ตอนที่ 90 - บทที่ 90 ฆ่าคนผิดดีกว่าปล่อยให้พวกมันมาฆ่าเรา!

บทที่ 90 ฆ่าคนผิดดีกว่าปล่อยให้พวกมันมาฆ่าเรา!

“เสี่ยวฟาน เจ้าหมายถึงอะไร อาจมีใครบางคนกำลังตามล่าเรางั้นหรือ?”

กู่เจียงไห่อ้าปากกว้างด้วยความตื่นตระหนกในดวงตาของเขา

"คงไม่ใช่..ใช่ไหม!"

คนข้างๆ เขาพูดโดยไม่รู้ตัว น้ำเสียงของเขาดูไม่มั่นใจอย่างมาก

แม้ว่าจะไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขามาที่ซ่งเจียเป่า แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้รับความสนใจอย่างมากเช่นนี้

ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีเมื่อพวกเขามาที่นี่ ใครสามารถบอกได้ว่าจะมีอันตรายระหว่างทางกลับหรือไม่?

"เป็นไปได้มาก"

เฉินฟานขมวดคิ้วและพูดว่า "ก่อนอื่น ผู้คนในจ้าวเจียเป่าที่รู้ตัวตนของเรา อาจจะรอเราอยู่ข้างนอก นอกเหนือจากพวกเขาอาจจะยังมีกองกำลังที่รอให้เราออกไปข้างนอกอีก ตัวอย่างเช่น โจรขโมยม้า”

“โจรขโมยม้า?”

มีความหนาวเย็นบนหลังของทุกคน

มีโจรขโมยม้าอยู่ใกล้ซ่งเจียเป่า นี่คือความจริง แต่พวกเขาได้ยินมาว่ามีคนเห็นคนกลุ่มนั้นเข่นฆ่าผู้คนจำนนวนมากอีกด้วย

“พ่อ ลุงกู่ พวกท่านยังจำสิ่งที่ชายชราพูดตอนที่ข้าซื้อหนังสือศิลปะการต่อสู้พวกนั้นก่อนหน้านี้ได้ไหม?”

ม่านตาของเฉินกัวตงหดตัวลงทันที "ข้าจำได้ว่าเขาบอกว่าแก๊งโจรขโมยม้าเลือกกลุ่มที่จะโจมตีเพียงสิบถึงยี่สิบคนเท่านั้น ให้เราระวังตัวด้วย"

"จำได้"

เฉินฟานพยักหน้าและหยิบกล้องส่องทางไกลออกมา "ดังนั้นข้าจึงซื้อสิ่งนี้และข้าต้องการออกไปดูก่อน อาจใช้เวลาสักครู่ จากนั้นทุกคนค่อยออกไปหลังจากข้ายืนยันแล้วว่าไม่มีอันตราย

ทุกคนได้ยินคำพูดนี้ ทุกคนเจ้ามองมาที่ข้า ข้ามองไปที่เจ้าและพากันพยักหน้า

เฉินฟานมีความคิดรอบคอบอย่างมาก และเขายังซื้อกล้องส่องทางไกลไว้ล่วงหน้าอีกด้วย

หากมีใครจ้องมองและมุ่งเป้ามาที่กลุ่มของเขาจริงๆ มันคงจะผลดีถ้าสามารถตรวจสอบดูก่อนได้

แน่นอนว่าไม่อาจปฏิเสธได้ว่าอีกฝ่ายอาจจะปะปนอยู่ในฝูงชนและหลังจากที่กลุ่มของพวกเขาออกเดินทางไป พวกเขาก็จะไปรายงานข่าว ถ้าเป็นโจรขโมยม้าจริงๆพวกเขาก็จะตามทันได้ง่ายดาย

“เฉินฟาน ให้ข้าไปกับเจ้า”

กู่เซ่อพูดขึ้น

"เจ้าอยากไปงั้นเหรอ?"

