ตอนที่ 197 คนที่ไม่ควรยุ่งด้วยที่สุด

ลั่ว เหล่ย และซู เซียงตง ไม่คิดมาก่อนเลยว่าพวกเขาจะถูกพบเร็วขนาดนี้ ที่ทั้งฝั่งศัตรูยังเป็นราชันที่แข็งแกร่งกว่าเขามาก

เมื่อเห็นว่ากองกำลังของราชันฝั่งศัตรูมาเพิ่มเรื่อยๆ เขาไม่ลังเลอีกต่อไปรีบจากตรอกร้านค้านำกองกำลังของพวกเขาหลบหนีเข้าไปยังเมืองชั้นใน

"โอ้ เจ้ากระต่ายน้อยนี้ตอบสนองได้รวดเร็วดีนิ"

ราชันทั้ง 3 คนหัวเราะออกมาเบาๆ มองไปยังทั้ง 2 หลบหนีไปด้วย พวกเขาต้องการจะเล่นกับ ลั่ว เหล่ย ก่อนไม่ได้มีความตั้งจะโจมตีทันที

พวกเขาค่อยๆสั่งให้กองกำลังไล่ตามไป

"หายากนะที่จะเจอราชันหน้าใหม่ที่อ่อนแอแบบนี้ คราวนี้ถึงตาฉันบ้างแล้วใช่ไหม?"

ราชันจักรกลที่ขี่หุ่นยนต์สงครามแลบลิ้นของเขาออกมาต้องการที่จะไล่ล่าพวกลั่ว เหล่ย

"ตามที่นายต้องการเลย" ราชันสัตว์ร้ายพูดเบาๆ "ราชันหน้าใหม่เหล่าคนนี้ คงมีทหารระดับ 7 เพียงแค่ไม่กี่ตัวโดยพื้นฐานตัวพวกเขานั้นไม่น่าจะมีพลังเวทย์สะสมเอาไว้ แค่เล่นกับพวกเขาก็พอ"

"และระวังอย่าไปดึงดูดความสนใจราชันคนอื่นเข้าละ" ราชันเผ่าแมลงอีกคนพูดแทรกขึ้น

"ไม่ต้องห่วงหรอกน๊า ฉันจะไม่ปล่อยให้พวกมันหนีออกไปจากเขตนี้หรอก ฮ่าๆ"

ราชันจักรกลหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เขาเร่งความเร็วออกไปจากที่นี้ทันที ไล่ตาม ลั่ว เหล่ยและพวกของเขาพร้อมกับกองกำลังไป

เมื่อเห็นสิ่งนี้ สีหน้าของ ลั่ว เหล่ยก็เปลี่ยนไปอย่างมาก

"ไป หยุดมันเอาไว้!"

ด้วยคำสั่งของของเขา หมาป่าอันเดดระดับ 7 ที่เขาขี่อยู่นั้น ก็ออกไปพร้อมกับกองกำลังทั้งหมดของเขาเข้าปะทะกับราชันจักรกล

ซู เซียงตง ก็ออกคำสั่งกับธาตุน้ำของเขาเช่นกัน

ชั่วพริบตาเดียว พวกมันก็เป็นดั่งกระแสน้ำควยแน่นเป็นลูกศรแหลมตรงไปยังศัตรู

"ฮึ่ม กลอุบายเล็กๆ ของพวกนกน้อย เอาเถอะฉันจะสังหารให้หมดก็แล้วกัน!"

ราชันจักรกลไม่สนใจทั้ง 2 คน เขาโบกมือ หุ่นยนต์สงครามที่อยู่รอบตัวเขาก็ดึงเฟืองจักรกลออกมาจากร่างกายหยิบมันออกมาด้วย

อื้อออ!

เฟืองจักรกลขนาดใหญ่กลายเป็นภาพติดตาพุ่งไปยังกองกำลังทหารของพวกลั่ว เหล่ย

เพียงพริบตาเดียว เศษซากกระดูกแต่หักกระเด็นไปทั่วกองทัพอันเดดของลั่ว เหล่ย ถูกสังหารในทันทีพวกมันทั้งหมดกลายเป็นซากล้มลงกับพื้น

จากเฟือนที่ถูกถอดออกมาก็พุ่งมายังด้านหน้าของพวกเขา

"หลบเร็วเข้า!!"

