บทที่ 36 สิ่งของจำเป็นเร่งด่วน
ทั้งครอบครัวกำลังนั่งรอบโต๊ะกินข้าง เฉินฟานยื่นตะเกียบออกไปคีบชิ้นเนื้อขึ้นมาเคี้ยวอย่างแรง
“เนื้อวัวงั้นเหรอ?”
เขาประหลาดใจ
"ใช่ มันเป็นเนื้อวัว"
เฉินกัวตงอธิบายว่า "เนื้อของวัวป่าตัวนั้นถูกฝูงหมาป่ากินหายเยอะและเหลือน้อยกว่าหนึ่งร้อยจิน ทำให้ครอบครัวของเราได้รับเพิ่มอีกเล็กน้อยประมาณสี่หรือห้าจิน"
สำหรับเนื้อหมาป่าพวกนั้น ข้าวางแผนที่จะทำไส้กรอกด้วยลำไส้ของหมาป่าซึ่งถือได้ว่าเป็นรสชาติที่ยอดเยี่ยม
“ข้ายังแล่เนื้อหมาป่าได้หลายสิบชิ้น และเมื่อรวมกับเนื้อวัวป่าที่พวกเจ้านำกลับมาเมื่อวานนี้ น่าจะได้ประมาณว่าจะเป็นหลายร้อยชิ้น” ดวงตาของผู้หญิงยี่ลงด้วยรอยยิ้ม
หลายปีที่ผ่านมาไม่มีวันไหนที่เหมือนกับวันนี้ พวกเขามีในเนื้อที่เก็บไว้มากมาย มันเพียงพอให้ครอบครัวของพวกเขากินได้เป็นเดือน
“อย่างนั้นเหรอ?”
เฉินฟานก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเช่นกัน จากมุมมองนี้ในระยะสั้นนี้ พวกเขาไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับอาหาร แต่การออกล่าก็ยังต้องดำเนินต่อไป เพราะพกวเขาไม่สามารถนั่งนอนกินได้
หลังจากกลืนเนื้อไปแล้ว ข้อความก็ปรากฏขึ้นในใจของเขา
"แต้มศักยภาพ +0.2"
“อย่างที่คาดไว้สำหรับเนื้อวัวหนึ่งชิ้นเทียบได้กับเนื้อกระต่ายสองชิ้น” เขาคิดอยู่ในใจแล้วหยิบชิ้นที่สองขึ้นมาใส่ปากแล้วชิมอย่างระมัดระวัง
เฉินกัวตงและภรรยาของเขาก็เริ่มรับประทานอาหารด้วย
ขณะรับประทานอาหาร จู่ๆ ผู้เป็นแม่ก็พูดขึ้นมาว่า "กัวตง ข้าวที่บ้านใกล้จะหมดแล้ว และเกลือในโถกำลังจะหมดเหมือนนกัน ท่านน่าจะนำเนื้อไปแลกเปลี่ยนที่ซงเจียเป่าบ้างนะ"
เฉินกัวตงหยุดตะเกียบแล้วพยักหน้าแล้วพูดว่า "อืม ข้าจะหาเวลาไปแลกเปลี่ยน"
หูของเฉินฟานขยับเล็กน้อย และความทรงจำบางอย่างในใจของเขาค่อย ๆ ปรากฏขึ้น
หมู่บ้านซงเจียเป่าแห่งนี้ก็เหมือนกับหมู่บ้านจ้างเจียเป่า มันเป็นหมู่บ้านที่มีค่อนข้างใหญ่โดยมีจำนวนคนหนึ่งหรือสองพันคน กล่าวกันว่าผู้นำของหมู่บ้านนี้มีความเกี่ยวข้องกับเมืองอันซานซึ่งอยู่ห่างออกไปร้อยกิโลเมตร ทำให้พวกเขามีสิ่งของซื้อขายจำเป็นในชีวิตประจำวันอันมีค่ามากมาย เช่น เส้นหมี่ ธัญพืชและน้ำมัน เกลือ บุหรี่และชา แม้แต่ยาและอาวุธก็ยังมี
