ตอนที่ 548 : ศึกใหญ่!

โจวโจวขมวดคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขามองไปยังคำสาปของเทพแห่งความตาย

อันที่จริงมันง่ายดายมากที่จะขจัดคำสาปของเทพแห่งความตายออกไป

วิธีการก็คือให้ทหารของเขาใช้ความสามารถของผู้พิฆาตมังกร

ผู้พิฆาตมังกรคือคู่ปรับของสายเลือดระดับสูง พวกเขามีความต้านทานที่สูงมากต่อความสามารถต่างๆ ของสายเลือดระดับสูง

ซึ่งจิตวิญญาณเทพเจ้าก็ถือเป็นสายเลือดระดับสูงประเภทหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย

ด้วยวิธีนี้ ทหารของเขาก็ย่อมสามารถต้านทานอาการกลัวตายได้

อย่างไรก็ตาม ราคาที่เขาต้องจ่ายก็คือการมีโอกาสสูงมากที่ต้องเปิดเผยออกไปว่าดินแดนของเขาคือลำเนาแห่งผู้พิฆาตมังกร

ถ้าเขาไม่เปิดเผยมันออกไป เขาก็แค่ต้องต่อสู้กับฝ่ายของลอร์ดระดับอาณาจักรที่อยู่ตรงหน้าของเขาเท่านั้น

แต่ถ้าเขาเปิดเผยออกไป เขาอาจจะต้องกลายเป็นศัตรูกับเผ่าพันธุ์สายเลือดระดับสูงทั้งโลกในทันที!

เมื่อคิดได้เช่นนี้ โจวโจวก็ข่มความคิดที่จะปลดปล่อยความสามารถของผู้พิฆาตมังกรของเขาเอาไว้ในทันที

“มาลองดูก่อนละกัน บางทีฉันอาจจะทำให้ทหารสามารถต้านทานคำสาปนี้ได้แม้ว่าจะไม่ต้องใช้งานความสามารถของผู้พิฆาตมังกรก็ตาม”

โจวโจวคิด

เขาคิดเกี่ยวกับมันอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็คิดได้ถึงบางสิ่ง ดวงตาของเขาเปล่งประกายขึ้นมา จากนั้นเขาก็ติดต่อไปหาคนๆ หนึ่งในทันที

ในเวลาเดียวกัน ภายในกลุ่มคนจากพันธมิตรต่างเผ่าพันธุ์ เมื่อฟลอยด์เห็นความหวาดกลัวปรากฏขึ้นจากทหารของอาณาจักรตะวันสาดแสง มันก็ยิ้มออกมาทันที

“ผู้กล้าและทหารทุกคนในพันธมิตร! ศัตรูได้ต่อสู้กับพวกเราอย่างเป็นทางการแล้วและถูกสาปโดยท่านเทพของพวกข้า! ต่อไปพวกมันจะกลัวตายอยู่ตลอดเวลา และทำให้ความแข็งแกร่งลดลงไปเป็นอย่างมาก! ชัยชนะอยู่ตรงหน้าของพวกเราแล้ว! สังหารไอ้พวกมนุษย์พวกนี้ให้หมดซะ!”

มันตะโกนออกมา

ในทันทีที่มันพูดจบ ทหารทุกคนจากพันธมิตรต่างเผ่าพันธุ์ก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที และขวัญกำลังใจของพวกมันก็เพิ่มขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

เมื่อเห็นภาพฉากนี้ ไป่อี้ อู๋ซิน และลั่วเซิงก็มีสีหน้าไม่น่าดูในทันที

ทั้งสามคนนี้เชี่ยวชาญทักษะผู้กล้าที่ใช้ในการควบคุมกองทัพ เดิมทีทักษะผู้กล้าของพวกเขาก็มีประโยชน์มากๆ ในสถานการณ์นี้ แต่น่าเสียดายที่พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับคำสาปของเทพแห่งความตาย!

เมื่อเผชิญหน้ากับคำสาประดับเทพอาวุโส แม้ว่ามันจะได้รับโดยไม่ได้ตั้งใจจากเทพอาวุโสผู้นั้นและมีความแข็งแกร่งไม่ถึงหนึ่งในพันล้าน แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาทั้งสามซึ่งเป็นคนที่ยังไม่อยู่ในระดับตำนานด้วยซ้ำจะสามารถต้านทานได้

อย่างมากที่สุด พวกเขาก็ทำได้แค่ต้านทานไปได้อย่างกล้ำกลืน ทำให้ทหารสามารถปลดปล่อยกำลังรบตามปกติออกมาได้

อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงอาการงุนงงได้เป็นครั้งคราวเพราะความกลัวตาย

