ตอนที่ 196 - บทที่ 196 เจ้าต้องการเรียนการปรุงยางั้นหรือ

บทที่ 196 เจ้าต้องการเรียนการปรุงยางั้นหรือ?

เฉินฟานขมวดคิ้วเล็กน้อย

วิวัฒนาการของศิลปะการต่อสู้ทั่วไปจะมาจากของศิลปะการต่อสู้ขั้นพื้นฐานในสาขานั้น

แต่เกี่ยวกับการปรุงยา เขาไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน มีการปรุงขาขั้นพื้นฐานหรือไม่?

“ช่างมันเถอะ ค้นหาดูหรือรอถามคนอื่นเอาก็ได้”

อย่างไรก็ตาม ต่อไปเขาจะเป็นปรุงยาแล้ว และเขาจะไม่สามารถซ่อนมันจากคนอื่นได้อย่างแน่นอน อีกอย่างหนึ่งเขาก็ไม่จำเป็นต้องซ่อนมัน

เขาเปิดโทรศัพท์มือถือ เข้าไปในรายการของสมาคมอีกครั้ง พบคอลัมน์ยา ค้นดูว่าเขาพอจะได้รับอะไรบ้าง

โดยทั่วไปแล้ว ค่าใช้จ่ายพื้นฐานในการปรุงเม็ดยาพลังงานเลือดอยู่ที่ประมาณ 20,000 หากไม่นับรวมสิ่งอื่น ๆ แต่เป็นเพียงค่าสมุนไพรเท่านั้น

ราคาตามตลาดของเม็ดยาพลังงานเลือดระดับต่ำคือหนึ่งพันหยวน กล่าวคือ ถ้ายาชุดหนึ่งจะเป็นระดับต่ำทั้งหมด เขาก็จะสูญเสียเงินอย่างมาก

ถ้าหนึ่งเตาสามารถมียาเม็ดระดับกลางอย่างน้อยสี่เม็ดก็ถือว่าเท่าทุน

เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ ทักษะการปรุงยาของเขาอย่างน้อยๆต้องอยู่ในขั้นความสำเร็จเล็กๆน้อยๆหรือขั้นผู้เชี่ยวชาญ

จะเห็นได้ว่าการเรียนรู้การปรุงยานั้นเป็นการสิ้นเปลืองเงินทองอย่างมากสำหรับคนธรรมดา!

แต่ในทางกลับกัน ถ้าระดับถึงขั้นผู้เชี่ยวชาญแล้ว หรือแม้กระทั่งถึงขั้นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ได้ เขาก็แทบจะอยู่ในสถานะนอนรับเงินแล้ว

ตราบใดที่เตาหลอมครั้งหนึ่งถูกหลอมขึ้น นั่นคือเงินหลายแสนเหรียญอย่างแน่นอน เมื่อเทียบกับต้นทุนไม่กี่หมื่นหยวนก็ถือว่าได้รับกำไรมากมายนัก

หากเขาไปถึงขั้นสมบูรณ์แบบ ยาสิบเม็ด หากทั้งหมดมีคุณภาพระดับสูง จะมีมูลค่า 200,000 หยวน มันคือกำไรสิบเท่า!

หากเขาโชคดีมากพอ เม็ดยาพลังงานเลือดระดับสูงกำไรก็จะเพิ่มขึ้นห้าเท่าในทันที นี่ยังไม่นับยาระดับสูงเม็ดอื่นๆอีก

เฉินฟานมองไปที่คะแนนการบริจาคที่เหลืออยู่ของเขาที่มีประมาณเกือบ 2 ล้านคะแนน ด้วยทรัพยากรหนึ่งชุด 20,000 หยวน หากไม่รวมส่วนลดเขาสามารถซื้อได้ 200 ชุด

หากทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ก็จะสามารถปรุงเม็ดยาพลังงานเลือดระดับสูงได้ถึง 2,000 เม็ด!

