โจวโจวไม่คาดคิดเลยว่านี่จะเป็นคำถามแรกขององค์หญิง
ใครๆ ก็รักสวยรักงาม โบราณว่าไว้เป็นความจริง!
“ใช่แล้ว”
โจวโจวพยักหน้าและยอมรับมัน
“ข้าอยากเห็นดินแดนมหัศจรรย์ของเจ้าจริงๆ”
ดวงตาขององค์หญิงอลีน่าเต็มไปด้วยความสนใจและโหยหา ในขณะที่เธอถอนหายใจออกมา
“ด้วยความแข็งแกร่งของจักรวรรดิอัศวิน ถ้าองค์หญิงว่าง มันก็ย่อมมีโอกาสอยู่เสมอ”
โจวโจวยิ้ม
ค่ายกลข้ามมิติระหว่างพวกเขาสามารถทำให้ลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์ข้ามมิติมายังค่ายของจักรวรรดิได้ แต่มันก็ไม่สามารถทำให้คนจากจักรวรรดิข้ามมิติไปยังดินแดนของลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์ได้
จะเห็นได้ว่านี่เป็นมาตรการที่กำหนดขึ้นเป็นพิเศษโดยเจตจำนงสูงสุดเพื่อปกป้องลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์ และป้องกันไม่ให้พวกเขาถูกครองงำโดยฝ่ายของลอร์ดดั้งเดิม
“เมื่อข้าว่าง…”
องค์หญิงอลีน่าส่ายหัวและถอนหายใจออกมา
เธอไม่ได้พูดอะไรอีกและยิ้มออกมา
“ให้ข้าแนะนำตัวก่อนละกัน ข้าอาศัยอยู่กับท่านพ่อและท่านแม่ ด้วยเหตุผลบางอย่าง ข้าจึงมีสองชื่อ ชื่ออลีน่าตามที่เจ้าเรียกเป็นชื่อที่ท่านแม่ของข้าตั้งให้ นอกจากนี้ข้ายังมีอีกชื่อจากท่านพ่อว่าหยูหลิง”
“ชาวเมืองส่วนใหญ่ในจักรวรรดิจะเรียกข้าว่าองค์หญิงอลีน่า เพราะข้าอยู่กับท่านแม่มากกว่า แต่ข้าก็ไม่ติดอะไรนะถ้าเจ้าอยากจะเรียกข้าว่าองค์หญิงหยูหลิง”
องค์หญิงอลีน่าหรือองค์หญิงหยูหลิงยิ้ม
“องค์หญิงหยูหลิง”
โจวโจวลังเลอยู่ชั่วขณะและเรียกชื่อนี้ออกมาทันที
อีกฝ่ายมีใบหน้าแบบชาวตะวันออก แม้ว่าเธอจะมีเลือดผสมจางๆ แต่โจวโจวก็ยังรู้สึกว่าหยูหลิงเป็นชื่อที่เหมาะสมยิ่งกว่า
องค์หญิงหยูหลิงยิ้มและพยักหน้า
“ในตอนนี้ การโจมตีของกองกำลังสีชาดจำนวนนับไม่ถ้วนได้กวาดผ่านทวีปจื้อเกาทั้งหมดที่เต็มไปด้วยลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์ทั้งหลาย ในสายตาของลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์ เจตจำนงสูงสุดได้เรียกเหตุการณ์นี้ว่ากิจกรรมราชันหมื่นราชา และพวกเรากองกำลังระดับอาณาจักรและจักรวรรดิดั้งเดิมก็ได้เรียนรู้จากเจตจำนงสูงสุดว่าเหตุการณ์นี้คือหายนะสรรพเผ่าพันธุ์!”
โจวโจวเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
องค์หญิงหยูหลิงพูดต่อ
“จักรวรรดิอัศวินของพวกเรารู้สึกถึงแรงกดดันอันยิ่งใหญ่ของภัยพิบัตินี้ในสนามรบหลักแล้ว เจ้ารู้ไหมว่าตอนนี้มีจักรวรรดิสีชาดกี่แก่งที่ปิดล้อมจักรวรรดิอัศวินของพวกเราเอาไว้?”
องค์หญิงหยูหลิงถาม
“สาม?”
โจวโจวพยายามเดา
จำนวนเท่านี้ก็ถือว่ามากแล้ว
“ไม่ มันคือหก!”
องค์หญิงหยูหลิงพูดตัวเลขอันน่าตกตะลึงด้วยสีหน้าจริงจัง
“นี่แค่กองกำลังสีชาดระดับจักรวรรดิเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีกองกำลังสีชาดระดับอาณาจักรอีกไม่ต่ำกว่า 500 แห่งพเนจรอยู่ทั้งในและนอกจักรวรรดิอัศวินของเรา เพื่อโจมตีจักรวรรดิอัศวินของเราและฝ่ายระดับจักรวรรดิและระดับอาณาจักรรอบๆ อย่างต่อเนื่อง”
“ในตอนนี้มันมีมอนสเตอร์สีชาดเกือบพันล้านตัวกำลังต่อสู้กันอย่างต่อเนื่องอยู่รอบๆ จักรวรรดิอัศวินของพวกเรา นอกจากนี้ยังมีจิตวิญญาณเทพเจ้าสีชาดกว่า 10 ตัวด้วย มันเรียกได้ว่ามีกองกำลังระดับอาณาจักรที่ถูกทำลายโดยฝ่ายสีชาดเหล่านั้นอยู่ตลอดเวลา ข้าเกรงว่าแม้แต่ฝ่ายระดับจักรวรรดิก็คงจะรั้งไว้ได้ไม่นานนัก สถานการณ์ไม่ค่อยดีเอาซะเลย”
โจวโจวหน้าเปลี่ยนสี
บัดซบ
เจ้าเรียกสถานการณ์นี้ว่าไม่ค่อยดีเหรอ?
องค์หญิงหยูหลิงใจใหญ่เกินไปไหม?
โจวโจวคิดว่าแม้เขาจะไม่สามารถเรียกตัวเองว่าเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งได้เมื่อเขามายังจักรวรรดิทั้งสองแห่งนี้ แต่ด้วยกองทัพ 20 ล้านคนที่เขามี อย่างน้อยเขาก็คงสามารถเป็นผู้นำที่โดดเด่นในสงครามกับฝ่ายสีชาดครั้งนี้ได้
สุดท้าย กองทัพสีชาดหนึ่งพันล้านคนและจิตวิญญาณเทพเจ้าอีกกว่าสิบตัวก็ทำให้เขาต้องอึ้งไป
ต่อหน้ากองทัพหนึ่งพันล้านคนนี้ กองกำลังของโจวโจวก็เป็นเพียงแค่แมลงหวี่แมลงวันเท่านั้น
ไม่ต้องพูดถึงว่ายังมีจิตวิญญาณเทพเจ้าอยู่อีก
เหตุผลว่าทำไมคราวก่อนเขาถึงสามารถสังหารเทพเจ้าได้ก็เป็นเพราะข้อได้เปรียบของทักษะแห่งกฎเกณฑ์ทั้งสองอันอย่างแสงสัมบูรณ์และดาบแสงศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น
เขาไม่คิดว่าเขาจะสามารถต่อสู้กับพวกมันได้อย่างไร้ความเกรงกลัวจริงๆ เพียงเพราะเขาเคยสังหารจิตวิญญาณเทพเจ้ามาเพราะโชคช่วย
นอกจากนี้โจวโจวยังไม่กล้าจินตนาการ
ถ้าจักรวรรดิอัศวินยังตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ จักรวรรดิเอลฟ์ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าจักรวรรดิอัศวินอย่างมหาศาลจะต้องเผชิญหน้ากับการปิดล้อมของอาณาจักรและจักรวรรดิสีชาดมากขนาดไหน
เขาคิดว่าการเข้าร่วมกับฝ่ายจักรวรรดิทั้งสองจะเป็นข้อได้เปรียบใหญ่สำหรับเขา
แต่เขาก็ไม่เคยคิดเลยว่ามันจะมีปัญหาตามมามากมายขนาดนี้
ถ้าเขาไม่ระวัง เขาก็อาจจะตายในกิจกรรมนี้ได้
“ข้าสามารถทำอะไรได้บ้าง?”
โจวโจวเงียบไปสักพักก่อนที่จะพูดออกมา
เนื่องจากเขามาที่นี่แล้ว มันก็ย่อมไม่มีทางเลือกอื่น
ในเมื่อเขาได้เลือกฝ่ายนี้แล้ว เขาก็ควรทำภารกิจของฝ่ายนี้บ้าง
อย่างไรก็ตาม เขาก็ต้องระวัง
สมรภูมิในระดับนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะทำตัวตามสบายได้
กฎเหมือนเดิมคือเขาต้องระวังตัวเข้าไว้
“ได้สิ”
องค์หญิงหยูหลิงพยักหน้าหลังจากได้ยินคำพูดของโจวโจว
“อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ก็ค่อนข้างยาก หากเจ้ายินดีรับภารกิจ ข้าจะจัดหาภารกิจอื่นๆ ให้กับเจ้าเอง”
“บอกข้ามาก่อนเถอะ”
โจวโจวไม่ได้ปฏิเสธและถามออกมาก่อน
“มันมีจักรวรรดิกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ห่างจากจักรวรรดิอัศวินของพวกเราไป 62.5 พันล้านกิโลเมตร นั่นยังเป็นหนึ่งในห้าจักรวรรดิใหญ่ของเผ่าพันธุ์มนุษย์เรา”
“หายนะสรรพเผ่าพันธุ์กำลังปะทุขึ้นมา ข้าเกรงว่ามันคงเป็นเรื่องยากมากที่จักรวรรดิตัวคนเดียวจะสามารถรอดไปจากหายนะนี้ได้ ดังนั้นข้าจึงอยากส่งเจ้าไปจักรวรรดิกระบี่ศักดิ์สิทธิ์เพื่อเข้าพบจักรพรรดิกระบี่ศักดิ์สิทธิ์และขอความร่วมมือจากอีกฝ่าย”
“อันที่จริงข้าก็อยากส่งคนของข้าไปเอง แต่ตอนนี้จักรวรรดิถูกล้อมไว้โดยมอนสเตอร์สีชาดอยู่ และกองกำลังทหารของพวกเราก็เหลือน้อยลงแล้ว พวกเราไม่อาจแบ่งกำลังออกไปทำเช่นนี้ได้อีก นั่นคือเหตุผลว่าทำไมข้าถึงอยากมอบหมายภารกิจสำคัญนี้ให้กับเจ้า”
องค์หญิงหยูหลิงพูดออกมาอย่างจริงจัง
“62.5 พันล้านกิโลเมตร… ไกลมาก ข้าจะไปถึงที่นั่นได้ยังไง?”
โจวโจวขมวดคิ้ว
“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น พวกเราจะมอบแผนที่นำทางให้กับเจ้า บนแผนที่นั้นมันมีตำแหน่งของค่ายกลข้ามมิติระบุไว้อยู่ ด้วยค่ายกลข้ามมิติเหล่านั้น เจ้าและกองทัพของเจ้าน่าจะสามารถเดินทางได้เร็วยิ่งขึ้น”
“อันที่จริงมันไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่เจ้าจะเดินทางผ่านระยะทางขนาดนั้น แต่ความยากก็คือศัตรูที่เจ้าต้องพบระหว่างทาง”
องค์หญิงหยูหลิงพูดออกมาอย่างจริงจัง
“พวกเราต่างก็รู้ความสำคัญของค่ายกลข้ามมิติ ดังนั้นศัตรูก็ย่อมรู้ด้วยเหมือนกัน ถ้าไม่มีอะไรไม่คาดฝัน ค่ายกลข้ามมิติเหล่านั้นก็น่าจะถูกควบคุมหรือถูกทำลายโดยศัตรูไปแล้ว การชิงค่ายกลข้ามมิติกลับคืนมาจากศัตรูคือความยากลำบากที่สุดในการเดินทางของเจ้า ว่าไง? เจ้าคิดที่จะรับภารกิจนี้ไหม?”
องค์หญิงหยูหลิงถาม
จากนั้นการแจ้งเตือนจากภารกิจที่เขาไม่ได้เห็นมานานแล้วก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของโจวโจวในทันทีที่เธอพูดจบ