ตอนที่ 278 : เมล็ดพันธุ์สีดำ

“คายสิ่งที่เจ้าเพิ่งกินออกมา”

เสียงของราชาแห่งความเงียบชั่วนิรันดร์ดังก้อง มันราวกับประกาศิตของเทพแห่งสายฟ้าและวายุ

มังกรอัสนีกลืนนภามองไปยังร่างอันสง่างามของอีกฝ่ายด้วยความกลัวสุดขีด

การใช้ร่างวิญญาณพยาบาทควบคุมพลังแห่งลมและสายฟ้าแบบนี้...

สิ่งนี้ไม่สอดคล้องกับสามัญสำนึกโดยสิ้นเชิง!

ไม่แปลกใจเลยที่ตัวตนระดับตำนานตนอื่นๆ กล่าวว่าราชาแห่งความเงียบชั่วนิรันดร์และภรรยาของมันอยู่ไม่ไกลจากการกลายเป็นจิตวิญญาณเทพเจ้าแล้ว!

มันเงียบไปสักพักก่อนที่จะหันไปและขยับปีกสายฟ้าออโรร่าไปในทิศทางตรงกันข้ามอย่างสุดกำลัง

อย่างไรก็ตาม มันก็เห็นร่างสตรีสูงตระหง่านซึ่งไม่ได้ด้อยไปกว่าราชาแห่งความเงียบชั่วนิรันดร์หลังจากที่มันบินไปไม่นาน มันสวมชุดเกราะสีทองเข้มและดูเหมือนจะมีดวงดาวระยิบระยับบนผิวกายของมัน มันโผล่ออกมาจากอากาศในทิศทางที่มันหนีไป

มันคือราชินีแห่งความเงียบชั่วนิรันดร์!

“คายสิ่งที่เจ้าเพิ่งกินออกมา!”

เสียงของราชินีแห่งความเงียบชั่วนิรันดร์ดังก้อง

ทุกคำพูดเป็นเหมือนดาวตกทำให้จิตวิญญาณของมังกรอัสนีกลืนนภาเจ็บปวดเล็กน้อย

มังกรอัสนีกลืนนภาตกใจมาก!

“นายท่าน อย่าเพิ่งโจมตี! พวกเราสามารถเจรจากันได้ ถ้าท่านอยากได้ยานบินที่ข้าเพิ่งกินเข้าไป ข้าก็จะคายออกมาให้”

มังกรอัสนีกลืนนภากล่าว

ด้วยเหตุนั้นเอง มันจึงอ้าปากออก และมิติที่บิดเบี้ยวก็ปรากฏขึ้นข้างๆ มัน

แต่ในอึดใจต่อมา มันก็หายไปในทันใด

การดำรงอยู่ของมันดูเหมือนจะหายไปจากโลกใบนี้แล้ว

ราชาและราชินีแห่งความเงียบชั่วนิรันดร์เฝ้ามองฉากนี้อย่างใจเย็น

“อาณาจักรแห่งความเงียบชั่วนิรันดร์!”

ราชาแห่งความเงียบชั่วนิรันดร์เปล่งเสียงออกมาเบาๆ จากบนท้องฟ้า

เมื่อโจวโจวและคนอื่นๆ เห็นทิวทัศน์ข้างนอกอีกครั้ง พวกเขาก็เห็นร่างของราชาและราชินีแห่งความเงียบชั่วนิรันดร์ด้วย

โจวโจวอดตกตะลึงไม่ได้

นี่คือร่างจริงของสองตัวตนระดับตำนานขั้นสูงงั้นเหรอ?

มันแตกต่างจากสิ่งที่เขาได้เห็นในวังแห่งความเงียบชั่วนิรันดร์มาก

คัมภีร์ต้านมรณะดึงดูดความช่วยเหลือของสองตัวตนนี้มาจริงๆ เหรอ?

