ตอนที่ 459 : ความคิดให้ทุกคนฝึกวรยุทธ์!

โจวโจวอดเลิกคิ้วขึ้นมาไม่ได้เมื่อเขาเห็นเอฟเฟกต์ของมัน

ไม่เลวเลย

มันไม่ได้ด้อยไปกว่าการ์ดกำหนดลูกน้องที่เขาได้รับมาก่อนหน้านี้แม้ว่ามันจะเป็นไอเท็มที่แพงเป็นพิเศษก็ตาม

จากนั้นโจวโจวก็มองดูสินค้าชิ้นต่อไป

มันคือหนังสือเล่มหนึ่ง

โจวโจวมองดูและพบว่ามันคือหนังสือเคล็ดวิชาเทพเมฆาม่วงที่เขาได้เรียนรู้ไปแล้ว

โจวโจวย่อมไม่ลืมว่ามันคือวรยุทธ์ระดับมหากาพย์ขั้นสูง

เขาได้หาเวลาฝึกฝนมันทุกวัน

อย่างไรก็ตาม นี่ก็ไม่ใช่สิ่งที่โจวโจวให้ความสนใจ สิ่งที่โจวโจวให้ความสนใจก็คือรายละเอียดในตอนท้ายของเคล็ดวิชาเทพเมฆาม่วง

[หมายเหตุ: ไอเท็มชิ้นนี้สามารถมอบให้ลูกน้องในดินแดนเพื่อใช้งานได้]

โจวโจวประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเขาเห็นหมายเหตุนี้

ไอเท็มที่ถูกขายในร้านค้าแห่งลอร์ดล้วนแล้วแต่เป็นสินค้าที่มีไว้ให้สำหรับลอร์ดโดยเฉพาะ

ภายใต้สถานการณ์ปกติ พวกมันจะไม่สามารถใช้ได้โดยลูกน้องคนอื่น แต่นี่เป็นครั้งแรกที่โจวโจวได้เห็นไอเท็มที่เขาสามารถมอบให้กับลูกน้องคนอื่นได้ด้วย

โจวโจวไม่คิดมากก่อนที่เขาจะตัดสินใจซื้อมัน

เขามีโรงฝึกอยู่มากมายในดินแดนของเขาแล้ว อย่างไรก็ตาม ปรมาจารย์ยุทธ์ที่ดูแลโรงฝึกเหล่านี้ก็ไม่ได้มีวรยุทธ์ที่โดดเด่นไว้คอยสอนคนอื่นๆ เลย

ไอเท็มชิ้นนี้มาได้จังหวะพอดี

ด้วยวรยุทธ์ระดับมหากาพย์ขั้นสูงอย่างเคล็ดวิชาเทพเมฆาม่วง เขาก็จะสามารถมอบมันให้กับปรมาจารย์ยุทธ์และให้พวกเขาถ่ายทอดมันให้กับลูกน้องในดินแดนได้ ซึ่งค่าเรียนก็ไม่ควรแพงมาก และเป็นราคาที่พอรับได้สำหรับลูกน้องทั่วไป

โจวโจวไม่ได้คาดหวังว่าลูกน้องของเขาจะต้องแข็งแกร่งมาก เขาแค่อยากให้ลูกน้องของเขามีวิธีเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นก็พอ

“วรยุทธ์นี้ควรให้ใครใช้ดี…”

โจวโจวคิดอยู่ชั่วขณะและให้ทหารไปเรียกลั่วเฟิงเข้ามา

สำหรับสินค้าชิ้นสุดท้าย มันก็เป็นแค่แกนหมอกระดับทองคำเหลือง 1 ชิ้นเท่านั้น

โจวโจวย่อมไม่ได้สนใจมัน

“สินค้าทั้งสามชิ้นนี้ราคาเท่าไร?”

โจวโจวถาม

“บัตรลดราคาขั้นต้นราคาเท่ากับแกนหมอกระดับตำนาน 10 ชิ้นและตราดินแดนระดับตำนาน 1 อัน”

เคล็ดวิชาเทพเมฆาม่วงราคาเท่ากับแกนหมอกระดับมหากาพย์ 20 ชิ้นและตราดินแดนระดับมหากาพย์ 2 อัน

“ส่วนแกนหมอกระดับทองคำเหลืองก็มีราคาเท่ากับแกนหมอกระดับเงินขาว 1 ชิ้น”

โจวเฉิงมินยิ้ม

โจวโจวพยักหน้าและหยิบเอาแกนหมอกระดับตำนาน 11 ชิ้น แกนหมอกระดับมหากาพย์ 22 ชิ้น และแกนหมอกระดับเงินขาว 1 ชิ้นออกมาอย่างไม่แสดงสีหน้าอะไร จากนั้นเขาก็ยื่นมันให้กับอีกฝ่าย และรับไอเท็มทั้งหมดมา

อะไรนะ?