บนสมรภูมิ ความมึนงงนี้เป็นอันตรายถึงชีวิต

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ทุกคนกำลังเป็นกังวล เหตุการณ์ๆ หนึ่งก็ปรากฏขึ้น

แสงสว่างจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นทางด้านหลังของพวกเขาและแผ่ขยายอย่างรวดเร็ว ครอบคลุมทหารทั้งหมดของอาณาจักรตะวันสาดแสงในชั่วพริบตา

เดิมทีเหล่าทหารก็ยังต้องฝืนทนกับความกลัวตายอยู่

อย่างไรก็ตาม เมื่อแสงสว่างนี้อาบร่างของพวกเขา พวกเขาก็รู้สึกว่าความกลัวในหัวใจของพวกเขาได้ถูกกวาดออกไปในทันที และพวกเขาก็ไม่รู้สึกกลัวอีก

พวกเขาที่ไม่เกรงกลัวได้ฟื้นฟูความแข็งแกร่งในการต่อสู้กลับมาสู่จุดสูงสุดอีกครั้ง

ในเวลาเพียงชั่วอึดใจ พวกเขาก็ตีโต้กลับไปได้และเริ่มค่อยๆ กลืนกินผู้คนในกองทัพพันธมิตรต่างเผ่าพันธุ์

เมื่อเห็นเช่นนี้ ฟลอยด์และผู้กล้าอีก 23 คนก็ตกใจ

“ทำไมจู่ๆ ความแข็งแกร่งของทหารตะวันสาดแสงจึงเพิ่มขึ้นมาได้?”

“ฟลอยด์ ไหนคำสาปของเทพแห่งความตายของอาณาจักรรัตติกาลเห่าหอน? ทำไมมันไม่ได้ผล?!”

“ชักจะลำบากซะแล้วสิ”

ผู้กล้าที่กำลังต่อสู้อย่างดุเดือดตระหนักได้ว่าสถานการณ์แปลกไป พวกมันส่งข้อความเสียงมาหาฟลอยด์ในขณะที่หันเหความสนใจไปจัดการกับเหล่าทหารและผู้กล้าของอาณาจักรตะวันสาดแสงที่อยู่ตรงหน้าของพวกมัน

“ถ้าเจ้าไม่รู้แล้วข้าจะรู้เหรอ?!”

ฟลอยด์ก่นด่าอยู่ภายในใจเมื่อมันได้ยินคำถามพวกนี้

จากนั้นมันก็หรี่ตาลงและมองไปยังต้นตอของแสงไร้จุดจบนี้

ในไม่ช้ามันก็เห็นร่างของมนุษย์และมังกรร่างหนึ่งลอยอยู่ท่ามกลางต้นตอของแสงสว่าง

จากพวกมันทั้งสอง ร่างของมนุษย์ย่อมต้องเป็นราชาตะวันสาดแสงที่พวกมันเกรงกลัวที่สุด

และร่างของมังกรนั้น…

ฟลอยด์หรี่ตาลง

มังกรแสงศักดิ์สิทธิ์?

‘ใช่ไหม?’

อย่างไรก็ตาม ทำไมมันถึงได้แตกต่างจากมังกรแสงศักดิ์สิทธิ์ที่มันเคยเห็นในหนังสือ?

มันไม่คิดมากเกี่ยวกับมันและคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะเป็นร่างจำแลงของมังกรแสงศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น

นอกจากนี้มันยังรู้แล้วว่าทำไมอีกฝ่ายถึงสามารถขจัดคำสาปของเทพแห่งความตายออกไปได้

“ทักษะแห่งกฎเกณฑ์ นอกจากนี้มันยังเป็นทักษะแห่งกฎเกณฑ์ธาตุแสงด้วย!”

ฟลอยด์กัดฟัน

ไม่แปลกใจเลยที่คำสาปของเทพแห่งความตายไม่ได้ผลกับพวกมัน

ความได้เปรียบของทหารอาณาจักรตะวันสาดแสงเพิ่มขึ้นทันที

หัวใจที่เคยสงบนิ่งของฟลอยด์เริ่มปั่นป่วนขึ้นมา

“ฆ่า! ฆ่าราชาตะวันสาดแสงนั่นซะ! ตราบใดที่ราชาตะวันสาดแสงตาย! ชัยชนะก็จะกลายเป็นของพวกเรา!”

ฟลอยด์คิดอยู่ชั่วขณะและตะโกนออกมาในทันใด

จิตสังหารปรากฏขึ้นในแววตาของผู้กล้า 23 คน

พวกมันไม่ได้พูดอะไรอีก

ผู้กล้า 13 คนผละจากศัตรูที่อยู่ตรงหน้าในทันที จากนั้นพวกมันก็กลายเป็นลำแสง 13 สีที่แตกต่างกันและพุ่งไปหาโจวโจว

ส่วนผู้กล้าอีก 10 คนที่เหลือ พวกมันก็คอยหยุดผู้กล้าของโจวโจวเอาไว้

“ท่านลอร์ด ระวังตัวด้วย!”