เฉินฟานตกตะลึง

นี่เกินความคาดหมายของเขาเล็กน้อย

“แน่นอน” กู่เซ่อมองไปรอบ ๆ ก่อนพยักหน้าแล้วพูดว่า “ถ้าเจ้าออกไปคนเดียวในกรณีที่มีอันตราย ข้าสามารถติดตามเจ้าและดูแลซึ่งกันและกันได้ และมันย่อมดีกว่าตัวคนเดียวไม่ใช่เหรอ?”

คำพูดของเขาได้รับการอนุมัติจากทุกคนทันที

“เสี่ยวเซ่อพูดถูก ยังไงเขาก็มีความแข็งแกร่งอยู่ระดับหนึ่ง ดังนั้นเสี่ยวฟาน ข้าคิดว่าให้เขาไปกับเจ้าเถอะ ”

กู่เจียงไห่พูดขึ้นก่อน

เขาต้องการทำประโยชน์อะไรบ้าง เพราะเฉินกัวตงและคนอื่นๆ ปฏิบัติต่อพวกเขาด้วยความจริงใจ ดังนั้นเขาจึงอยากตอบแทนบ้างสักเล็กน้อย

“ถูกต้อง คนสองย่อมดีกว่าคนเดียว พวกเจ้าสามารถช่วยกันมองให้ชัดเจนยิ่งขึ้น และดูแลซึ่งกันและกันในกรณีที่เกิดอันตราย”

“เสี่ยวฟาน ให้กู่เซ่ออยู่กับเจ้าเถอะ”

เฉินกัวตงก็กล่าวขึ้นสมทบ

ในตอนแรกเขากังวลเล็กน้อยและคิดที่จะติดตามลูกของเขาไปด้วยกัน

แต่ด้วยการที่กู่เซ่อต้องการที่จะไปด้วย ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ทั้งคู่สามารถยิงธนูได้ และสายตาของพวกเขาจะต้องดีกว่าของพวกเขาอย่างมาก

เมื่อเห็นเช่นนี้ เฉินฟานก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่น และพูดว่า "เอาล่ะ งั้นพวกเราจะไปด้วยกัน"

จริงๆ แล้วเขาไม่แน่ใจว่าคำทำนายของเหมิงหยูจะเป็นจริงหรือไม่ แต่ไม่ว่าพวกโจรขโมยม้าจะเฝ้าดูอยู่ที่นั่นจริงหรือป่าว และแม้ว่าเขาจะต้องพากู่เซ่อไปด้วยมันก็ไม่สำคัญมากนัก เพราะเขาตั้งใจจะลงมือคนเดียว

"นี่ของเจ้า"

เขาหยิบหน้ากากชูร่าสีแดงออกมาแล้วยื่นให้ และตัวเองก็สวมหน้ากากสีดำ "เผื่อไว้"

"อืม"

กู่เซ่อรับมันและสวมมันบนใบหน้าของเขา แต่จู่ๆ เขาก็ตระหนักได้

ปรากฎว่าเฉินฟานได้คิดถึงเรื่องต่างๆ นี้ไว้แล้ว

แม้ว่าจะมีหน่วยสอดแนมภายในของโจรขโมยม้าอยู่ที่นี่ เมื่อพวกเขาเห็นว่าทั้งสองคนเปลี่ยนหน้ากากแล้วพวกเขาก็จะไม่สามารถส่งข่าวได้เว้นแต่พวกเขาจะมีช่องพิเศษบางอย่าง

จากนั้นทั้งสองก็เดินไปที่ทางออกทีละคน

เฉินกัวตงและคนอื่น ๆ เฝ้าดูอย่างกังวล

"หวังว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น"

“ใช่ ขอให้พวกเขากลับมาอย่างปลอดภัย”

ทุกคนต่างอธิษฐานออกมา

หลังจากยื่นบัตรให้ชายหน้าประตู ภายใต้สายตาที่ประหลาดใจของอีกฝ่าย ทั้งสองก็ออกจากซ่งเจียเป่าไป และทันใดนั้นก็รู้สึกไม่สบายใจก็พุ่งเข้าหาพวกเขา