ดูเหมือนว่าปืนและกระสุนปืนจะมีให้บริการอีกด้วย แต่มันมีราคาแพงมาก
ในหมู่บ้านเล็กๆ บางแห่ง พวกเขาสามารถนำสิ่งของแลกเปลี่ยนทั้งเครื่องประดับ เงินและทอง เนื้อสัตว์ และสิ่งอื่นๆ เพื่อแลกเปลี่ยนกับสิ่งที่เขาต้องการได้ ข้าได้ยินมาว่าบางหมู่บ้านยังนำผู้หญิงและเด็กไปแลกเปลี่ยนอีกด้วย
แน่นอนว่าพวกเขาไม่อนุญาตให้เข้าไปอย่างง่าย ดังนั้นพวกเขาจึงได้มีการกำหนดพื้นที่พิเศษไว้ด้านหน้าหมู่บ้านเพื่อความสะดวกและง่ายดาย และหากเจ้าต้องการตั้งแผงขายของ เจ้าก็จะต้องเสียค่าธรรมเนียมแผงขายของ และอีกฝ่ายจะรับประกันความปลอดภัยส่วนบุคคลของเจ้าให้
ดังนั้นชื่อเสียงของซงเจียเป่า ในพื้นที่นี้จึงยิ่งใหญ่กว่าชื่อเสียงของจ้าวเจียเป่ามาก
“พ่อ ซงเจียเป่าอยู่ไกลไหม?”
เขาถามอย่างสงสัย
"ค่อนข้างไกลนะ"
เฉินกัวตงคิดอยู่ครู่หนึ่ง "ประมาณ 15 กิโลเมตร ไปกลับ 30 กิโลเมตร ถ้าเจ้าต้องการไปควรเริ่มตอนบ่ายสามหรือสี่โมงดีที่สุด เพราะถ้าเจ้าล่าช้าไปมากเกินไป และการกลับมาตอนมืดค่ำมันอันตรายอย่างมาก”
ผู้หญิงคนนั้นเงียบเมื่อได้ยินคำพูดของเขา
แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะถ้าไม่มีข้าวก็จะพอกินเนื้อปะทังไปได้ แต่ถ้าไม่มีเกลือสถานการณ์การกินก็จะร้ายแรงมาก และถ้าต้องกินเนื้อเป็นเดือนโดยไม่มีข้าวมันก็ยากจะกลืนลงคอเช่นกัน
“นั่นมันอันตรายมากไม่ใช่เหรอ?”
เฉินฟานซินเงยคอขึ้น
"มันก็อันตรายตามปกติแหล่ะ"
เฉินกัวตงยิ้มอย่างเบี้ยว “ในโลกนี้แม้ว่าจะมีอาหารเพียงพอ แต่การอยู่ในหมู่บ้านและไม่ออกไปข้างนอกก็เป็นอันตรายเช่นกัน ทุกอย่างมันก็มีความเสี่ยงอยู่ในตัว”
“เมื่อถึงเวลานั้นข้าจะไปกับท่าน” เฉินฟานคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวขึ้น
“นี่..เจ้าไม่ต้องไปก็ได้”
เฉินกัวตงลังเลอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า "ข้าแค่ไปแลกเปลี่ยนสิ่งของ ไม่ใช่ไปล่าสัตว์และมันก็ไม่น่าจะมีอันตรายมากมายอย่างที่คิด และพวกข้าก็มีประสบการณ์ในเรื่องนี้ด้วย จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก!"