และในปัจจุบันเขาจะเป็นสมาชิกระดับ 2 ดาว เขาก็สามารถได้รับส่วนลด 20% และการซื้อเม็ดยาพลังงานเลือดระดับสูง 2,000 เม็ดจะใช้คะแนนการบริจาค 32 ล้านคะแนน!

และต้นทุนที่เขาใช้มากแค่ไหนงั้นเหรอ?

คะแนนการบริจาค 2 ล้านคะแนน

ห่างกันมากกว่า 16 เท่า!

“แต่แน่นอนตอนนี้ ข้าทำเองกินเองก่อนก็แล้วกัน”

เฉินฟานพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

เขาตัดสินใจว่าในอนาคต ไม่เพียงแต่เม็ดยาพลังงานเลือดและเม็ดยาปราณแท้เท่านั้น เขายังจะซื้อสูตรอาหารและเตรียมวัตถุดิบยาด้วยตัวเอง

คะแนนการบริจาคส่วนใหญ่เขาจะเก็บไว้เพื่อซื้ออาวุธและหนังสือศิลปะการต่อสู้เท่านั้น

อย่างไรก็ตามในขณะนั้นเขาก็โทรหาใครบางคน

"สวัสดี?"

เสียงของซุนเว่ยดังมาจากโทรศัพท์ “ใช่ น้องเฉินหรือป่าว”

เขารู้สึกกังวลเล็กน้อย

เนื่องจากเหตุการณ์ที่แล้วเกิดความปั่นป่วนในกลุ่มแชทนั้น

เฉินฟานเห็นแล้วจึงโทรหาเขาหรือป่าว

ไม่ผิดหรอก เพราะยังไงซ่ะเฉินฟานก็อาศัยความสามารถที่แท้จริงของเขาเอง แต่สุดท้ายเขากลับถูกสงสัย

แม้จะเป็นเขาๆก็ยังรู้สึกไม่เสียใจเหมือนกัน

“ใช่ข้าเองท่านประธาน”

เฉินฟานยิ้มและพูดว่า “ข้ามีอะไรจะปรึกษาท่านหน่ยอจะได้ไหม?”

"อา?"

ซุนเว่ยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า "มีอะไรเจ้าพูดมาได้เลย"

“ประธานมีเตาปรุงยาอยู่ในสาขาของเราหรือเปล่า?”

เฉินฟานถามขึ้น

ถ้าไม่มี เขาจะต้องซื้ออุปกรณ์เหล่านี้ ซึ่งจะต้องเสียคะแนนการบริจาคเพิ่มอีกเป็นแสนคะแนนอย่างแน่นอน

“เจ้าหมายถึงห้องปรุงยาใช่ไหม?”

ซุนเว่ยพูดโดยไม่ลังเล ทันใดนั้นเขาก็นึกอะไรบางอย่างได้ และพูดด้วยความประหลาดใจ "น้องเฉิน คงไม่ใช่ว่าเจ้าอยากปรุงยาใช่ไหม?"

“ใช่ ท่านประธาน”

เฉินฟานกล่าวด้วยรอยยิ้ม "ข้าเพิ่งซื้อเทคนิคการปรุงยาพลังงานเลือด และต้องการจะทดลองปรุงดู เพระดูเหมือนว่ามันจะไม่ยากเกินไป ดังนั้นข้าจึงวางแผนที่จะปรุงมันด้วยตัวเอง เพราะมันจะคุ้มกว่าซื้อจากสมาคมมากนัก”

"ดีแล้วๆ มันเป็นเรื่องที่ดี"