“เฉินฟาน เจ้าแน่ใจหรือว่าพวกโจรขโมยม้ากำลังมุ่งเป้ามาที่พวกเรา”

กู่เซ่อถามด้วยเสียงต่ำ

"ไม่รู้"

เฉินฟานส่ายหัว มองไปรอบๆ แล้วพูดว่า "ที่นี่มีคนมากเกินไป หาที่ที่มีคนน้อยลงก่อนดีกว่า"

"อืม"

กู่เซ่อกำคันธนูและลูกธนูในมือของเขา ขณะที่สำรวจสภาพแวดล้อมของเขาด้วยตาของเขา

ไม่มีอะไรผิดปกติ อย่างน้อยตอนนี้ก็ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น

และห่างออกไปเพียงหนึ่งหรือสองกิโลเมตร มีคนใช้กล้องส่องทางไกลเพื่อดูสถานที่นี้ และร่างของเฉินฟานและกู่เซ่อก็ตกอยู่ในกลางเลนส์

“พี่ใหญ่ มีคนสวมหน้ากากสองคนออกมาแล้ว”

“ไอ้เหี้ย หน้ากากผีอะไรเนี่ย น่ากลัวชิบหาย”

มีคนอยู่ข้างๆ เขามองดูสิ่งนี้แล้วพูดขึ้น

"อืม ข้าเห็นแล้ว"

ชายหัวโล้นหรี่ตาลง มองดูครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "ไม่ต้องสนกับคนสองคนนี้ แค่จ้องไปที่กลุ่มของพวกมัน นี่ก็นานมากแล้ว ลองคำนวณเวลาดูสักพักพวกเขาก็คงออกมากัน"

"ตกลง"

อีกสองคนที่ใช้กล้องส่องทางไกลตอบออกมาพร้อมกัน

ด้านหน้าป้อมซ่งเจียเป่า กู่เซ่อมองดูตำแหน่งที่รถบรรทุกขนาดใหญ่ของจ้าวเจียเป่าจอดอยู่ และตอนนี้มันก็ว่างเปล่าแล้ว

“ดูเหมือนว่าคนของจ้าวเจี่ยเป่าจากไปแล้ว”

เขากระซิบ

"่ใช่"

เฉินฟานมองดู แม้ว่าคนของจ้าวเจียเป่าจะรอเขาอยู่บนถนน แต่เขาก็ไม่กังวล เพราะพวกเขาไม่ได้มีม้า

แม้ว่าพวกเขาต้องการจะใช้รถวิ่งชน แต่เขาก็สามารถยิงยางด้วยลูกธนูดอกเดียวเท่านั้น

แต่กลุ่มโจรขโมยม้ากลับแตกต่างออกไป มีคนที่มีอุปกรณ์ครบครันมากมาย และพวกเขาก็สามารถขี่และยิงได้เช่นกัน ซึ่งถือว่าเป็นตัวปัญหามากกว่า

ทั้งสองเดินออกมาไกลหลายร้อยเมตร

“ที่นี่น่าจะได้แล้วมั่ง?”

กู่เซ่อกล่าวอย่างช่วยไม่ได้

ที่นี่ไม่มีใคร

"อืม"

เฉินฟานวางหอกลง หยิบกล้องส่องทางไกลที่ซ่อนอยู่ออกมา และส่องตรวจสอบสภาพแวดล้อมโดยรอบ 360 องศาจากซ้ายไปขวา

เขาก็กังวลเล็กน้อยเช่นกัน คนกลุ่มนั้นพวกเขาจะรอทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ได้จริงๆหรือไม่?

ในขณะที่เขาส่องเข้าใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ และในที่สุดเลนส์ของกล้องส่องทางไกลก็หันไปทางตะวันตกเฉียงใต้ ทันใดนั้นดวงตาของเฉินฟานก็เบิกกว้างขึ้น และเขาก็อดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้าลึก ๆ

“มีอะไรหรือเปล่า? เจ้าเจออะไรงั้นหรือ?”