ลั่ว เหล่ยตะโกนด้วยความตกใจ เขาสั่งให้หมาป่าอันเดดหลบไปด้านข้าง หลบการโจมตีของเฟืองที่พุ่งเข้ามา

อย่างไรก็ตาม ซู เซียงตง นั้นไม่โชคดีเหมือนเข้า "คว๊ากก" ใบมีดของเฟืองฟันเข้าไปที่เอวของเขา ทำให้เลือดสาดกระจายออกมา

แม้แต่เหล่าธาตุน้ำที่อยู่รอบตัวเขาก็ยังถูกผ่าออกเป็น 2 ส่วน

"เสี่ยวซู!!!"

ดวงตาของ ลั่ว เหล่ย สาดประกายบ้าคลั่ง เขารีบเข้าไปช่วยทันที

"อย่าเข้ามา! รีบหนีไปเร็วเข้า!"

ซู เซียงตงอดทนต่อความเจ็บปวดอย่างรุนแรงปล่อยให้ธาตุน้ำรักษา เขานั้นหยุดกระทันหัน หันไปโจมตีใส่จักรกลด้วยธาตุน้ำที่เหลือเพียงแค่ตัวเดียว

เขาต้องการถ่วงเวลาให้ ลั่ว เหล่ย

แต่มันไม่ได้ผล ช่องว่างด้านความแข็งแกร่งนั้นมีมากเกินไป

หากพวกเขายังหลบหนีอยู่เช่นนี้ พวกเขาจะตายทั้งคู่

อย่างไรก็ตาม ตัวเขาในตอนนี้นั้นไม่สามารถหนีไปได้ไกลนักด้วยร่างกายที่บาดเจ็บสาหัสนี้ ดังนั้นเขาจึงใช้ชีวิตที่เหลือขวางเอาไว้ก่อนที่เขาจะตาย อย่าน้อยก็เพื่อซื้อเวลาให้ ลั่ว เหล่ย หลบหนีไป

หลังจากที่คิดเรื่องนี้แล้ว ซู เซียงตง ก็มองไปที่ ลั่ว เหล่ย

"ไปซะ! ฉันจะขวางเขาเอาไว้ให้"

คำพูดที่ออกมาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นทำให้หัวใจของลั่วเหล่ยถึงกับสั่นสะท้าน

เขากัดฟันและหยุดลง

"ไอ้บัดซบเอ้ย! คิดว่าทำแบบนี้แล้วฉันจะขอบคุณหรือยังไงกัน!"

เขาตวาดเสียงดัง รีบหันกลับมาทันที ดึงร่างของ ซู เซียงตงขึ้นไปบนหลังของหมาป่าอันเดดอีกตัว หันหลังกลับและหลบหนีไป

แต่ด้วยความล้าช้าที่เกิดขึ้นนี้เอง ราชันจักรกลได้นำเฟืองออกมาอีกครั้งและไล่ตามเขาไปด้วยจักรกลสงครามใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย

"ชั่งเป็นมิตรภาพที่น่าประทับใจซะจนฉันอยากจะร้องไห้ ฮ่าฮ่า สงสัยฉันต้องทุบตีพวกนายอีกหน่อย"

ด้วยคำสั่งของเขา จักรกลสงครามที่อยู่ข้างๆ ขว้างเฟืองออกไปอีกครั่งโจมตีไปยังทั้ง 2 ที่กำลังหลบหนี

แม้ว่าทั้ง 2 จะเตรียมตัวไว้แล้ว พวกเขาสั่งให้ทหารระดับ 7 ไปขวางการโจมตีนั้นเอาไว้

ทหารของพวกเขาถูกสังหารโดยเฟืองนั้น ไปถึง 2 3 ตัว เลือดสาดกระเด็นไปทั่ว ลั่ว เหล่ยเกือบจะตกจากหลังหมาป่าอันเดด

แน่นอนว่าราชันจักรกลนั้นยังอยากจะเล่นกับพวกเขาอยู่ จึงไม่ได้สังหารพวกเขาทั้งหมดในทีเดียว เพียงแค่ไล่ตามอยู่ด้านหลังอย่างใกล้ชิดเฝ้าดูพวกเขาหลบหนีอย่างหัวซุกหัวซุน

ด้วยสิ่งนี่ ทำให้ระหว่างพวกลั่ว เหล่ย หลบหนีจากการไล่ล่ามีทหารน้อยลงเรื่อยๆเหลือเพียงทหารระดับ 7 เพียงไม่กี่ตัวพวกมันแทบจะสนับสนุนเขาไม่ได้แล้ว

พวกเขาค่อยข้ามถนน เข้ามายังเขตเมืองชั้นใน

"เหล่าเซียว หยุดเล่นซักที เขตเมืองชั้นในอยู่ข้างหน้าแล้วนะ"

ในเวลานี้ จู่ๆ ก็มีเสียงกระตุ้นมาจากราชันทั้ง 2 คนที่อยู่ด้านหลัง ดูเหมือนพวกเขาจะหวาดกลัวเขตเมืองชั้นในมาก

ราชันจักรกลที่กำลังสนุกกับการกลั่นแกล่งลั่ว เหล่ยอยู่นั้น ก็มีปฏิกิริยา กับคำพูดของพวกเขาทันที ไม่ต้องห่วงหรอก เจ้าสัตว์ประหลาดนั้นอยู่ลึกเข้าไปในเขตเมืองชั้นใน เขาไม่สนใจเจ้าราชันหน้าใหม่ 2 คนนี้หรอก

แม้ว่าเขาจะพูดอย่างนั้นแต่สีหน้าของเขาก้ค่อยๆกลายเป็นเคร่งขรึมขึ้น

เมื่อมองไปยังทิศทางของเขตเมืองชั้นในด้านหน้า เขาก่สั่งกองกำลังรอบตัวเขาทันที

"เอาละ ฆ่าพวกมันได้แล้ว"

เสียงที่แผ่วเบานั้นทำให้เฟืองพุ่งไปในอากาศเกิดเป็นเสียงดังลั่นอีกครั้ง

ลั่ว เหล่ยและ ซู เซียงตงที่กำลังหลบหนีอยู่นั้น รู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นจากด้านหลังของเขา พวกเขาเปลี่ยนทิศทางเข้าไปยังตรอกด้านข้างทันทีโดยที่ไม่ต้องคิด

"ตูมมม!"

เฟืองถูกฝังเข้าไปในอาคารบนถนน ทำให้เกิดแรงระเบิดอย่างรุนแรง มันไม่มีเสียงแจ้งเตือนสังหารเกิดขึ้น

"หลบได้งั้นเหรอ?"

ราชันจักรกลถึงกับขมวดคิ้ว

ในขณะที่เขากำลังมึนงงอยู่นั้น ลั่ว เหล่ย ก็ได้ขี่หมอป่าอันเดดปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง

ในเวลานี้พวกเขาทั้ง 2 ไม่สามารถต่อสู้ต่อไปได้อีกแล้ว พวกเขามีบาดแผลสาหัสทั่วร่างกาย แม้แต่การมองเห็นก็ยังพร่ามัว

"อดทนอีกหน่อยนะ ใกล้จะถึงแล้ว"

ลั่ว เหล่ย กัดฟันจ้องตรงไปยังข้างหน้า

ถัดจากเขา ซู เซียงตงเกือบจะหมดสติลงแล้ว ราวกับเขาเหลือเพียงลมหายใจสุดท้าย

"ยอมแพ้ซะเถอะ พวกเจ้าหนีไม่รอดหรอก"

คำพูดที่เย่อหยิ่งดังออกมาจากราชันจักรกลด้านหลัง

หลังจากที่เขาถูกกระตุ้นให้ต้องสังหารแล้ว เขาก็ไม่ได้ยั้งมืออีกต่อไป เฟืองจักรกลปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าอีกครั้ง พุ่งเป้นลำแสงโจมตีไปยังพวกเขาทั้ง 2

จากนั้น ลั่ว เหล่ย นำม้วนคัมภีย์ออกมาจากกระเป๋ามิติ

"เอาละนี้คือที่พึ่งสุดท้ายของฉันละ จะสำเร็จหรือล้มเหลวก็วัดกันที่ตอนนี้และ เสี่ยวซูมาทางนี้เร็วเข้า!"