จากนั้นซุนเว่ยก็ลังเลอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า "แต่นั่นมันขึ้นอยู่กับการที่ว่าเจ้าสามารถปรุงมันขึ้นมาได้สำเร็จ พูดตามตรงว่าเมื่อหลายปีก่อนมีคนจำนวนมากในสาขาของเราพยายามที่จะปรุงยาพลังงานเลือดเช่นกัน และพวกเขาก็ใช้เงินเป็นจำนวนมาก แต่ปรากฎว่ามันยากที่จะปรุงยาพลังงานเลือดออกมาได้แม้สักชุดเดียว และหลังจากการคำนวณแล้วก็ยังไม่ดีเท่ากับการซื้อจากสมาคมโดยตรง"

คำพูดของเขาเห็นได้ชัดว่าหมายถึงคำแนะนำให้เขาคิดใหม่

อันที่จริงในสาขานี้ก็เคยมีนักปรุงที่ประสบความสำเร็จอยู่

แม้ว่าบุคคลนั้นจะไม่สามารถหารายได้ได้ แต่พรสวรรค์ของเขานั้นมีคุณค่าอย่างมากต่อสมาคม และเขาถูกนำตัวไปที่สำนักงานใหญ่เพื่อทำการปรุงยาโดยเฉพาะ

เขาได้ยินมาว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาสามารถปรุงยาพลังงานเลือดระดับสูงออกมาได้ และยาเม็ดระดับสูงสุดจำนวนเล็กน้อยในสมาคมก็มาจากเขา

แต่คนอื่นๆของที่เคยฝึกปรุงยาในอดีตก็เหมือนเสียทรัพยกรโดยเปล่าประโยชน์ พวกเขาไม่มีพรสวรรค์และไม่มีต้นทุนหนุนหลัง เมื่อล้มเหลวจึงพากันล้มเลิกไป

ในที่สุดทุกคนก็ออกไปล่าสัตว์ร้ายอย่างเชื่อฟัง เพื่อแลกกับคะแนนการบริจาคแล้วเอามาซื้อเม็ดยาเอาหลังจากนั้น

“ไม่เป็นไร ท่านประธาน ข้าแค่จะลองดู วัสดุการปรุงยาชุดหนึ่งก็แค่คะแนนก็บริจาค 20,000 คะแนนเท่านั้น ไม่ถือว่าแพง แม้ว่ามันจะล้มเหลว แต่ข้าก็ไม่เสียใจเลย”

เฉินฟานยังคงยืนยัน

"นั่นก็จริง"

ซุนเว่ยพยักหน้า

เงินเพียง 20,000 หยวนนั้นไม่มีความหมายเลยสำหรับเฉินฟานที่สามารถฆ่าสัตว์อสูรระดับสูงอย่างง่ายดาย

“เอาล่ะ น้องเฉิน ถ้าเจ้าต้องการใช้ห้องปรุงยา เจ้าก็สามารถใช้มันได้ตลอดเวลา แม้ว่าเราจะมีคนมากมายที่นี่แต่ก็ไม่มีใครรู้วิธีการปรุงยาอายุวัฒนะ ดังนั้นไม่มีใครแย่งเจ้าใช้หรอก”

“ถ้าเช่นนั้นก็ขอบคุณท่านประธานมาก”

เฉินฟานกล่าวอย่างเร่งรีบ

ต้องบอกว่าสมาคมสามารถให้ความช่วยเหลือด้านทรัพยากรแก่สมาชิกได้อย่างมากมาย

ไม่ต้องพูดถึงห้องปรุงยา แค่การรวบรวมวัตถุดิบยาจำนวนมมากมาย มันก็เป็นกระบวนการที่ยุ่งยากมากแล้ว

“ยังไงก็ตาม น้องเฉิน...” ซุนเว่ยลังเลที่จะพูด

"มีอะไรผิดปกติหรือ?"

เฉินฟานถามอย่างสงสัย "มีอะไรที่ท่านประธานอยากจะบอกข้าหรือเปล่า?"