“ใช่ เสี่ยวฟาน”
ผู้หญิงคนนั้นก็พยักหน้าเช่นกัน
“พ่อครับ ข้าแค่อยากจะไปเห็นมันด้วยตาตัวเอง” เฉินฟานยิ้มและพูดออกมา
และอีกอย่างหนึ่ง ใจของผู้คนเรามันคาดเดาไม่ได้ ปัญหาเรื่องสัตว์อสูรระหว่างทางไม่น่าเป็นกังวลเพราะพวกเขาทำหลายครั้งแล้ว แต่ถ้าเป็นปัญหาเกี่ยวกับคนนี้ยากที่จะพูด
ในตอนแรกในหมู่บ้านเคยใช้เครื่องประดับ ทองและเงินเพื่อแลกเปลี่ยน ข้าวสารสองสามสอบ เกลือหนึ่งสอบ ฯลฯ แล้วของเหล่านั้นก็ยังพอซ่อนไว้ได้และถึงแม้จะเห็นคนเห็นก็ตาม จะได้ไม่ได้ดึงดูความสนใจมากเกินไป
แต่เวลานี้แตกต่างออกไป ทุกคนใช้เหยื่อในการแลกเปลี่ยน เนื้อสัตว์หลายสิบชนิดที่พ่อของเขาบอก และปกติเนื้อสัตว์หนึ่งชิ้นใหญ่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นข้าวได้สองหรือสามถ้วย แต่ถ้าสำหรับคนสิบคนข้าวก็ต้องหลายร้อยถ้วย แต่พวกเขามีคนร้อยกว่าคนทั้งเนื้อจำนวนมากที่ต้องขนไปและข้าวจำนวนมากที่ต้องขนมา ยากที่จะไม่ดึงดูดความสนใจของผู้คนได้ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่โลกเป็นเช่นนี้
ในกรณีนี้เมื่อมีเขาอยู่ด้วย เขาสามารถช่วยได้หากตกพวกเขาอยู่ในอันตราย
ส่วนสาเหตุที่ข้าวสารมีราคาแพงมากก็เพราะว่าข้าวและข้าวสาลีในอดีตกลายพันธุ์ไปจนไม่สามารถออกร่างได้ แม้ว่าจะพบสิ่งของอย่างอื่นทดแทน แต่ราคาของเมล็ดพันธุ์ก็สูงมากเช่นกัน และหมู่บ้านเล็กๆ ก็ไม่สามารถหาซื้อได้
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือถ้าปลูกนอกเมืองในตอนกลางวันก็ไม่เป็นไร แต่มันจะดึงดูดสัตว์อสูรในเวลากลางคืนได้อย่างแน่นอนดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะปลูก
ดังนั้นข้าวจึงของหายากทำให้มีราคาแพงมาก และบางคนจงใจควบคุมมันทำให้เกิดสถานการณ์เช่นนี้ขึ้น
นอกจากนี้เขาก็อยากจะไปเห็นมันจริงๆ
“เอาล่ะ รอสักสองวันก็จะมีเหยื่อเพิ่มอีก เวลานั้นเจ้าก็ค่อยออกเดินทางพร้อมกับพวกเรา”
เฉินกัวตงยังรู้สึกว่าสิ่งที่เฉินฟานพูดนั้นสมเหตุสมผลมาก ในใจของเขานั้นหากเฉินฟานต้องการนำพาทุกคนไปสู่การใช้ชีวิตที่ดีขึ้น เขาก็ต้องสัมผัสกับสิ่งเหล่านี้ด้วย
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าควรใส่ใจเรื่องความปลอดภัย” หัวใจของผู้หญิงกระตุกอีกครั้ง
“ไม่ต้องห่วงครับแม่ พ่อเพิ่งบอกว่ามันจะไม่เป็นอันตรายมากไม่ใช่เหรอ?” เฉินฟานกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ใช่ ไม่ต้องกังวล จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น พวกไม่ใช่เคยทำแค่ครั้งเดียวหรือสองครั้ง”
เฉินกัวตงก็ปลอบใจเขาเช่นกัน
เขาไม่คิดว่าเฉินฟานจะตามไปด้วยเช่นนี้ แต่จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าทริปนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิดจริงๆ
เขาจะทำอย่างไรหากมีบางอย่างเกิดขึ้น?
หลังจากมื้ออาหารที่พวกเขาดื่นกินกันราวกับพายุ ครอบครัวทั้งสี่คนก็กินเนื้อทั้งหม้อจนหมด
เฉินฟานกินเนื้อประมาณสองจานด้วยตัวคนเดียว และพุงของเขาก็กลมปริ้นออกมา หลังจากย้ายมิติมาที่นี่ได้สองสามวันในที่สุดเขาก็ได้กินอิ่มสักครั้ง ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ไม่เพียงแค่นั้นแต้มศักยภาพของเขายังเพิ่มขึ้นจาก 6 เป็น 28 แต้มแล้วอีกด้วย มันสามารถเพิ่มระดับของเขาได้ถึง 2 ระดับเลยทีเดียว
“ยังมีเวลาอีกสองหรือสามวัน เป็นการดีที่สุดที่จะไปถึงระดับที่สามของขอบเขตการชำระล้างร่างกาย หากเป็นไปไม่ได้ขอบเขตการชำระล้างร่างกายระดับที่สองก็น่าจะพอ”
เขาแอบคิดว่าถ้าเขาไปถึงระดับที่สามของขอบเขตการชำระล้างร่างกาย เขาจะสามารถใช้คันธนูที่มีแรงน้าวสองร้อยปอนด์ ด้วยระยะหวังที่มากถึง 200-300 เมตร และระยะยิงที่ 500 เมตร ไม่ว่าจะเป็นการเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรหรือถูกมุ่งร้ายจากผู้คน ด้วยธนูอันแข็งแกร่งในมือของเขา ความน่าจะเป็นที่ทีมจะล่าถอยออกมาโดยไม่ได้รับบาดเจ็บนั้นสูงกว่ามาก และหลังจากนั้นเขายังสามารถไปยัง "เขตอันตราย" ที่ลุงหลิวและคนอื่นๆเรียกว่า "โซนอันตราย" ได้"
สำหรับขอบเขตการชำระล้างร่างกายระดับที่สอง เขายังสามารถใช้ธนูที่มีแรงน้าวหนึ่งร้อยจินได้เท่านั้น แน่นอนว่าระยะหวังผลประมาณ 200 เมตรก็ไม่เลวเลย มันมากเกินพอที่จะจัดการกับคนธรรมดาและสัตว์อสูรระดับกลางบางตัวได้
นอกจากนี้ มันจะเป็นการดีที่สุดที่จะเพิ่มระดับของทักษะ [การยิงธนูขั้นพื้นฐาน] ขึ้นหนึ่งระดับ เพราะสำหรับคุณสมบัติการยิงเป้าเคลื่อนที่ของระดับ 3 ที่มีอัตราการยิงโดนเป้ายังไม่ถึง 100% นั้นควรเพิ่มเป็นระดับ 4 อย่างมาก เพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะยิงโดนเป้าได้มากที่สุด
กล่าวโดยสรุปแล้ว ข้าหวังว่าทุกอย่างจะปลอดภัย แต่เขาก็ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุฉุกเฉินด้วยเช่นกัน
“พ่อ ข้าต้องไปฝึกศิลปะการต่อสู้กับลุงจางแล้ว”
"อา?"
เฉินกัวตงตกตะลึงจากนั้นเขาเงยหน้าขึ้น และไม่มีร่องรอยของเฉินฟานอยู่ตรงหน้าเขาอีกต่อไป
“เจ้าเด็กคนนี้นี่...”
มีรอยยิ้มเบี้ยวปรากฏบนใบหน้าของเขา
“เขายังฝึกหนักเช่นเคย”
ผู้หญิงคนนั้ก็มีสีหน้าลำบากใจเช่นกัน
"ใช่"
เฉินกัวตงถอนหายใจออกมา และไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่าทั้งหมู่บ้านตอนนี้ต้องพึ่งพาทักษะการยิงธนูของเฉินฟานในการดำรงชีพ
แม้ว่าจะเป็นเขาก็เหมือนกัน
เฉินฟานกำลังเดินอยู่บนถนนสีหลือง โดยมองไปที่แผงคุณสมบัติของเขา
ค่าความแข็งแรง 18.51 เกือบ 20 แต้มแล้ว
เพราะเดิมทีเขาวางแผนที่จะใช้มันเมื่อเพื่อเพิ่มระดับตามสถานการณ์เร่งด่วน แต่ตอนนี้เขากำลังพิจารณาว่าจะเสริมความแข็งแรงก่อนเลยดีไหม?
เพราะหลังจากคุณสมบัติความแข็งแรงถึง 20 แต้มแล้ว เขาจะสามารถใช้ธนูหนึ่งร้อยปอนด์แบบเป็นปกติได้ และถ้าฝึกยิงธนูด้วยธนูนี้ ความเชี่ยวชาญของเขาก็จะเพิ่มเร็วขึ้นอย่างมากด้วยไม่ใช่เหรอ?
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved