บทที่ 329: บุคคลที่ฝึกฝนศาสตร์กระบี่เซียนอรุณ

หลังจากสั่งงานสำนักเซียนอรุณแล้ว ซุยเฮ็งก็มองไปที่ฮั่วซานและยิ้ม “ เข้าไปในความว่างเปล่าของจักรวาลและสำรวจดาวขาวที่อยู่ติดกับดาวเต๋าโจวอย่างรอบคอบเพื่อดูว่ามีใครซ่อนอยู่ที่นั่นหรือไม่”

มันมีดาวเคราะห์ทั้งหมดเจ็ดดวงในระบบสุริยะของดาวเต๋าโจว

ตามลำดับระยะห่างจากแกนกลางดวงอาทิตย์ ดาวเต๋าโจวเป็นดาวดวงที่สอง ดาวเทียนจูเป็นดาวดวงที่สาม และดาวขาวเป็นดาวดวงแรก มันอยู่ใกล้กับดวงอาทิตย์มากที่สุด และอุณหภูมิพื้นผิวก็สูงมาก มันไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่บนนั้น

ผู้คนจากอาณาจักรราชันสุริยันได้เข้ามาตรวจสอบบางสิ่งบนดาวเต๋าโจวอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นหากพวกเขาซ่อนตัวอยู่ข้างนอก พวกเขาก็จะต้องอยุ่ไม่ไกลเกินไป ซึ่งดาวเทียนจูกับดาวขาวก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย

อย่างไรก็ตาม มันก็มีเซียนอนันต์ทองมากมายและยังมีเทพดวงดาวเทียนจูอยู่บนดาวเทียนจู ด้วยเหตุนี้เอง ตราบใดที่ผู้คนจากอาณาจักรราชันสุริยันยังมีสมองอยู่ พวกเขาก็จะไม่เลือกที่จะซ่อนตัวอยู่บนดาวเทียนจูแน่

ความว่างเปล่าใกล้กับดาวเต๋าโจวนั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของซุยเฮ็งมันไม่มีใครสามารถหลบหนีการรับรู้ของเขาไปได้

ด้วยเหตุนี้เอง ช่องโหว่เดียวที่เหลือจึงเป็นดาวขาว

เขาสามารถส่งฮั่วซานไปตรวจสอบได้ ถ้าที่นี่มีการเคลื่อนไหว คนที่นั่นก็จะเคลื่อนไหวตามกันหมดแน่

“ รับทราบท่านประมุขเซียน!” ฮั่วซานตอบกลับ

จากนั้นเขาก็กลายเป็นรุ้งสีแดงและออกจากดาวเต๋าโจวไปในทันที

“ อยู่ที่นี่และติดตามสถานการณ์ในต้าเว่ยต่อไป” ซุยเฮ็งกล่าวกับเทพวารีหง “ ให้ความสนใจกับการเปลี่ยนแปลงของโชคในชาติโดยรวม”

“ รับทราบ” เทพวารีหงคำนับและอำลา เธอมุ่งหน้ากลับไปที่แม่น้ำหง

“ ส่วนพวกเจ้า…” ซุยเฮ็งมองไปที่เจิงหนานซุนและศิษย์คนอื่นๆ รวมถึงลู่เจิงหมิง, จ้าวกวงและหลิวหลี่เต๋า เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ คราวนี้ข้าจะพาคนติดตามข้าไปด้วย หลังจากที่ข้ามุ่งหน้าไปยังอาณาจักรราชันสุริยันแล้ว ข้าก็จะทำการปฏิรูปบางอย่าง ฉะนั้นแล้วข้าจึงต้องการใครสักคนที่จะช่วยข้าทำงานนี้”

ปฏิรูป?

ลู่เจิงหมิง, จ้าวกวงและหลิวหลี่เต๋ารู้สึกประหลาดใจมาก

พวกเขาทั้งหมดเคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของซุยเฮ็งมาก่อน และพวกเขาก็รู้ดีว่าซุยเฮ็งเคยทำอะไรมาก่อน

ตอนนี้เขากำลังจะปฏิรูปอาณาจักรราชันสุริยันในตำนานจริงๆ หรอ?

สมแล้วที่เป็นท่านประมุขเซียน แม้แต่โลกเซียนในตำนานก็ยังสามารถเปลี่ยนแปลงไปตามที่เขาต้องการได้!

“ พวกเจ้าทั้งสามไปกับข้า” ซุยเฮ็งมองไปที่ลู่เจิงหมิง, จ้าวกวงและหลิสหลี่เต๋าแล้วหัวเราะเบาๆ “ ข้าเห็นแล้วว่าพวกเจ้าทั้งสามคนไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับดาวเต๋าโจว”

พวกเขาทั้งสามรู้สึกตื่นเต้นและมีความสุขในทันทีเมื่อได้ยินสิ่งนี้ พวกเขาพูดพร้อมกันว่า “ ขอบคุณครับท่าน! ขอบพระคุณท่านจริงๆ!”

ในความเห็นของพวกเขา การติดตามซุยเฮ็งไปนั้นก็ถือเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย มันมีความหวังมากกว่าการฝึกตนบนดาวเต๋าโจวมาก

“ สำหรับสำนักเซียนอรุณ…” ซุยเฮ็งเหลือบมองพวกเขาก่อนที่เขาจะจ้องมองไปที่เจิงหนานซุน เขาพยักหน้าและพูดว่า “ หนานซุนมากับข้า อาจารย์ของเจ้าอาจจะยังรออยู่ในอาณาจักรราชันสุริยันด้วยเช่นกัน”

“ อะไรนะ? ท่านอาจารย์?!” ดวงตาของเจิงหนานซุนเบิกกว้างเมื่อได้ยินสิ่งนี้ ร่างกายที่บอบบางของเธอสั่นเล็กน้อย และเห็นได้ชัดว่าเธอตื่นเต้นมาก เธอพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ ขอบพระคุณท่านบรรพบุรุษปู่!”

เจียงฉีฉีเป็นบุคคลที่สำคัญที่สุดในโลกสำหรับเธอ

หลังจากผ่านไป 300 ปี เธอก็ยังมักจะคิดถึงช่วงเวลาที่เธอได้ใช้ไปกับเจียงฉีฉี

“ เอาล่ะ พวกเจ้ากลับไปได้แล้ว” ซุยเฮ็งโบกมือเบาๆ และพูดว่า “ ข้าจะเรียกหาพวกเจ้าอีกครั้งเมื่อถึงเวลา”

จากนั้นทุกคนก็อำลาและจากไป

ซุยเฮ็งเป็นคนเดียวที่เหลืออยู่บนท้องฟ้า

เขายืนเอามือไพล่หลังแล้วมองลงมา ดวงตาของเขาเป็นประกายด้วยแสงสีทองจาง ความลึกลับทั้งหมดของดาวเต๋าโจวถูกเปิดเผยออกมาภายใต้การจ้องมองของเขา

“ มันยังไม่มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับเรื่องนี้” ซุยเฮ็งขมวดคิ้วเล็กน้อยและคิดกับตัวเองว่า “ อาณาจักรราชันสุริยันเรียกสถานที่แห่งนี้ว่าดาวจุยโชวหรือดาวแห่งบาปกำเนิด บางทีนั่นอาจหมายความถึงสถานที่ที่โจวจุนเทียนจากมา”

“ ครั้งนี้พวกเขาส่งคนมาค้นหามรดกของโจวจุนเทียนหรอ? แต่มันก็เห็นได้ชัดว่ามันไม่มีร่องรอยของโจวจุนเทียนบนโลกใบนี้”

“ โจวจุนเทียนออกไปจากดาวเต๋าโจวมาอย่างน้อย 300,000 ปีแล้ว หากพวกเขาต้องการจะตรวจสอบมรดกของโจวจุนเทียนจริงๆ พวกเขาก็คงจะไม่รอจนถึงตอนนี้แน่”

“ ถ้าอย่างนั้น ดาวเต๋าโจวมีความสัมพันธ์อะไรกับอาณาจักรราชันสุริยันเมื่อเร็วๆ นี้กัน? หรือจะเป็นค่ายกลเคลื่อนย้ายในตำหนักมหาราชัน… การขอเยี่ยมชมสำนักเซียนอรุณเป็นไปเพื่อตรวจสอบมรดกของฉีฉีอย่างงั้นหรอ?”

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ดวงตาของเขาก็หรี่ลงเล็กน้อย

นี่เป็นไปได้มาก!

ท้ายที่สุดแล้ว หากข่าวเรื่องสำนักเซียนแห่งอาณาจักรราชันสุริยันได้เดินทางข้ามท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวอันไร้ที่สิ้นสุดมาเพื่อตรวจสอบเจียงฉีฉีหลุดออกมา มันก็จะต้องทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นอย่างมากแน่นอน

ด้วยเหตุนี้เอง พวกเขาจึงต้องเดินหมากกันอย่างระมัดระวัง

“ หลังจากที่เราจับตัวผู้นำได้แล้ว ข้าก็จะถามเกี่ยวกับสถานการณ์ของ ฉีฉ๊ในอาณาจักรราชันสุริยัน”

….

ศูนย์กลางเมืองหลวง, ตำหนักขาวศักดิ์สิทธิ์

เซินไป่เซิงรู้สึกตื่นเต้นมากในวันนี้ เขาจัดแจงเสื้อผ้าอย่างระมัดระวังและเตรียมเข้าร่วมงานเลี้ยงที่กำลังจะมาถึง

แน่นอน เขาไม่ได้จัดเสื้อคลุมนักพรตให้เป็นระเบียบเรียบร้อยเพื่อรูปร่างหน้าตาของเขา

พูดให้ถูก มันก็เป็นการตรวจสอบความสามารถในการป้องกันของเสื้อคลุมนักพรตของเขาซะมากกว่า

เสื้อคลุมนี้เป็นเครื่องมือปราชญ์ที่มีพลังป้องกันที่ทรงพลังซึ่งสามารถต้านทานการโจมตีของปราชญ์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

แม้ว่าสำนักเซียนอรุณจะส่งเซียนทองมา แต่พวกเขาก็จะไม่สามารถทำอะไรเขาได้

“ เต๋าเซิน”

ในขณะนี้ เสียงแหลมและแปลกก็ดังมาจากข้างนอก มันเป็นขันทีที่ดูแลพระราชวัง “ งานเลี้ยงกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว เชิญไปได้”