ตอนที่ 31 - บทที่ 31 ตลบหลัง!

บทที่ 31 ตลบหลัง!

“เดี๋ยวก่อน พวกมันมาแล้ว!”

ในเวลานี้มีเสียงอุทานดังขึ้น และทุกคนก็รีบมองไปอย่างรวดเร็ว เงาสีดำหลายเงาค่อยๆ ปรากฏขึ้นห่างออกไปหลายร้อยเมตร และพวกมันก็เข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดพวกมันก็มารวมตัวกับหมาป่าคลั่งทั้งสองตัวนี้

"หนึ่งสองสาม…"

ชายหัวโล้นเหล่ตาและนับจำนวนพวกมัน "สิบเอ็ด บวกสองตัวก่อนหน้า รวมเป็นสิบเอ็ด"

หัวใจของทุกคนจมลง จริงๆ แล้วพวกเขาไม่จำเป็นต้องให้เขาบอก พวกเขาก็สามารถมองเห็นได้

“ให้ตายเถอะ มันจะไม่มากเกินไปหน่อยเหรอ?”

มีคนถ่มน้ำลายลงบนพื้นและสาปแช่งออกมา

“ใช่ ถ้ามีเจ็ดหรือแปดตัวเราก็ยังพอรับมือได้แม้จะตึงมือ แต่สิบเอ็ดตัวที่มาพร้อมกันอย่างนี้ค่อนข้างยุ่งยากนิดหน่อยแล้ว ถ้าเรากำจัดสองตัวนั้นได้ก่อนหน้านี้ ความกดดันก็จะน้อยลงอย่างมาก”

“เมื่อกี้เสี่ยวฟานก็กำลังจะทำเช่นนั้น เจ้าไม่เห็นเหรอ แต่สัตว์อสูรทั้งสองตัวนั้นฉลาดมาก”

“แล้วตอนนี้เราจะทำอย่างไรกันดี?”

สายตาหลายคู่จับจ้องไปที่เฉินกัวตง

เฉินฟานเองก็แอบเหงื่อตกเช่นกัน

ถิ่นทุรกันดารนี้อันตรายจริงๆ ถ้าเขาอยู่คนเดียวถ้าเจอคนหมาป่าฝูงนี้แม้แต่กระดูกของเขาก็คงไม่เหลือ เมื่อคิดถึงสิ่งนี้เขาก็กำธนูยาวในมือแน่น และฝ่ามือของเขาก็มีเหงื่อซึมออกมา

"ช่างมันเถอะ โยนเหยื่อให้พวกมันไป เผื่อจะล่อพวกมันได้บ้าง"

เฉินกัวตงถอนหายใจออกมาแล้วพูดขึ้น

ทำให้พวกเขาบางคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ก็มีไม่น้อยที่ยังไม่ยอมแพ้

“กัวตง มันเป็นแค่สัตว์อสุรระดับต่ำหลายสิบตัวเท่านั้น เจ้ากลัวอะไร” ชายวัยกลางคนที่ถือหอกสั้นพูดด้วยเสียงอันดังว่า "หากพวกมันโจมตีเราจริงๆ อย่างน้อยๆก่อนที่มันจะเข้ามาถึงตัวของพวกเรา เราก็น่าจะสามารถขวางหอกสำรองฆ่ามันได้สักสองสามตัวก่อน”

“ใช่แล้ว กัวตง เจ้าก็เห็นได้ว่าพวกมันก็กลัวเราเช่นกัน และไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามเลย”

“กัวตง ถ้าวัวตัวนี้ถูกนำกลับไป มันก็จะเพียงพอให้คนทั้งหมู่บ้านกินได้หลายวัน!”

