ตอนที่ 258 การเปลี่ยนแปลงที่ส่วนลึกของภูมิภาคหลักมอนสเตอร์

มันเกินความคาดหมายของ หลิน ยู ไปมาก

การบินของเรือเหาะเวทย์มนต์ราบรื่นอย่างมากไม่มีการกระแทกเลยแม้แต่น้อย

ความเร็วของมันก้พอใช้ได้ หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็มาถึงส่วนลึกของทะเลทรายโกบี ค่อยๆมองเห็นมอนสเตอร์บางตัววิ่งอยู่ข้างใต้และมีบางตัวที่บินได้

อย่างไรก็ตามหลิน ยู ไม่กังวลว่าพวกเขาจะถูกโจมตีแม้แต่น้อย

เนื่องจากรอบๆเรือเหาะเวทย์มนต์มีเหล่าผู้ฝึกตนระดับ 7 คอยคุ้มกันอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังมีกองทัพพืชที่โดยหลิงซีอีกด้วย

เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด

"ซู่จง นายพาคนไป 2-3 คน บันทึกสภาพโดยรอบและทิศทางลมระหว่างทาง จากนั้นให้ค้นหาเส้นทางที่ปลอดภัยในอนาคต เรื่องนี้ฉันจะปล่อยนายจัดการ ฝากค้นหาผู้มีพรสวรรค์ในด้านนี้ด้วย"

หลิน ยู พูดกับซู่ จงที่อยู่บนดาดฟ้า

"ได้เลยขอรับ"

ซู่ จง ตกใจไม่น้อย เขาไม่ได้คิดว่า หลิน ยู จะมอบหมายงานสำคัญแบบนี้ให้กับเขา เขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นในทันที

หลังจากเตรียมการอย่างง่ายแล้ว เขาก็พอคนไป 2 3 คนกระจายไปรอบๆเรือเหาะเวทย์มนต์เริ่มบันทึกข้อมูลต่างๆ

ความจริงสิ่งสำคัญที่สุดในการบันทึกข้อมูลคือทิศทางลมและรังของมอนสเตอร์

สำหรับมอนสเตอร์ที่บินอยู่รอบๆเหล่านั้น ตราบใดที่มีผู้ฝึกตนระดับ 7 2 3 คนถูกส่งขึ้นมาบนเรือ มันก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่

อย่างไรก็ตาม มอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งที่สุดในทะเลทรายโกบีนั้น เป็นเพียงแค่ระดับ 7 เท่านั้น

หลังจากที่บินไปอย่างราบรื่นชั่วขณะหนึ่ง ผ่านเข้าไปในกลุ่มเมฆ

หลิน ยู วางมือบนคันเร่งความเร็ว ค่อยๆดันมันขึ้น

อุปกรณ์ขับเคลื่อนที่อยู่ด้านหลังก็เกิดเสียง "ตูมมม" ไอพ่นระเบิดเปลวไฟออกมา ทำให้ความเร็วเรือเหาะเวทย์มนต์เพิ่มขึ้นอย่างกระทันหัน

ตัวเรือที่มีขนาดใหญ่ของเรือเหาะเวทย์มนต์บินผ่านท้องฟ้าเหนือทะเลทรายโกบี ความเร็วของมันค่อยๆสูงขึ้นถึง 288 กม/ชม

ในเวลานี้ หลิน ยู สังเกตเห็นเช่นกัน

ปริมาณการใช้พลังเวทย์ของความเร็วสูงสุดนั้นเป็นสองเท่าของความเร็วปกติ

แต่ความสิ้นเปลืองไม่มีค่าในสายตาเขาแม้แต่น้อย

หลังจากได้ก้าวเดินสู่เส้นทางการค้า สิ่งที่เขาได้รับอาจจะทวีคูณขึ้นมาหลายเท่า ไม่ต้องพูดถึงค่าใช้จ่ายของเรือเหาะ

มันมีคนมากกว่า 100 คน บนเรือลำหนึ่ง แม้ว่าเขาจะเก็บพลังเวทย์ทุกคนเพียงแค่ 10 แต้ม มันก้ยังคุ้มค่า

หลังจากคำนวนค่าใช้จ่ายในการเดินทาง พลังเวทย์ที่ได้รับมามันก็เพียงพอแล้ว!?

