บทที่ 96 : ไม่มีอะไรต้องปกปิด กองกำลังพันธมิตร!

แม้ว่าโจวหงอี้จะไม่ได้ไปหาซุยเฮ็งโดยทันทีหลังจากมาถึงมณฑลลู่ แต่เขาก็ยังได้ส่งหลิวจื่อเจินให้ไปส่งข่าวเรื่องตระกูลหวังแห่งหลางหยาและตระกูลเซี่ยแห่งปิงซานได้ร่วมมือกันโจมตีมณฑลลู่

สามวันต่อมา ตอนรุ่งสาง

หลังจากโจวหงอี้เผาเครื่องหอมและถือศีลอดครบสามวันแล้ว เขาก็พา หลิวจื่อเจินไปที่สำนักงานเทศมณฑลและแสดงจดหมายเชิญ

จากนั้นซูเฟิงอันก็เดินออกมา

“ เชิญเข้ามาได้” ซูเฟิงอันยิ้มและพูดว่า “ ท่านผู้ว่าการกำลังรอท่านอยู่ข้างในแล้ว"

หลังจากเดินเข้ามาในสำนักงานเทศมณฑล เขาก็หยิบยันต์ออกมาและมอบให้โจวหงอี้

“ นี่คือ?” โจวหงอี้ดูสับสนเล็กน้อย

“ นายท่านของข้าต้องการให้ท่านรับสิ่งนี้เอาไว้ เราไม่สามารถปล่อยให้ท่านเผาเครื่องหอมและถือศีลอดโดยไม่มีอะไรตอบแทนได้ ด้วยเหตุนี้เอง เราจึงต้องการจะแสดงความเคารพต่อแขกของเราด้วย” ซูเฟิงอันยิ้มและพูดว่า “ รับไปเถอะ นี่เป็นสมบัติอันล้ำค่าเพื่อท่านโดยเฉพาะ”

“ สมบัติ?” โจวหงอี้สับสนเล็กน้อย เครื่องรางของขลังจะเป็นสมบัติได้ยังไง…

“ นะ! นี่มัน!”

ทันทีที่เขารับยันต์มาไว้ในมือ หัวใจของเขาก็ปั่นป่วน

โจวหงอี้สัมผัสได้ทันทีว่าประสาทสัมผัสของเขาดูเหมือนจะแข็งแกร่งขึ้นเป็นพันเท่าในทันที พลังปราณและพลังแห่งสวรรค์และปฐพีซึ่งโดยปกติแล้วจะพร่ามัวกลับสามารถถูกมองเห็นได้อย่างชัดเจน มันทำให้เขาสามารถสังเกตและทำความเข้าใจมันได้อย่างง่ายดาย

แก่นแท้ของการทะลวงไปสู่ขอบเขตเทพคือการสังเกตและทำความเข้าใจกฎและหลักการของโลกภายนอกเพื่อปรับโลกภายในของเขาให้สอดคล้องกัน

เมื่อมันถูกปรับให้สอดคล้องกันเมื่อไหร่ เขาก็จะสามารถระดมพลังแห่งสวรรค์และปฐพีเพื่อเปลี่ยนแปลงร่างของเขาได้ เขาจะสามารถเปิดสมบัติเทวะในร่างกายของเขาและทะลวงผ่านไปยังขอบเขตเทพได้

และส่วนที่ยากที่สุดก็คือการทำความเข้าใจพลังของโลกภายนอก

อย่างไรก็ดี เมื่อมียันต์นี้อยู่ในมือ สิ่งที่เขาจะต้องทำก็มีเพียงการปรับโลกภายในของเขาให้สอดคล้องกับ ‘คำตอบ’ ก็เท่านั้น!

และความยากในการทะลวงสู่ขอบเขตเทพก็จะลดลงจนเหลือศูนย์!