กู่เซ่อที่กำลังรออย่างกังวล เห็นเช่นนั้นจึงรีบถามขึ้น

เฉินฟานยื่นกล้องส่องทางไกลให้เขา

กู่เซ่อรับกล้องส่องทางไกลมาด้วยความสงสัย มองไปในทิศทางเมื่อสักครู่นี้ และทันใดนั้นก็อุทานออกมาว่า "นั่นมันพวกเขา!"

เขาหันศีรษะด้วยความไม่เชื่อในสายตาของเขา

“ใช่แล้ว มันเป็นโจรขโมยม้า”

เฉินฟานพยักหน้า

สิ่งที่เหมิงหยูพูดเป็นความจริง

ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ จำนวนคน หรือลักษณะของผู้นำของพวกเขาล้วนตรงกัน

และในกล้องพวกเขายังใช้กล้องส่องทางไกลเพื่อจ้องมองที่ทางออกของซ่งเจียเป่าอีกด้วย

“ได้ยังไง…”

กู่เซ่อพูดออกมาอย่างไม่รู้ตัว เขาอ้าปากค้างอย่างตกตะลึง

เฉินฟานกลับเหมือนเดาถูกจริงๆ เหรอ? มีพวกโจรขโมยม้าอยู่ข้างนอกจริงๆ!

“อึก!”

เขากลืนน้ำลายอย่างยากลำบากและถามขึ้นอย่างไม่แน่ใจว่า "เฉินฟาน บางทีเป้าหมายที่พวกเขาต้องการโจมตีอาจไม่ใช่พวกเรา"

เฉินฟานมองเขาเงียบๆ “ถ้าเป็นพวกเราล่ะ?”

กู่เซ่อพูดไม่ออก

ใช่ แล้วถ้าเป็นพวกเราล่ะ?

“เอาล่ะ แล้วเราควรทำอย่างไรต่อไปดี?”

เขาลองถามดู

ในสถานการณ์เช่นนี้ ด้วยการที่พวกเขาเสียเปรียบอย่างมากนี้ พวกเขาจะสามารถทำอย่างไรได้

"ข้าจะทำอะไรได้อีกล่ะ?"

เฉินฟานหยิบหอกขึ้นมา มองไปทางตะวันตกเฉียงใต้แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ฆ่าคนผิดดีกว่าปล่อยให้พวกมันมาฆ่าเรา!"

“เฉินฟาน จะ..เจ้า..?”

ดูเหมือนกู่เซ่อจะไม่สามารถโต้ตอบได้ชั่วขณะ "เจ้าหมายความว่าอย่างไร? เจ้าต้องการฆ่าคนเหล่านั้นงั้นเหรอ?"

"อืม"

เฉินฟานเหลือบมองเขา “ยืนอยู่ที่นี่พร้อมกับกล้องส่องทางไกล อย่าให้พวกมันเห็น และหลังจากที่ข้าฆ่าคนกลุ่มนั้นแล้ว เจ้าค่อยไปบอกให้คนอื่นๆออกมาได้”

"เจ้าบ้าไปแล้วหรือ?"

ดวงตาของกู่เซ่อดูเหมือนจะหลุดออกมาจากเบ้า

“เจ้าคนเดียวจะเป็นคู่ต่อสู้ของคนมากมายได้อย่างไร!”

หลังจากพูดจบ เขาก็ตรวจสอบพวกโจรขโมยม้าด้วยกล้องส่องทางไกลอีกครั้ง อย่างน้อยๆฝั่งตรงข้ามก็มียี่สิบคนขึ้นไป! แถมทุกคนยังมีม้าและส่วนใหญ่มีธนูและลูกธนูและติดอาวุธครบมืออีกด้วย

กลุ่มคนของหลี่เจียไจ้ไม่สามารถเทียบได้กับกลุ่มที่อยู่ตรงหน้าโดยสิ้นเชิง

“จะรู้ได้ยังไงถ้าไม่ลอง!”