บทที่ 354 ยังไม่ได้สัมผัสแก่นแท้ของเหตุการณ์

ซุยเฮ็งอยู่ในศาลาภัยพิบัติชะตาดาราอยู่สองสามปี และการฝึกตนของตัวอ่อนวิญญาณของเขาก็เพิ่มขึ้นอีกครั้ง

เขาอยู่ห่างจากขั้นสมบูรณ์เพียงก้าวเดียวเท่านั้น

ในระหว่างขั้นตอนนี้ เขายังได้เรียนรู้ข้อมูลมากมายเกี่ยวกับสวรรค์ราชันสุริยัน เช่นยอดฝีมือ สมบัติ กองกำลังหลัก และความลับบางอย่าง

สิ่งนี้ทำให้เขามีความเข้าใจที่ละเอียดยิ่งขึ้นเกี่ยวกับสวรรค์ราชันสุริยัน ในเวลาเดียวกัน มันก็ทำให้เขาเดาบางอย่างเกี่ยวกับการล่มสลายของสวรรค์ราชันสุริยันได้

นี่เป็นเพราะหนังสือโบราณที่จัดทำโดยศาลาภัยพิบัติชะตาดาราได้บันทึกความลับไว้

ตำหนักสวรรค์ราชันสุริยันศักดิ์สิทธิ์มีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับอาณาจักรสวรรค์!

แม้หลังจากที่อาณาจักรสวรรค์ได้หายไปแล้ว แต่ตำหนักสวรรค์ราชันสุริยันศักดิ์สิทธิ์ก็ยังคงสามารถติดต่อกับอาณาจักรสวรรค์และรับทรัพยากรจากมันได้

นอกจากนี้ มันก็ยังมีข่าวลือว่าจ้าวสวรรค์จื่อหยางได้อาศัยสิ่งนี้เพื่อยืดอายุขัยของเขาออกอย่างต่อเนื่องและใช้ชีวิตเกินขีดจำกัดอายุขัยของจ้าวสวรรค์ และในท้ายที่สุด เขาก็เสียชีวิตลงในตอนที่สวรรค์ราชันสุริยันได้พังทลายลง

หากสิ่งนี้เป็นความจริง การล่มสลายของสวรรค์ราชันสุริยันก็อาจเกี่ยวข้องกับจ้าวสวรรค์จื่อหยาง

แต่จ้าวสวรรค์จื่อหยางทำอะไรเขาถึงทำให้อาณาจักรสวรรค์โกรธมากได้?

“ ตำหนักสวรรค์ราชันสุริยันศักดิ์สิทธิ์มีความเกี่ยวข้องกับอาณาจักรสวรรค์ จ้าวสวรรค์จื่อหยางได้อาศัยการเชื่อมต่อนี้เพื่อยืดอายุขัยของเขา โจวจุนเทียนยังเกี่ยวข้องกับอาณาจักรสวรรค์ และการล่มสลายของสวรรค์ราชันสุริยันก็ยังเกี่ยวข้องโดยตรงกับโจวจุนเทียน”

ซุยเฮ็งครุ่นคิดในใจของเขา

“ มันยังมีข่าวลือว่าโจวจุนเทียนซึ่งแต่เดิมเป็นศิษย์ส่วนตัวของจ้าวสวรรค์จื่อหยางได้ถูกลงโทษอย่างร้ายแรง รากฐานกายาเต๋าของเขาถูกถอดออกและเขาก็กลับชาติมาเกิดในโลกมนุษย์”

“ ในท้ายที่สุด โจวจุนทียนก็กลายเป็นบุคคลสุดท้ายที่ขึ้นไปจากท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวของโลกนับไม่ถ้วน และหลังจากนั้นไม่นาน สวรรค์ราชันสุริยันก็ได้พังทลายลง… หากจ้าวสวรรค์จื่อหยางทำอะไรบางให้โจวจุนเทียนมาพอใจล่ะ?”

