ในเวลาเดียวกัน ซ่างโป้ก็สังเกตเห็นสีหน้าของโจวโจว
“อัศวินทลายทัพทั้ง 100 คนนี้ต่างก็เป็นทหารระดับจักรวรรดิซึ่งถูกเลี้ยงดูอย่างระมัดระวังจากวิหารอัศวินของพวกเรา การลงทุนในพวกเขาเพียงคนเดียวก็สูงถึงหลายล้านแกนหมอกระดับแพลตตินั่มขาวแล้ว! เจ้าต้องรู้อีกว่ามันมีอัศวินทลายทัพเพียง 10,000 คนเท่านั้นในวิหารอัศวินของพวกเรา”
“พวกเขาถูกฝึกฝนมาเพื่อทำหน้าที่ตามที่กำหนดเอาไว้ แต่เพราะเจ้า พวกเราจึงต้องส่งมอบอัศวินทลายทัพ 100 คนให้กับเจ้า เป็นยังไง? อัศวินทลายทัพ 100 คนและมรดกผู้กล้าระดับเหนือสามัญอีกอัน ตอนนี้เจ้ายังรู้สึกว่าเจ้าขาดทุนอยู่ไหม?”
ซ่างโป้ถาม
“ย่อมไม่ขาดทุนอยู่แล้ว ข้าไม่เคยรู้สึกเลยว่าข้ากำลังขาดทุนอยู่” โจวโจวยิ้ม
ถ้าเขาบอกว่าเขากำลังขาดทุน ไม่ใช่ว่ามันจะเป็นการตบหน้าพวกเขาเหรอ?
เพราะพวกเขาจะกลายเป็นลูกน้องของเขาในอนาคต เขาจึงต้องไว้หน้าอัศวินพวกนี้บ้าง
นอกจากนี้ พวกเขายังคุ้มค่าจริงๆ
“ถ้าอย่างนั้น ถ้ามีโควต้าในการชุบชีวิตอีก จงจำไว้ว่าต้องให้ความสำคัญกับเผ่าพันธุ์มนุษย์ของพวกเราก่อน ข้าจะไม่พูดอะไรเยอะและจะไม่กดดันเจ้าด้วย แต่ข้าจะบอกแค่ว่าผู้กล้าคือหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการวัดความแข็งแกร่งของเผ่าพันธุ์ ยิ่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ของพวกเรามีผู้กล้ามากเท่าไร พวกเราก็จะยิ่งเอาตัวรอดไปได้ในโลกอันแสนอันตรายเช่นนี้ในอนาคต”
ซ่างโป้กล่าว
สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวล ราวกับว่าเขาดูเหมือนจะไม่มองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคต
โจวโจวไม่ได้พูดอะไรออกมาและพยักหน้าอย่างใจเย็นเท่านั้น
“ถ้าข้าสามารถชุบชีวิตผู้กล้าได้ในอนาคต ข้าจะใช้ชุบชีวิตให้กับผู้กล้าเผ่าพันธุ์มนุษย์แน่นอนขอรับ”
เขาเองก็เป็นมนุษย์
เขาเต็มใจที่จะแบกรับความรับผิดชอบนี้
นอกจากนี้วิหารอัศวินยังดูแลเขาดีมากเพราะเจตจำนงผู้พิฆาตมังกร
ถ้าเขาสามารถช่วยวิหารอัศวินได้ในอนาคต เขาก็ย่อมต้องช่วยอีกฝ่ายแน่ๆ
ซ่างโป้มองมาที่โจวโจวและพยักหน้าด้วยความโล่งอก
หลังจากนั้นทั้งสามคนก็ไม่พูดอะไรกันอีก
