“ช่างเป็นพรสวรรค์ที่น่าอิจฉาเสียจริง”
โจวโจวมองไปยังพรสวรรค์ประจำเผ่าพันธุ์ทั้งสองอันนี้และถอนหายใจออกมา
จิตวิญญาณเทพเจ้า!
การดำรงอยู่ที่ไม่อาจบรรลุได้ของสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ในโลกสรรพเผ่าพันธุ์
สิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนได้ใช้เวลาไปนานแสนนานเพื่อพยายามจะกลายเป็นจิตวิญญาณเทพเจ้า แต่มันก็ไร้ประโยชน์
ในทางกลับกัน เผ่าพันธุ์จิตวิญญาณต้นกำเนิดนั้นสามารถกลายเป็นจิตวิญญาณเทพเจ้าได้โดยธรรมชาติและกระทั่งมีโลกใบเล็กๆ เป็นของตัวเองด้วยเมื่อเทียบกับจิตวิญญาณเทพเจ้าตนอื่น
เมื่อเทียบกับจิตวิญญาณเทพเจ้าทั่วไป จิตวิญญาณเทพเจ้าที่มีโลกใบเล็กๆ นั้นก็เทียบกับการมีลูกน้องที่ภักดีจนตายได้ถือกำเนิดขึ้นมาพร้อมกับโลกทั้งใบนั้น เขาคือบรรพบุรุษเจ้าพิภพแห่งโลกใบนี้
เผ่าพันธุ์จิตวิญญาณต้นกำเนิดจะไม่ต้องกังวลถึงเส้นทางที่จะหาศรัทธาเพื่อกลายเป็นเทพเจ้าอีก
ไม่เหมือนกับจิตวิญญาณเทพเจ้าทั่วไปที่ต้องก่อตั้งนิกายและเผยแผ่ศรัทธาออกไป เพราะเผ่าพันธุ์จิตวิญญาณต้นกำเนิดนั้นถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อเป็นเทพเจ้า
คัมภีร์จิตวิญญาณเทพเจ้าจะเทียบอะไรกับมันได้?
เมื่อเทียบกันแล้ว คัมภีร์จิตวิญญาณเทพเจ้าก็เป็นเหมือนกับบัณฑิตในสมัยโบราณ ถ้าเขาอยากจะรับราชการ เขาก็ต้องศึกษาอย่างน้อยนับสิบปี จากนั้นเขาก็ต้องไปที่เมืองหลวงเพื่อสอบจอหงวนและใช้โอกาสหนึ่งในล้านเพื่อให้ได้รับราชการในตำแหน่งเล็กๆ
แต่สำหรับจิตวิญญาณต้นกำเนิด เขาก็เป็นเหมือนกับขุนนางตระกูลใหญ่ เขามีตำแหน่งรองรับอยู่แล้วนับตั้งแต่ที่เกิด หลังจากเข้ารับราชการได้แล้ว เขาก็จะมีสายสัมพันธ์และทรัพยากรทุกประเภทเพื่อสนับสนุนเขา และเขาสามารถก้าวหน้าไปได้จนสุดทาง
มันยังไม่ต้องพูดถึงอีกว่าเจตจำนงสูงสุดนั้นชื่นชอบในเผ่าพันธุ์จิตวิญญาณต้นกำเนิด
แต่ตอนนี้มันก็เป็นของฉันแล้ว
นับจากนี้เป็นต้นไป ฉันเองก็เป็นมนุษย์แห่งความโกลาหลที่สวมหนังของเผ่าพันธุ์จิตวิญญาณต้นกำเนิดเอาไว้ ฮ่าๆ!
มุมปากของโจวโจวโค้งขึ้นเล็กน้อย จากนั้นเขาก็มองดูพรสวรรค์ประจำเผ่าพันธุ์อันต่อไป
[ชื่อพรสวรรค์ประจำเผ่าพันธุ์: การควบคุมพลังเทวะ]
[ระดับ: ระดับเทพแท้จริงขั้นสูง]
[รายละเอียด: ในฐานะที่เป็นบรรพบุรุษเจ้าพิภพ ท่านสามารถควบคุมพลังเทวะได้ในระดับที่น่าเหลือเชื่อ ท่านสามารถควบคุมพลังเทวะเพื่อทำสิ่งต่างๆ ที่จิตวิญญาณเทพเจ้าคนอื่นไม่สามารถทำได้ได้อย่างง่ายดาย]
โจวโจวไม่เข้าใจสิ่งนี้
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลของมรดกของเผ่าพันธุ์จิตวิญญาณต้นกำเนิดก็ทำให้เขาเข้าใจขึ้นมา พรสวรรค์นี้จะเป็นประโยชน์มากๆ หลังจากกลายเป็นเทพเจ้า ว่ากันว่ามันสามารถใช้เพื่อสร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นมาได้เลย
นี่ยังไกลเกินไปสำหรับโจวโจว เขาไม่คิดมากเกินไปเกี่ยวกับมันและมองไปยังพรสวรรค์อันต่อไป
มันไม่จำเป็นต้องพูดถึงมรดกทั่วไปและมรดกลับของเผ่าพันธุ์จิตวิญญาณต้นกำเนิด
มันเป็นการเพิ่มพูนความรู้ เปิดโลกทัศน์ และความรู้ต่างๆ มันไม่มีประโยชน์มากนักในการเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้
ต่อไปก็คือความต้านทานสายฟ้าที่โจวโจวได้รับมานานแล้ว ทำให้คราวนี้ที่เขาได้รับสายเลือดเผ่าพันธุ์จิตวิญญาณต้นกำเนิดมา มันจึงช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับพรสวรรค์ประจำเผ่าพันธุ์อันนี้อีก
[ชื่อพรสวรรค์ประจำเผ่าพันธุ์: ความต้านทานสายฟ้า]
[ระดับ: ระดับเทพแท้จริงขั้นสูง]
[รายละเอียด: เมื่อท่านได้รับการโจมตีธาตุสายฟ้าที่อยู่ต่ำกว่าระดับเทพชั้นกลาง ท่านจะไม่ได้รับผลใดๆ]
โจวโจวพึงพอใจ
เขาจำได้ว่าก่อนหน้านี้พรสวรรค์ประจำเผ่าพันธุ์นี้สามารถต้านทานการโจมตีธาตุสายฟ้าที่อยู่ต่ำกว่าระดับเทพชั้นต่ำได้เท่านั้น แต่ในตอนนี้ ขีดจำกัดของมันได้เพิ่มขึ้นมาอีกและสามารถต้านทานการโจมตีธาตุสายฟ้าที่อยู่ต่ำกว่าระดับเทพชั้นกลางได้แล้ว
มันถือว่าเป็นการพัฒนาที่สุดยอดจริงๆ
จากนั้นเขาก็มองไปยังทักษะแห่งกฎเกณฑ์สองอันที่เขาปลุกขึ้นมา
[ชื่อทักษะแห่งกฎเกณฑ์: หอกเทพสายฟ้า]
[ระดับ: ระดับเทพแท้จริงขั้นสูง]
[รายละเอียด: ควบคุมพลังของกฎเกณฑ์ธาตุสายฟ้าและควบแน่นเป็นหอกเทพสายฟ้าสุดแสนอันตราย หอกเทพสายฟ้ามีความสามารถในการโจมตีและการทำลายล้างที่สูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อธาตุชั่วร้ายอย่างเช่น ธาตุความตาย ธาตุเงา และธาตุกัดกร่อน มันยังสามารถสร้างความเสียหายเพิ่มเติมให้กับมอนสเตอร์แห่งหมอกได้ด้วย]
…
[ชื่อทักษะแห่งกฎเกณฑ์: ร่างเทพสายฟ้า]
[ระดับ: ระดับเทพแท้จริงขั้นสูง]
[รายละเอียด: ร่างกายของท่านจะเต็มไปด้วยพลังเทวะของกฎเกณฑ์แห่งสายฟ้า ท่านมีความสามารถในการต้านทานสิ่งชั่วร้ายทั้งมวล การโจมตีที่อยู่ต่ำกว่าระดับเทพชั้นต่ำจะไม่สามารถทำร้ายร่างกายของท่านได้]
…
โจวโจวยิ้มออกมา
มันมีสองคำพูดอยู่ในใจของเขาเท่านั้น
โคตรสุดยอด!
หอกเทพสายฟ้านั้นคล้ายคลึงกับทักษะแห่งกฎเกณฑ์อย่างดาบแสงศักดิ์สิทธิ์ พวกมันทั้งคู่ต่างก็มีความสามารถในการโจมตีที่สูงล้ำ นอกจากนี้พวกมันยังเป็นของแสลงสำหรับสิ่งมีชีวิตขั้วตรงข้ามด้วย
อย่างไรก็ตาม มันก็มีความแตกต่างที่ชัดเจนจากดาบแสงศักดิ์สิทธิ์ เพราะการโจมตีของดาบแสงศักดิ์สิทธิ์จะเน้นหนักไปที่ ‘การชำระล้าง’ และ ‘การเผาไหม้’
ส่วนหอกเทพสายฟ้าจะเน้นไปที่ ‘พลังโจมตี’ และ ‘การทำลายล้าง’
เมื่อเทียบกันแล้ว หอกเทพสายฟ้านั้นก็ดูจะเกรี้ยวกราดกว่า
นอกจากนี้ มันยังแทบจะไม่มีใครในโลกที่สามารถต้านทานกฎเกณฑ์ธาตุสายฟ้าได้
นี่แทบจะเป็นการโจมตีที่ไร้เทียมทานเลยก็ว่าได้!
ในการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ระดับเดียวกัน เขาแทบจะไร้เทียมทานเลย!
มันมีเพียงการสะกดข่มจากระดับชั้นที่ต่างกันมากเท่านั้นที่จะสามารถสยบพลังของหอกเทพสายฟ้าเอาไว้ได้
ส่วนร่างเทพสายฟ้า มันก็ไม่จำเป็นจะต้องพูดถึง
ความสามารถในการต้านทานสิ่งชั่วร้ายทั้งมวลนั้นฟังดูทรงพลังมาก ในอนาคต โจวโจวก็จะไม่ต้องกลัวบัฟด้านลบอย่างเช่นคำสาปอีกต่อไป
ส่วนคำอธิบายที่บอกว่าโจวโจวสามารถต้านทานการโจมตีที่ต่ำกว่าระดับเทพชั้นต่ำได้นั้นก็ทำให้โจวโจวประหลาดใจยิ่งขึ้นไปอีก
นี่คือสุดยอดความสามารถในการช่วยชีวิตจริงๆ!
ในอนาคต เขาก็จะไม่ต้องกัวลว่าจะได้รับบาดเจ็บหรือตายอีกเมื่อเผชิญหน้ากับตัวตนที่อยู่ต่ำกว่าระดับจิตวิญญาณเทพเจ้า
“โชคดีที่ตอนนั้นฉันใช้ยุยงแปรพักตร์กับเทพแห่งสายฟ้าและเมฆมืดแอนเซลได้สำเร็จ มิฉะนั้นแม้ว่าพวกเราทุกคนจะร่วมมือกันโจมตี แต่พวกเราก็คงไม่สามารถทำอะไรกับมันได้”
โจวโจวถอนหายใจออกมา
เมื่อมองย้อนกลับไปแล้ว เผ่าพันธุ์จิตวิญญาณต้นกำเนิดทั้งสองที่เขาเจอในอดีตนั้นก็ช่างท้าทายสวรรค์จริงๆ
มันไม่จำเป็นต้องพูดถึงแอนเซล แค่สองทักษะแห่งกฎเกณฑ์ที่เทพแห่งมิติและกาลเวลาอดัมสำแดงออกมาอย่างขับไล่พิภพและเวลาหวนกลับก็ช่างท้าทายสวรรค์อย่างถึงขีดสุดแล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายไม่อยากต่อสู้แลกเป็นแลกตายและดูถูกรางวัลของกิจกรรมสมรภูมิแห่งลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์ มันก็ไม่แน่ใจจริงๆ ว่าเขาจะได้รับตำแหน่งลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุดมาไหม
เขาส่ายหัวและไม่คิดมากเกี่ยวกับมัน
เขาไม่ได้สนใจเรื่องชื่อเสียงอะไร
ใครจะสนว่าใครคือคนที่แข็งแกร่งที่สุด?
ไม่ว่าใครจะแข็งแกร่งที่สุดก็ช่างตราบใดที่เขาได้รับรางวัลจากการเป็นลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุดมา
จากนั้นเขาก็เปิดกระดานสนทนาขึ้นมาในขณะที่เขารู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในร่างกายของเขา