“ แต่ถ้าเขาต้องการที่จะทำลายสวรรค์ราชันสุริยันทั้งหมดเพียงเพราะเหตุนี้ล่ะ? นี่มันไร้สาระเกินไป โจวจุนเทียนเป็นเพียงจ้าวเต๋า เขาจะทำแบบนี้ได้ยังไง?”

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็ส่ายหัวในทันทีและเคลียร์ความคิดของเขาเกี่ยวกับการคาดเดานี้ เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะเสียพลังงานไปกับเรื่องนี้

การเดานี้ไม่มีการอ้างอิงใดๆ เลย

โจวจุนเทียนทำอะไรเพื่อให้อาณาจักรสวรรค์ปรากฏตัวขึ้นทันทีหลังจากที่เขาหายตัวไปเป็นเวลาหลายปีและเผยให้เห็นแสงสีแดงที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงเพื่อทำลายสวรรค์ราชันสุริยัน?

สถานการณ์ที่คล้ายกันก็น่าจะเป็น

เมื่อมีคนรู้ว่าเด็กที่เขารู้จักถูกไล่ออกจากโรงเรียน เขาจึงสั่งให้ประเทศทั้งประเทศทำลายโรงเรียนเพื่อเด็กคนนี้

มันไร้สาระ!

“ อย่างไรก็ตาม องค์ประกอบเหล่านี้ก็ล้วนเกี่ยวข้องกับอาณาจักรสวรรค์ และท้ายที่สุดแล้ว มันก็ล้วนชี้ไปที่การล่มสลายของสวรรค์ราชันสุริยัน มันไม่น่าเป็นไปได้ที่พวกเขาจะไม่เกี่ยวข้องกันโดยสิ้นเชิง”

ซุยเฮ็งคิดกับตัวเองว่า “ บางทีมันอาจจะยังมีองค์ประกอบบางอย่างที่ขาดหายไปซึ่งทำให้เรื่องนี้ไม่สมเหตุสมผล ดูเหมือนว่าฉันจะยังไม่ได้สัมผัสกับแกนหลักของเรื่องนะ”

“ ฉันเกรงว่าฉันจะยังต้องไปที่ตำหนักสวรรค์ราชันสุริยันศักดิ์สิทธิ์บนดาวราชันสุริยัน มันจะดีที่สุดถ้าฉันสามารถยืมหนังสือพวกเขาได้ บางทีฉันอาจจะสามารถชดเชยองค์ประกอบบางอย่างที่ขาดหายไปและทำให้ตรรกะนั้นสมบูรณ์ได้”

ในขณะนี้ เขากับฮุ่ยฉีก็ได้ออกมาจากดาวไท่ชางแล้ว เขากำลังวางแผนก้าวต่อไปในขณะที่เขาบินไปยังดาวศักดิ์สิทธิ์เทวะ

ทันใดนั้นแสงก็ปรากฏขึ้นในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวที่มืดมิดและลึกล้ำต่อหน้าเขา เรือบินปรากฏขึ้นจากอากาศเปล่า และพื้นที่รอบๆ ก็กระเพื่อมเหมือนน้ำ

นี่เป็นผลจากการกระโดดข้ามความว่างเปล่าของเรือบิน และเป็นฟังก์ชั่นที่จำเป็นของเรือบิน มิฉะนั้นแล้ว มันก็จะเป็นไปไม่ได้ที่จะเดินทางข้ามดวงดาวอันยาวไกล

เดิมที ซุยเฮ็งก็วางแผนที่จะเพิกเฉยต่อเรือบิน แต่จู่ๆ อีกฝ่ายก็กลับมุ่งหน้ามาหาเขาแทน

ในไม่ช้า เรือบินก็หยุดอยู่ตรงหน้าเขา จากนั้นประตูห้องโดยสารก็เปิดออกและชายวัยกลางคนที่ดูอ่อนโยนก็เดินออกมา

“ ท่าน.. ท่านผู้มีความสามารถ ท่านใช้ร่างกายของท่านเพื่อเดินทางข้ามท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวได้จริงๆ” ชายวัยกลางคนร้องอุทานในตอนแรก จากนั้นเขาก็กุมมือของตนแล้วพูดว่า “ ข้าเฟิงกวงหลินแห่งตำหนักสวรรค์ราชันสุริยันศักดิ์สิทธิ์แห่งดาวราชันสุริยัน ข้าควรเรียกท่านว่าอย่างไรดี?”