หลังจากที่คิดเรื่องนี้ หลิน ยู ก็ตั้งสมาธิกับการจัดการเรือเหาะเวทย์มนต์และตรวจสอบการเคลื่อนไหวรอบตัวของเขา

ระหว่างทาง

ไม่มีการโจมตีจากมอนสเตอร์แม่แต่น้อย

ถึงแม้จะเจอเป็นครั้งคราว พวกมันก็ถูกสังหารโดยเหล่าผู้ฝึกตนไม่กี่คน

ด้วยวิธีนี้ พวกเขาเร่งความเร็วจนสุดในไม่ช้าพวกเขาก็ข้ามพรมแดนของอาณาจักร มาเมืองเฮยหยวน

เนื่องจาก หลิน ยู ส่งข้อความไปหา โจว มู่หยวน ตั้งแต่เช้าแล้วเมื่อเขามายังอาณาจักร หลิว ฮู่ จะไม่มีอุปสรรคมากนักเมื่อเขามาถึง

แต่ถึงอย่างนั้น

เมื่อเขาควบคุมเรือเหาะเวทย์มนต์ร่อนลงจอด โจว มู่หยวนและชาวเมืองในเมืองเฮยหยวนยังคงตกตะลึง พวกเขาทั้งหมดรีบวิ่งออกมาด้านนอกเมืองเฝ้ามองจากระยะไกล

"พี่หลิน พี่ทำมันได้จริงๆ!"

ในเวลานี้โจว มู่ หยวน ก็เป็นเช่นเดียวกับ หลิน ยู เขาได้ก้าวสู่ระดับ 7 และมีอาณาเขตที่ขยายออกไป

นอกจากนี้ยังมีทหารระดับ 8 อยู่ข้างๆเขาอีกด้วย ดูเหมือนเขาจะพัฒนาอย่างรวดเร็วทีเดียวเมื่อเร็วๆนี้

อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาได้หลิน ยู และเรือเหาะเวทย์มนต์ของเขา เขาก็อดไม่ได้ที่กลืนน้ำลายดังเฮือก

เขาคิดว่าตัวเองพัฒนาไปด้วยความเร็วที่สุดยอดแล้ว

แต่เมื่อเทียบ หลิน ยู นั้นมันยังไม่นับว่าเป็นอะไร เขาเทียบไม่ได้แม้แต่น้อย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งทหารพืชที่อยู่รอบๆตัว  หลิน ยู แม้พวกเขาจะเป็นเพียงทหารระดับ 7 แต่ออร่าที่พวกมันปลดปล่อยออกมาก็ไม่อ่อนแอกว่าระดับ 8 แม้แต่น้อย

น่ากลัวเป็นบ้า!

"ใช่ ฉันเพิ่งสร้างมันวันนี้เอง นี้เป็นการทดลองเดินทางครั้งแรกของฉัน ฉันจะบอกให้นายรู้อีกที รีบไปเตรียมอู่เรือเหาะสำหรับคาราวานในอนาคตได้แล้ว"

หลิน ยู กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม

เมืองหวงซา และ เมืองเฮยหยวน เป้นคู่ค้ากันอย่างยาวนาน ดังนั้นเป็นธรรมดาที่เขาจะลืมกัน หากเป็นเรื่องผลประโยชน์

แม้ว่าเขาจะสามารถร่วมมือกับราชันที่มีอำนาจมากกว่าในอาณาจักร หลิวฮู่ ได้ แต่เขาก็ไม่รู้จักใครที่จะร่วมมือได้

โจว มู่หยวน ย่อมรู้ความหมายของคำพูดของ หลิน ยู ดี

เมื่อมองไปยังเรือเหาะเวทย์มนต์ที่อยู่ไกลๆ เขาผงกหัว "ตกลง เดี๋ยวจะจัดการหลังจากที่กลับไป ไหนๆพี่หลิน ก็มากันแล้ว ทำไมไม่มาที่เมืองของฉัน เพื่อนั่งดื่มชาก่อนซักถ้วนก่อนออกเดินทางละ"

"เอาอย่างนั้นก็ได้ รบกวนด้วย" หลิน ยู ยิ้มออกมา

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเรือเหาะเวทย์มนต์จะเคลื่อนด้วยความเร็วสูงสุด แต่มันก็ต้องใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมงในการข้ามพรมแดนอาณาจักรเพื่อกลับไป ดังนั้นจึงไม่ได้รีบร้อน

หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้พา เซียว ฉางกุ้ย และคนอื่นเข้าไปในเมืองพร้อมกับ โจว มู่หยวน เพื่อหารือเกี่ยวกับเส้นทางการบิน

.....

.....