“เกาหยาง ข้าเข้าใจสิ่งที่เจ้าหมายถึง”

เฉินกัวตงมองไปที่ชายที่ถือหอกสั้น "แม้ว่าจะสามารถฆ่ามันได้สองหรือสามตัว แต่ก็ยังมีแปดหรือเก้าตัว ในกรณีนี้หมายถึงเราจะเผชิญหน้าตัวต่อตัวกับพวกมัน แล้วเจ้ารับประกันได้ไหมว่าจะไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ?"

เกาหยางผงะไป

“จะเป็นอย่างไรหากใครถูกหมาป่าคลั่งเหล่านี้กัด ลืมไปหรือเปล่าว่าคนที่เคยบาดเจ็บมาก่อนนั้นได้ตายไปแล้ว....”

เฉินกัวตงทนไม่ไหวที่จะพูดต่อ

"ตาเฒ่าเกา ฟังกัวตงเถอะ"

ชายหัวล้านตบไหล่เขา “เราเหลือคนไม่มากในหมู่บ้าน ดังนั้นเราจะเสี่ยงไม่ได้อีแล้ว”

แม้ว่าเกาหยางจะไม่เต็มใจ แต่เขาก็ยังเลือกที่จะยอมรับและเก็บหอกสั้นเข้าไป

อารมณ์ของฝูงชนก็ตกต่ำลง และในที่สุดพวกเขาก็ต่อเหยื่อ แต่พวกเขาก็อยากจะระบายมันออกมาสักเล็กน้อย

เฉินฟานมองดูหมาป่าในระยะไกล แต่ความคิดที่กล้าหาญก็ผุดขึ้นมาในใจของเขา

หลังจากโยนวัวป่าที่ทิ้งอย่างไม่เต็มใจ ทีมล่าก็จากไปอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่ามีคนหยิบเนื้อดีๆ สองสามชิ้นไปด้วย และเฉินกัวตงก็ไม่ว่าอะไรเช่นกัน

หลังจากที่เห็นร่างของพวกเขาค่อยๆหายไป หมาป่าคลั่งมากกว่าสิบตัวก็เข้ามาใกล้ที่นี่อย่างช้าๆ

ในหมู่พวกมันมีหมาป่าสองหรือสามตัวเป็นกลุ่มแรกที่เริ่มแทะวัวป่า และชิ้นเนื้อที่ผสมกับเลือดจำนวนมากถูกพวกมันกลืนกินลงไป

ในไม่ช้าหมาป่าตัวอื่นก็เข้าร่วมวงด้วย พวกมันกลืนกินทีละชิ้นๆ และเสียงกระดูกถูกเคี้ยวก็ออกมาจากปากของพวกมันเป็นครั้งคราว

หลังจากพวกมันกลืนลงคอแล้วก็ลืมยกคอและหอนออกมาสองสามครั้ง

พวกมันไม่รู้ว่ากลุ่มคนที่จากไปก่อนหน้านี้กำลังเดินเข้ามาที่นี่พร้อมกับงอเอวและเดินเข้ามาทีละก้าวอย่างช้าๆ

ห้าร้อยเมตร สี่ร้อยเมตร สามร้อยเมตร…

“เสี่ยวฟาน”

ชายหัวโล้นเดินไปข้างหน้าและอดไม่ได้ที่จะพูดว่า "แม้ว่าเราจะกลับมา มันก็ไร้ประโยชน์ ด้วยความเร็วของสัตว์อสูรเหล่านั้น เนื้อสองร้อยจินนั้นตอนนี้มันจะเหลือสักร้อยจินหรือป่าวก็ไม่รู้”

คนอื่นๆ ก็มีความรู้สึกอย่างนี้เช่นกัน แต่พวกเขายังมีความเสียดายอยู่เหมือนเดิม

เฉินฟานยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ลุงหลิว ใครบอกว่าข้าจะมาตามเก็บวัวป่าตัวนั้นล่ะ?"

"...?!"