“ นามสกุลของข้าคือซุย” ซุยเฮ็งพยักหน้าเล็กน้อยและยิ้ม “ เจ้าหยุดเรือบินเพราะอยากจะเชิญข้าขึ้นไปบนนั้นหรอ?”

“ ใช่…” เฟิงกวงหลินดีใจเป็นอย่างมากและกำลังจะตอบต่อ แต่จู่ๆ เขาก็รู้สึกระแวดระวังเล็กน้อยและคิดกับตัวเองว่า “ ทำไมเขาถึงถามว่าจะขึ้นมาที่เรือบิน? เขามีแรงจูงใจอะไรบางอย่างรึเปล่า?”

“ ถูกต้อง ช่างเป็นยอดฝีมือที่ยากจะหยั่งถึง ถ้าฉันเผลอโจมตีเขา ฉันก็คงจะไม่ได้รับประโยชน์ใดๆ เลย”

ด้วยเหตุนี้เอง หลังจากครุ่นคิด เขาก็ส่ายหัวและยิ้ม “ ไม่ ท่านเข้าใจผิดแล้ว เรือบินของข้ามันแคบเกินไป”

“ อันที่จริง ข้าแค่ชื่นชมท่านที่ยืนหยัดในการข้ามท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวโดยที่ยังรักษาสภาพร่างกายของคุณเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ มันหายากมากจริงๆ”

“ เมื่อได้เห็นท่าน การเดินทางครั้งนี้ก็ไม่เสียเปล่า ลาก่อน!”

ด้วยเหตุนี้เอง เฟิงกวงหลินจึงหันหลังกลับและจากไป

ในไม่ช้า เรือบินก็บินไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูงมากและหายไป

“ เขาจะไปที่ดาวศักดิ์สิทธิ์เทวะอย่างงั้นหรอ” ซุยเฮ็งมองไปยังทิศทางของเรือบินและครุ่นคิด

“ ท่านครับ ชายผู้นั้นมีเจตนาฆ่าที่รุนแรงมาก” ทันใดนั้นฮุ่ยฉีก็พูดขึ้น

“ อืม ข้ารู้” ซุยเฮ็งพยักหน้าเล็กน้อยและพูดว่า “ ข้าเกรงว่าเขาจะไม่ได้หยุดเรือบินเพื่อมาทักทาย เขาคงจะอยากเล่นสนุกกับฉันก่อนที่จะฆ่าข้า”

ภายใต้ดวงตาแห่งธรรมของเขา ออร่าสีเลือดที่ห่อหุ้มร่างกายของเฟิงกวงหลินเอาไว้นั้นก็ชัดเจนอย่างหาที่เปรียบมิได้ เขาสามารถมองเห็นเส้นแสงและเงาสีเลือดได้ พวกมันล้วนเป็นรอยประทับของเหยื่อของเขาที่ถูกทรมานจนตาย

“ ชายคนนี้เป็นผู้สร้างแล้ว” ฮุ่ยฉีพูดเสียงจริงจัง “ ดูเหมือนว่าตำหนักสวรรค์ราชันสุริยันศักดิ์สิทธิ์นี้จะไม่ธรรมดา”

“ หายากที่จะมีคนดีในสำนักเซียนของอาณาจักรราชันสุริยัน” ซุยเฮ็งหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “ ไปที่ดาวศักดิ์สิทธิ์เทวะเพื่อดูกันเถอะ”

ขณะที่เขาพูด ลูกบอลแสงสีเขียวก็ลอยขึ้นมาจากใต้เท้าของเขา เขาเดินทางข้ามท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวอันไร้ที่สิ้นสุดในทันทีและกลับไปยังดาวศักดิ์สิทธิ์เทวะพร้อมกับฮุ่ยฉี

….