ขั้นต่อๆไปนั้นง่ายแล้ว

หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการทดสอบเดินทางครั้งแรก หลิน ยู ก็ได้ใช้เวลา 2-3 วัน ในการคัดเลือกผู้มีพรสวรรค์ที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก และเริ่มก่อตั้งกลุ่มเรือเหาะเวทย์มนต์

อีกมั้ง หลูเจิ้งซิง ยังสามารถหาผงเวทย์มนต์ที่เหลือได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เขาสามารถสร้างเรือเหาะเวทย์มนต์อีก 9 ลำได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม มันก็มีค่าใช้จ่ายในติดตั้งสิ่งต่างเพิ่มเติม เช่น ตัวประหยัดพลังงาน ตัวเพิ่มความเร็ว เพิ่มความจุห้องโดยสาร และอื่นๆอีก มันสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของเรือเหาะเวทย์มนต์ได้อย่างมาก

สำหรับราชันระดับ 8 ทั้ง 5 และซง เหล่ย หลิน ยู ได้ติดต่อกับพวกเขาผ่านช่องแชทส่วนตัว โดยบอกให้พวกเขาส่งผู้ฝึกตนระดับ 8 มารอครึ่งทางระหว่างมุ่งหน้าไปยังปลายทางเพื่อป้องกันราชันคนอื่นมาสร้างปัญหา

ชื่อเสียงของราชันระดับ 8 ภายในอาณาจักรนั้นสูงมาก

เป็นธรรมดาที่จะไม่มีใครกล้าที่จะแหย่พวกเขา

สำหรับครึ่งทางในส่วนของหลิน ยู นั้นเนื่องจากเขาอยู่ในดินแดนที่เป็นชายขอบของอาณาจักร แม้ต้องเผชิญหน้ากับราชันเหล่านั้น เขาก็เป็นเพียงราชันระดับ 6 หรือไม่ระดับ 7 จึงไม่มีอะไรที่ต้องหวาดกลัว

ดังนั้นเมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว

เส้นทางการบินระหว่างเมืองหวงซากับเมืองใหญ่ทั้ง 5 ได้เปิดใช้งานอย่างเป็นทางการ

ต่อจากนี้ก็เป็นการเดินทางไปถึงจุดหมาย

กองเรือเหาะเวทย์มนต์มุ่งหน้าไปยัง 5 ทิศทางภายในอาณาจักร

ผู้คนภายในเรือเหาะได้ถูกจัดเตรียมโดยกองคาราวานขนาดใหญ่เหล่านั้นอย่างฟรี

เพราะพวกเขามองเห็นโอกาศที่ยิ่งใหญ่ภายในนั้น

ดังนั้นก่อนที่เส้นทางการปิดจะเปิดขึ้น พวกเขาก็ได้รีบเขาหาเซียว ฉางกุ้ย เขาพูดคุยกับเขาเกี่ยวความร่วมมือ ซึ่งช่วยให้ หลิน ยู ประหยัดเวลาในการสรรหากลุ่มพ่อค้าทันที

ขั้นต่อไป

ก็เพียงแค่รอให้เรือเหาะเวทย์มนต์เดินทางไปกลับ

"วู่นนนน!"

เมื่อมองไปยังเรือเหาะเวทย์มนต์ที่ค่อยๆ บินออกไป ในที่สุด หลิน ยู ก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

ในชั่วไม่กี่วันมานี้ เขามั่วแต่พัฒนาเมืองหวงซา ทำให้ยุ่งอย่างมากไม่มีเวลาพักผ่อนแม่แต่น้อย

ในช่วงเวลานั้น เขายังพาคนไปยังทะเลทรายโกบี เพื่อบุกรังกริฟฟินระดับ 7 และจับมันมา ใช่ที่สุดเขาก็สามารถฝึกพวกมันให้เชื่องได้และนำมันไปยังอู่ท่าเรือเพื่อให้ผู้ฝึกตนดูแลมัน

และใช้มันเป็นยานพาหนะบินไปมาระหว่างเมืองใกล้เคียง

เมื่อรวมกับเจ็ทแพ็คที่ผลิตออกมาจากจำนวนมากก่อนหน้านี้ อู่เรือเหาะทั้งหมดได้รับการแปลงโฉมใหม่ในที่สุด เหลือเพียงแค่รอให้ก่อสร้างศูนย์การค้าเสร็จสิ้น

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเขาลงทุนไปจำนวนมาก พลังเวทย์ในปัจจุบันของเขาจึงเหลือเพียงแค่ 15 ล้านเท่านั้น