หลังจากที่พูดจบ เขาก็เปิดม้วนคัมภีย์ออกมาทันที มันปลดปล่อยพลังแห่งสายลมออกมาา ห่อหุ้มทั้ง 2 และหมาป่าอันเดดไว้ภายในจากนั้นความเร็วของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างกระทันหัน ราชันจักรกลก็ค่อยๆ ถูกทิ้งเอาไว้เบื้องหลัง อีกทั้งยังหลบการโจมตีของเฟืองที่พุ่งมาในคราเดียว

"นี้มัน!?"

ราชันจักรกลพ่นลมหายใจอย่างไม่พอใจออกมา เขาไม่ได้คิดว่า ลั่ว เหล่ยจะซ่อนลูกไม้นี้เอาไว้ ใบหน้าของเขากลายเป็นมืดขรึมลง เขาขี่จักรกลสงครามไล่ตามไปทันที

"เหล่าเสี่ยว หยุด!! ด้านหน้ามันเป็นเขตเมืองชั้นใน!"

เสียงตะโกนอย่างกระวนกระวายของราชันอีก 2 คนดังออกมาจากด้านหลัง

แต่ราชันจักรกลจะปล่อบให้เหยื่อหนีรอดไปได้อย่างไรกัน

แทนที่จะลดความเร็วลง แต่เขาไล่ตามไปด้วยความเร็วสูงสุดไปจากถนนที่พวกเขาอยู่ในพริบตา

ไม่ไกลจากที่นี้นัก

ประตูพระราชวังขนาดใหญ่ค่อยๆปรากฏในสายตาของเขา

เมื่อเขาเห็นกองทัพพืชที่น่าสะพรึงกลัวตรงขอบประตูพระราชวัง ราชันจักรกลก็ตกตะลึงและหยุดลงทันที

เขาเคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับ หลิน ยู มากับหูของเขาเอง

เขาคือชายผู้เหี้ยมโหดที่สังหารกลุ่มราชันจากโลกมังกรทั้งหมดเพียงลำพัง

นี้ไม่ใช่สิ่งที่คนอย่างเขาจะรับมือไว้

เขาไม่คิดมาก่อนว่า ชายผู้เหี้ยมโหดคนนี้ยังคงอยู่นอกวังไม่ได้เข้าไปในวังเพื่อค้นหาต้นกำเนิดของโรคระบาด ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความตกใจ

ในขณะนั้นเอง หลิน ยู ซึ่งพักอยู่ไม่ไกลก็พบพวกเขา มองไปยังร่างทั้ง 2 ที่กำลังเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว

"ช่วยด้วย ช่วยฉันด้วย.."

เขาได้ยินเสียงสั่นครอต้องการความช่วยเหลือ

ถ้าไม่ใช่เพราะหลิน ยู มีร่างกายที่แข็งแกร่ง รวมถึงประสาทการรับฟังที่ยอดเยี่ยม เกรงว่าเขาคงไม่ได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือนี้

แต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจจากทั้ง 2 คนนี้นั้น เขาไม่รู้สึกถึงการปฏิเสธเลยแม้แต่น้อย

พวกเขาเป็นราชันจากทวีปดึกดำบรรพ์ใช่ไหม?

หลิน ยู สื่อสารกับหลิน ซี ทันที

จากนั้นด้วย ผลของม้วนคัมภีย์หมดลง ร่างของทั้ง 2 ที่อยู่บนหลังของหมาป่าอันเดดก็ไม่สามารถพยุงร่างของมันได้อีกต่อไป ล้มลงกับพื้นอย่างรุนแรงในที่สุดก็ได้เห็นใบหน้าของพวกเขา

หลังจากที่ได้เห็นรูปลักษณ์ที่ชัดเจนของพวกเขา การแสดงออกของ หลิน ยู ก็เปลี่ยนไปในทันที

"ลั่ว เหล่ย!?"

หลิน ยู ตกตะลึงอย่างสมบูรณ์

เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะได้พบกับลั่วเหล่ยในสถานที่แบบนี้ เขาคือคนที่อยู่ภูมิภาคเริ่มต้นเดียวกับเขาและแลกเปลี่ยนโทเค็นต้นไม้แห่งปัญญากับเขา

เมื่อเห็นว่าพวกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและกำลังใกล้จะตาย เขาตะโกนบอกเอลฟ์ผู้ส่งสาสน์ที่อยู่ใกล้ๆทันที "รักษาพวกเขาเร็วเข้า!!"

