ตอนที่ 135 : ยมทูต, มาริส!

โจวโจวมองไปยังผู้มีพรสวรรค์ทั้งสามคนที่ถูกดึงดูดมาโดยการจัดอันดับชื่อเสียงของเขา

พวกเขาต่างก็เป็นชายชราผมขาว

จากนั้นเขาก็มองไปยังข้อมูลส่วนตัวของคนพวกนี้

คนแรกก็คือชายชราร่างท้วมคนเมื่อครู่

[ลูกน้อง: เฉียนเจียงเซิง]

[ดินแดน: เมืองตะวันสาดแสง]

[อาชีพ: พ่อค้า]

[ระดับอาชีพ: เหนือสามัญขั้นต้น]

[ความสามารถโดยรวม: อดีตมหาเสนาบดีคลังของอาณาจักรออโรร่าที่ได้รับความไว้วางใจจากราชาออโรร่า เขาเป็นนักธุรกิจที่เดินทางไปทุกที่เมื่อเขายังเด็ก ต่อมาเขาได้พบกับราชาออโรร่าและได้รับความชื่นชมจากราชา นับตั้งแต่นั้นมาเขาก็เข้าวังมาเป็นขุนนางและได้เป็นเจ้ากรมการคลังในที่สุด]

[ทักษะ: การค้าระดับเหนือสามัญขั้นต้น, การจัดการทางการเงินระดับเหนือสามัญขั้นต้น, การจัดการภาษีระดับเหนือสามัญขั้นต้น, คณิตคิดในใจระดับเหนือสามัญขั้นต้น, การต่อรองระดับเพชรขั้นสูง, คารมคมคายระดับเพชรขั้นสูง, สุนทรพจน์ระดับเพชรขั้นสูง, การปลอบใจระดับเพชรขั้นกลาง, การให้คำแนะนำระดับเพชรขั้นกลาง, การจัดการระดับเพชรขั้นสูง, การจูงใจระดับเพชร, การโต้วาทีระดับเพชร…]

[ความภักดี: 81]

[ศักยภาพ: ระดับเหนือสามัญขั้นสูง]

โจวโจวอดมองไปยังชายที่ดูอ้วนท้วมและดูน่ารักผู้นี้ไม่ได้

เขาคือระดับเหนือสามัญขั้นต้นจริงๆ!

นี่คือครั้งแรกที่เขาได้เห็นผู้เชี่ยวชาญที่มีพรสวรรค์เช่นนี้!

ส่วนคนที่สองคือชายชราในชุดคลุมสีขาว ไม่เพียงแต่ใบหน้าของเขาจะดูใจดี แต่เขายังหล่อเหลาด้วย

ในทันทีที่โจวโจวเห็นชายชราผู้นี้ เขาก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายจะต้องเป็นคนที่หล่อเหลามากแน่เมื่อเขายังหนุ่ม

[ลูกน้อง: ไป่เยว่จิง]

[ดินแดน: เมืองตะวันสาดแสง]

[อาชีพ: หมอ]

[ระดับอาชีพ: ระดับเพชรขั้นกลาง]

[ความสามารถโดยรวม: หมอหลวงประจำอาณาจักรออโรร่า ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นรองประธานสมาคมแพทย์ออโรร่า เขาช่วยชีวิตผู้คนนับไม่ถ้วนและมีความมุ่งมั่นในการรักษาผู้คนทั่วไป เขาเป็นที่รักของชาวเมืองออโรร่าเป็นอย่างมาก]

[ทักษะ: พรสวรรค์–การเอาใจใส่, ทฤษฎีการแพทย์ระดับเพชรขั้นกลาง, การประมวลผลสมุนไพรระดับเพชรขั้นกลาง, ยาฟื้นพลังระดับเพชรขั้นกลาง–ยาฟื้นฟูชีวิต, การผ่าตัดรักษาระดับเพชรขั้นกลาง, การรักษาอายุรศาสตร์ระดับเพชรขั้นกลาง, การบำบัดโรคระบาดระดับเพชรขั้นกลาง, การเย็บแขนขาระดับเพชรขั้นกลาง, การฟื้นฟูสภาพจิตใจจากสงครามระดับเพชรขั้นต้น…]

ความภักดี: 85

[ศักยภาพ: ระดับเหนือสามัญขั้นกลาง]

ดวงตาของโจวโจวเป็นประกาย

หมอระดับเพชรขั้นกลาง!

เขาคิดถึงอาจารย์ยายของเป่าซิ่วเอ๋อร์ หลี่ฮุ่ยเยว่ ขึ้นมาในทันที

คนผู้นั้นยังคงป่วยหนักและพักฟื้นอยู่ในเมืองบ่อปลาอยู่ จางหลี่เองก็ต้องดูแลเธอ

เขาไม่รู้ว่าหมอระดับเพชรขั้นกลางคนนี้จะสามารถรักษาอาการป่วยของเธอได้ไหม แต่เขาก็สามารถลองพาหมอคนนี้ไปดูเธอในวันพรุ่งนี้ได้

โจวโจวตัดสินใจในทันที

จากนั้นเขาก็มองไปยังชายชราคนสุดท้าย

เสื้อผ้าของชายชราคนนี้แตกต่างจากคนสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขาอย่างสิ้นเชิง เขามีกระบี่ขนาดใหญ่ห้อยลงมาจากเอว แม้ว่าเขาจะดูแก่แต่บางครั้งออร่าที่คมกริบก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา

[ลูกน้อง: ลั่วเฟิง]

[ดินแดน: เมืองตะวันสาดแสง]

[อาชีพ: ผู้ฝึกยุทธ์]

[ระดับความแข็งแกร่ง: ระดับทองคำเหลืองขั้นกลาง]

[ความสามารถโดยรวม: วีรบุรุษพงไพรเขียวแห่งอาณาจักรออโรร่า เขาโกรธง่ายและชอบต่อสู้เพื่อความยุติธรรม วิชากระบี่ปีศาจโลหิตของเขาทำให้คนชั่วนับไม่ถ้วนสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว มันไม่เคยมีดวงวิญญาณพยาบาทเหลืออยู่ภายใต้คมกระบี่ของเขาเลย แต่เขาก็ถูกอาณาจักรออโรร่าตามล่าเพราะเขาไม่สนใจกฎหมายและฆ่าคนโดยไม่ได้รับอนุญาต ปัจจุบันเขาเป็นผู้ลี้ภัยจากอาณาจักรออโรร่า]

[ทักษะ: วรยุทธ์ระดับแพลตตินั่มขาวขั้นสูง-เคล็ดวิชากระบี่ปีศาจโลหิต, วรยุทธ์ระดับแพลตตินั่มขาวขั้นกลาง-ย่างก้าวล่าวายุ, วรยุทธ์ระดับทองคำเหลืองขั้นสูง-โล่วารีทมิฬลี้ลับ, วรยุทธ์ระดับเงินขาวขั้นกลาง-เทคนิคการหายใจของเต่า]

[ความภักดี: 81]

[ศักยภาพ: ระดับเหนือสามัญขั้นกลาง]

อาชญากรที่ถูกหมายหัวงั้นเหรอ?

โจวโจวมองไปที่เขา

อีกฝ่ายยิ้มกว้างและเผยรอยยิ้มตรงไปตรงมา

“ท่านลอร์ด อย่าบอกข้านะว่าท่านต้องการจับข้าไปแลกรางวัล? ค่าหัวของข้าในอาณาจักรออโรร่าสูงถึงหลายร้อยแกนหมอกระดับแพลตตินั่มขาวเลยนะขอรับ บางครั้งข้าก็เกือบจะขายตัวเองแลกเงินรางวัลด้วยเหมือนกัน เพราะงั้นข้าคงไม่แปลกใจถ้าท่านลอร์ดจะคิดเช่นนั้น”

ลั่วเฟิงพูดอย่างสบายๆ

“ข้าชื่นชมวีรบุรุษที่กล้าโจมตีความอยุติธรรมของโลกมาโดยตลอด ผู้อาวุโสลั่ว ท่านไม่ต้องทดสอบข้าเช่นนี้ก็ได้ นอกจากนี้แกนหมอกระดับแพลตตินั่มขาวแค่ไม่กี่ร้อยชิ้นก็ไม่ได้มีค่าอะไรในสายตาของข้าเลย”

โจวโจวพูดอย่างใจเย็น

“ท่านลอร์ดไม่กลัวว่าอาณาจักรออโรร่าจะไล่ตามข้ามาถึงที่นี่งั้นเหรอ?”

