ตอนที่ 273 สงครามที่ร้อนระอุ

"ฮึ่ม ถ้าหาข้ารู้ตัวเร็วกว่านี้คงชิงขึ้นไปสังหารเขาก่อนแล้ว"

"แน่นอน ด้วยการที่เขาแข็งแกร่งขนาดนั้น ตัวเขาต้องมีทรัพยากรอยู่มากมายแน่ๆ"

"ชายคนนั้นโชคดีเป็นบ้า"

บนอัฒจันทร์ เหล่าราชันต่างให้ความสนใจกับการต่อสู้ภายในสนามต่อสู้ป่า

พวกเขารู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ไปยังสนามต่อสู้นั้นก่อนหน้านี้ ทำให้ถูกเจ้าราชันสัตว์ร้ายนั้นตัดหน้าไปซะได้

"ไม่ มันต้องมีเหตุผลซิ ถึงเขาจะได้รับก๊าซพิษเข้าไปแต่เขาก็ยังสามารถยอมแพ้ได้ แต่นี้ก็ผ่านมานานแล้วทำไมเขาถึงยังไม่ยอมแพ้กัน?"

ได้มีใครบ้างคนพูดขึ้น

หลังจากที่คำพูดเล่านั้นออกมา ราชันคนอื่นๆก็เหมือนจะรู้สึกตัวพวกเขานั้นเต็มไปด้วยความสงสัย

"ดูเหมือนมันจะเป็นแบบที่เจ้าว่านะ ก๊าซพิษของมังกรนั้นจะทรงพลังขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ?"

"มันเป็นไปไม่ได้ ข้าเคยเห็นเจ้ามังกรพิษของราชันสัตว์ร้ายคนนั้นมาแล้ว พิษนั้นมันต้องใช้เวลาออกฤทธิ์ประมาณครึ่งนาทีหากไม่ได้รับการรักษา"

ครึ่งนาทีนี่เพียงพอให้เขายอมแพ้

แม้ว่าคนที่อยู่ภายในก๊าซพิษนั้นจะโง่เขลาเพียงใด แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะไม่ยอมแพ้เมื่อพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับความตาย

แต่นี้เกินกว่า 2 นาทีเข้าไปแล้ว

หรือว่าเขาจะอาศัยสกิลรักษาพิษนั้นไปแล้ว?

"ดูนั้น ชายคนนั้นดูเหมือนจะเกิดอะไรบางอย่างที่ผิดปกติ!"

ทันใดนั้น ทันทีที่เสียงร้องของฝูงชนดังขึ้น มันก็ได้ขัดจังหวะการสนทนาของพวกเขา

ทุกคนเงยหน้าขึ้นมองไปบนท้องฟ้า ทันใดนั้นพวกเขาก็พบว่ามีบางอย่างผิดปกติ

พวกเขาเห็นว่าราชันสัตว์ร้ายนั้น ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงเอามือจับหน้าอกแน่น สั่นทะท้านอย่างรุนแรง ดวงตาของเขานั้นเบิกกว้างราวกับระฆังทองแดง

หน้าอกของเขาเริ่มขยายออกอย่างช้าๆ เขาดิ้นไปมา ราวกับมีบางอย่างกำลังจะระเบิดออกมาจากด้านใน

"ตูมม!"

ทันใดเลือดก็ได้สาดกระเด็นออกมาจากหน้าอกของเขาที่โดนระเบิด ราวกับเทพธิดาโลหิตกำลังโบยดอกไม้ ดอกแดนดิไลอัลโลหิตจำนวนมากต่างพอกันร่วงหล่นลงมา

"นี้มัน!!"

เหล่าราชันที่อยู่บนอัฒจันทร์ต่างตกตะลึง

แต่ละคนก้าวถอยหลัง ออกไปด้วยความตกใจ พวกเขาเอามือขึ้นมาจับหน้าอกโดนไม่รู้ตัว

ราวกับว่าร่างกายของพวกเขาจะถูกระเบิดออก

"นะ...นี้มันอะไรกันเนี่ย!?"