ในชั่วพริบตาเดียว แสงสีเขียวก็สว่างขึ้นห่อหุ้มร่างของทั้งสองคนในทันที พร้อมกับหมาป่าอันเดด 2 3 ตัวกับธาตุน้ำที่อยู่ข้างๆ ช่วยรักษาอากาศบาดเจ็บของพวกมัน

"นี้มันเรื่องบ้าอะไรกัน!"

ราชันจักรกลที่หยุดอยู่ห่างๆ มองภาพนี้ด้วยความสยดสยอง ร่างกายของเขาสั่งสะท้านอย่างรุนแรง

เพราะราชันหน้าใหม่ 2 คนนี้เป็นสหายกับ หลิน ยู !?

เป็นไปได้ยังไงกัน!

ความกลัวแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของเขาในทันที สีหน้าของเขาซีดลงในทันทีก้าวถอยหลังออกไปด้วยความตื่นตะหนก

ในตอนนี้เขาได้รู้ตัวแล้วได้เข้าไปยุ่งกับคนที่ไม่ควรยุ่งที่สุดไปแล้ว เพราะเขาเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในสนามรบแห่งนี้

ดังนั้นในหัวเขาตอนนี้มีเพียงความคิดเดียวคือ หลบหนี!

รีบหนีไปให้ไกลที่สุด!

แม้แต่สหายของพวกเขาทั้ง 2 ที่เพิ่งมาถึงก็ยังพบกับความร้ายแรงของเรื่องนี้ พวกเขาทั้งหมดต่างตกตะลึง

เขาไม่ลังเล หันหลังกลับและรีบหลบหนีทันที รู้สึกเกลียดชังพ่อแม่ที่ตอนเกิดมาไม่ให้ขามากกว่านี้

"ในเมื่อมาแล้ว ก็อยา่ได้คิดว่าจะหนีไปได้!"

ในขณะนั้นเอง เสียงที่เต็มไปด้วยจิตสังหารก็ดังขึ้น

ก่อนที่พวกเขาจะทันได้ตอบโต้ เถาวัลย์ขนาดยักษ์ก็ปรากฏขึ้นรอบๆตัวพวกเขา

"ไม่ ยกโทษให้พวกเราด้วย พวกเราไม่ได้ตั้งใจที่จะทำร้ายเขา พวกเราไม่รู้ว่าเขาเป็นเพื่อนของคุณ"

ราชันทั้ง 3 กรีดออกมาอย่างโศกเศร้า เขาต้องการให้กองกำลังของเขาทำลายเถาวัลย์นี้

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าพวกเขาจะต่อต้านอย่างไร เถาวัลย์เหล่านี้ก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาถูกล้อมด้วยกองทัพพืชจำนวนนับไม่ถ้วนทันที

ยกเว้นพวกเขาทั้ง 2 กองกำลังทั้งหมดถูกเถาวัลย์ยักษนั้นสังหาร แทงเข้าไปในร่างกายของพวกมันแยกร่างของพวกมันออก

พวกเขาทั้งหมดถูกมัดด้วยเถาวัลย์ ลากกลับมาที่ หลิน ยู ปล่อยให้พวกเขาหายใจเพียงอย่างเดียว

หลังจากที่หลิน ยู ทำเรื่องทั้งหมดแล้วเข้าก็ยังด้านข้างของ ลั่ว เหล่ย อีกครั้งเพื่อตรวจสอบอาการบาดเจ็บของเขา

โชคดีที่เขาอยู่ในอาการสาหัสเพียงชั่วคราวเท่านั้นเนื่องจากเขานั้นมีเลือดออกเป็นจำนวนมากและไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงใดๆ

ภายใต้การรักษาร่วมกันของ หลิง ซี และเอลฟ์ผู้ส่งสาสน์ ในที่สุดทั้ง 2 ก็พ้นจากขีดอันตราย

"นี้ฉัน ตายแล้วงั้นเหรอ"

ลั่ว เหล่ย ยกร่างของเขาขึ้นมองไปยังรอบๆ อย่างว่างเปล่า

เมื่อเขาเห้น หลิน ยู ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเขาก้ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง

"หลิน... พี่ใหญ่หลิน?"