อืม… ด้วยระยะห่างแค่นี้ มันคงมีแค่สองคนนี้เท่านั้นที่สามารถแก้ไขวิกฤตให้กับพวกเขาได้

“ออกมาได้แล้ว ไม่ต้องห่วง มังกรอัสนีกลืนนภานั่นตายแล้ว”

ในเวลานั้นเอง เสียงของราชาแห่งความเงียบชั่วนิรันดร์ก็ดังขึ้น

“เหวินหยา เปิดประตู”

โจวโจวได้สติกลับมา เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และพูดอย่างเคร่งขรึม

“เจ้าค่ะท่านลอร์ด!”

เหวินหยารับคำสั่ง

ประตูมิติปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขาในทันทีที่เธอพูดจบ

เมื่อเห็นเช่นนี้ โจวโจวก็ใช้ความสามารถในการบินของชุดพิธีการสายลมใหม่และก้าวออกไปข้างนอกยานบิน จากนั้นเขาก็เห็นร่างสองร่าง

เขาใช้พลังงานในร่างกายเพื่อสร้างเกราะป้องกันเพื่อป้องกันไม่ให้ลมแรงและความหนาวเย็นโจมตีเขา จากนั้นเขาก็ก้มหัวลงและกล่าวว่า

“สวัสดีขอรับ ขอบคุณมากที่มาช่วยข้าในคราวนี้ มิฉะนั้นพวกเราคงจะต้องเจอกับวิกฤตแน่”

“ทำไมพวกเจ้าไม่เดินทางผ่านแดนต้องห้ามพายุทราย?”

ราชาแห่งความเงียบชั่วนิรันดร์กล่าว

“ในฐานะลอร์ด ข้าย่อมอยากเห็นว่าท้องฟ้าเบื้องบนเป็นเช่นไรบ้าง”

โจวโจวตอบตามจริง

ราชาแห่งความเงียบชั่วนิรันดร์และภรรยาของมันพยักหน้าเล็กน้อย

นั่นก็ปกติ อย่างไรก็ตาม เขาก็ขาดสามัญสำนึกบางอย่างไป

“จงสำรวจทวีปจื้อเกาก่อน เวลาของดินแดนท้องฟ้าเบื้องบนจะมาถึงเมื่อเจ้ามีลูกน้องระดับเทพในดินแดนแล้ว”

ราชินีแห่งความเงียบชั่วนิรันดร์พูดอย่างอบอุ่น

“มันมีจิตวิญญาณเทพเจ้าอยู่บนท้องฟ้างั้นเหรอขอรับ?”

โจวโจวแอบตกใจ

“ใช่แล้ว หลังจากพวกมันกลายเป็นจิตวิญญาณเทพเจ้า พวกมันก็จะต้องสร้างอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์อยู่บนท้องฟ้า ยิ่งพวกเราอยู่ใกล้ท้องฟ้ามากเท่าไหร่ พวกเราก็ยิ่งเข้าใกล้อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของจิตวิญญาณเทพเจ้ามากขึ้นเท่านั้น สำหรับลอร์ดเช่นเจ้าที่เพิ่งเริ่มเติบโต โอกาสที่จะได้เข้าใกล้เทพเจ้าและเผชิญหน้ากับสิ่งเลวร้ายนั้นย่อมสูงกว่าโอกาสที่จะพบเจอกับสิ่งดีๆ”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำขอรับ”

โจวโจวกล่าวขอบคุณอย่างจริงใจ

เขาไม่มีความรู้พื้นฐานพวกนี้เลย ถ้าเขารู้แบบนี้ก่อน เขาคงจะไม่ขึ้นมาบนท้องฟ้าแล้ว

เขาได้ใช้คัมภีร์ต้านมรณะไปแบบสูญเปล่าจริงๆ

โชคดีที่เขาพอได้รับอะไรบางอย่างมาจากท้องของมังกรอัสนีกลืนนภา มิฉะนั้นเขาคงจะขาดทุนยับแน่

หลังจากราชาและราชินีพูดจบ พวกมันก็มองไปยังภูติทมิฬ

ดวงตาของพวกมันเปล่งประกายขึ้นมา

นั่นคือมังกรภูตผีที่เพิ่งถือกำเนิด…

นอกจากนี้ความแข็งแกร่งของมันยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากและมาถึงระดับเงินขาวขั้นสูงแล้ว