ราชันที่กำลังมองดูพูดด้วยเสียงที่สั่นเครือ

ในตอนนั้นเขาเกือบจะฉี่แตกออกมาแล้ว

โชคยังดีที่ตอนนี้ด้วยร่างกายของเขาที่พัฒนาจนแข็งแกร่งขึ้นแล้ว ทำให้การควบคุมบริเวณนั้นของเขาดีขึ้นเช่นกัน

ไม่อย่างนั้น เขาจะต้องกลายเป็นโง่งมต่อหน้าราชันคนอื่นอย่างแน่นอน

แต่ถึงอย่างนั้น

เท้าของเขาก็ยังคงยืนได้ไม่มั่นคง ใบหน้าของเขานั้นซีดขาว

ไม่มีทาง การตายด้วยระเบิดที่อยู่ในอกของเขานั้นน่ากลัวเกินไปแล้ว มันทำให้หัวใจของเขาอดจะสั่นไหวไม่ได้

ราชันคนอื่นนั้นก็มีสภาพไม่ต่างกัน

พวกเขาทั้งต่างจ้องมองไปยังซากศพที่ร่วงลงมาจากท้องฟ้าด้วยสีหน้าสยดสยอง

ตูมม!

ศพตกลงบนพื้น

หัวใจของพวกเขาถึงกับสั่นไหวอย่างรุนแรง

เมื่อมองไปยังชายขอบป่าอีกครั้ง ร่างที่ถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีเขียวก้ค่อยๆปรากฏตัวขึ้นมองไปยังซากศพตรงหน้า เขาคือ หลิน ยู นั้นเอง

แม้รูปลักษณ์ภายนอกจะดูอ่อนโยน แต่ในสายตาของเหล่าราชัน เขานั้นน่ากลัวยิ่งกว่าปิศาจซะอีก

ใช่แล้ว

ในตอนนั้นดอกแดนดิไลอัลโลหิตเหล่านั้น ได้ถูก หลิน ยู ควบแน่นด้วยพลังแห่งกฏ

ทหารอย่างดอกแดนดิไลอัลโลหิต นั้นมีโอกาศในการกลายพันธุ์ต่ำมาก

จนถึงตอนนี้ หลิน ยู ยังกลายพันธุ์มันออกมาได้เพียง 2 ครั้งเท่านั้น ซึ่งเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นถึงความหายากของทหารตัวนี้ ไม่น่าแปลกใจเลยทำไมราชันหลายคนถึงไม่เคยเห็นน

อย่างที่รู้กันดีว่านี้เป็นสกิลโจมตีของเผ่าพฤกษา

หลิน ยู ไม่คิดว่าพลังของ ดอกแดนดิไลอัลโลหิต ที่มีบัพพลัง 20% ของชิ้นส่วนเทวะจะแข็งแกร่งขึ้นถึงขนาดทำลายการป้องกันของศัตรูได้โดยตรง

ไม่อย่างนั้น ตอนนี้เขาคงจะกำลังยุ่งอยู่กับจัดการก๊าซพิษ ตัวเขานั้นได้พึ่งพาพลังแห่งกฏและสกิลรักษาจากหลิงซีในการต้านทาน

แต่เขายังพกพาสมบัติต้านทานการโจมตีติดตัวมาอีกด้วย

"ดูเหมือนว่าเราจะอยู่ที่นี้ได้เพียงเท่านี้ซินะ"

เมื่อเห็นว่าสนามต่อสู้ทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยก๊าซพิษ หลิน ยู ก็รู้ว่าเขาไม่สามารถอยู่ที่นี้ได้อีกต่อไป

ดีแล้ว เขาจะได้ใช้โอกาสนี้ในการฟื้นฟูตัวเองและหลิง ซี ก็เช่นกัน

ยังไงซะเขาก็ยังมีโอกาสอีกหนึ่งครั้ง ในการสู้ใหม่

หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาก็เลือกเทเลพอร์ตออกจากสนามต่อสู้ทันทีและหายตัวไปจากสายตาของทุกคน ทำให้เหล่าราชันที่ให้ความสนใจเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของเขาถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

......