ลั่วเฟิงมองไปที่โจวโจวด้วยความประหลาดใจและถามออกมาด้วยรอยยิ้ม

โจวโจวยิ้ม

“เมืองของเรามีอดีตแม่ทัพใหญ่แห่งอาณาจักรออโรร่าอย่างอู๋ซิน มีหนึ่งในสามอดีตอัครเสนาบดีของอาณาจักรออโรร่าอย่างเจิ้งหยวนฉี นอกจากนี้ผู้อาวุโสเฉียนที่เพิ่งเข้าร่วมกับพวกเราก็เป็นถึงอดีตมหาเสนาบดีการคลังของอาณาจักรออโรร่า”

“ส่วนข้าก็มีชื่อเสียงอยู่บ้างเล็กน้อย ข้าเพิ่งได้เป็นลอร์ดมือใหม่ที่แข็งแกร่งที่สุดจากลอร์ดเผ่าพันธุ์มนุษย์ของดาวเคราะห์สีน้ำเงิน และยังได้รับการชื่นชมจากเจตจำนงสูงสุด แม้ว่าข้าจะด้อยประสบการณ์และขาดชื่อเสียงไปบ้าง แต่คนเหล่านี้ก็ยังหนุนหลังข้าได้ ข้าไม่คิดว่าจะมีใครตาบอดพอที่จะบุกเข้ามาในดินแดนของข้าและพาตัวท่านไปหรอกนะ ท่านคิดว่าอย่างนั้นไหม?”

เขากล่าว

“ท่านลอร์ดพูดถูก ดูเหมือนว่าข้าจะได้พบกับสถานที่ดีๆ สำหรับการเกษียณแล้วสินะ”

ลั่วเฟิงเลิกคิ้วขึ้น จากนั้นเขาก็ครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะและพยักหน้า

เมื่อเทียบกับคนเหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับโจวโจว ลอร์ดมือใหม่ที่แข็งแกร่งที่สุดที่อยู่ในสายตาของเจตจำนงสูงสุด สถานะของอาชญากรที่เป็นที่ต้องการตัวของเขาก็ไม่นับว่าเป็นอะไรเลย

ตราบใดที่เจ้าหน้าที่ของอาณาจักรออโรร่ามีมันสมอง พวกเขาก็จะไม่ทำให้ลอร์ดผู้นี้ขุ่นเคืองเป็นแน่

“งั้นผู้อาวุโสก็สามารถอยู่กับข้าได้แบบสงบสุขแล้ว”

โจวโจวกล่าว

เขาไม่สนใจมากนักเกี่ยวกับการหยั่งเชิงของอีกฝ่าย เพราะในฐานะลอร์ด เขายังต้องมีความอดทนอยู่

อย่างไรก็ตาม ความอดทนของเขาก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะยอมปล่อยผ่านไปได้

“ลั่วเฟิง ข้ายอมคุยกับเจ้าก็เพราะข้าเห็นว่าเจ้าไม่เคยทำอะไรผิดและเจ้าอยากที่จะเข้าร่วมกับท่านลอร์ดของข้า แต่เจ้าก็ไม่ควรมาหยั่งเชิงท่านลอร์ด! จำไว้ ความสามารถของเจ้าไม่ได้มีค่าอะไรกับพวกเราขนาดนั้น เจ้าก็แค่อาชญากรที่ถูกตามล่าซึ่งมาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือ”

อู๋ซินมองไปที่ลั่วเฟิงอย่างเย็นชา

แรงกดดันของผู้กล้าที่บางเบาและแรงดันจากสายเลือดมังกรก็ทำให้หัวใจของลั่วเฟิงสั่นสะท้าน

“ข้าทราบแล้วว่ามันเป็นความผิดของข้า! โปรดให้อภัยข้าด้วยท่านลอร์ด!”

ลั่วเฟิงยอมรับผิดโดยไม่ลังเล

“พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วทุกคน สามัคคีกันไว้เถอะ”

โจวโจวหัวเราะ

ในที่สุดบรรยากาศที่ตึงเครียดก็กลับมาเป็นปกติ

เฉียนเจียงเซิงและไป่เยว่จิงมองไปที่อู๋ซินด้วยความประหลาดใจ

ในฐานะอดีตขุนนางของอาณาจักรออโรร่า พวกเขาย่อมรู้นิสัยของอดีตแม่ทัพตรงหน้าของพวกเขาดี

พูดตามเหตุผลแล้ว มันยากมากที่เขาจะยอมจำนนต่อใคร นับประสาอะไรกับการที่เขาปกป้องใครบางคนเป็นการส่วนตัวเช่นนี้

ตามความเข้าใจของเขา มันมีแค่ราชาออโรร่าและเพื่อนสนิทของเขาอย่างเจิ้งหยวนฉีเท่านั้นที่จะทำให้เขาทำแบบนี้ได้

และลอร์ดคนนี้ใช้เวลาเพียงไม่กี่วันในการได้รับการปฏิบัติเช่นนี้จากแม่ทัพอู๋งั้นเหรอ

เขาทำได้ยังไงกัน?!

พวกเขาประหลาดใจมาก

อู๋ซินเข้าใจความหมายในสายตาของพวกเขาและพูดอย่างใจเย็น

“ข้ากลายเป็นผู้กล้าได้เพราะท่านลอร์ด ท่านลอร์ดได้ทำให้ข้าได้เกิดใหม่ ดังนั้นคนที่มาหยามเกียรติท่านลอร์ดก็เท่ากับมาหยามเกียรติข้า!”

เมื่อพูดจบ เขาก็เหลือบมองไปที่ลั่วเฟิงด้วย

ลั่วเฟิงหลั่งเหงื่อเย็นออกมา

ในเวลาเดียวกัน ทั้งสามคนก็มองไปที่อู๋ซินด้วยความตกใจ

เขาไม่คาดคิดเลยว่าแม่ทัพใหญ่ผู้นี้จะได้รับในสิ่งที่เขาต้องการจริงๆ และได้กลายเป็นผู้กล้าในตำนานแล้ว

จากนั้นพวกเขาก็มองไปที่โจวโจวและรู้สึกว่าลอร์ดผู้นี้ช่างหยั่งไม่ถึงขึ้นไปอีก

ในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็รู้สึกว่าพวกเขาติดตามคนได้ถูกจริงๆ

“โอ้ใช่ ผู้อาวุโสเจิ้งล่ะ?”

โจวโจวถามออกมาราวกับว่าเขาไม่ได้เห็นสายตาของคนทั้งสามเลย

“เจิ้งหยวนฉีเดินทางไปเมืองบ่อปลาเมื่อไม่นานมานี้ เขาบอกว่าเขาจะไปพูดคุยกับจางบันเกี่ยวกับการก่อตั้งเส้นทางการค้า ข้าคิดว่าวันนี้เขาน่าจะกลับมาไม่ทันขอรับ” อู๋ซินกล่าว

โจวโจวนึกขึ้นมาได้ในทันที

“อีกเรื่องขอรับท่านลอร์ด นอกจากพวกเราจะมาที่นี่เพื่อเข้าร่วมในดินแดนของท่านแล้ว พวกเรายังมาส่งข้อความถึงท่านด้วย”

เฉียนเจียงเซิงกล่าว

“ข้อความอะไร?”

โจวโจวถามด้วยความสงสัย

“ราชาออโรร่าได้ยินว่าท่านช่วยเหลือเมืองบ่อปลาและท่านทำผลงานได้ดีมากในการทดสอบลอร์ดมือใหม่ ฝ่าบาทจึงบอกให้องค์หญิงและองค์ชายนำของขวัญมามอบให้ พวกเขาน่าจะมาถึงในวันพรุ่งนี้”

เฉียนเจียงเซิงกล่าว

โจวโจวพยักหน้า

หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้คุยอะไรกันต่อ กลับกัน เขาเดินไปยังประตูอัญเชิญ หยิบเอาหนังสือรับสมัครยมทู๖ที่เขาได้รับมาจากเผ่าโคโบลด์ออกมา และเขาก็โยนมันเข้าไปในประตูอัญเชิญ

ในไม่ช้าโคโบลด์ที่สูง 4-5 เมตรซึ่งสวมเสื้อคลุมสีดำและถือเคียวสีดำขนาดใหญ่ในมือทั้งสองข้างก็เดินออกมาจากประตูอัญเชิญ

“คาราวะท่านลอร์ด ยมทูตมาริสยินดีรับใช้ท่าน!”

มันคุกเข่าลงกับพื้นและกล่าวด้วยความเคารพ

โจวโจวยืนอยู่ตรงหน้าของมัน เขาสามารถสัมผัสได้ถึงออร่าแห่งความตายอันน่าพรั่นพรึงที่อีกฝ่ายปล่อยออกมาโดยธรรมชาติ

ออร่านี้ดูเหมือนจะสามารถสยบดวงวิญญาณได้เลย

โจวโจวรู้สึกได้ถึงการสะกดข่มแม้ว่าเขาจะยืนอยู่ตรงหน้าก็ตาม

“ยินดีต้อนรับสู่เมืองตะวันสาดแสง”

เขายิ้มออกมา จากนั้นเขาก็เปิดข้อมูลของอีกฝ่ายขึ้นมาดู

[ลูกน้อง: มาริส]

[ดินแดน: เมืองตะวันสาดแสง]

[อาชีพ: ยมทูต (ทหารระดับอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์)]

[ระดับความแข็งแกร่ง: ระดับเหล็กดำขั้นต้น]

[ความสามารถโดยรวม: สมาชิกของหน่วยที่หกของกองพันที่เจ็ดของกองกำลังยมทูตของเทพแห่งความตายทานาทอส มันมีความสามารถที่น่ากลัวในการเก็บเกี่ยวดวงวิญญาณ]

[ทักษะ: พรสวรรค์ทหารระดับอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์–เก็บเกี่ยวดวงวิญญาณ, พรสวรรค์ทหารระดับอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์–ดูดซับดวงวิญญาณ, พรสวรรค์ทหารระดับอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์–ภูมิคุ้มกันทางกายภาพ, พรสวรรค์–วิญญาณออกจากร่าง, เคล็ดวิชาการเข่นฆ่าในสมรภูมิระดับเหล็กดำขั้นต้น]

[ความภักดี: 85]

[ศักยภาพ: ระดับทองคำเหลืองขั้นสูง]

โจวโจวอดสงสัยไม่ได้ เขาเปิดรายละเอียดของทักษะมันขึ้นมาดู

จากนั้นเขาก็เข้าใจความสามารถของยมทูตคนนี้

ยมทูตผู้นี้สามารถใช้ดวงวิญญาณของมันไปสังหารสิ่งมีชีวิตในระดับเดียวกันได้ในทันทีโดยไม่สนใจการโจมตีทางกายภาพจากพรสวรรค์ระดับอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของมัน

นอกจากนี้ วิญญาณของสิ่งมีชีวิตที่มันฆ่าจะถูกดูดกลืนโดยมันและกลายเป็นอาหารสำหรับการเติบโตของมัน

อาจกล่าวได้ว่าถ้ามอนสเตอร์ระดับเหล็กดำขั้นต้น 100 ตัวปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของมัน มอนสเตอร์เหล่านั้นก็จะไม่มีความสามารถในการป้องกันการโจมตีทางวิญญาณจากมันได้เลย

มันสามารถฆ่ามอนสเตอร์ทั้ง 100 ตัวได้อย่างรวดเร็วในเวลาไม่กี่วินาที และทำให้ตัวมันแข็งแกร่งขึ้นได้โดยที่มอนสเตอร์ทั้ง 100 ตัวนี้ไม่สามารถต้านทานได้เลย

ยมทูตยังสามารถสร้างความเสียหายจำนวนหนึ่งให้กับวิญญาณของศัตรูได้แม้ว่าจะเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าก็ตาม

หลังจากโจมตีไปหลายๆ ครั้ง มันก็คงง่ายมากๆ ที่จะฆ่าศัตรูที่มีระดับเหนือกว่ามัน!

“จะเรียกว่ามันคือเครื่องตัดหญ้าในสมรภูมิก็คงจะไม่ผิด!”

ดวงตาของโจวโจวเปล่งประกายขึ้นมา

อย่างไรก็ตาม เขาก็ต้องดูด้วยตัวเองว่าการต่อสู้ที่แท้จริงจะเป็นอย่างไร

จากนั้นเขาก็บอกให้มาริสไปหาที่พักเพื่อพักผ่อนในขณะที่เขาไปที่ลานของลอร์ดเพื่อเตรียมอัพเกรดดินแดนของเขา