ไม่ใช่แค่นั้น มันยังมีสหายซึ่งเป็นมังกรเลือดบริสุทธิ์เหมือนกันด้วย

คาราวารเร้นลับนั่นได้ขายมันให้กับผู้ซื้อที่ดีจริงๆ

พวกมันแค่รู้สึกว่าคาราวานเร้นลับได้ขายไข่มังกรภูตผีให้กับเจ้าตะวันสาดแสง พวกมันไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าตะวันสาดแสงจะเป็นพ่อค้าเร้นลับที่แลกเปลี่ยนกับพวกมันในตอนนั้น

เพราะตามสามัญสำนึกของทวีปจื้อเกานั้น กลุ่มพ่อค้าที่ลึกลับที่สุดจะเกี่ยวข้องกับลอร์ดที่เพิ่งเกิดขึ้นมาได้ยังไง?

“ในอนาคตก็ผ่านแดนต้องห้ามพายุทรายไปละกัน พวกเราจะสามารถสัมผัสถึงพวกเจ้าได้เมื่ออยู่ในแดนต้องห้ามพายุทราย ไม่เช่นนั้น เรื่องแบบนี้ก็อาจจะเกิดขึ้นได้อีก โชคดีที่เรามีลางสังหรณ์ถึงอันตรายที่เจ้าพบและสามารถออกมาจากผนึกได้ชั่วคราว มิฉะนั้นเจ้าก็คงจะตายไปแล้ว”

ราชินีแห่งความเงียบชั่วนิรันดร์พึมพำ

“ข้าจะจำใส่ใจเอาไว้!”

โจวโจวกล่าวด้วยความเคารพ

กลายเป็นว่าคัมภีร์ต้านมรณะทำให้ทั้งสองคนนี้เกิดลางสังหรณ์ขึ้นมา นั่นเป็นเหตุผลที่พวกมันสัมผัสได้ถึงอันตรายที่พวกเขาเผชิญอยู่แม้จะอยู่ในอาณาจักรแห่งความเงียบชั่วนิรันดร์

หึๆ ไอเท็มระดับมหากาพย์อันนี้สามารถแก้ไขวิกฤตที่เกี่ยวข้องกับศัตรูระดับตำนานได้จริงๆ!

ช่างเป็นไอเท็มที่ดีจริงๆ!

ในอนาคต ถ้าเขาได้รับคริสตัลเทวะศรัทธาระดับจิตบริสุทธิ์มาอีก เขาก็น่าจะต้องเอามันไปแลกเปลี่ยนกับเทพแห่งความตายอีกสักหน่อย

ไอเท็มชิ้นนี้อาจจะไร้ประโยชน์เมื่อเขาไม่ต้องการมัน แต่มันก็สามารถช่วยชีวิตของเขาได้เมื่อมันจำเป็นจริงๆ!

เขามองไปที่ทั้งคู่และรู้สึกเต็มไปด้วยอารมณ์อันหลากหลาย

ตัวตนระดับตำนานทั้งสองคนนี้ดูเหมือนจะไม่มีกำแพงกั้นเลย

บทสนทนาของพวกเขาดูสนิทสนมกันมาก

บางทีนี่อาจจะเกี่ยวข้องกับการที่พวกมันต้องใช้ชีวิตอยู่ใต้ดิน

อีกด้านหนึ่ง ราชาและราชินีแห่งความเงียบชั่วนิรันดร์ก็พยักหน้าเมื่อพวกมันเห็นรูปลักษณ์ของโจวโจว

เขาเป็นชายหนุ่มที่ยอมรับฟังผู้อื่น

“ไปเถอะ”

ราชาแห่งความเงียบชั่วนิรันดร์พูดออกมา

“สุดท้ายข้าก็ยังต้องขอบคุณพวกท่านทั้งสองคนที่มาช่วยชีวิตข้าเอาไว้ ข้าไปก่อนล่ะ”

โจวโจวกล่าวด้วยความสุภาพ

จากนั้นเขาก็กลับไปยังภูติทมิฬ และภูติทมิฬก็กลายเป็นลำแสงสีดำและพุ่งเข้าไปในพายุทราย

ในขณะที่พวกเขาพุ่งเข้ามา พายุทรายก็ดูเหมือนจะมีสตินึกคิดขึ้นมาและแหวกทางให้ภูติทมิฬบินเข้าไปโดยอัตโนมัติและปล่อยให้มันบินต่อไปยังป่าเขียว

“เจ้าตะวันสาดแสงผู้นี้ไม่ใช่คนธรรมดาเลย แม้ว่าเขาจะยังอ่อนแอมาก แต่ลูกน้องของเขาก็ล้วนแต่มีศักยภาพอันยิ่งใหญ่”

ราชินีแห่งความเงียบชั่วนิรันดร์ยิ้ม

“คนที่แลกเปลี่ยนกับคาราวานเร้นลับได้ย่อมไม่ใช่คนธรรมดา”

ราชาแห่งความเงียบชั่วนิรันดร์กล่าว

ราชินีแห่งความเงียบชั่วนิรันดร์พยักหน้า

พวกมันทั้งคู่ไม่ได้รีบร้อนจะจากไป แต่พวกมันกลับยืนอยู่กับที่และมองไปยังทิวทัศน์รอบๆ อย่างเงียบๆ

“งดงามจริงๆ”

ราชินีแห่งความเงียบชั่วนิรันดร์พึมพำ

ราชาแห่งความเงียบชั่วนิรันดร์ไม่ได้พูดอะไรออกมา มันแค่จับมือกับราชินีแห่งความเงียบชั่วนิรันดร์เอาไว้

ทั้งสองมองไปยังทิวทัศน์ที่ธรรมดาและมีเสน่ห์ที่สุดบนท้องฟ้าอย่างเงียบๆ

หลังจากผ่านไปอยู่นาน ราชาแห่งความเงียบชั่วนิรันดร์ก็พาราชินีแห่งความเงียบชั่วนิรันดร์ที่ไม่เต็มใจเท่าไรนักกลับเข้าไปยังพายุทรายอีกครั้งและกลับคืนสู่อาณาจักรแห่งความเงียบชั่วนิรันดร์

อีกด้านหนึ่ง โจวโจวก็ยืนอยู่ตรงหน้าต่างและมองไปยังทิวทัศน์ด้านนอกอย่างเงียบๆ

“ฉันบุ่มบ่ามเกินไป ในฐานะลอร์ด ความคิดของฉันที่จะสำรวจบริเวณโดยรอบนั้นเป็นเรื่องที่ถูก แต่ฉันควรทำการตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนที่จะลงมือ คราวนี้พวกเราทุกคนรอดมาได้ก็เพราะคัมภีร์ต้านมรณะ ถ้าฉันเจอกับสถานการณ์แบบนี้อีก ฉันเกรงว่าฉันคงจะพึ่งพาได้แค่กลับสู่เมือง”

โจวโจวสะท้อนตัวเอง

ประสบการณ์ที่ราบรื่นของเขาในช่วงเวลานี้ทำให้เขาหยิ่งยโสเล็กน้อย เขาจึงทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นจริงๆ

เขาอาจจะไร้เทียมทานในบรรดาลอร์ดเผ่าพันธุ์มนุษย์จากดาวเคราะห์สีน้ำเงิน แต่เขาก็ยังไม่มีค่าให้พูดถึงในบรรดาลอร์ดทั้งหลายหรือแม้แต่ต่อหน้ากลุ่มและผู้เชี่ยวชาญที่พัฒนามานับพันปีหรือแม้แต่หลายแสนปีในทวีปจื้อเกา!

เขาสูดลมหายใจเข้าและยื่นมือขวาออกมาเพื่อดูไอเท็มชิ้นหนึ่งในมือของเขา!

มันคือเมล็ดพันธุ์อันหนึ่ง!

เมล็ดพันธุ์สีดำ!

นี่คือผลกำไรเดียวที่ได้มาจากในท้องของมังกรอัสนีกลืนนภา