
ในท้ายที่สุด เม็ดยาพลังงานเลือดระดับกลางทั้ง 26 เม็ดก็ถูกแปลงเป็นแต้มศักยภาพเรียบร้อย
จำนวนแต้มศักยภาพบนแผงคุณสมบัติพุ่งสูงขึ้นจาก 1,652 แต้มในช่วงเริ่มต้นเป็น 53,652 แต้ม!
เฉินฟานแสดงรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา แต่รอยยิ้มก็แข็งทื่อในไม่ช้า
เขารู้ว่ามันดูเหมือนมาก
แต่จริงๆแล้ว เมื่อระดับโดยรวมของเขาสูงขึ้น แต้มศักยภาพ 53,000 แล้วมันยังไง? เขากลัวว่าแค่เพิ่มระดับเดียวก็อาจจะไม่เพียงพอด้วยซ้ำ
“งั้นก็ทำกฏเกณฑ์ในปัจจุบันให้ถึงเป้าก่อน สำหรับแต้มศักยภาพที่เหลือก็เก็บไว้สำหรับการพัฒนาครั้งต่อไป บางทีหลังจากนี้อีกไม่นานข้าก็จะสามารถรู้เกณฑ์ในการทะลวงผ่านไปสู่ขอบเขตเห่ยจินได้”
เฉินฟานมองไปที่แถบระดับ และมีการเปลี่ยนแปลงห้าครั้งติดต่อกัน!
【แต้มศักยภาพ - 300 แต้ม】
【แต้มศักยภาพ -500 แต้ม】
【แต้มศักยภาพ -800 แต้ม】
【แต้มศักยภาพ -1300 แต้ม】
【แต้มศักยภาพ -2100 แต้ม】
ความร้อนที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนพุ่งออกมาจากหัวใจ
เฉินฟานรู้สึกว่าร่างกายของเขาเหมือนถูกต้ม มันร้อนมาก เขารีบเข้าไปในห้องน้ำ ถอดเสื้อผ้าและระบายความร้อนด้วยน้ำเย็น
โชคดีที่การเคลื่อนไหวนีัไม่ได้กินเวลานานเกินไป หลังจากผ่านไปสามถึงห้าวินาที ความร้อนก็หายไป
"ฮู..."
เฉินฟานถอนหายใจด้วยความโล่งอก โดยคิดว่าเขายังหุนหันพลันแล่นอยู่เล็กน้อย และเขาควรจะค่อยๆ อัพระดับไปทีละขั้นดีกว่า
เขาปิดฝักบัวและมองไปที่ร่างกาย และเห็นกล้ามเนื้อของเขายื่นปูดออกมาเหมือนหินแกรนิต และแต่ละชิ้นเต็มไปด้วยพลังที่ราวกับจะระเบิดออกมา
เขาอดไม่ได้ที่จะเอานิ้วจิ้มมัน มันแข็งอย่างมาก
“ด้วยความแข็งแกร่งทางกายภาพเช่นนี้ หากข้าบุกทะลวงขอบเขตอีกครั้ง แม้ว่าข้าจะโดนกระสุนปืนไรเฟิลยิงก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่อะไร ”
จากนั้นเขาก็ใช้ความคิดทำการทะลวงขอบเขตอีกครั้ง
"แคร้ก!"
มีเสียงแตกร้าวตามร่างกายดังชัดเจนขึ้นกว่าเดิม
กระแสความร้อนอันทรงพลังและไม่มีใครเทียบได้พลุ่งพล่านออกมาราวกับแม่น้ำของเขื่อนที่พังทลายลง
ทุกส่วนในร่างกายมีเสียงแตกเหมือนถั่วแตก กล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างกายตึงเปรี้ยและเห็นเส้นเลือดปูดโปน ดูน่ากลัวอย่างยิ่ง
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน การเคลื่อนไหวภายในร่างกายของเขาก็ค่อยๆ ลดลง และหายไปในความว่างเปล่าในที่สุด
เฉินฟานลืมตาขึ้นและดวงตาก็เปล่งประกายด้วยแสงออกมา หลังจากนั้นเขาก็ยกแขนขวาขึ้นและชกอากาศที่อยู่ข้างหน้าเขาด้วยความเร็วดุจสายฟ้าทันที
"ตูม!"
อากาศที่อยู่ข้างหน้าเขาดูเหมือนจะถูกระเบิดด้วยหมัดนี้ ทำให้เกิดเสียงระเบิดที่น่าหวาดกลัวดังขึ้น
อู๋กวงและคนอื่น ๆ ที่รออยู่นอกบ้านก็หน้าซีดด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเสียงนี้ หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่งพวกเขาก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องนั่งเล่นอย่างรวดเร็ว
.................
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved