ตอนที่ 80 : ยึดเมืองคุนท์! โรงฝึกและปรมาจารย์การต่อสู้!

โจวโจวเห็นแผ่นหินดินแดนในลานของลอร์ดในเวลาไม่นาน

ความทนทานเต็ม 100,000 หมายความว่านี่คือตราดินแดนระดับบรอนซ์เขียวขั้นสูง

โจวโจวคิดอยู่ชั่วขณะ

เขาตัดสินใจไม่เอาตราดินแดนไปด้วยในคราวนี้ แต่เลือกที่จะทิ้งมันไว้ที่นี่

นี่เป็นเพราะเขาวางแผนที่จะยึดเมืองคุนท์และเปลี่ยนให้มันกลายเป็นเมืองขึ้นของเมืองตะวันสาดแสง

ถ้าเขาเลือกยึดครอง ตราดินแดนก็จะยังคงอยู่ในดินแดนต่อไป

มิฉะนั้นสิ่งปลูกสร้างในดินแดนก็จะหมดเอฟเฟกต์ลงและกลายเป็นสิ่งปลูกสร้างที่ไร้ประโยชน์

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมตราดินแดนถึงเป็นรากฐานของดินแดน

เขาหยุดคิดถึงมัน

โจวโจววางมือลงไปบนแผ่นหิน

ในไม่ช้าก็ปรากฏการแจ้งเตือนว่าเขาได้รับคริสตัลออโรร่าระดับบรอนซ์เขียว 50 อัน

[ท่านต้องการยึดเมืองคุนท์หรือไม่?]

“ต้องการ!” เขากล่าว

[การยึดครองสำเร็จ!]

[ขอแสดงความยินดีด้วย ท่านได้กลายเป็นลอร์ดของเมืองคุนท์ (ดินแดนระดับบรอนซ์เขียวขั้นสูง)!]

[หน้าต่างเมืองขึ้นถูกเปิดใช้งาน]

[ท่านสามารถตรวจสอบข้อมูลของเมืองขึ้นได้ผ่านหน้าต่างเมืองขึ้น!]

“เปิดหน้าต่างเมืองขึ้น” โจวโจวคิด

อึดใจต่อมาก็มีหน้าต่างสีทองปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขา

[ชื่อเมืองขึ้น: เมืองคุนท์ (สามารถเปลี่ยนแปลงได้)]

[เมืองหลัก: เมืองตะวันสาดแสง]

[ระดับเมืองขึ้น: ระดับบรอนซ์เขียวขั้นสูง]

[ขนาดดินแดน: 20,000 เมตร×20,000 เมตร×5,000 เมตร]

[สิ่งปลูกสร้างภายในดินแดน: ลานของลอร์ด (ระดับบรอนซ์เขียวขั้นสูง)x1, โรงฝึก (ระดับบรอนซ์เขียวขั้นสูง)x1, โกดัง (ระดับบรอนซ์เขียวขั้นสูง)x2, โรงครัว (ระดับบรอนซ์เขียวขั้นสูง)x5, โรงตีเหล็ก (ระดับบรอนซ์เขียวขั้นต้น)x3… ห้องพัก (ระดับเหล็กดำขั้นต้น)x511]

โจวโจวมองดูและพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

รายการสิ่งปลูกสร้างเยอะๆ แบบนี้สร้างความเจริญหูเจริญตาให้กับเขามาก

ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าตราดินแดนไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ซึ่งก็ทำให้ตำแหน่งของเมืองหลักไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เขาก็คงอยากจะย้ายเมืองตะวันสาดแสงมาที่นี่แล้ว

เขาไม่ได้ชอบชื่อของมัน ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนชื่อเมืองคุนท์เป็นเมืองเวิ้งว้าง!

“ในอนาคต ฉันสามารถลองใช้เมืองเวิ้งว้างเป็นฐานเพื่อยึดภูมิภาคที่รกร้างโกบิดูได้!” โจวโจวคิด

จากนั้นเขาก็มองไปยังจางไคชานและจางต้าหูที่กำลังรออยู่ข้างๆ

เขาคิดอยู่นิดหน่อยก่อนที่จะนั่งลง

“พวกเจ้าทั้งคู่ มานี่” โจวโจวกล่าว

จางไคชานและจางต้าหูสบตากันก่อนที่พวกเขาจะเดินเข้ามาในทันที

“ข้าจะตรวจสอบความทรงจำของพวกเจ้า อย่าขัดขืนไม่ว่าเจ้าจะรู้สึกผิดปกติอะไรก็ตาม เดี๋ยวมันก็เสร็จ ไม่ต้องห่วง มันไม่อันตรายหรอก” โจวโจวกล่าว

ตรวจสอบความทรงจำงั้นเหรอ?

ทั้งคู่หน้าซีดไป

อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไร พวกเขาเพียงแค่ก้มศีรษะลงอย่างเงียบๆ

เมื่อโจวโจวเห็นเช่นนี้ เขาก็เปิดใช้งานทักษะการรับรู้ทางจิตในทันที

ในตอนแรกทักษะนี้สามารถสัมผัสได้เพียงแต่ความคิดคร่าวๆ ของอีกฝ่ายเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อความแข็งแกร่งของโจวโจวเพิ่มขึ้น เขาก็ค่อยๆ สัมผัสความคิดของอีกฝ่ายได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ในตอนนี้ที่เขาอยู่ในระดับบรอนซ์เขียวขั้นต้นแล้ว ทักษะการรับรู้ทางจิตของเขาจึงสามารถสัมผัสได้ถึงความทรงจำของอีกฝ่ายเลย

เขาสงสัยเหลือเกินว่าในอนาคตมันจะพัฒนาไปได้ขนาดไหน

โจวโจวตั้งตารอคอยมันอยู่เลย

ครู่ต่อมา หลังจากรับรู้ได้ถึงความทรงจำของพวกเขา แววตาของโจวโจวฉายแววประหลาดใจ

ในความทรงจำของพวกเขา โจวโจวตระหนักได้ว่าพวกเขาไม่ได้ทำชั่วกับทาสมากนักในขณะที่พวกเขาสองคนเป็นผู้ช่วยของคุนท์

ความทรงจำของจางต้าหูกระทั่งตลกอยู่เล็กน้อย

เขาถูกคุนท์จัดให้ไปเป็นสายลับในหมู่พวกทาส โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องรายงานเกี่ยวกับทาสที่สร้างความไม่เรียบร้อย

หลังจากเวลาผ่านไปนาน ทาสหลายพันคนเหล่านี้ก็ไม่รู้เลยว่าสหายที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพวกเขามานั้น แท้จริงแล้วคือคนของเจ้าของทาส

ประสบการณ์ของจางไคชานนั้นค่อนข้างเรียบง่าย

เขาคือนักสู้ที่แท้จริงของคุนท์!

พวกเขารับผิดชอบในการจัดการกับ “แขก” ของคุนท์ที่ต้องการทำร้ายเขาหรือกลุ่มอื่นๆ ที่ขัดแย้งกับคุนท์

บางครั้งเขาก็ใช้กำลังเพื่อข่มขู่ทาส แต่ก็ไม่บ่อยนัก อย่างมากที่สุดเขาก็จะทุบตีและด่าทอคนพวกนั้นเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นเพราะคุนท์รู้สึกว่าทาสคือสมบัติของเขา

ดังนั้นเขาจึงไม่ยอมให้ตีหรือด่ามากเกินไปเพื่อไม่ให้ทาสพิการ

โจวโจวอดเดาะลิ้นด้วยความประหลาดใจไม่ได้

สองคนนี้ถือว่าสะอาด

นี่คือสิ่งที่เขาต้องการ เขาไม่ต้องการให้พวกสวะมาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา

“ข้าตรวจสอบความทรงจำของพวกเจ้าก็เพราะข้าอยากรู้ว่าพวกเจ้ามีคุณสมบัติที่จะได้รับผิดชอบงานใหญ่ไหม! จากที่ดู… พวกเจ้าถือว่าผ่าน” โจวโจวกล่าว

ทั้งสองคนถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

ในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็สงสัยว่าโจวโจวกำลังพูดถึงอะไร

“พวกเจ้ารู้ไหมว่าทำไมข้าถึงบอกให้พวกเจ้าคงสภาพองค์กรทาสของคุนท์เอาไว้?” โจวโจวถาม

“หรือว่าท่านลอร์ด… สนใจเข้ามาในอุตสาหกรรมทาสด้วย?” จางไคชานหยั่งเชิง

“ข้าไม่ได้สนใจในการแลกเปลี่ยนทาส เหตุผลที่ข้าให้พวกเจ้าคงสภาพองค์กรทาสของคุนท์เอาไว้ก็ง่ายมาก ข้าแค่อยากให้พวกเจ้าขายมันให้หมด และเปลี่ยนมันเป็นแกนหมอก!” โจวโจวกล่าว

เขาไม่ได้มีความประทับใจที่ดีนักต่ออุตสาหกรรมนี้เมื่อเขาอยู่ในดาวเคราะห์สีน้ำเงิน

เขาอาจจะอยู่ต่างโลกแล้วตอนนี้ แต่ความชอบในใจของเขาก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

นอกจากนี้ เขาก็ไม่ได้ขาดแคลนคนแล้วด้วยตอนนี้

ในอนาคต เขายังสามารถปล้นประชากรของลอร์ดคนอื่นๆ ผ่านสงครามได้อีกด้วย

ดังนั้นเขาจึงสนใจในอุตสาหกรรมทาสน้อยลงไปอีก

แกนหมอกเป็นสกุลเงินที่ใช้ซื้อขายจริงในทวีปจื้อเกา

ยิ่งมีมากก็ยิ่งดี

จางไคชานและพี่น้องของเขาเข้าใจได้ในทันที

“พวกเราพี่น้องจะขายกิจการทาสของคุนท์ให้เร็วที่สุดขอรับ!” จางไคชานกล่าวด้วยความเคารพ

จางต้าหูพยักหน้าอย่างแข็งขันเช่นกัน

โจวโจวรับทราบ

“หลังจากขายกิจการของคุนท์แล้ว ข้าวางแผนจะให้พวกเจ้าสองคนพี่น้องดูแลเมืองนี้ เพราะพวกเจ้าคุ้นเคยกับที่นี่ที่สุด แต่ข้าจะไม่เคลื่อนย้ายคนมาที่นี่ทันที ข้าจะทิ้งทหารที่ได้มาใหม่ 1,000 คนไว้ให้กับพวกเจ้าใช้ป้องกันเมืองที่ว่างเปล่าแห่งนี้”

“ข้าจะโจมตีกองกำลังของลอร์ดสีชาดในที่รกร้างโกบิในไม่ช้า เมื่อเวลานั้นมาถึง ทหารที่ข้าพามาก็จะมาอาศัยอยู่ในเมืองนี้เป็นการชั่วคราว” โจวโจวกล่าว

เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องให้พวกเขาเฝ้าเมืองเปล่าแห่งนี้

เมืองตะวันสาดแสงกำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว

ลูกน้องส่วนใหญ่ต่างก็มีงานเป็นของตัวเองในเมืองตะวันสาดแสง ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะจากมา

นอกจากนี้เขายังต้องพากองกำลังออกไปต่อสู้เกือบทุกวัน

ดังนั้นเขาจึงไม่อาจส่งทหารมามากเกินไปได้

มิฉะนั้นการระดมทหารของทั้งสองดินแดนทุกวันจะทำให้เสียเวลาในการพัฒนาเป็นอย่างมาก

และนั่นก็คือสิ่งที่โจวโจวไม่อยากจะเห็น

ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงแค่ให้สองคนนี้ยืมทหารบางส่วนมาเฝ้าเมืองนี้ชั่วคราว

ในอนาคต เมื่อเมืองตะวันสาดแสงมีลูกน้องเป็นจำนวนมากจนไม่ขาดแคลนอีก เขาก็จะนำคนมาที่นี่เพิ่ม

“พวกเราจะไม่ทำให้ท่านลอร์ดผิดหวัง!”