“ เหลือเชื่อ น่าเหลือเชื่อจริงๆ มันมีสมบัติล้ำค่าเช่นอยู่บนโลกด้วย!” โจวหงอี้รู้สึกตกใจอย่างมาก และเขาก็คิดกับตัวเองว่า “ ท่านผู้ว่าการซุยผู้นี้จะต้องเป็นเซียนอย่างแน่นอน มันไม่ต้องสงสัยเลย!”

ก่อนที่เขาจะทันได้พบกับซุยเฮ็ง เขาก็ต้องตะลึงกับผลลัพธ์ของยันต์ใบนี้แล้ว เขามั่นใจว่าซุยเฮ็งจะต้องเป็นเทพเซียนที่ซ่อนตัวอยู่อย่างแน่นอน

หลังจากมาถึงสำนักงานเทศมณฑลแล้ว ในที่สุดโจวหงอี้และหลิวจื่อเจินก็ได้พบกับซุยเฮ็ง

ปฏิกิริยาแรกของพวกเขาคือ เขายังเด็กมาก!

เขาดูมีอายุเพียง 18 ถึง 19 ปีเท่านั้น!

เขาบรรลุเต๋าตั้งแต่อายุยังน้อย หรือเขากลับไปสู่วัยเยาว์หลังจากฝึกตนจนถึงระดับสูงแล้วกัน?

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม สิ่งนี้ก็ทำให้ทั้งสองคนตกใจ

“ คารวะท่านผู้ว่าการซุย!” โจวหงอี้โค้งคำนับด้วยความเคารพ

“ คารวะท่านผู้ว่าการซุย!” หลิวจื่อเจินโค้งคำนับด้วยความเคารพเช่นกัน

แม้ว่าหลิวจื่อเจินจะยังไม่รู้ว่าซุยเฮ็งนั้นทรงพลังเพียงใด แต่ในช่วงสามวันที่ผ่านมา เขาก็ได้ยินข่าวมากมายเกี่ยวกับซุยเฮ็งในมณฑลลู่

แม้ว่าเขาจะต้องเปลื้องสิ่งอื่นออกไป แต่ความจริงที่ว่าซุยเฮ็งได้ยึดเอาธุรกิจของตระกูลใหญ่และสำนักต่างๆ มาเพื่อแจกจ่ายให้กับเหล่าสามัญชนนั้นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้คนต่างพากันชื่นชมเขา

“ ทำตัวตามสบาย” ซุยเฮ็งมองไปที่ทั้งสองคนและพยักหน้าเล็กน้อย เขายิ้มและพูดว่า “ นั่งลงสิ”

“ ขอบคุณท่านผู้ว่าการ”

ทั้งสองพูดพร้อมกันและนั่งลง

“ นักพรตโจว ข้าต้องขอบคุณท่านจริงๆ ที่นำข่าวของตระกูลหวังแห่งหลางหยาและตระกูลเซี่ยแห่งปิงซานมาแจ้งให้กับข้า” ซุยเฮ็งยิ้มและพูดอย่างสุภาพก่อนที่จะถามว่า “ ข้าขอทราบได้ไหมว่าทำไมพวกท่านถึงมาที่นี่”

“ ในเมื่อท่านถามขึ้นมา ข้าเองจะตอบตรงๆ” ทัศนคติของโจวหงอี้ต่ำต้อยมาก เขายืนขึ้นและโค้งคำนับในขณะที่เขาถามว่า “ ข้าขอถามได้ไหมว่าท่านมีความสามารถในการเรียกลมพายุจริงหรือไม่?”

