“เจ้าค่ะ! ข้าจะจดจำเอาไว้!” ไป่อี้กล่าวด้วยความเคารพ
โจวโจวพยักหน้า
เหล่าทหารของอาณาจักรออโรร่าล้วนเป็นทหารผ่านศึกที่มีประสบการณ์ในการสู้รบครั้งใหญ่
ทหารผ่านศึกเช่นนี้ย่อมมีประสบการณ์ ไม่เพียงแต่พวกเขาจะมีบทบาทมากขึ้นในสนามรบเท่านั้น แต่พวกเขายังสามารถคอยชี้แนะทหารใหม่ในสนามรบและทำให้คนพวกนั้นกลายเป็นทหารผ่านศึกต่อไปได้
โจวโจวเพิ่งมาถึงทวีปจื้อเกาได้ไม่นาน ดังนั้นเขาจึงต้องการให้มีทหารผ่านศึกเข้าร่วมกับเขา แม้ว่าเขาจะต้องจ่ายราคาออกไปบ้างก็ตาม
สำหรับการชุบชีวิตและรักษาสามผู้กล้าของอาณาจักรออโรร่า มันก็ไม่ได้ลำบากอะไรสำหรับเขาเลย เพราะเขาก็ไม่ได้ขาดแคลนคริสตัลเทวะศรัทธาแล้ว
มันคงจะเป็นการดีที่สุดถ้าผู้กล้าทั้งสามคนนั้นเข้าร่วมกับเขาเพราะเรื่องนี้
ถ้ามันไม่ได้ผล เขาก็ไม่ได้สูญเสียอะไรมากมาย
เพราะการให้พวกเขารั้งอยู่ในอาณาจักร โจวโจวก็ไม่เชื่อว่าพวกเขาจะมองดูอยู่เฉยๆ ถ้ามีศัตรูโจมตีเมืองเมื่อเขาออกไปต่อสู้ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็ต่ำมาก
ประการแรก เนื่องจากเขาได้ครอบครองอาณาจักรสี่แห่งแล้ว มหากำแพงสูงสุดจึงปรากฏขึ้นในดินแดนภูมิภาคเหล่านั้นทั้งหมด
ด้วยการมีอยู่ของมหากำแพงสูงสุด เขาย่อมนำทหารกลับมายังดินแดนได้ทันหลังจากได้รับข่าวว่าถูกโจมตี
ประการที่สอง หลังจากรูปปั้นเทพแห่งความตายถูกสร้างขึ้น ศัตรูก็จะได้รับผลจากคำสาปเมื่อพวกมันเข้ามาที่อาณาจักรและเริ่มโจมตี ความสามารถในการต่อสู้ของพวกมันจะลดลงเป็นอย่างมาก เว้นเสียแต่ว่าอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งมาก ไม่งั้นพวกมันก็คงจะไม่เป็นอะไรนัก
เมื่อคิดได้เช่นนี้ โจวโจวก็มองไปยังไป่อี้อีกครั้ง
“หลังจากเจ้าออกไปแล้วให้ไปตามจ้าวฉางโจวและแอชเบิร์นเข้ามาหาข้าด้วย” เขาพูดออกมา
“เจ้าค่ะฝ่าบาท!”
ไป่อี้พยักหน้าและจากไป
จากนั้นจ้าวฉางโจวและแอชเบิร์นก็เดินเข้ามา
“คาราวะท่านลอร์ด!”
ทั้งสองกล่าวออกมาด้วยความเคารพและเดินเข้ามา
โจวโจวพยักหน้า
หลังจากที่ทั้งสองคนนั่งลง เขาก็มองไปที่แอชเบิร์นและยิ้มออกมา “ไม่เจอกันนานเลยนะ?”
“ฝ่าบาทยุ่งอยู่ทุกวัน ข้าเข้าใจดี นอกจากนี้ ไม่ใช่ว่าพวกเราก็ได้พบกันแล้วหนิขอรับ?”