“ก็เรื่องในกลุ่มน่ะ”

ซุนเว่ยยังคงตัดสินใจได้ดีและกล่าวว่า "อย่าไปเชื่อสิ่งที่คนเหล่านั้นพูด พวกเขาไม่เข้าใจสถานการณ์ของเจ้า และพวกเขาก็แค่พูดสิ่งต่าง ๆ ตามการคาดเดาของพวกเขาเองเท่านั้น"

"อา?"

เฉินฟานรู้สึกงุนงงอย่างมาก

“เกิดอะไรขึ้นในกลุ่ม คนพวกนั้นพูดอะไร?”

"..?"

ซุนเว่ยตกตะลึง และทันใดนั้นก็ตระหนักได้อย่างหนึ่ง นั่นคือ เป็นไปได้ไหมที่เฉินฟานยังไม่ได้เข้าไปดูในกลุ่มเลย?

"ไม่มีอะไร..ไม่มีอะไร"

เขารีบบอกว่าไม่มีอะไรและพูดด้วยรอยยิ้ม "น้องเฉิน เจ้าอยากปรุงยาใช่ไหม? ดีมาก นักปรุงยาสามารถสร้างรายได้และยังสามารถได้รับความชื่นชมจากสำนักงานใหญ่ด้วย ในอนาคตก็จะสามารถเข้าไปในเมืองใหญ่ในฝันได้ และแม้แต่เมืองใหญ่ที่สุดทางตอนใต้ของแม่น้ำแยงซีเกียงก็มีโอกาส”

"อย่างนั้นหรือ"

เฉินฟานยิ้ม “ถ้าอย่างนั้น ข้าจะทำงานให้หนักก็แล้วกัน”

“ยอดเยี่ยมมากน้องเฉิน ข้าชื่นชมเจ้า”

หลังวางสายโทรศัพท์ ซุนเว่ยก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เมื่อกี้เขาคิดหนักว่าจคุยกับเฉินฟานว่าอย่างไร

หลังจากเกิดความโกลาหลอยู่นาน เฉินฟานกลับไม่ได้เข้าไปดูในกลุ่ม

มันก็ถือว่าดีอยู่ที่เขาไม่ต้องสนใจเรื่องซุบซิบอะไร

อย่างไรก็ตาม จู่ๆ เฉินฟานกลับต้องการปรุงยาเสียอย่างนั้น ซึ่งมันเกินความคาดหมายของเขาจริงๆ

“ข้าไม่รู้ว่าน้องเฉินสามารถควบแน่นตันเฉิงได้หรือไม่ น่าเสียดายที่ข้าไม่มีความรู้เรื่องนี้ ไม่เช่นนั้นข้าสามารถช่วยเขาได้”

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เขาก็สั่นสะท้านทันที

ใช่แล้ว..

เขาไม่รู้ แต่เขาสามารถขอคำแนะนำจากโจวจุนได้ไม่ใช่เหรอ?

ตอนที่เขายังอยู่ที่นี่ พวกเขามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เมื่ออีกฝ่ายขาดคะแนนการบริจาคในการซื้อยา เขาซึ่งเป็นประธานก็ช่วยออกให้ แถมเขายังขอรับเงินอุดหนุนจากสำนักงานใหญ่ และมีบางครั้งที่ยังจ่ายเงินจากกระเป๋าของเขาเองด้วยซ้ำ

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาพวกเขายังมีการติดต่ออยู่บ้าง

ไม่น่ายากเลยที่จะขอคำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ จากโจวจุนใช่ไหม?

ซุนเว่ยคิดถึงเรื่องนี้ เขาจึงเปิดรายชื่อผู้ติดต่อและพบหมายเลขชื่อโจวจุน

เขาหายใจเข้าลึกๆ แล้วคลิกขึ้น

"บี๊บ...บี๊บ...บี๊บ..."

เสียงที่ดังเป็นระยะๆ ดังมาจากโทรศัพท์ และหัวใจของซุนเว่ยก็เต้นขึ้นมาที่ลำคอ

เมื่อพูดถึงการติดต่อครั้งล่าสุดคือเมื่อสามเดือนก่อน

และเป็นเพียงการทักทายและพูดจาไม่กี่คำเท่านั้น แล้วอีกฝ่ายก็บอกว่ามีเรื่องด่วนจึงวางสายไป

คราวนี้เขาสงสัยว่าอีกฝ่ายยุ่งอยู่หรือเปล่า

"สวัสดี?"

เสียงชายคนหนึ่งดังมาจากโทรศัพท์ “นั่นใคร?”

รอยยิ้มของซุนเว่ยแข็งทื่อ และหัวใจของเขาก็จมลง

แต่เขาฟื้นสีหน้าก่อนหน้านี้อย่างรวดเร็วและพูดด้วยรอยยิ้ม "โจวจุน ข้าเอง ซุนเว่ย เจ้าจำข้าได้หรือป่าว?"

“ซุนเว่ยงั้นหรือ?”

โจวจุนผงะไป

จากนั้นจู่ๆ บรรยากาศก็กลายเป็นตึงเครียด

ซุนเว่ยรู้สึกว่าหัวใจของเขาแทบจะกระโดดออกจากลำคอ

เมื่อมองดูอีกฝ่ายดูเหมือนจะลืมเขาไปแล้วหรือป่าว?

แต่ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาอาศัยอยู่ในชิงเฉิง ซึ่งมีตัวตนที่ทรงพลังทุกประเภท และผู้ที่มีพลังมากกว่าเขามีอยู่มากมาาย

“โอ้ นั่นคือท่านประธานซุนนั่นเอง”

ดูเหมือนโจวจุนจะจำเขาได้ และพูดอย่างสุภาพ "จู่ๆ ประธานซุนก็โทรมาหาข้า มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?"

“อืม ใช่ ข้ามีเรื่องจะรบกวนสักเรื่องหน่อยนะ”

ซุนเว่ยเลียริมฝีปากของเขา

น้ำเสียงของอีกฝ่ายฟังดูสุภาพอย่างมาก แต่ก็ดูแปลกแยกเช่นกัน

แต่เนื่องจากเขาได้โทรหาอีกฝ่ายแล้ว แม้ว่าเขาจะปฏิเสธ แต่เขาก็ยังต้องพูดให้จบ

“โจวจุน ในสาขาของเราที่นี่ มีเด็กใหม่คนหนึ่งที่มีความสามารถมาก เขาอายุเพียงสิบเจ็ดปีเท่านั้น และเขาก็เป็นนักรบฮัวจินแล้ว”

"หือ?"

น้ำเสียงของโจวจุนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

ด้วยคุณสมบัติเช่นนี้ แม้แต่ในหมู่คนรุ่นเยาว์ที่มีความสามารถในชิงเฉิงก็ถือว่าอยู่ในระดับสูง

"ใช่"

ซุนเว่ยแสดงรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา “เขามีพลังมากจริงๆ เขาสามารถยิงธนูและฆ่าสัตว์อสูรระดับสูงได้เพียงลำพัง อะแฮ่ม..ตอนนี้เขาต้องการที่จะเรียนรู้การปรุงยาพลังงานเลือด และโจวจุน การปรุงยาของเจ้านั้นยอดเยี่ยมอย่างมาก ข้าคิดว่าเจ้าน่าจะสามารถช่วยชี้แนะให้เขาหน่อยได้ไหม เพื่อเขาจะได้ไม่เสียเวลามากเกินไป”

“ขออภัยท่านประธานซุน”

โจวจุนปฏิเสธอย่างสุภาพ "ที่นี่ข้ายุ่งมาก พวกเขาทั้งหมดกำลังรอข้าอยู่ เอาไว้ครั้งหน้าละกัน ครั้งหน้านะ"

หลังจากพูดจบ ก่อนที่ซุนเว่ยจะพูดอะไร เขาก็วางสายโทรศัพท์ทันที…

……………..