“พวกเราจะปกป้องเมืองของท่านลอร์ดจนกว่าชีวิตจะหาไม่!”

เมื่อจางไคชานและพี่น้องของเขาได้ยินคำพูดของโจวโจว พวกเขาก็คุกเข่าลงกับพื้นด้วยความตื่นเต้น

พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะฝันถึงเรื่องดีๆ แบบนี้ ในฐานะหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้าร่วมกับเมืองตะวันสาดแสง พวกเขาได้รับความไว้วางใจโดยตรงจากลอร์ดให้ทำหน้าที่สำคัญเช่นนี้จริงๆ

อีกฝ่ายต้องไว้ใจพวกเขามากแค่ไหนกันนะ?!

“รักษาเมืองนี้ให้ปลอดภัย อย่าใช้อำนาจของพวกเจ้าทำอะไรไม่ดี พวกเจ้าจะไม่ได้เจอข้าอีกถ้าข้าได้ยินว่ามีเรื่องอะไรแบบนั้นเกิดขึ้น” โจวโจวพูดอย่างใจเย็น

ด้วยพรสวรรค์แห่งลอร์ดสุขสงบ ความภักดีของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ดังนั้นโจวโจวจึงไม่เป็นกังวลว่าทั้งสองคนจะทรยศต่อเขาเพียงเพราะเขาไม่อยู่ที่นี่

“ขอรับท่านลอร์ด!” ทั้งสองคนรีบพูดออกมา

ในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็เตือนตัวเองว่าให้ทำให้ดีและอย่าทำให้ท่านลอร์ดผิดหวัง

เมื่อเห็นเช่นนี้โจวโจวก็ไม่พูดอะไรอีก เขาหันหน้าและเดินออกไปจากลานของลอร์ด

“โรงฝึกวายุงั้นเหรอ? นี่น่าจะเป็นโรงฝึกระดับบรอนซ์เขียวขั้นสูงเพียงแห่งเดียวในเมืองเวิ้งว้าง คุนท์ จางไคชาน และคนอื่นๆ น่าจะเรียนรู้กระบวนท่าดาบวายุมาจากโรงฝึกนี้”

โจวโจวมองไปยังสิ่งปลูกสร้างสีเขียวตรงหน้าของเขาและคิด

ในเวลานั้นเอง ชายวัยกลางคนที่มีหนวดก็เดินออกมาพร้อมกระเป๋าเดินทางของเขา

ในทันทีที่เขาออกมา เขาก็เห็นโจวโจว

“เจ้าคือ…” เขาถามอย่างระมัดระวัง

“ข้าคือเจ้าตะวันสาดแสง เจ้าคือปรมาจารย์การต่อสู้แห่งโรงฝึกนี้งั้นเหรอ?” โจวโจวถาม

“ขอคาราวะท่านลอร์ด! ชื่อของข้าคือหลี่ซือ ข้าคือปรมาจารย์การต่อสู้และเป็นเจ้าของโรงฝึกวายุ!” เมื่อหลี่ซือได้ยินสมญานามลอร์ดของโจวโจว เขาก็รีบแสดงความเคารพออกมาทันที

โจวโจวพยักหน้าเล็กน้อย

“เจ้ากำลังเตรียมย้ายไปยังเมืองตะวันสาดแสงงั้นเหรอ?” เขาถาม

“ขอรับท่านลอร์ด!” หลี่ซือกล่าว

“งั้นก็ไม่ต้องห่วงเรื่องที่อยู่ เมื่อเจ้าไปถึงที่นั่น ข้าจะให้คนมาสร้างโรงฝึกให้เจ้าอีกอัน เมืองตะวันสาดแสงจะไม่ปฏิบัติต่อลูกน้องคนไหนไม่ดีแน่ แต่เมื่อถึงเวลา ข้าก็จะปล่อยให้หน้าที่การฝึกฝนวรยุทธ์แก่ลูกน้องของเมืองตะวันสาดแสงเป็นหน้าที่ของเจ้านะ เจ้าต้องพยายามให้เต็มที่เข้าล่ะ” โจวโจวกล่าว

“ท่านลอร์ดก็จริงจังเกินไปแล้ว ข้าจะพยายามให้สุดความสามารถเลย” หลี่ซือกล่าวด้วยความเคารพ

โจวโจวรับทราบ

จากนั้นเขาก็มองไปยังข้อมูลของสิ่งปลูกสร้างอันนี้

[ชื่อเสียงปลูกสร้าง: โรงฝึก]

[ระดับสิ่งปลูกสร้าง: ระดับบรอนซ์เขียวขั้นสูง]

[เอฟเฟกต์สิ่งปลูกสร้าง: สถานที่เปลี่ยนอาชีพสำหรับคนทั่วไปที่ต้องการเปลี่ยนอาชีพเป็นผู้ฝึกยุทธ์ เรียนรู้คู่มือศิลปะการต่อสู้ และฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ มันมีห้องบ่มเพาะศิลปะการต่อสู้อยู่ในตัว การฝึกฝนในห้องบ่มเพาะศิลปะการต่อสู้ ความเข้าใจศิลปะการต่อสู้ +2 ประสิทธิภาพการบ่มเพาะ +20% พลังงานเสริมแกร่งที่ได้รับเพิ่มขึ้น +20%!]

[จำนวนคนที่สามารถเปลี่ยนอาชีพได้สูงสุด: 11/100]

การอัพเกรดสิ่งปลูกสร้าง: ไม้ 1,000 หน่วย เหล็ก 1,000 หน่วย ทรายละเอียด 1,000 หน่วย หิน 1,000 หน่วย แกนหมอกระดับเงินขาว 20 ชิ้น และพิมพ์เขียวของโรงฝึกระดับเงินขาวขั้นต้น 1 อัน!

โจวโจวพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

นับจากนี้เป็นต้นไป ลูกน้องในดินแดนของเขาก็จะสามารถเปลี่ยนอาชีพเป็นผู้ฝึกยุทธ์ได้

นอกจากนี้โรงฝึกนี้ยังเป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการฝึกวรยุทธ์ด้วย!

เอฟเฟกต์สิ่งปลูกสร้างของมันไม่เลวเลย

ฉันจะลองดูเมื่อกลับไป เขาคิด

“ท่านลอร์ด!” เสียงของไป่อี้ดังขึ้นมาแต่ไกล จากนั้นเธอก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าของโจวโจวอย่างรวดเร็ว

“ท่านลอร์ด สมรภูมิถูกเก็บกวาดเรียบร้อยแล้ว พวกเรารวบรวมศพของศัตรูได้ทั้งหมด 5,124 ร่างและได้หยดวารีศพทองคำลงไปแล้ว! จะให้พวกเราขนส่งศพพวกนี้กลับไปยังเมืองตะวันสาดแสงเลยไหมเจ้าคะ?” ไป่อี้ถาม

“ไม่จำเป็น จัดการอยู่ที่นี่เลยละกัน” โจวโจวคิดอยู่ชั่วขณะและพูดออกมา

มันคงจะเสียเวลามากถ้าจะขนส่งศพมากกว่า 5,000 ร่างกลับไปกลับมา

นอกจากนี้เขายังมีเตาหลอมผู้พิชิต 3 อันอยู่ในแหวนมิติด้วย

มันคงจะเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เห็นประสิทธิภาพของพวกมัน