ชายหัวโล้นหยุดชั่วคราวแล้วหันศีรษะกลับมาทันที และก็ต้องเบิกตากว้าง "เป็นไปได้ไหมว่าเจ้าต้องการ…"

"ใช่แล้วล่ะ"

เฉินฟานพยักหน้า “ข้าอยากจะดูว่ามีโอกาสแอบโจมตีพวกมันได้ไหม ถ้าข้าบังเอิญฆ่ามันได้ พวกท่านก็สามารถเอาเนื้อหมาป่ากลับไปได้ไม่ใช่เหรอ?”

"เฮือก..."

ทุกคนรวมถึงเฉินกัวตงต่างก็อ้าปากค้าง

ความคิดชั่วร้ายมาก ไม่สิ ช่างคิดมาก!

อย่าว่าอีกฝ่ายเป็นฝูงสัตว์อสูรถึงแม้จะเป็นมนุษย์ก็อาจคิดไม่ถึงว่าพวกเขาไปแล้วและกลับมาใช่ไหม?

และสิ่งที่เสี่ยวฟานพูดนั้นถูกต้อง เนื้อหมาป่านั้นสามารถนำกลับมากินได้แน่นอน มีคนบอกว่าเนื้อสุนัขคือเนื้อสวรรค์ และรสชาติของเนื้อหมาป่านี้ก็เกือบจะเหมือนกับเนื้อสุนัข และรสชาติก็อร่อยมาก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกาหยางที่ไม่เต็มใจที่จะทิ้งเหยื่อในตอนแรก ในตอนนี้เขาหน้าแดงด้วยความตื่นเต้นหลังจากได้ยินคำพูดของเฉินฟาน

ถูกต้อง! มันต้องอย่างนี้สิ

ในฐานะมนุษย์ การถูกฝูงสัตว์อสูรปล้นเหยื่อไปถือเป็นความอัปยศอย่างยิ่ง!

แน่นอนว่าเฉินฟานไม่ได้กระทำการโดยประมาท เมื่อเห็นว่าระยะทางนั้นน้อยกว่า 200 เมตรแล้ว เขาจึงลดเสียงลงและพูดออกมาว่า

"ลมพัดมาจากทิศทางของหมาป่ามาหาเรา ดังนั้นจึงไม่น่าเป็นไปได้ที่พวกมันจะได้กลิ่นเรา..

..ถ้าข้าเข้าไปได้ภายใน 100 เมตร ข้าแน่ใจว่าข้าสามารถยิงหมาป่าคลั่งได้อย่างน้อยสี่ตัวในเวลาอันสั้นที่สุด เหลือหมาป่าคลั่งอีกเจ็ดตัวพวกลุงแน่ใจเหรอว่าจะสามารถกำจัดพวกมันได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ? "

"พวกข้ามั่นใจ เจ้าวางใจได้"

เกาหยางกล่าวทันที "ตราบใดที่สัตว์อสูรทั้งเจ็ดนี้กล้าที่จะพุ่งเข้ามา ภายในระยะ 20 เมตรเราก็สามารถฆ่าพวกมันได้อย่างน้อยสองหรือสามตัวในการขวางหอกหนึ่งรอบ เราเคยจัดการกับพวกมันอย่างนี้มามากแล้ว กระบวนการนี้เป็นสิ่งที่พวกเรามั่นใจอย่างมาก"

“ถูกต้อง ถ้าหมาป่าที่เหลือรีบวิ่งเข้ามา พวกมันก็จะกลายเป็นเป้าขวางหอกของพวกเรา”

“ฮึ่ม ข้าสัญญาว่าจะฆ่าพวกมันทั้งหมดโดยไม่เหลือไว้แม้แต่ตัวเดียวเลย”

เฉินกัวตงก็ค่อนข้างสะเทือนใจเช่นกันเมื่อได้ยินอย่างนี้ โดยระยะห่างสองถึงสามเมตรพวกเขาแต่ละคนสามารถฆ่าหมาป่าคลั่งหนึ่งตัวได้อย่างแน่นอน ทำให้อัตราการชนะนั้นสูงมาก!