เมื่อไป่อี้ อู๋ซิน และคนอื่นๆ เห็นภาพฉากนี้ พวกเขาก็อยากที่จะผละจากศัตรูที่อยู่ตรงหน้าและไปช่วยโจวโจวในทันที

อย่างไรก็ตาม เหล่าผู้กล้าที่เป็นคู่ต่อสู้ของพวกเขาก็ย่อมไม่เปิดโอกาสเช่นนั้นและพยายามขัดขวางพวกเขาไว้อย่างเต็มที่

พวกมันรู้ดีว่าถ้าพวกมันปล่อยให้คนพวกนี้ไปปกป้องราชาของตนได้ พวกมันก็น่าจะพ่ายแพ้ในศึกนี้เอาได้

ถ้าพวกมันสามารถสังหารราชาตะวันสาดแสงได้ แม้ว่าพวกมันจะไม่ได้ชนะแน่ๆ แต่โอกาสที่พวกมันจะชนะก็จะเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากแน่นอน

ไป่อี้และคนอื่นๆ อดรู้สึกเป็นกังวลขึ้นมาไม่ได้เมื่อพวกเขาเห็นว่าพวกเขาถูกหยุดเอาไว้

ในเวลานั้นเอง

[ตั้งสมาธิไปกับการต่อสู้ตรงหน้า ไม่ต้องห่วงข้า]

เสียงอันสงบนิ่งของโจวโจวดังขึ้นในใจของเหล่าแม่ทัพ

แม้ว่าเหล่าผู้กล้าจะเป็นกังวลอยู่เล็กน้อย แต่พวกเขาก็ใจเย็นลงมากหลังจากได้ยินเสียงอันใจเย็นขององค์ราชา

เมื่อฝ่าบาทพูดเช่นนี้ พระองค์ย่อมมั่นใจว่าจะสามารถปกป้องตัวเองได้

งั้นพวกเขาก็ต้องฟังฝ่าบาท!

เมื่อคิดได้เช่นนี้ แม้ว่าพวกเขาจะยังไม่คลายความกังวลลง แต่พวกเขาก็เริ่มตั้งสมาธิไปที่การจัดการกับศัตรูที่อยู่ตรงหน้า

บนท้องฟ้า ผู้กล้า 13 คนจากเผ่าพันธุ์ต่างๆ ได้พุ่งเข้าหาโจวโจวด้วยสีหน้าอันดุดันและจองหอง

“ราชาเผ่าพันธุ์มนุษย์ผู้นี้จะต้องตาย!”

“ถ้าไม่มีการปกป้องของทหารนับสิบล้านคนและเหล่าผู้กล้า เจ้าก็คงจะไม่รอดแน่ๆ!”

“ฮ่าๆ มันยืนงงอยู่บนท้องฟ้าจริงๆ หรือว่ามันจะกลัวจนเสียสติไปแล้ว?”

เหล่าผู้กล้าจากต่างเผ่าพันธุ์เต็มไปด้วยความมั่นใจ พวกมันไม่เชื่อว่ามนุษย์ผู้นี้จะสามารถหลบหนีไปจากพวกมันได้

ในเวลานี้ พวกมันก็ราวกับว่าเห็นชัยชนะอยู่ในกำมือแล้ว

หอกแห่งการทำลายล้างที่ยืนอยู่ข้างหลังของโจวโจวอย่างเงียบๆ ลอยออกมาตรงหน้าและขวางทางของพวกมันเอาไว้

เหล่าผู้กล้าจากต่างเผ่าพันธุ์ทั้ง 13 คนหัวเราะออกมาเมื่อพวกมันเห็นเช่นนี้

มนุษย์ที่อยู่ในระดับเหนือสามัญขั้นต้นเท่านั้นกลับกล้าเข้ามาขวางพวกมันงั้นเหรอ?

พวกมันไม่สนใจอีกฝ่าย

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่พวกมันกำลังบินผ่านเจียงหยวนไป…

หวือ! หวือ! หวือ! หวือ!

แสงเย็นสี่สายสว่างวาบขึ้นบนใบหน้าของผู้กล้าทั้งสี่คน และทิ้งแผลลึกไว้บนใบหน้าของพวกมัน

ผู้กล้าที่ได้รับบาดเจ็บทั้งสี่คนแตะไปที่บาดแผลบนใบหน้าและโมโหขึ้นมา!

เป็นแค่มดตัวเล็กๆ กลับกล้ากัดพวกมันงั้นเหรอ?