คิดว่าฉันไม่สนใจเหรอ?

ไม่ใช่แบบนั้นซะหน่อย!

แกนหมอกระดับทองคำเหลืองแล้วจะยังไง?

ขายุงก็ยังมีเนื้ออยู่นะ!

“ไว้มาใช้บริการอีกนะขอรับ”

โจวเฉิงมินเก็บแกนหมอกไปและหัวเราะ

โจวโจวพยักหน้าและนำของเหล่านี้กลับไปยังวังของลอร์ดของเขา

ณ วังของลอร์ด ในห้องประชุม

โจวโจวเปิดตลาดซื้อขายขึ้นมาและตรวจสอบรายละเอียดการแลกเปลี่ยนของเมื่อวาน

ตามที่คาดไว้ หนังสือทักษะ 10 ล้านเล่ม และอุปกรณ์สวมใส่ 20 ล้านอันได้ถูกขายไปจนหมดแล้ว

[ผลลัพธ์การแลกเปลี่ยน: แกนหมอกระดับเหล็กดำ 69,750,315,135 ชิ้น!]

ดวงตาของโจวโจวเบิกกว้างขึ้นมา

สุดยอด!

แกนหมอกระดับเหล็กดำเกือบเจ็ดหมื่นล้านชิ้น!

กล่าวอีกนัยหนึ่ง มันคือแกนหมอกระดับตำนานเกือบ 700 ชิ้นเลย!

บ้าไปแล้ว!

อย่างไรก็ตาม เขาก็ตระหนักได้ว่ามันก็ปกติมาก

นี่เป็นเพราะเมื่อวานเขาได้รับแกนหมอกมากว่า 2.2 พันล้านชิ้นจากการขายหนังสือทักษะ 500,000 เล่ม และอุปกรณ์สวมใส่ 500,000 อัน!

ในตอนนี้ที่จำนวนของพวกมันเพิ่มขึ้นกว่า 300 เท่า มันก็น่าจะได้เงินมาประมาณนี้ ประกอบกับความจริงที่ว่าระดับของไอเท็มเพิ่มขึ้นเล็กน้อยด้วย

ในเวลานั้นเอง ความปวดใจที่โจวโจวรู้สึกจากการซื้อสินค้าก็หายไปในทันใด

มันก็แค่กอนหมอกระดับตำนานไม่กี่ชิ้นเอง มันไม่ทำให้ขนหน้าแข้งของเขาร่วงสักนิด!

“รายงานท่านลอร์ด! รองเจ้าเมืองเจิ้งและท่านลั่วเฟิงมาขอเข้าพบเจ้าค่ะ! นอกจากนี้ องค์หญิงหลี่ย่าแห่งอาณาจักรออโรร่าและสาวใช้ของเธอก็มาหาด้วย พวกเธออยากเข้าพบท่านลอร์ด”

ในเวลานั้นเอง อาลีย่าก็เข้ามารายงานด้วยความเคารพ

หลี่ย่ากลับมาแล้วเหรอ?

โจวโจวอึ้ง

“พาเจิ้งหยวนฉีและลั่วเฟิงมาหาข้า ส่วนหลี่ย่าก็ให้เธอไปรอที่ห้องรับรอง บอกเธอว่าข้ายุ่งอยู่”

โจวโจวกล่าว

ตอนนี้เวลามีจำกัด มันต้องจัดการกับเรื่องสำคัญซะก่อน

“เจ้าค่ะท่านลอร์ด!”

อาลีย่ากล่าวด้วยความเคารพและจากไป

หลังจากนั้นไม่นาน เจิ้งหยวนฉีและลั่วเฟิงก็เดินเข้ามา

“คาราวะท่านลอร์ด!” ทั้งสองคนกล่าวออกมาด้วยความเคารพ

โจวโจวมองไปยังเจิ้งหยวนฉี

“รายงานท่านลอร์ด ข้าเพิ่งทราบมาว่าท่านอยากให้มนุษย์และมอนสเตอร์ในดินแดนแยกกันอยู่ ข้าจึงมีคำถามว่าพวกเราควรทำอย่างไรถ้ามนุษย์หรือมอนสเตอร์ไม่อยากแยกที่อยู่อาศัยกัน?”