"ทำไมเจ้าไม่ขึ้นไปตอนนั้นละ"

ณ จุดสูงสุดบริเวณชายขอบของสังเวียน ด้านบนอัฒจันทร์ของ โลกนิรันดร์

ชายหนุ่มผู้ไม่สนโลกอยู่ในเสื้อชุดคลุมถามด้วยเสียงที่แผ่วเบากับสหายของเขา

"จะขึ้นไปทำไมกัน ปล่อยให้พวกลิงมันเล่นกันไปก่อน"

สหายของเขาเหยียดหยามผู้คนที่อยู่ด้านล่าง

โลกนิรันดร์เป็นหนึ่งในโลกอันยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาหมื่นโลก ทรัพยากรของพวกเขาไม่อาจเอาโลกเล็กๆเหล่านี้มาเทียบกันได้

อาณาจักรลับขนาดใหญ่นี้ มันยังถึงไม่จุดที่พวกเขาจะเคลื่อนไหว

จินเป่า ไม่ได้พูดอีก

ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขามองไปยังสถานที่ๆ หลิน ยู เคยอยู่ด้วยสายตาที่เคร่งขรึม

"บางทีพวกเราอาจมีโอกาสได้พบกันอีกครั้งในสงครามหมื่นโลก"

เขาพึมพำออกมา ถอนสายตามองไปยังสนามต่อสู้โดยรอบที่กำลังต่อสู้กันอยู่

......

อีกด้านหนึ่ง

หลิน ยู ซึ่งถูกเทเลพอร์ตกลับมายังอัฒจันทร์ ถูก หยาน ลี่ และ ซือถู เจี้ยน ล้อมรอบทันที

"เอาล่ะ! น้องหลิน แม้แต่เจ้าคนเถื่อนมานชาน ก็ยังแพ้ให้กับเจ้า"

หยาน ลี่ กล่างออกมาด้วยรอยยิ้มที่เต็มใบหน้าของเขา

"ตอนนั้นถึงข้าจะไม่ได้เห็นการต่อสู้ด้วยตัวเอง แต่เขาก็ยังได้ยินพวกเขาพูด ข้าไม่ได้คิดว่าแม้แต่ มานชาน ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้า"

ซือถู เจี้ยน มองไปยังหลิน ยู ด้วยความประหลาดใจ

แม้ว่าครั้งนี้เขาจะชนะไปได้มากถึง 7 คนซึ่งมากกว่าหลิน ยู

แต่เมื่อเทียบกับความแข็งแกร่งของ หลิน ยู แล้ว คู่ต่อสู้ของเขาค่อนข้างอ่อนแอเมื่อเทียบกัน

สุดท้ายแล้ว มานชาน นั้นเป็นราชันในระดับเดียวกันกับพวกเขา และถึงแม้ว่าพวกเขาจะทุ่มกำลังทั้งหมด แต่เขาก็อาจจะทำได้เพียงเสมอกับมานชาน

สุดท้ายแล้ว มานชานนั้นได้พ่ายแพ้ให้กับ หลิน ยู ในการต่อสู้ตัวต่อตัว

คงพอจะนึกออกว่าตอนนี้เขานั้นตกใจแค่ไหน

หลิน ยู คนนี้ไม่เพียงแต่มีทหารที่แข็งแกร่ง แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังแข็งแกร่งด้วยเช่นกัน

ราชันแบบนี้ ราชันในระดับเดียวที่ถูกเขาสังหารมีกี่คนกัน?

"ว่าแต่ เกิดอะไรกับขึ้นดอกแดนดิไลอัลโลหิตที่เจ้าใช้ออกมาในตอนท้าย?"

ในเวลานั้น หยาน ลี่ ก็ถามขึ้น

แม้ว่าการเอาชนะ คนเถื่อนมานชาน จะทำให้เขาตกใจมาก แต่ ดอกแดนดิไลอัลโลหิต ที่เขาใช้ออกมาครั้งสุดท้ายนั้นทำให้เขาสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

ราชันคนอื่นๆที่อยู่ใกล้ๆ ต่างเยื่อนหูเข้ามาเมื่อได้ยินคำถามของเขาไม่กล้าที่จะเข้าใกล้

ใช่แล้ว เพราะภาพที่ปรากฏเมื่อกี้มันน่ากลัวเกินไป

ไม่มีใครอยากให้อะไรโผล่ออกมาจากร่างกายอย่างกระทันหันแล้วระเบิดออก

มันจะเป็นการดีกว่าหากจะสังหารพวกเขาทิ้งไป

อย่างไรก็ตาม หยาน ลี่ นั้นเป็นคนตรงไปตรงมา ซะจนถามถึงสกิลที่ใช้ของทหารคนอื่นได้โดยตรง

หากเป็นคนอื่นคาดว่าเขาคงจะเก็บเป็นความลับไม่กล้าที่จะถามมันออกมาง่ายๆ

หลิน ยู ก็ไม่ได้รังเกียจ เข้ายิ้มและพูดออกมา "ลืมไปแล้วหรอ ทหารของฉันน่ะ แตกต่างจากทหารตัวอื่นๆนิดหน่อย"

เขาไม่ได้พูดมันออกมาอย่างชัดเจน แต่ให้คำตอบที่คลุมเครือ

แม้ว่า หยาน ลี่ จะเป็นคนตรงๆ แต่เขานั้นก็ไม่ได้โง่ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ถามอะไรอีกต่อไป

จากนั้นราชันบางคนก็ได้มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการต่อสู้บนอัฒจันทร์และวิเคราะสถานการณ์

ผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมงนับตั้งแต่อาณาจักรลับเปิดขึ้น

ราชันแห่งโลกดึกดำบรรพ์ทุกคนได้ลงไปสู้มาแล้วหนึ่งครั้ง

ส่วนราชันผู้แข็งแกร่งบางคนได้ออกไปต่อสู้มา่แล้วถึงสองครั้ง

มีเพียงสองสามคนเท่านั้นที่ถูกสังหารก่อนที่จะยอมแพ้

"ข้าเพิ่งไปดูมา ยกเว้นเพียงไม่กี่คนในโลกเท่านั้น ส่วนใหญ่จะมีราชันประมาณ 50 คนในแต่ละโลก"

"แต้มปัจจุบันของพวกเราคือ 51 แต้ม มันเป็นค่าเฉลี่ยเท่ากับชนะคนละ 1 เกม ซึ่งยังน้อยเกินไป"

การแสดงออกของซือถู เจี้ยน กลายเป็นเคร่งขรึม เขาไปยังรอบๆ

เขาเห็นคะแนน กำกับไว้เหนืยอัฒจันทร์ของแต่ละโลก

คะแนนของพวกเขามีหนึ่งหลักถึงสองหลัก

มีหลายโลกที่มีคะแนนมากถึง 70-80 แต้ม

หากยังเป็นแบบนี้ต่อไป โลกดึกดำบรรพ์ของเขาคงพลาดที่จะติดหนึ่งในสิบอันดับแรกและพลาดรางวัลแห่งอาณาจักรลับ

"แล้วพวกเราควรทำยังไงกันดี คนที่สามารถอยู่ภายในสนามต่อสู้นั้นโดยพื้นฐานแล้วไม่มีใครเป็นคนอ่อนแอ ถ้าเพียงสังหารหนึ่งหรือสองคนนั้นยังพอไหว แต่ถ้ามากกว่านั้นพวกเราคงจะทนไม่ไหว"

ซือถู เจี้ยน ชำเลืองมองเขาอย่างดูถูก

หยาน ลี่ สูดลมหายใจเข้า ในหน้าของเขากลายเป็นแดงก่ำทันที "ต้องให้ข้าพูดหรือไม่! หากไม่ใช่เพราะเจ้าต้องการจะพิสูจน์ตัวเอง ข้าคงจะสังหารได้มากกว่านี้!"

"เอาละ เอาละ ข้าผิดเอง ข้าผิดเอง"

ซือถู เจี้ยน ยิ้มออกมาอย่างเจื่อนๆ

ตอนนั้นเป็นเพราะเขาจริงๆ

"มันไม่สำคัญหรอก" หลิน ยู ยักไหล่ขึ้น "สุดท้ายแล้วโลกมากมายต่างต่อสู้ร่วมกัน มันไม่ง่ายเลยที่จะติดหนึ่งในสิบอันดับแรก พวกเราแค่ก็ทำให้ดีที่สุดก็พอ"

สำหรับ หลิน ยู การเดินทางมายังอาณาจักรลับในครั้งนี้มันคุ้มค่ามากแล้ว

หากจะเปรียบเทียบ

สมบัติเหล่านั้นและของอื่นๆ ดูเหมือนจะมีความสำคัญเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

เขาต้องการฝึกฝนตัวเองผ่านการต่อสู้ และฝึกควบคุมพลังแห่งกฏซึ่งมันจะคอยช่วยเหลือเขาในอนาคต

[ราชันทุกท่านโปรดทราบ เหลือเวลาอีกเพียง 2 ชั่วโมงก่อนที่พิธีบูชายัญจะสิ้นสุดลง]

[รางวัลสำหรับการจัดอันดับในแต่ละส่วนจะประกาศต่อจากนี้...]

ทันใดนั้นก็มีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นทั่วทั้งอาณาจักรลับ

ราชันจากทั่วทุกมุมโลกที่เฝ้าดูการต่อสู้ ถูกดึงดูดโดยม่านแสงขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นเหนือลานประลองในทันที

สำหรับลำดับ 10 อันแรก แต่ละคนได้จะรับวัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพระดับ SSS และแก่นแท้ดินแดนระดับ 7 10 อัน

สำหรับ 20 อันดับแรก แต่ละคนได้รับวัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพระดับ SS และแก่นแท้ดินแดนระดับ 7 9 อัน

และอื่นๆ

เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

หลิน ยู รู้สึกร้อนผ่าวที่ใบหน้าของเขา

ในตอนที่เขาบอกไม่ได้สนใจเรื่องของรางวัลนั้น จู่ๆรายการของรางวัลก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า

รางวัลสิบอันดับสูงสุด

เขาจะได้รับวัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพระดับ SSS และแก่นแท้ดินแดนระดับ 7 10 อัน

ทุกคนภายในโลกจะได้รับมัน

ทันใดนั้น

บรรยากาศทั่วทั้งอัฒจันทร์ก็เริ่มร้อนระอุ

แม้ว่าเขาพวกเขาจะไม่สามารถเข้าสู่สิบอันดับแรกได้แต่เขาก็ยังสามารถเข้าสู่ 30 อันดับแรกได้ มันยังทำให้เขาได้รับวัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพระดับ S และแก่นแท้ดินแดน

ยิ่งไปกว่านั้น นี้การต่อสู้ที่สามารถยอมแพ้ได้

"ดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้ซินะที่จะไม่ต่อสู้"

ซือถู เจี้ยน พูดเสียงต่ำออกมา

แม้แต่เขาก็ไม่สามารถต้านทานการล่อลวงของวัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพระดับ SSS ได้

รวมไปถึงแก่นแท้ดินแดนระดับ 7 10 อันที่ทำให้สามารถอัพเกรดทหารระดับ 8 ได้ถึง 1 ตัว

แม้ว่ามันจะดูไม่ค่อยสำหรับสำหรับเขาที่กำลังจะอัพเกรดเป็นระดับ 8 แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเป็นทรัพยากรที่ค่ามากจริงๆ

"เอาละ! งั้นสงสัยข้าต้องไปล่ามาซักสองสามแต้มแล้วละ"

หยาน ลี่ ยืนขึ้นทันที เดินเข้าไปยังประตูมิติ

"ข้าไปด้วย"

"นับข้าด้วย"

"ไปกันเถอะ! ต้องชนะเพียงแค่สองสามรอบเท่านั้น!"

เหล่าราชันต่างกู่ร้องออกมามุ่งหน้าเข้าไปยังสนามต่อสู้

เช่นเดียวกับราชันจากโลกต่างๆ พวกเขาทั้งหมดรู้สึกลุ่มร้อน

หลิน ยู ไม่ได้พูดอะไรมากนั้น การแสดงออกของเขาเปลี่ยนไปในทันที

หลังจากฟื้นฟูกลับมาสมบูรณ์อีกครั้งที่บนอัฒจันทร์ เขาก็ลุกขึ้นมองหาโอกาศที่จะเทเลพอร์ตไปยังสนามต่อสู้ป่า

เขาเอื้อมมือออกไป เงาดำขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้น