หลังจากนี้ผลตอบแทนที่เขาได้รับกลับมาจะไม่ทำให้เขาเสียพลังเวทย์แม้แต่น้อยเดียว

หลิน ยู อธิบายเรื่องราวต่างๆด้วยรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ เหล่าเจ้าหน้าที่ของเขาพากันตัวสั่น จากนั้นเขาก็ขี่มังกรราชาปิศาจกลับไปยังดินแดน

เพราะเรือเหาะเวทย์มนต์ออกไปตั้งแต่เช้า

ดังนั้นเวลามันจึงผ่านไปได้เพียงครึ่งวันเท่านั้น

หลังจากที่เตรียมการง่ายๆ หลิน ยู พาหลินเข้าไปในประตูแห่งอาณาจักรไปยังเกาะลอยฟ้าที่อยู่ใจกลาง

เขาไม่ได้มาที่นี้หลายวันแล้ว

เกาะลอยฟ้ายังคงมีชีวิตชีวาเหมือนเช่นเคย

ในตอนที่เขายืนอยู่นั้น ก็ได้มีเสียงตะโกนและการพูดคุยต่างๆ ดังเข้ามาในหูของเขา

แม้ในบางครั้งจะมีราชันขี่ทหารบินลงมาจากท้องฟ้ามายังเกาะ ดูเหมือนจะนวนมันจะมากกว่าแต่ก่อน

"นี้มัน!?"

ทันใดนั้น หลิน ยู ก็ตระหนักได้ว่าบางอย่างผิดปกติ

เขาเพิ่งสังเกตเห็นว่าราชันเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มุ่งหน้ามายังเกาะกลาง

ดูเหมือนแต่ละคนจะรีบร้อนอย่างมาก ทันทีที่พวกเขามาถึง ก็รีบมุ่งหน้าไปยังทางเข้าภูมิภาคหลักของมอนสเตอร์ที่อยู่ในกลางเกาะทันที

แม้แต่เหล่าราชันที่มักรวมตัวอยู่บนเกาะอื่นๆ ก็ยังมารวมตัวกันที่เกาะกลางต่างพากันติดต่อเพื่อนของเขา

หรือว่าจะเกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้น

หลิน ยู ตกใจหยุดถามราชันระดับ 7 ที่เดินผ่านมา

"ชายพี่ ที่นี้มันเกิดอะไรขึ้นกันทำไมถึงมีผู้คนจำนวนมากมุ่งหน้าไปยังภูมิภาคหลักของมอนสเตอร์เยอะนัก"

"นี้นายไม่รู้งั้นเหรอ?"

ราชันคนนั้นได้หยุดลงและมองไปที่ หลิน ยู ด้วยความประหลาดใข

แต่อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนเขาจะรีบร้อน หลังจากพูดจบเขาก็จากไปทันที

"จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่จากทั่วทุกสารทิศได้ต่อสู้กับปิศาจทั้ง 72 ในส่วนลึกของภูมิภาคหลักของมอนสเตอร์ พวกเขาต่อสู้กันทั้งวันทั้งคือ ตอนนี้มีภาพฉายมอนปิศาจเหล่านั้นอยู่ทุกแห่งภายในภูมิภาคหลัก ทำให้ทุกคนต่างรีบมุ่งหน้าไปเพื่อคว้าผลประโยชน์"

เสียงของเขาลอยออกไปไกลเรื่อยๆ ไม่นานก็หายไปที่ทางเข้าภูมิภาคหลัก

ทิ้ง หลิน ยู ที่ยืนอยู่ที่เดิมด้วยความตกตะลึง

จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่กำลังต่อสู้กับปิศาจทั้ง 72

อีกทั้งมันยังได้ดึงดูดราชันจากทุกหนแห่งให้ไปยังที่นั้น

โดยไม่คาดคิดมาก่อน ว่าขณะที่เขายุ่งอยู่การพัฒนาอาณาเขตของเขา ก็ได้มีเหตุการณ์ใหญ่ปรากฏขึ้นที่ภูมิภาคหลักแห่งนี้

เขาไม่กล้าคิดมาก รีบเดินตามฝูงชนเข้าไปยังภูมิภาคหลักทันที ในที่สุดก็มาถึงภูมิภาคหลัก

จากนั้นในเวลาถัดมา

เขาก็ตกตะลึงกับภาพตรงหน้า

เขาเห็นราชันจำนวนมากมาร่วมตัวกันที่ใต้ต้นไม้

ไม่ว่าสายตาของเขาจะมองไปที่ได้ ราชันเหล่านั้นทั้งหมดก็ร่วมตัวกันเป็นมุ่ง รีบออกจากม่านแรงมุ่งหน้าไปทุกทิศทาง

ที่ด้านนอกม่านแสง ลึกเข้าไปในภูมิภาคหลักของมอนสเตอร์

ลำแสงสีดำสนิทพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ก่อตัวเป็นฉากที่ตระการตาบนภูมิภาคหลัก

และขนาดของลำแสงแต่ละอันยังแตกต่างกันอย่างมาก ยิ่งเข้าใกล้ ก็ยิ่งน่าหวาดกลัว

หลิน ยู ยังได้เห็นสำแสงที่มีขนาดใหญ่กว่าที่เขาเคยเห็นกว่าหลายสิบเท่า ซึ่งตั้งอยู่พื้นที่ใจกลาง

แรงกดดันที่มันปลดปล่อยออกมาราวกับโลกทั้งโลกต้องยอมจำนนให้กับมัน

เขายังได้ยินเสียงดังสนั่นจากตรงหน้า ทำให้อากาศถึงกับสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

หรือว่านั้นคือ...ที่ๆจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่กำลังต่อสู้อยู่

"เร็วเข้า ! ก่อนที่ราชันจากโลกอื่นจะมารวมตัวกัน"

"รีบไปกันเร็ว พวกเราจะให้มันเป็นผู้นำไม่ได้เด็ดขาด!"

"รอฉันด้วย!"

ที่ด้านข้าง เสียงตะโกรของราชันคนอื่นๆดังอย่างต่อเนื่องขัดจังหวะความคิดของ หลิน ยู ทันที

เขามองไปรอบๆ และเรียกมังกรราชาปิศาจออกมาอย่างรวดเร็ว บินออกจากไปทางเข้ามุ่งหน้าไปหาลำแสงที่ใกล้ที่สุด

......

ในเวลาเดียวกันนั้น

ณ ส่วนลึกของภูมิภาคหลักของมอนสเตอร์

ท้องฟ้าและโลกราวกับถูกแยกออกจากกัน ร่างที่แข็งแกร่งนับร้อยอยู่ห้วงมิติที่แตกสลาย ต่อสู้อย่างดุเดือดมันกับกับปิศาจลำดับที่หกสิบแปด

ความแข็งแกร่งของร่างเหล่านั้นน่าสะพรึงกลัวอย่างมาก เพียงแค่พวกมันยกมือก็สามารถทำชั้นห้วงมิติรอบให้แตกสลายออกไปได้หลายพันไมล์  แม้แต่ทหารที่อยู่ตัวเขาของก็มีกฏห้อมล้อมอยู่ ทุกการโจมตีทำให้มิติถึงกับสั่นสะเทือน

แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังไม่สามารถทำให้ปิศาจลำดับที่หกสิบแปด บาดเจ็บได้แม้แต่น้อย การโจมตีของพวกเขาถูกขวางเอาไว้ได้ทั้งหมด

"โม่ หยวน เจ้าทำให้ข้าต้องรอถึง 10000 ปี เจ้าไม่กลัวโลกนับหมื่นจะรวมกันเป็นหนึ่งงั้นเหรอ!"

มุมๆภายในห้วงมิติ ชายชราผมขาวตระโกนออกมาอย่างรุนแรง พลังที่สามารถทำลายฟ้าระเบิดโลกได้กระจายออกมา

"อย่างที่ข้าบอก ที่นี้เป็นที่ๆนายท่านหลับไหล จะไม่มีใครสามารถเข้าใกล้ได้"

ต่อหน้าเขาร่างขนาดใหญ่คล้ายมังกรโบราณปกคลุมท้องฟ้าและโลกเอาไว้ กรงเล็บมังกรเพียงแค่ยกขึ้นเบา โจมตีไปที่ชายคนนั้นอย่างง่ายๆ

จากนั้นเสียงที่ไม่แยแสก็ดังขึ้น

"หากโลกนับหมื่นรวมเป็นหนึ่ง มันไม่ต้อรอนานนับหมื่นปีหรอก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงต่อให้รวมกันจริงๆ พวกเจ้าก็เอาชนะเทพผู้ยิ่งใหญ่ทั้ง 4 ไม่ได้"

"เจ้าไปได้แล้ว นี้ไม่ใช่ที่ๆเจ้าควรจะมา"