ในเรือบิน

เฟิงกวงหลินยังคงเดินทางต่อ เขาขมวดคิ้วและนึกถึงประสบการณ์ของเขาก่อนหน้านี้และคนสองคนที่เขาได้พบ

โดยเฉพาะชายหนุ่มคนนั้น

“ ข้ามองไม่เห็นผ่านการบ่มเพาะของเขา ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเขาควรจะเป็นผู้สร้าง อย่างไรก็ตาม มันก็มีผู้สร้างไม่มากนักในอาณาจักรราชันสุริยัน และโดยพื้นฐานแล้ว ข้าก็รู้จักพวกเขาทั้งหมดและไม่เคยเห็นเขามาก่อน”

“ คนนอกอีกคนหรอ? บ้าบออะไรขนาดนั้น”

เฟิงกวงหลินอารมณ์ไม่ดี

จริงๆ แล้วเขาก็มีแผนจะชวน “ชายคนนั้น” ออกเดินทางไปด้วยกัน เขาจะใช้อีกฝ่ายเป็นของเล่นระหว่างทางและสนุกสนานกับการหยอกล้อและฆ่าเขา

นี่เป็นความสุขที่สุดของเขา และวิธีการค้นหาสิ่งแปลกใหม่ในชีวิตอันยืนยาวของเขา

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากภารกิจและความจริงที่ว่าเขาต้องระวังคนภายนอก เขาจึงเลือกที่จะยอมแพ้ในวินาทีสุดท้าย

กล่าวอีกนัยหนึ่ง การเดินทางต่อไปนี้ก็จะมีแต่ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวที่น่าเบื่อ

มันไม่มีอะไรน่าสนุกให้ทำ

สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกแย่มาก

“ เมื่อข้าไปถึงดาวศักดิ์สิทธิ์เทวะ ข้าก็จะฆ่าให้สาแก่ใจและพักร้อนอยู่ที่นั่นซะเลย!” เฟิงกวงหลินคิดกับตัวเอง

….

ซุยเฮ็งออกจากดาวศักดิ์สิทธิ์เทวะมายังไม่ถึงห้าปี

อย่างไรก็ตาม เมื่อเขากลับมาและเห็นฉากที่นี่ เขาก็รู้สึกราวกับว่า 50 ปีได้ผ่านไปแล้ว

ชีวิตของผู้คนที่นี่เปลี่ยนไปอย่างมาก

ความสิ้นหวังและความเศร้าโศกในอดีตได้หายไป ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข ทั้งหมดนี้มาจากการก่อตั้งราชวงศ์ต้าโจวและการนำศาสนาใหม่มาใช้ภายใต้การปกครองของราชสำนัก ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนที่แต่เดิมเชื่อในเทพธิดาดอกบัวขาวได้หันมาหาต้าโจวและเริ่มบูชาเทพผู้พิทักษ์ผ้าพันคอเหลือง

เหตุผลนั้นง่ายมาก เทพผู้พิทักษ์ผ้าพันคอเหลืองนั้นสามารถปรากฏตัวได้จริงๆ บางครั้งแม้แต่ร่างหลักของเขาก็ยังลงมาเอง สิ่งนี้ทำให้ผู้ศรัทธารู้สึกว่าพวกเขามีค่ามากกว่าที่เคย

สำหรับผู้ศรัทธาในเทพธิดาดอกบัวขาว ไม่ว่าพวกเขาจะสวดอ้อนวอนอย่างไร แต่มันก็ไม่ส่งผลใดๆ เลย