เจิ้งหยวนฉีถาม

มอนสเตอร์ที่ได้รับมาจากการใช้ยุยงแปรพักตร์นั้นได้อาศัยอยู่ในดินแดนตะวันสาดแสงมาสักพักแล้ว

หลังจากอาศัยอยู่กับมนุษย์ในระยะเวลาหนึ่งแล้ว มอนสเตอร์บางตัวก็อาจจะไม่คุ้นเคยกับการใช้ชีวิตอยู่ในเมืองเดียวกับผู้อื่น อย่างไรก็ตาม มอนสเตอร์และมนุษย์บางคนก็ได้พัฒนามิตรภาพในช่วงเวลาที่พวกเขาอาศัยอยู่เมืองตะวันสาดแสงด้วยกันแล้ว

มอนสเตอร์เช่นนี้ย่อมไม่เต็มใจที่จะออกจากที่นี่เมื่อเผชิญกับนโยบายการอาศัยอยู่ในเมืองที่แยกจากกัน

“แน่นอนว่าเราจะเคารพความปรารถนาของพวกเขา ถ้ามันมีมอนสเตอร์ตัวไหนไม่ยินดีที่จะไปใช้ชีวิตอยู่ในเมืองอื่นและชื่อเสียงในหมู่เพื่อนบ้านก็ไม่เลวนักก็ให้พวกมันอาศัยอยู่ต่อได้”

โจวโจวพูดโดยไม่ลังเล

เขาไม่ใช่คนไม่ดีที่จะบังคับให้คนอื่นทำตามที่เขาต้องการ มันจึงเป็นธรรมดาที่เขาจะไม่บังคับให้ลูกน้องต้องทำอะไรที่พวกเขาไม่เต็มใจ

สิ่งนี้ขัดกับความตั้งใจเดิมของเขาในการปฏิบัติต่อลูกน้องหลากหลายเผ่าพันธุ์ด้วยความเท่าเทียม

“แล้วเมืองที่พวกมอนสเตอร์จะย้ายไปคือเมืองอะไรเหรอขอรับ…”

เจิ้งหยวนฉีถาม

“เมืองปฐมอาณาจักร”

โจวโจวพูดโดยไม่ลังเล

ตอนนี้เขามีเมืองระดับแพลตตินั่มขาวเพียงแค่แห่งเดียวและมีคนอาศัยอยู่ที่นั่นไม่มากเท่าไร มันมีเพียงกองทหารรักษาการณ์ที่เขาส่งไปในตอนนั้นและชาวเมืองตะวันสาดแสงบางส่วนเท่านั้นที่ย้ายไปอยู่ที่นั่น

เรียกได้ว่าทุกอย่างถูกเตรียมไว้หมดแล้ว

ถ้าพวกมอนสเตอร์ถูกส่งไปที่นั่น พวกเขาก็จะสามารถพัฒนาเมืองปฐมอาณาจักรต่อได้เลย

“ท่านลอร์ดฉลาดยิ่งนัก! ข้าหมดคำถามแล้ว”

เจิ้งหยวนฉีหัวเราะ

อันที่จริงเขาก็มีความคิดที่คล้ายๆ กันนี้อยู่ อย่างไรก็ตาม จิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์อย่างเขาย่อมไม่สามารถตัดสินใจทั้งหมดได้โดยลำพัง เพราะถ้าทำแบบนั้น แล้วเขาจะเอาท่านลอร์ดไปไว้ที่ไหน?

ดังนั้นแม้ว่าเขาจะรู้ว่าควรทำอะไร แต่เขาก็ต้องมาถามก่อน เขายังสามารถเสนอคำแนะนำของเขาเองให้กับท่านลอร์ดและให้คำแนะนำอีกเล็กน้อยให้เขาเลือกได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ท่านลอร์ดก็ต้องเป็นคนตัดสินใจคนสุดท้าย! โจวโจวมองไปยังลั่วเฟิงและเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเห็นว่าเจิ้งหยวนฉีไม่ได้มีปัญหาอะไรแล้ว “ระดับเหนือสามัญขั้นต้นเหรอ?”

“ขอรับท่านลอร์ด!”

ลั่วเฟิงกล่าวด้วยความเคารพ

“หึๆ”

โจวโจวพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

ครั้งสุดท้ายที่เขาเห็นลั่วเฟิง อีกฝ่ายกำลังปกป้องและสอนสั่งเซียวซวนอยู่ ในตอนนั้น เขาอยู่แค่ระดับเพชรขั้นกลางเองแม้ว่าเขาจะแข็งแกร่งมากก็ตาม

แต่ตอนนี้เขาได้มาถึงระดับเหนือสามัญขั้นต้นแล้ว

เขาไม่พูดอะไรมาก มันเข้าใจได้ที่ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วขนาดนี้เพราะมันมีพรแห่งเทพสงครามอยู่

จากนั้นโจวโจวก็ยื่นเคล็ดวิชาเทพเมฆาม่วงให้อาลีย่า และให้อาลีย่ามอบมันให้กับลั่วเฟิง