เมื่อหลิวจื่อเจินเห็นโจวหงอี้ยืนขึ้น เขาก็ไม่กล้าที่จะนั่งลงอีกต่อไป เขารีบยืนขึ้นและทำตามโจวหงอี้ทุกขั้นตอน

ซุยเฮ็งมองไปที่ทั้งสองคนและพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ ใช่”

ไม่มีอะไรต้องซ่อน เนื่องจากเขาต้องการจะได้รับการสนับสนุนจากตำหนักเต๋าอี้และกลายเป็นผู้ว่าการรัฐโดยชอบธรรม ดังนั้นเขาจึงต้องแสดงพลังของตนออกมาให้อีกฝ่ายได้ประจักษ์

“ เอ่อ…” โจวหงอี้อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง

ตอนแรกเขาคิดว่าซุยเฮ็งจะซ่อนมันไว้ เขาไม่ได้คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะยอมรับมันอย่างง่ายดาย

ดูเหมือนว่ามันจะแตกต่างจากภาพลักษณ์ของเทพเซียนในตำนานเล็กน้อย

ไม่ใช่ว่ายอดฝีมือมักจะชอบปิดบังตัวตนหรอ?

แม้ว่าพวกเขาจะเปิดเผยความแข็งแกร่งเพียงครั้งเดียว แต่พวกเขาก็จะพยายามปกปิดมันในภายหลังด้วยทุกวิถีทางที่จะเป็นไปได้

หรือเป็นไปได้ว่าขอบเขตของผู้ว่าการซุยจะไปถึงระดับที่เขาจะไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องพวกนี้อีกต่อไป?

ช่างเป็นเซียนที่ไร้กังวล!

โจวหงอี้อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจในใจ จากนั้นเขาก็หายใจเข้าลึกๆ แล้วถามว่า “ ข้าขอถามอีกได้ไหมว่าท่านใช่คนที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ดาวตกในมณฑลซีหลิงหรือไม่?”

“ นั่นก็แค่ลูกเล่นตื้นๆ” ซุยเฮ็งพยักหน้าเบาๆ และยิ้ม

“ ตามที่คาดไว้…” ดวงตาของโจวหงอี้เป็นประกายเมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้ ดูเหมือนเขาจะตื่นเต้นมากในขณะที่เขาพูดด้วยเสียงสั่นเครือ “ นี่คือพลังของเซียนใช่ไหม?”

ในขณะนี้ ซุยเฮ็งก็ตระหนักว่าร่างกายของโจวหงอี้กำลังเปล่งแสงสีเหลืองที่มีเพียงเขาเท่านั้นที่มองเห็นได้

แสงสีเหลืองนี้เป็นสัญลักษณ์ของ “ความปรารถนา”

ความปรารถนาที่จะแสวงหาเต๋า!

และมันก็แข็งแกร่งมาก

หลังจากที่ซุยเฮ็งเก็บมันเสร็จ แสงสีเหลืองรอบๆ แก่นแท้ทองคำก็เพิ่มขึ้นมาถึง 50%

“ นายท่าน! รายงานด่วน!”

ในขณะนี้ เฉินตงรีบเข้ามา

เขามองไปที่โจวหงอี้และหลิวจื่อเจินแวบหนึ่งก่อนจะมาถึงที่ด้านข้างของซุยเฮ็ง เขาลดเสียงลงและพูดว่า “ นายท่าน กองทัพพันธมิตรของตระกูลหวังและตระกูลเซี่ยอยู่ห่างจากเมืองไปเพียงห้ากิโลเมตรแล้ว ข้าสงสัยว่าเราควรจะจัดการกับพวกเขาอย่างไรดี”

“ พวกเขามีกันกี่คน?” ซุยเฮ็งถามกลับ

“ มันมีไม่ต่ำกว่า 30,000!” การแสดงออกของเฉินตงดูจริงจังมากในขณะที่เขาพูดด้วยเสียงต่ำ “ แม้ว่ากองกำลังพันธมิตรทั้งสองนี้จะมีทหารชั้นยอดเพียง 2,000 นายในตอนแรก แต่เมื่อพวกพ่อค้า, สำนักและตระกูลใหญ่จำนวนมากทราบข่าวเรื่องกองกำลังพันธมิตรของตระกูลหวัง พวกเขาก็แห่มาเข้าร่วมด้วย นอกจากนี้ พวกเขาก็ยังเตรียมกองกำลังและเสบียงของตนเองเพื่อมาบุกโจมตีโดยเฉพาะ”