ด้วยเหตุนี้เอง ในเวลาไม่ถึงห้าปี ราชวงศ์ต้าโจวจึงขยายตัวออกอย่างบ้าคลั่ง

ไม่มีสำนักใดที่เชื่อมโยงกับสำนักดอกบัวขาวไร้ชีวาอีกต่อไป

สำหรับปราชญ์และราชาปราชญ์ หลี่หมิงเฉียงกับผู้รับใช้สุดแกร่งก็ได้จัดการพวกเขาลงไปแล้ว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลี่หมิงเฉียง ตอนนี้เธอสามารถปรากฏตัวได้ทุกที่ในต้าโจว ไม่ว่าจะเมื่อใดก็ได้ มันเรียกได้ว่าเธอมีอยู่ทุกที่ มันสะดวกมากที่จะแก้สถานการณ์ใดๆ ก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ดาวศักดิ์สิทธิ์เทวะก็ยังใหญ่เกินไป แม้ว่าต้าโจวจะขยายตัวออกอย่างรวดเร็วในช่วงห้าปีที่ผ่านมา แต่พวกเขาก็ยังครอบครองพื้นที่น้อยกว่า 1% ของดินแดน

มันต้องใช้เวลา 300 ถึง 500 ปีในการเอาชนะสำนักดอกบัวขาวไร้ชีวาอย่างสมบูรณ์และครอบครองดาวศักดิ์สิทธิ์เทวะทั้งหมด

หากพวกเขายังต้องการจะรักษาเสถียรภาพของดาวศักดิ์สิทธิ์เทวะทั้งหมดและทำให้มันปลอดภัยอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ พวกเขาก้อาจจะต้องเพิ่มอีกสองถึงสามร้อยปี

ในพระราชวัง หลี่หมิงเฉียงก็บอกซุยเฮ็งเกี่ยวกับผลงานในช่วงห้าปีที่ผ่านมาและสถานการณ์ในปัจจุบันของต้าโจว ในท้ายที่สุด เธอก็พูดด้วยเสียงจริงจังว่า “ ท่านอาจารย์ นี่น่าจะเป็นการต่อสู้ที่ยืดเยื้อ”

“ มันคงไม่นานขนาดนั้นหรอก” ซุยเฮ็งส่ายหัวเบาๆ และกล่าวว่า “ ในขณะที่อาณาเขตของต้าโจวกำลังขยายตัว ความเร็วในการเผยแพร่ศาสนาก็จะเร็วขึ้นและเร็วขึ้น นอกจากนี้ มันก็น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นต่ออีก”

“ การเปลี่ยนแปลง?” หลี่หมิงเฉียงถามด้วยความสงสัย “ ท่านอาจารย์ ท่านวางแผนที่จะโจมตีสำนักดอกบัวขาวไร้ชีวาหรอ?”

“ มันยังไม่ถึงเวลา” ซุยเฮ็งส่ายหัวและพูดว่า “ ไว้คุยกันหลังจากที่ข้ารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเทพธิดาดอกบัวขาว มันอาจมีบางอย่างผิดปกติกับเทพเจ้าองค์นี้”

บู้มมมม!

ในขณะนี้ จู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นมาจากท้องฟ้า ราวกับว่ามีบางอย่างทะลุผ่านท้องฟ้ามา

แสงแดดอันอบอุ่นแต่เดิมได้ถูกบดบัง และท้องฟ้าก็มืดลง

ทันทีหลังจากนั้น เสียงที่ดังอย่างไม่มีใครเทียบได้ก็ดังมาจากท้องฟ้า

“ ข้าคือผู้สร้างจากตำหนักสวรรค์ราชันสุริยันศักดิ์สิทธิ์ เฟิงกวงหลิน ข้ามาที่นี่ตามคำสั่งของท่านเจ้าสำนักเพื่อเชิญผู้สร้างจากภายนอกทั้งสองมาที่ดาวราชันสุริยันเพื่อหารือเรื่องสำคัญ”

“ โปรดตามข้ามาในทันที!”