แอชเบิร์นยิ้ม
โจวโจวพยักหน้าและมองไปยังหน้าต่างข้อมูลของเขา
สุดท้ายเขาก็พบว่าแอชเบิร์นในตอนนี้ได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับแพลตตินั่มขาวขั้นสูงและนักปรุงยาระดับเพชรขั้นต้นแล้ว
“เจ้าพัฒนาขึ้นมากเลยนะ”
โจวโจวประหลาดใจ
“ถ้าไม่ใช่เพราะฝ่าบาททุ่มทรัพยากรเป็นจำนวนมากให้ฝ่ายเล่นแร่แปรธาตุและฝ่ายปรุงยาของพวกเรา และมอบทรัพยากรสำคัญๆ ให้กับข้า ข้าก็คงจะไม่สามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้หรอกขอรับ”
แอชเบิร์นพูดด้วยความเคารพยิ่งขึ้นไปอีก
โรงแปรธาตุโนมในตอนนี้ไม่ใช่โรงงานเล็กๆ ที่สามารถผลิตได้แค่ยาฟื้นพลังชีวิต ยาฟื้นพลังงาน และเมคาโนสไตรเดอร์อีกต่อไป
ด้วยแกนหมอก สูตรยา สูตรการเล่นแร่แปรธาตุ สมุนไพร และวัสดุต่างๆ ที่โจวโจวจัดหาให้เป็นจำนวนมาก โรงแปรธาตุโนมในตอนนี้จึงได้กลายเป็นฝ่ายวิจัยเทคโนโลยีการเล่นแร่แปรธาตุและฝ่ายผลิตยาแห่งอาณาจักรตะวันสาดแสงไปแล้ว!
ไม่เพียงแต่มันจะรับผิดชอบในการผลิตเทคโนโลยีการเล่นแร่แปรธาตุและการผลิตยาในอาณาจักรตะวันสาดแสงทั้งหมดเท่านั้น แต่พวกเขายังจัดหายาที่จำเป็นสำหรับการต่อสู้ในแต่ละวันของกองทัพโจวโจวด้วย
นอกจากนี้ เขายังได้ขลุกอยู่กับผู้มีพรสวรรค์ในการปลูกสมุนไพร การวิจัยสูตร นักเล่นแร่แปรธาตุ นักปรุงยา และสาขาอื่นๆ อีกมากมาย
และสวนสมุนไพรเทวะของหลิงเอ๋อร์ก็มีส่วนร่วมกับเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
แม้แต่ธุรกิจการบินที่ถูกก่อตั้งขึ้นใหม่ในดินแดนก็เป็นการพัฒนาร่วมกันของแอสเบิร์นและเหวินหยา
ยานภูติทมิฬเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น
ตามความคิดของแอชเบิร์น เนื่องจากเมคาโนสไตรเดอร์เริ่มหมดความนิยมไปแล้วเพราะถูกราตรีประดับดาวเข้ามาแทนที่ มันจึงเป็นการดีกว่าที่จะค่อยๆ เปลี่ยนมันให้กลายเป็นการขนส่งมวลชน
มันจะทำให้ชาวอาณาจักรตะวันสาดแสงออกไปใช้ชีวิตภายนอกได้เหมือนกับการมี ‘รถยนต์’ หรือกระทั่ง ‘เครื่องบินส่วนตัว’ เลย
โจวโจวย่อมเห็นด้วยกับความคิดนี้
การพัฒนาและความนิยมของการคมนาคมคือปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่กำหนดความเข้มแข็งของอาณาจักร นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มความมั่งคั่งส่วนบุคคลและรายได้ของอาณาจักรได้ด้วย
โจวโจวไม่มีเหตุผลให้ต้องปฏิเสธ
“นี่สำหรับเจ้า ให้ฝ่ายผลิตยาผลิตยาชนิดนี้ออกมาสำรองเอาไว้”
โจวโจวหยุดพูดและหยิบเอายาเทพยักษาออกมาและมอบมันให้กับแอชเบิร์น
แอชเบิร์นรับมันไปดู และแววตาของเขาก็ปรากฏความประหลาดใจขึ้นมาก่อนที่เขาจะกล่าวด้วยความเคารพว่า
“ข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี้แหละขอรับ ข้าขอตัวก่อนนะขอรับ”
แอชเบิร์นจากไปทันที
เมื่อเห็นเช่นนี้ โจวโจวก็หยิบเอาพิมพ์เขียวรูปปั้นเทพแห่งความตายออกมาและยื่นมันให้กับจ้าวฉางโจว
“ลุงโจว สร้างรูปปั้นเทพแห่งความตายนี้ขึ้นมาให้เร็วที่สุดด้วย” โจวโจวกล่าว
วันมะรืนนี้ เจตจำนงสูงสุดจะเปิดกิจกรรมราชันหมื่นราชาขึ้นมา
เขาไม่รู้เลยว่ากิจกรรมนั้นจะมีรายละเอียดเป็นยังไง
อย่างไรก็ตาม มันก็ต้องอันตรายอย่างแน่นอน
มันคงจะเป็นการดีกว่าที่จะสร้างรูปปั้นเทพแห่งความตายนี้ให้เร็วที่สุด
จ้าวฉางโจวรับพิมพ์เขียวไปดู และสีหน้าของเขาก็จริงจังขึ้นมาทันที
มันทำให้ศัตรูผู้รุกรานกลัวตายงั้นเหรอ?