ข้อได้เปรียบอย่างแรกของพวกเขาคือความยาวของหอก และอีกอย่างคือสัตว์อสูรเหล่านี้โง่เขลา พวกมันจะถือว่าหอกเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายมนุษย์และบางครั้งก็กัดไปที่หัวหอกโดยไม่รู้อะไรเลย

ไม่ต้องพูดถึงพวกเขาที่มีทั้งหมดเจ็ดหรือแปดคนที่ทำงานเป็นทีมจนเข้าขากันแล้ว

แต่เขายังคงสงบและถามขึ้นว่า "เสี่ยวฟาน เจ้าแน่ใจจริงๆเหรอว่าสามารถฆ่ามันได้สี่ตัว"

ดวงตาของทุกคนก็จับจ้องมาที่เขาทันที

ใช่ นี่คือส่วนหลักของแผนนี้ ไม่เช่นนั้นหากมีข้อผิดพลาด พวกเขามีโอกาสเกิดการบาดเจ็บหรือล้มตายสูง

“ข้ามั่นใจ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง”

เฉินฟานพยักหน้า และระยะห่างก็ลดลงเหลือน้อยกว่า 150 เมตร

เขาเปลี่ยนคันธนูเป็นธนูแปดสิบปอนด์ที่เขาสะพายไว้บนหลังอย่างเงียบๆ แล้วหยิบลูกธนูออกมาด้วยมือขวาแล้วโน้มตัวไปข้างหน้า

ระยะห่างเริ่มใกล้เข้ามาเรื่อยๆ และเสียงเคี้ยวที่อยู่ไม่ไกลก็ดังชัดมากขึ้น

หัวใจของทุกคนราวกับมากระจุกอยู่ที่ถึงลำคอ

นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาต้องมาทำอะไรแบบนี้เพื่อแอบเข้าไปหาหมาป่า และตอนนี้พวกเขายังสามารถได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นรัวของตัวเอง ทำให้พวกเขาประหม่าเล็กน้อย

ถ้าอยากได้ประโยชน์ที่มากมายกว่าเดิมย่อมมีความเสี่ยง แต่ถ้าไม่มีเสี่ยง เจ้าจะได้รับเหยื่อจากที่ไหนล่ะ?

130 เมตร

110 เมตร

100 เมตร

หนึ่งหรือสองตัวเงยหน้าขึ้นเพื่อสูดอากาศรอบๆ แต่พวกมันก็ไม่สามารถรับรู้ถึงพวกเขาได้ เพราะกลิ่นเลือดของวัวป่าที่อยู่ตรงหน้าพวกมันแรงเกินไป มันลังเลอยู่ครู่หนึ่งและลดศีรษะลงอีกครั้ง จากนั้นก็ทำการรฉีกเนื้อชิ้นใหญ่ออกจากเหยื่อแล้วกลืนกินลงไป

“เสี่ยวฟาน มันอยู่ห่างออกไปประมาร 100 เมตรแล้วไม่ใช่หรือ?” ชายหัวล้านพูดอย่างกังวลใจ

“ลุงหลิว ยังพอเข้าไปได้อีกนิดหนึ่ง”

เฉินฟานพูดออกมาอย่างกัดฟัน

100 เมตรยังไม่ใช่ระยะที่ดีที่สุด

ทางที่ดีควรเข้าไปประมาณ 80 เมตร

แน่นอนว่าหากเขาถูกค้นพบล่วงหน้า เขาก็จะระเบิดพลังและยิงธนูออกไปทันที

เพียงไม่กี่วินาที หัวใจที่อยู่ในลำคอของพวกเขาก็พองขึ้น ระยะทางแค่สิบถึงยี่สิบเมตรดูเหมือนยาวไกลหลายสิบกิโลเมตร

จนกระทั่งเสียงของเฉินฟานดังขึ้น

“เอาล่ะ ลุงหลิว ตรงนี้ได้ระยะแล้ว!”