ตอนที่ 343

บทที่ 343: เส้นทางสู่ขอบเขตก่อเกิดวิญญาณ

การกระทำของจ้าวปีศาจทั้งสองทำให้จ้าวปีศาจอีกหกตนตกตะลึง พวกเขารีบทำตามในทันที และความต้องการของแต่ละคนก็จะต่ำลงไปเรื่อยๆ

“ ท่านเซียนผู้สูงส่ง ร่างกายหลักของข้าคือราชาดอกไม้ปราณ ข้าไม่หวังจะให้ท่านยอมรับข้าในฐานะผู้ติดตาม ข้าหวังเพียงเป็นดอกไม้ในกระถางข้างกายท่านที่ทำให้ท่านชื่นใจก็พอ”

….

“ ท่านเซียนผู้สูงส่ง ร่างหลักของข้าคือเต่าทมิฬ…”

….

“ ท่านเซียนผู้สูงส่ง ร่างกายหลักของข้าคือต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ กิ่งก้านและใบของข้ามีความสามารถในการเชื่อมต่อกับโลกทั้งใบ ข้ายินดีที่จะมอบร่างหลักของข้าให้กับท่านเพื่อเป็นวัตถุดิบในการสรรสร้างสมบัติ ข้าหวังเพียงว่าท่านเซียนผู้สูงส่งจะสามารถปล่อยดวงวิญญาณของข้าออกไปได้”

….

ความปราถนาของแต่ละคนนั้นโหดเหี้ยมกว่ากันมาก คนที่โหดเหี้ยมที่สุดถึงกับต้องการจะใช้ร่างหลักของเขาเป็นเบี้ยในการต่อรอง

หลังจากที่ซุยเฮ็งได้ยินคำพูดของเหล่าจ้าวปีศาจ เขาก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงเล็กน้อย

จ้าวปีศาจเหล่านี้จะหวาดกลัวกันมากเกินไปแล้ว

พวกมันหวาดกลัวจนไร้สาระไปไกลแล้ว

อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายที่สิ่งเหล่านี้ก็ยังไม่ได้น่าสนใจสำหรับเขา และมันก็ไม่มีค่าใดๆ สำหรับเขา

“ ไม่จำเป็น” ซุยเฮ็งส่ายหัวเบาๆ และพูดกับจ้าวปีศาจทั้งแปดว่า “ พวกเจ้าทุกคนกลับไปซะเถอะ”

จ้าวปีศาจทั้งแปดรู้สึกเย็นยะเยือกจนถึงกระดูกสันหลัง

พวกเขาจะต้องตายอย่างแน่นอน!

“ ท่านเซียนผู้สูงส่ง เรา…”

จ้าวปีศาจทั้งแปดต้องการที่จะร้องขอความเมตตาต่อไป แต่ซุยเฮ็งก็หยุดพวกเขาเอาไว้

“ อันที่จริง ข้าก็ไม่ได้มีเจตนาจะทำลายพวกเจ้า พวกเจ้าไม่ต้องกลัวกันเกินไปหรอก” ซุยเฮ็งอธิบายโดยตรงและพูดว่า “ แค่ทิ้งมรดกและตำราหนังสือของพวกเจ้าเอาไว้ที่นี่ก็พอ”

ทันทีที่เขาพูดจบ จ้าวปีศาจทั้งแปดก็แสดงสีหน้าดีใจราวกับว่าพวกเขาได้รับการให้อภัย พวกเขารู้สึกว่าดวงวิญญาณเบาบางลง

พวกเขารอดแล้ว!

ในที่สุดพวกเขาก็รอดแล้ว!

ความรู้สึกของการรอดชีวิตจากภัยพิบัตินี้ช่างวิเศษเสียเหลือเกิน!!

ในขณะนี้พวกเขาก็รู้สึกว่าซุยเฮ็งซึ่งเป็นผู้ดำรงอยู่สูงสุดนี้ช่างเปี่ยมล้นไปด้วยเมตตาและใจดีเสียจริงๆ

เขายอมไว้ชีวิตของพวกเขาไว้เบื้องหลังและไม่ได้ทำลายล้างพวกเขาทั้งหมดลง

พวกเขาโชคดีมาก!

หากเป็นสมัยโบราณตามที่บันทึกไว้ในหนังสือ เมื่อมีคนไปรุกรานการดำรงอยู่สูงสุดที่ขอบเขตที่เก้า พวกเขาก็จะต้องตายอย่างแน่นอน

แต่กระนั้นตอนนี้พวกเขาก็สามารถรอดชีวิตมาได้จริงๆ และราคาที่พวกเขาต้องจ่ายนั้นก็มีแค่กองหนังสือเท่านั้น

ด้วยเหตุนี้เอง หลังจากที่จ้าวปีศาจทั้งแปดทราบถึงความต้องการของ ซุยเฮ็ง พวกเขาจึงคัดลอกหนังสือทั้งหมดที่พวกเขามีอยู่ในความทรงจำออกมาโดยทันที

พวกเขากลัวว่าซุยเฮ็งอาจจะเปลี่ยนใจเอาได้

ความเร็วในการทำงานของพวกเขานั้นมีประสิทธิภาพสูงมาก

ยิ่งไปกว่านั้น ซุยเฮ็งก็ยังได้ใช้จิตวิญญาณของเขาในการจัดระเบียบหนังสือเหล่านี้ ด้วยเหตุนี้เอง จ้าวปีศาจทั้งแปดจึงเสร็จสิ้นภารกิจอย่างรวดเร็วและรีบหนีกลับไปยังสวรรค์นักบุญปีศาจ

ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็ปิดแสงทองเจาะโลกลง

พวกเขาไม่ต้องการอยู่ในสถานที่ที่น่ากลัวอย่างยิ่งนี้อีกต่อไปแล้ว

ในขณะนี้ โลกสูญสวรรค์ก็กลับสู่ความสงบแล้วเช่นกัน

ซุยเฮ็งรู้สึกพึงพอใจมากหลังจากสัมผัสกับหนังสือที่พวกเขาทิ้งเอาไว้

นี่คือมรดกหลักระดับสวรรค์ บางทีเขาอาจจะใช้โอกาสนี้เพื่อทำให้การฝึกตนขอบเขตรวมวิญญาณของเขาเสร็จสมบูรณ์ก็ได้

ช่างเป็นการเก็บเกี่ยวที่ยอดเยี่ยม!

ยิ่งไปกว่านั้น มันก็ยังเป็นการเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่ที่ส่งมาถึงหน้าประตูบ้านของเขา

เขาแทบทนรอไม่ไหวที่จะอ่านหนังสือเหล่านี้

อย่างไรก็ตาม ก่อนจะทำเช่นนั้น เขาก็ยังมีคนสองคนที่ต้องจัดการ นั่นคือปี่หงที่กำลังมึนงงและเซียงเจินที่นอนหมดสติ

“ ฉันควรจะฆ่าพวกเขาดีไหมนะ” ซุยเฮ็งคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่ายหัว “ ลืมมันไปเถอะ ปล่อยให้พวกเขาอยู่กับชะตากรรมที่น่าสังเวชแบบนี้ต่อไปก็แล้วกัน”

“ ในขณะนี้ จางหยานเฉิงก็อยู่ในเมืองหลวงแล้ว ฉันจะปล่อยให้เขาจัดการกับคนสองคนนี้ให้จบๆ ไป มันเหมาะสมที่สุดแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย”

….

จางหยานเฉิงและหยางลั่วมองเห็นฉากทั้งหมด

แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้จุดประสงค์ของการปรากฏตัวของจ้าวปีศาจทั้งแปด แต่พวกเขาก็สัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงท่าทีที่เคารพและความตั้งใจของพวกเขาที่จะยอมรับการดำรงอยู่สูงสุดในฐานะเจ้านายของพวกเขา

สิ่งนี้ทำให้พวกเขาสองคนได้รับผลกระทบทางจิตใจอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม พวกเขาสองคนก็ยังรู้สึกถึงอารมณ์ที่แตกต่างกัน

จางหยานเฉิงตกตะลึงที่ผู้คนในโลกนี้ทรงพลังมาก แม้แต่ปีศาจที่ทรงพลังอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ก็ยังต้องยอมจำนน

ในทางกลับกัน หยางลั่วก็นั่งลงบนพื้นด้วยสีหน้าที่ซับซ้อนและจ้องมองท้องฟ้าอย่างว่างเปล่า เธอครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

แท้จริงแล้วเธอไม่ใช่มนุษย์

เธอเป็นปีศาจที่กลับชาติมาเกิดจากสวรรค์นักบุญปีศาจเช่นเดียวกับปี่หงและเซียงเจิน

อย่างไรก็ตาม เธอก็อ่อนแอกว่าเซียงเจินด้วยซ้ำ ในชีวิตที่แล้วของเธอ เธอก็เป็นเพียงเซียนอนันต์ทองธรรมดาๆ เท่านั้น โชคดีที่ปี่หงได้ช่วยเธอฟื้นความทรงจำ

นี่เป็นเหตุผลที่เธอยอมแอบช่วยปี่หงและเซียงเจิน

อย่างไรก็ตาม ในส่วนลึกของจิตใจ เธอก็ยังคงปฏิบัติต่อตัวเองในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง

เมื่อตอนเป็นมนุษย์ ครอบครัวทั้งหมดของเธอก็ถูกปีศาจฆ่า และเธอก็สูญเสียครอบครัวที่สมบูรณ์แบบแต่เดิมไป เธอเกลียดปีศาจเข้ากระดูกและต้องการจะช่วยจางหยานเฉิงกำจัดปีศาจทั้งหมดและช่วยโลกอย่างจริงใจ

อย่างไรก็ตาม ความทรงจำด้านปีศาจของหยางลั่วก็บอกเธอว่าเธอควรช่วยสวรรค์นักบุญปีศาจ มิฉะนั้นหากจ้าวปีศาจทำตามแผนได้สำเร็จ ทุกคนก็จะถูกสาปแช่งไปชั่วนิรันดร์

ด้วยเหตุนี้เอง ความคิดและการกระทำของเธอจึงขัดแย้งกันมาก

บางครั้งเธอก็เข้าข้างจางหยานเฉิง และในบางครั้งเธอก็ช่วยเหลือสวรรค์นักบุญปีศาจ

แต่ตอนนี้ ท่าทีของจ้าวปีศาจก็ทำให้เธอรู้สึกสับสน

จ้าวปีศาจในความทรงจำของเธอคือผู้ดำรงอยู่สูงสุด แบบนี้แล้วโลกใบใหม่นี้เป็นสถานที่แบบไหนกันนะ?!

มันเป็นสวรรค์ที่แข็งแกร่งกว่าหรอ?

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้แม้แต่จ้าวปีศาจก็ยังยอมจำนน แล้วเธอควรทำอย่างไรต่อดี?

“ สำหรับสวรรค์นักบุญปีศาจ ข้าก็ไม่มีค่าอะไรอีกต่อไป ข้ายังได้ทรยศต่อศิษย์พี่และไม่มีหน้าไปพบเขาอีกแล้วในตอนนี้…” ดวงตาของหยางลั่วไร้ชีวิตชีวาในขณะที่น้ำตาสองสายไหลลงมาอย่างช้าๆ

“ น้องหญิง เจ้าอยู่ในนั้นไหม?” ในขณะนี้ เสียงของจางหยานเฉิงก็ดังมาจากข้างนอก

“ ศิษย์พี่ ข้า…” หยางลั่วกลับมาได้สติในทันที แต่ชั่วขณะหนึ่ง เธอก็ไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับจางหยานเฉิงอย่างไร

“ น้องหญิง เจ้าไม่ต้องตื่นตระหนก” จางหยานเฉิงทำราวกับว่าเขาไม่รู้อะไรเลย เขายืนอยู่นอกประตูและพูดกับหยางลั่วว่า “ น้องหญิง ข้าเพิ่งได้รับเชิญจากราชสำนักต้าโจว พวกเขาต้องการให้ข้าเป็นผู้สังหารปีศาจ”

“ ผู้สังหารปีศาจ?" หยางลั่วตกตะลึง

“ ใช่” เสียงของจางหยานเฉิงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ จักรพรรดิปีศาจถูกจับแล้ว เขาจะถูกประหารชีวิตในวันพรุ่งนี้ ดังนั้นราชสำนักต้าโจวจึงต้องการให้ข้าเป็นผู้สังหารเขา”

“ ท่านกำลังจะประหารจักรพรรดิปีศาจหรอ!” ร่างกายที่บอบบางของหยางลั่วสั่นเล็กน้อยเมื่อเธอได้ยินสิ่งนี้ “ ข้าไปด้วยได้ไหม?”

“ แน่นอน." จางหยานเฉิงหัวเราะเสียงดังและพูดว่า “ เจ้าเป็นน้องสาวของข้า เราพบกระบี่สังหารมารด้วยกันและตกลงที่จะกอบกู้โลกไปด้วยกัน”

“ ตอนนี้เรามาถึงโลกใบใหม่และปีศาจก็ได้ถูกกำจัดลงโดยเหล่าเซียน ทุกอย่างจะจบลงหลังจากที่ข้าฆ่าจักรพรรดิปีศาจลง จากนั้นเราก็จะสามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่กันได้ในภายหลัง”

“ ชีวิตใหม่…” ในที่สุดหยางลั่วก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา “ ใช่ ใช่ ศิษย์พี่ ไปด้วยกันเถอะ เรายังมีชีวิตใหม่ในอนาคตรออยู่อีก!”

….

หลังจากที่ “จักรพรรดิปีศาจ” ปี่หงถูกฆ่าตายลงโดยจางหยานเฉิง ในที่สุดโลกสูญสวรรค์ก็หลอมรวมเข้ากับโลกใบเล็กนั้นอย่างสมบูรณ์

นี่เป็นเหตุผลที่ซุยเฮ็งสั่งให้จางหยานเฉิงยุติชีวิตของปี่หง

ในฐานะบุตรแห่งโชคชะตาของโลกใบเล็กนั้น หากชีวิตของจางหยานเฉิงไม่ได้รวมเข้ากับโลกสูญสวรรค์อย่างสมบูรณ์ การรวมโลกทั้งสองก็จะไม่สมบูรณ์แบบ

ในเวลาเดียวกันกับที่ทั้งสองโลกหลอมรวมกันอย่างสมบูรณ์ ราชวงศ์ต้าโจวภายใต้การปกครองของหลี่หมิงเฉียงก็ทะยานขึ้นเช่นกัน ขอบเขตการฝึกตนของเธอทะลุทะลวงในทันที

แก่นแท้วิญญาณทองของเธอควบแน่นเป็นพระราชวังที่เป็นสัญลักษณ์ของเส้นทางแห่งโชคของประเทศ

หลี่หมิงเฉียงเรียกมันว่า “ราชสำนักศักดิ์สิทธิ์” ในแง่ของพลังศักดิ์สิทธิ์ มันก็แข็งแกร่งกว่ากายาเต๋าที่ฝึกฝนกฎเพียงอย่างเดียว

ยิ่งไปกว่านั้น มันก็ยังมีวิญญาณอมตะที่แท้จริง สิ่งนี้เทียบได้กับตัวอ่อนวิญญาณแล้ว

ความก้าวหน้าของหลี่หมิงเฉียงยังทำให้คำสั่งของราชวงศ์จต้าโจวนั้นมั่นคงยิ่งขึ้น ซุยเฮ็งได้รับการตอบรับโดยธรรมชาติและพัฒนาขึ้นไปอีกก้าวหนึ่ง

สิ่งที่เขาต้องทำตอนนี้คือการไปให้ถึงจุดสูงสุดของขอบเขตรวมวิญญาณโดยเร็วที่สุด เพื่อที่เขาจะได้มุ่งความสนใจไปที่เส้นทางของขอบเขตก่อเกิดวิญญาณ

ด้วยเหตุนี้เอง หลังจากช่วยหลี่หมิงเฉียงรวบรวมขอบเขตการฝึกตนใหม่ของเธอเสร็จ ซุยเฮ็งจึงประกาศว่าเขาต้องการเข้าสู่ความสันโดษชั่วระยะเวลาหนึ่งและมุ่งเน้นไปที่การศึกษาหนังสือที่เขาได้รับมาจากเหล่าจ้าวปีศาจ

หนังสือเหล่านี้มีข้อมูลเกี่ยวกับสวรรค์นักบุญปีศาจ และมันก็ยังเป็นข้อมูลระดับสูงที่ซุยเฮ็งกำลังต้องการ

บางทีมันอาจจะเกี่ยวข้องกับความลับอันยิ่งใหญ่ของโลกใบนี้