หลังจากโจวโจวกล่าวลาซ่างโป้และร็อบแล้ว เขาก็ออกมาจากวิหารอัศวินพร้อมกับอัศวินทลายทัพ 100 คน และมาพบกับไป่อี้ โดยบอกให้เธอจัดการให้พวกเขาเข้าร่วมกับกองทัพตะวันสาดแสง ในอนาคตไป่อี้ อู๋ซิน และคนอื่นๆ จะต้องรับผิดชอบในการบัญชาการคนพวกนี้
จากนั้นโจวโจวก็กลับไปยังปราสาทของลอร์ด
เมื่อเขากลับมาถึงที่ทางเข้าของปราสาท เขาก็เห็นอู๋ตู่กำลังรอเขาอยู่แล้ว
“เข้ามาสิ”
โจวโจวรู้ได้โดยไม่ต้องคิดว่าอีกฝ่ายคงมาเพื่อมอบแผนที่ฉบับล่าสุดให้กับเขา
จากนั้นทั้งสองคนก็เดินเข้าไปในปราสาทของลอร์ดและตรงไปยังห้องประชุมทันที
ในห้องประชุม โจวโจวมองไปยังแผนที่ในมือ
แผนที่นี้แสดงอาณาเขตภูมิภาคที่เพิ่งค้นพบซึ่งนำโดยอู๋ตู่และกองทัพวาดสวรรค์
ดินแดนภูมิภาคที่ค้นพบในครั้งนี้ไม่ได้อยู่ภายใต้เขตอำนาจของอาณาจักรใดๆ แต่เป็นพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ของดินแดนรกร้างว่างเปล่ารอบๆ เมืองรัตติกาลทมิฬ เมืองปฐมอาณาจักร เมืองตัวต่อสีแดง และสถานที่อื่นๆ
มันประกอบไปด้วยภูมิภาคระดับเหล็กดำ 6 แห่ง ระดับบรอนซ์เขียว 3 แห่ง ระดับเงินขาว 2 แห่ง ระดับทองคำเหลือง 2 แห่ง และระดับแพลตตินั่มขาว 1 แห่ง
โจวโจวพยักหน้าเล็กน้อย
เขาสามารถพิชิตภูมิภาคเหล่านี้ได้ในวันพรุ่งนี้
หลังจากนั้นเขาก็คุยกับอีกฝ่ายสักพักก่อนที่อู๋ตู่จะจากไป
หลังจากที่อู๋ตู่จากไปแล้ว โจวโจวก็ครุ่นคิดและยืนยันแล้วว่าเขาไม่มีอะไรให้ทำอีก ดังนั้นเขาจึงกลับไปที่ห้องนอนเพื่อพักผ่อน
ในเวลาเดียวกัน ณ นอกเมืองตะวันสาดแสง
ประตูเมืองสีทองแห่งใหม่ที่สูงตระหง่านตั้งอยู่
มันสูงห้าถึงหกร้อยเมตรและกว้างมากกว่าหนึ่งร้อยเมตร
เหนือประตูเมืองนี้มีรูปปั้นสีทองอันหนึ่ง!
รูปปั้นนั้นเป็นทหารสวรรค์ที่หล่อเหลาซึ่งขี่รถม้าสวรรค์ที่หรูหรา ควบม้าอย่างกล้าหาญผ่านก้อนเมฆ
“ประตูชัยเสร็จสมบูรณ์แล้ว ตามที่คาดไว้จากสิ่งปลูกสร้างประจำเผ่าพันธุ์ ข้าได้ประโยชน์มากมายจากการก่อสร้างนี้เลย”
ตรงหน้าประตูชัย มันมีผู้คนกว่า 10,000 คนมารวมตัวกันที่นี่
ในจำนวนนี้มีทั้งสถาปนิก ช่างตีเหล็ก ช่างไม้ ช่างแกะสลัก ทหาร และผู้เชี่ยวชาญทุกประเภท