เอฟเฟกต์ของรูปปั้นเทพแห่งความตายนี้แทบจะเรียกได้ว่าเป็นสมบัติปกป้องอาณาจักรเลย
“ข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี้แหละขอรับ!”
จ้าวฉางโจวพูดออกมาอย่างจริงจัง
โจวโจวพยักหน้า
จ้าวฉางโจวได้สร้างสิ่งปลูกสร้างเป็นจำนวนมากมายในอาณาจักรตะวันสาดแสงให้กับเขา ดังนั้นเขาจึงรู้สึกสบายใจขึ้นมาที่ได้มอบหมายเรื่องนี้ให้กับอีกฝ่าย
จากนั้นทั้งสองคนก็คุยกันต่อสักพัก จ้าวฉางโจวยิ้มและกล่าวว่า
“ฝ่าบาท พรุ่งนี้เป็นพิธีสถาปนาและพิธีขึ้นสู่บัลลังก์ของท่าน ฝ่าบาทเตรียมตัวหรือยังขอรับ?”
โจวโจวยิ้มและพยักหน้า
เขาตั้งหน้าตั้งตารอพิธีสถาปนาและพิธีขึ้นสู่บัลลังก์ของเขาอยู่เหมือนกัน
ในเวลานั้นเอง อาลีย่าก็เคาะประตูและเดินเข้ามาหลังจากขออนุญาตแล้ว
“ฝ่าบาทแม่ทัพอู๋ตู่แห่งกองทัพวาดสวรรค์ขอเข้าพบเจ้าค่ะ!” อาลีย่ากล่าวด้วยความเคารพ
“ให้เขาเข้ามา”
“เจ้าค่ะ” อาลีย่าเดินออกไป
“ฝ่าบาทคงยุ่งอยู่ งั้นข้าขอตัวไปเตรียมการสร้างรูปปั้นเทพแห่งความตายก่อนนะขอรับ” จ้าวฉางโจวเองก็ลุกขึ้น
จ้าวฉางโจวขอตัวกลับไป
ในไม่ช้าอู๋ตู่ก็เดินเข้ามา
“คาราวะฝ่าบาท”
เขากล่าวด้วยความเคารพ
“มีอะไรงั้นเหรอ?” โจวโจวถามออกมาด้วยความสงสัย
“ฝ่าบาท นี่คือแผนที่ที่ข้าเพิ่งรวบรวมมา! แผนที่นี้รวมถึงเขตแดนของอาณาจักรต่างเผ่าพันธุ์อีก 16 แห่งที่รวมกันเป็นกองทัพพันธมิตรในวันนี้ด้วย นอกจากนี้ยังมีอาณาจักรต่างเผ่าพันธุ์ไม่ทราบฝ่ายอีก 6 แห่ง และอาณาจักรเผ่าพันธุ์มนุษย์ไม่ทราบฝ่ายอีก 3 แห่ง พวกมันล้วนเป็นอาณาจักรขั้นต้นทั้งหมด”
“สุดท้าย มีอาณาจักรขั้นกลางอยู่หนึ่งแห่งที่มีชื่อว่าอาณาจักรอสูรเหมันต์อยู่ทางตอนเหนือของอาณาจักรขั้นต้นเหล่านี้ อาณาจักรอสูรเหมันต์นี้มีความใกล้ชิดกับผู้คนจากพันธมิตรต่างเผ่าพันธุ์เป็นอย่างมาก”
“ถ้าให้ข้าลองเดาดู ข้าก็เกรงว่าอาณาจักรอสูรเหมันต์น่าจะลอบเข้ามาแทรกแซงในศึกวันนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม พวกเราก็ไม่ได้มีข้อมูลเกี่ยวกับแผนที่ของอาณาจักรขั้นกลางนี้เท่าไร ฝ่าบาท โปรดให้เวลาพวกเราเพิ่มด้วย ข้าน่าจะสามารถนำกองทัพวาดสวรรค์ไปรวบรวมข้อมูลทั้งหมดของอาณาจักรขั้นกลางนี้มาได้แน่ๆ”
อู๋ตู่พูดด้วยโทนเสียงต่ำในขณะที่เขายื่นปึกแผนที่หนาเตอะให้กับโจวโจว