ตรงหน้าของพวกเขา จ้าวฉางโจวก็ดูเหนื่อย แต่ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายในขณะที่เขามองไปยังสิ่งปลูกสร้างประจำเผ่าพันธุ์
นับตั้งแต่วัดบรรพบุรุษจักรพรรดิ นี่คือสิ่งปลูกสร้างประจำเผ่าพันธุ์อันที่สองที่เขาได้สร้าง
เวลาก่อสร้างระหว่างทั้งสองห่างกันเพียงไม่กี่วัน
มันอาจกล่าวได้ว่าในฐานะสถาปนิก มันเป็นเรื่องที่น่าพึงพอใจมากที่ได้สร้างสิ่งปลูกสร้างประจำเผ่าพันธุ์สองอันติดต่อกัน
เขามองดูข้อมูลของตัวเอง
เขาพบว่าเขาได้เลื่อนระดับจากสถาปนิกระดับเพชรขั้นต้นมาเป็นสถาปนิกระดับเพชรขั้นสูงแล้ว
“ข้าสงสัยเหลือเกินว่าข้าจะสามารถก้าวไปสู่ขอบเขตของระดับเหนือสามัญก่อนข้าตายได้ไหม”
จ้าวฉางโจวคิดกับตัวเอง
จากนั้นเขาก็คิดถึงลอร์ดของเขาที่ทำให้เขาประหลาดใจได้ซ้ำๆ
ในเวลานั้น เขาก็รู้สึกว่าเขาอาจจะบรรลุความสำเร็จเช่นนั้นได้จริงๆ
…
วันต่อมา
โจวโจวตื่นขึ้นมาและพบว่าไม่เพียงแต่จ้าวฉางโจวจะสร้างประตูชัยเสร็จแล้ว แต่เขายังเลื่อนระดับขึ้นเป็นสถาปนิกระดับเพชรขั้นสูงแล้วด้วย
“ฉันได้ฟังข่าวดีถึง 2 ข่าวเลยเมื่อฉันตื่นขึ้นมา ดีจริงๆ”
โจวโจวพูดด้วยความพึงพอใจ
จากนั้นเขาก็ไปพบกับจ้าวฉางโจวทันทีและถามว่าเขาสามารถสร้างหอคอยออโรร่าระดับเพชรขั้นสูงได้ไหม
“ข้าเริ่มการศึกษาหอคอยออโรร่าระดับเพชรขั้นสูงแล้วขอรับ แต่ข้าก็ต้องใช้เวลาอีกสักวันสองวันเพื่อศึกษามัน”
จ้าวฉางโจวไม่ได้รับประกันอะไร แต่ถึงกระนั้นโจวโจวก็ยังอดตั้งตารอไม่ได้
หอคอยออโรร่าระดับเพชรขั้นต้นก็สามารถคุกคามชีวิตของยอดฝีมือระดับเหนือสามัญได้แล้ว แล้วถ้าเป็นระดับเพชรขั้นสูงล่ะ?
ไม่ใช่ว่ามันจะสามารถทำอันตรายให้กับผู้กล้าระดับเหนือสามัญหรือยอดฝีมือระดับมหากาพย์ได้เลยเหรอ?
เขาไม่ได้พูดอะไรอีกและได้มอบเค้กน้ำผึ้งโลหิตราชา 2 อันให้กับจ้าวฉางโจว
เค้กน้ำผึ้งโลหิตราชา 2 อันนี้เพียงพอแล้วที่จะทำให้จ้าวฉางโจวฟื้นคืนรูปลักษณ์และร่างกายกลับมาสู่ช่วงวัยเยาว์ได้ นอกจากนี้มันยังเพิ่มอายุขัยให้กับเขาได้อีก 10 ปี
มันถือว่าเป็นรางวัลสำหรับการที่จ้าวฉางโจวสร้างประตูชัยได้สำเร็จ
“ขอบคุณขอรับท่านลอร์ด!”
เมื่อจ้าวฉางโจวเห็นเอฟเฟกต์ของเค้กน้ำผึ้งโลหิตราชา เขาก็อึ้งไปในทันที จากนั้นเขาก็ซาบซึ้งมากจนเขาต้องคุกเข่าลงกับพื้น
โจวโจวรีบประคองเขาขึ้นมา
“ผู้อาวุโสจ้าว ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ก็ได้ ท่านพยายามอย่างหนักและคู่ควรแล้วที่จะได้รับรางวัลนี้”
เขาพูดอย่างจริงจัง
ในแง่ของคนที่ทำงานหนักที่สุดในดินแดน นอกจากเจิ้งหยวนฉีที่รับผิดชอบในกิจการงานต่างๆ ภายในดินแดนแล้ว มันก็คงจะเป็นคนที่อยู่ตรงหน้าของเขา – จ้าวฉางโจว
ไม่จำเป็นต้องพูดถึงอะไรอื่นเลย ผู้อาวุโสจ้าวรับผิดชอบในการวางแผนการก่อสร้างของทั้งเมืองตะวันสาดแสงเพียงลำพังและยังเตรียมการสำหรับแผนการก่อสร้างเมืองใหม่ที่ดำเนินการเมื่อไม่นานมานี้ด้วย
ทัศนคตินี้หมายความว่าเขาต้องการทำให้ดีที่สุดจนกว่าเขาจะตาย
อย่างไรก็ตาม โจวโจวก็ไม่อยากให้ผู้มีคุณูปการใหญ่เช่นนี้ต้องตายไปอย่างกะทันหันจากความเหนื่อยล้า ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องมอบเค้กน้ำผึ้งโลหิตราชาให้กับเขา
หลังจากนั้นโจวโจวและจ้าวฉางโจวก็คุยกันเกี่ยวกับแผนการก่อสร้าง ก่อนที่เขาจะเดินไปยังประตูอัญเชิญเพื่ออัญเชิญลูกน้องของวันนี้ออกมา
ข้อความแจ้งเตือนปรากฏขึ้น
[ท่านต้องการอัญเชิญหรือไม่?]
“ต้องการ!”
โจวโจวมองไปยังประตูอัญเชิญที่อยู่ตรงหน้าของเขา
อึดใจต่อมา ประตูอัญเชิญก็เปล่งแสงสีขาวเจิดจ้า จากนั้นก็มีลูกน้องจำนวนมากเดินออกมา
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ลูกน้องใหม่ 725 คนก็เดินออกมาจนครบ
“คาราวะท่านลอร์ด!” x725
ลูกน้องใหม่ 725 คนกล่าวแสดงความเคารพ
“ยินดีต้อนรับสู่เมืองตะวันสาดแสง”
โจวโจวกล่าว
จากนั้นเขาก็บอกให้ผู้เชี่ยวชาญทุกคนยืนขึ้นและพบว่าเขาได้รับผู้เชี่ยวชาญมาทั้งหมด 30 คน
ในจำนวนนี้ประกอบไปด้วยสถาปนิกระดับทองคำเหลืองขั้นกลาง 1 คน ช่างตีเหล็กระดับทองคำเหลืองขั้นกลาง 1 คน พ่อค้าระดับทองคำเหลืองขั้นกลาง 1 คน และช่างแกะสลักระดับทองคำเหลืองขั้นกลาง 1 คน!
นอกจากนี้ยังมีช่างตัดเสื้อระดับทองคำเหลืองขั้นต้น 3 คน ผู้ฝึกยุทธ์ระดับทองคำเหลืองขั้นต้น 2 คน และนักผจญภัยระดับทองคำเหลืองขั้นต้น 3 คน ส่วนที่เหลือก็เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับเงินขาว ระดับบรอนซ์เขียว และระดับเหล็กดำ
โจวโจวพยักหน้าเล็กน้อย
แม้ว่าเขาจะอัญเชิญผู้เชี่ยวชาญออกมาได้ไม่เท่าเมื่อวาน แต่มันก็ไม่ต่างกันนัก
ในเวลานั้นเอง แสงสว่างสายหนึ่งก็สว่างวาบขึ้นมาในระยะไกล
มันคือแสงจากค่ายกลข้ามมิตินั่นเอง
ไป่อี้และคนอื่นๆ กลับมาแล้ว
“ฉันสามารถทดสอบเอฟเฟกต์ของประตูชัยได้แล้ว”
หัวใจของโจวโจวเต้นผิดจังหวะ
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved