ตอนที่ 254 ยานพาหนะขนาดใหญ่ที่หายาก

[ท่านต้องการใส่ วัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพ "เกราะป้องกันธรรมชาติ" ในช่อง "ภูติไม้สงครามโบราณ" หรือไม่!?]

[เมื่อใส่แล้ว กองกำลังที่เกี่ยวข้องจะได้รับบัพจากวัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา การเปลี่ยนวัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพต้องใช้พลังเวทย์ในการถอดออก]

เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นในหัวของ หลิน ยู

หลังจากคิดซ้ำแล้วซ้ำเหล่า

เขาก็ยังคงตัดสินใจมอบวัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพ "เกราะป้องกันธรรมชาติ" ให้ภูติไม้สงครามโบราณ

จริงๆแล้วเขาคิดจะให้มอสชีวภาพ แต่ตัวหลักในการต่อสู้คือทหารพืชที่ขยายพันธุ์

ยิ่งไปกว่านั้น มอสชีวภาพเป็นพืชที่หลอมอยู่กับทหารพืชตัวอื่น จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่มันจะถูกกำหนดเป็นเป้าการโจมตี อีกทั้งความสามารถในการเอาตัวรอดของมันยังแข็งแกร่งกว่าทหารพืชที่เป็นตัวหลักมาก

นี้จึงทำให้ภูติไม้สงครามโบราณเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

หลังจากที่คิดเรื่องนี้แล้ว หลิน ยู ก็ได้กดตกลง ทันทีวางวัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพไว้บนแท่นภูติไม้สงครามโบราณ แทนที่วัตถุศักดิ์สิทธิ์กองทัพระดับ E อันเก่านำไปใส่บนแท่นของมอสชีวภาพแทน

หลังจากที่ทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว เขาก็เดินออกมาจากฐานทัพ มายังใต้ต้นไม้โลก หยิบพิมพ์เขียว อูเรือเหาะ ที่เขาแลกเปลี่ยนออกมา ก่อนที่จะใช้งานมัน

[ท่านรวบรวมวัสดุสำหรับอู่เรือบินครบแล้ว ท่านต้องสร้างหรือไม่?]

สร้างเลย

[กรุณาเลือกสถานที่ๆก่อสร้าง]

เมื่อเสียงเงียบลงแผนที่อาณาเขตก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า หลิน ยู รวมถึงพื้นที่ป่าทั้งหมดไกลออกไปยังภูเขา

หลิน ยู คิดว่าเขาต้องการสร้างเส้นทางการบินที่เชื่อมต่อระหว่างเมืองขนาดใหญ่และอาณาเขตต่างๆ กับพื้นที่การค้าขนาดใหญ่

ในขณะเดียวกันก็จำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าบุคคลภายนอกเหล่านั้นไม่สามารถเข้าสู่ดินแดนได้โดยตรงได้

เนื้อที่มันต้องกว้างมาก

หลังจากครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นเวลานาน ในที่สุดหลิน ยู ก็เลือกพื้นที่เปิดโล่งขนาดใหญ่ที่อยู่นอกชายป่า บนชายขอบพรมแดนระหว่างภูเขาและป่าเขาเลือกที่สร้างมันที่นั้น

หวืดดด!

เกิดเป็นแสงสว่างวาบพร้อมกับเสียงที่ดีงกึกก้อง

มันมีหอคอระบุเส้นทางการบินที่อยู่ในที่โล่ง มีรั้วและสถานีทั้งใหญ่และเล็ก ซึ่งเอาไว้จอดเรือเหาะและพาหนะอื่นๆ

[ขอแสดงความยินดีด้วย ท่านได้สร้างอู่เรือเหาะสำเร็จแล้ว]

[ผ่านสิ่งก่อสร้างนี้ มอนสเตอร์สามารถถูกฝึกให้เป็นสัตว์ขี่ได้ และสามารถสร้างพาหนะเพื่อบรรทุกสิ่งต่างๆได้]

[ปลดล๊อก บังเหียนระดับ 1 และปลดล๊อก พาหนะขั้นพื้นฐาน โปรดตรวจสอบรายละเอียดในหน้าต่างการสร้างอีกครั้ง]

เมื่อเสียงแจ้งเตือนที่อยู่ในหัว หลิน ยู ก็รีบเปิดหน้าต่างข้อมูลอู่เรือเหาะเพื่อตรวจสอบ

อยากที่คิดไว้

ตัวเลือกในการผลิตขั้นพื้นฐานปรากฏอยู่ที่ด้านล่างหน้าต่าง

[บังเหียน (ระดับ 1) : มอนสเตอร์ระดับ 1 และต่ำกว่าสามารถทำให้เชื่องและนำเป็นสัตว์ขี่ในอาณาเขตได้ ซึ่งพลเมืองในอาณาเขตสามารถขี่และเช่าได้ โดยมีอัตราความสำเร็จอยู่ที่ 50% ]

[เครื่องร่อน (เล็ก) : ยานบินระดับต่ำสุด เริ่มออกตัวจากที่สูงลงสู่ที่ต้ำ มีความเร็วต่ำ]

[เจ็ตแพ๊ค (เล็ก) : ผลผลิตจักรกลที่สามารถสะพายหลังและพาบินขึ้นไปบนอากาศได้ ใช้งานได้ยาก]

[จรวด (เล็ก) : ผลผลิตจักรกลที่ผูกผู้คนไว้กับมันและจุดไฟมันจะพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า สามารถเดินทางได้หลายพันไมค์ในแต่ละครั้ง แต่มันยากที่ลงสู่พื้นที่เป็นเป้าหมาย]

"...."

เมื่อมองไปที่คำแนะนำของพาหนะพื้นฐานเหล่านี้ สีหน้าของ หลิน ยู ก็กลายเป็นมืดขรึม

แต่ในเวลาเดียวกันเขาก็ประหลาดใจอย่างมาก

เมื่อเขารู้ว่ามียุคจักรกลในโลกนี้ เขาสงสัยว่ายังมีผลผลิตที่คล้ายๆกันอีกหรือไม่ แต่คิดว่าไม่น่าจะมี

มีเพียงแค่ยานพาหนะไม่กี่ประเภทที่ปลดล๊อกโดยอู่เรือเหาะ โดยพื้นฐานยานพาหนะเหล่านี้เป็นยานพาหนะขนาดเล็กที่ใช้กันทั่วไปมากที่สุด สามารถบรรทุกได้เพียง 1-2 คนเท่านั้น

นอกจากนี้ยังมีการผลิตบังเหียนอีกด้วย

เขาคิดไม่ออกจริงๆว่า มอนสเตอร์ระดับต้นๆตัวไหนที่จะสามารถพาคนบินขึ้นไปบนท้องฟ้าได้

อาจจะเป็นไปได้ที่จะพาคนร่อนลงจากที่สูงลงมายังที่ต่ำ แต่หากต้องการให้พาบินขึ้นไปบนท้องฟ้าจริงๆ อาจจะต้องเป็นคนที่อยู่ในระดับสูง

ดังนั้น หลิน ยู จึงไม่ลังเลที่จะใช้ทรัพยากรแร่ที่เหลืออัพเกรดอู่เรือเหาะ

เกิดแสงสว่างวาบอย่างต่อเนื่อง ระดับของอู่เรือเหาะค่อยๆสูงขึ้นเรื่อยๆ ยานพาหนะระดับต่างๆ ได้รับการปลดล๊อกมากขึ้น

เช่น พรมวิเศษ ปีกเจ็ต ดาบบิน ไม้กวาดเวทย์มนต์ บอลลูนลมร้อน...

สรุปแล้วคือ มันมีหลายประเภท รูปร่างแตกต่างกันไป ทั้งวิธีใช้ ความเร็ว รวมไปถึงวัสดุที่ใช้ในการสร้าง

ขณะเดียวกันก็มีของแต่งเพิ่มขึ้นมาอีกหลายอย่าง

เช่น ห้องโดยสารเพิ่มความจุของผู้โดยสาร ถุงลมท้ายพาหนะ เพิ่มความนิ่ง เทอร์โบ เพิ่มความเร็ว

อย่างไรก็ตาม หลิน ยู พบว่าแม้เขาจะอัพเกรด อู่เรือเหาะ ไปเป็นระดับ 7 แล้วแต่เขาก็ยังไม่ได้ปลดล๊อกยานพาหนะขนาดใหญ่เลยแม้แต่อันเดียว แม้แต่ยานพาหนะขนาดกลางก็ยังน่าสมเพชอย่างมาก

มีเพียงแค่บอลลูนลมร้อนและพรมวิเศษเท่านั้นที่พอใช้ได้

ดูเหมือนว่า

เขาที่เพิ่งได้รับเรือเหาะเวทย์มนต์ ซึ่งหาได้ยากมา สามารถรองกับผู้โดยสารได้ถึง 150 คน ถ้าแต่ละคนมีน้ำหนัก 100 ปอนด์ ก็เท่ากับ 15000 ปอร์น

มันสะดวกมากไม่ว่าจะใช้เพื่อโดยสารหรือขนส่งสินค้า

แม้ว่ามันจะไม่เร็วเท่าพาหนะอื่นๆ แต่มันก็มีประสิทธิภาพมากกว่า

และหลังจากที่อู่เรือเหาะได้รับการอัพเกรด ก็ทำให้ได้โบนัสความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างมาก

[ชื่ออาคาร : อู่เรือเหาะ]

[ระดับอาคาร : ระดับ 7]

[ความเร็วเพิ่มขึ้น : 140%]

[จำนวนพาหนะ : 0/700]

[ยานพาหนะขนาดเล็ก : 0/350]

[ยานพาหนะขนาดกลาง : 0/175]

[ยานพาหนะขนาดใหญ่ : 0/70]

[ค่าใช้จ่าย : พลังเวทย์ 640 แต้ม/วัน]

[หมายเหตุ : ควบคุมเส้นทางการบินในอาณาเขต และสร้างยานพาหนะที่บินได้ เพิ่มความเสร็จให้ยานพาหนะในอาณาเขต]

[วัสดุในการผลิต : ไม้ 10000 ชิ้น หิน 10000 ชิ้น แร่เหล็ก 5000 ชิ้น แร่ทองแดง 5000 ชิ้น พลังเวทย์ 50000 แต้ม แก่นแท้ดินแดนระดับ 7 1 อัน]

140% ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงความเร็วทั้งหมด 1.4 เท่า

แต่หมายถึงความเร็วพื้นฐานเพิ่มขึ้น 1.4 เท่า

พูดให้ถูกก็คือ

ความเร็วพื้นฐานของเรือเหาะเวทย์มนต์จะสามารถเร่งไปได้ถึง 144 กม/ชม

เท่ากับว่าเขาสามารถเดินทางจากเมืองหวงซาไปยังเมืองรอบๆหลายแห้งได้ในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง

หากมันถูกแทนที่ด้วยความเร็วสูงสุด 288 กม/ชม คาดว่าคงจะไปกลับได้ภายใน 20 นาที ซึ่งไม่ได้อ่อนแอกว่าเขาเดินทางโดยกองทัพบินแม้แต่น้อย

สุดท้ายแล้ว หากไม่มีมอสชีวภาพและบัพจากออร่าต่างๆ เขาคิดว่าคงใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงเพื่อไปยังเมืองอื่นๆด้วยมังกรราชาปิศาจ

"ตอนนี้ก็เหลือแค่แกนพลังงานแล้ว"

หลิน ยู ปิดหน้าต่างอู่เรือเหาะด้วยความพึงพอใจและนั่งลง

คิดถึงแกนพลังงานว่าจะหามันจากไหนขณะที่กินข้าว เขาก็เปิดไปที่ช่องแชทภูมิภาค

ตอนนี้ท้องฟ้ามืดลงแล้ว

ช่องแชทภูมิภาคซึ้งเงียบไปเป็นวันๆค่อยๆมีชีวิจชีวาขึ้นอีกครั้ง

เหล่าราชันได้ปรากฏตัวขึ้นทีละคน พูดคุยสิ่งต่างๆที่เขาได้พบเจอในวันนี้ แบ่งปันข้อมูลหรือแม้แต่เรื่องราวไร้สาระ

ทั้งหมดกลายเป็นยุ่งเหยิงทันที

หลิน ยู คิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็วางน่องไก่ในมือของเขาลง ก่อนจะพิมพ์ข้อความในช่องแชทแล้วส่งมันออกไป

"หลิน ยู (เมืองหวงซา) : พี่น้องทั้งหลาย มีใครรู้ไหมว่าจะหาแกนพลังงานได้จากที่ไหน"

เขาเริ่มถามออกไป แม้ว่าจะไม่ได้อะไรดีๆกลับมา แต่เขาก็ไม่ได้เสียอะไรอยู่แล้วนิ

แต่สิ่งที่หลิน ยู ไม่คาดคิดก็คือทันทีที่เขาส่งข้อความออกไป ช่องแชทที่มีชีวิตชีวาก็หยุดลงชั่วคราว

แม้แต่ข้อความที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในตอนแรกก็ค่อยๆชะลอตัวลง

ทันใดนั้นช่องแชทก็ระเบิดขึ้นอีกครั้ง

"บ้าเอ้ย ข้าอ่านถูกไหม นั้นคือพี่ใหญ่หลิน ยู?"

"ว่ายังไงนะ พี่ใหญ่หลิน ปรากฏตัวแล้วงั้นเหรอ?"

"ห๊ะ? ใช่จริงๆด้วย ข้าเห็นเขาส่งข้อความเข้ามา"

"พี่ใหญ่ท่านถ่ายรูปกับข้าหน่อย..."

"มาเร็ว! ไอดอลของพวกเราโผล่มาแล้ว!"

ช่องแชททั้งหมดกลายเป็นโกลาหล โดยปกติแล้วคนเหล่านี้เป็นราชันระดับ 6

คนเหล่านี้เห็น หลิน ยู ทำลายสถิติด้วยสายตาของพวกเขา ทะยานสู่อันดับสูงสุดในรายการจัดอันดับระดับ 6 ของอาณาจักร

ความสำเร็จนี้ สร้างเป็นความทรงจำให้กับพวกเขา

เขาเป็นที่พูดถึงของผู้คนจำนวนมากอย่างบ่อยครั้ง

สุดท้ายแล้ว เขาเป็นหนึ่งในไม่กี่คนในฐานะราชันที่ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นภายในอาณาจักร

หลิน ยู ไม่คิดว่าเขาจะโด่งดังขนาดนี้ นี่มันทำให้เขาปวดหัวไม่น้อย

แล้วเขาจะถามเกี่ยวกับแกนพลังงานได้อย่างไรกัน

โชคดี

เมื่อช่องแชทภูมิภาคที่โกลาหลดำเนินไปอยู่พักหนึ่ง ก็มีราชันหลายคนที่ดูเหมือนจะมีระดับสูงมาตอบเขา

"จู เจิ้งเผิง (เมืองหยงลี) : ดูเหมือนจะแกนพลังนั้นจำเป็นสำหรับการสร้างยานพาหนะระดับกลางขึ้นไปใช่ไหม? นายต้องการสร้างยานพาหนะระดับกลางงั้นเหรอ?"

"เจี้ยน เหว่ย (เมืองลั่วหยาง) : ถ้าเป็นแกนพลังงานของพาหนะระดับกลางละก็ ฉันสามารถสร้างให้ได้ ฉันขายในราคาตลาดให้นายได้ คิดแค่ค่าแรงเล็กน้อย เราสามารถแลกเปลี่ยนกันได้ที่เมืองหลัก"

"จาง เต๋อเซิง (เมืองเฟยหยู) : นายจะสร้างยานพาหนะแบบไหนกัน น้องชาย ฟังฉันนะอย่าสร้างยานพาหนะพื้นฐานระดับกลางพวกนั้น มันน่าสมเพชยิ่งนัก ครั้งล่าสุดที่ฉันสร้างบอลลูนลมร้อน มันเพิ่งจะลอยขึ้นไปในอากาศได้เพียงนิดเดียว ก็รั่วออกมาซะแล้ว"

เห็นได้ชัดว่าราชันเหล่านี้อาคาหารอู่เรือเหาะและรู้เรื่องยานพาหนะเป็นอย่างดี

ก่อนที่พวกเขาจะพูดอะไรไปมากกว่านี้ ก็มีข้อความเด้งขึ้นออกมาทันที

"หลิน ยู (เมืองหวงซา) : มันสามารถใช้เป็นแกนพลังงานสำหรับยานพาหนะขนาดใหญ่ได้หรือไม่?"

เงียบกริบ

ราชันระดับสูงที่กำลังพูดคุยกันเรื่องยานพาหนะต่างพากันเงียบลงทันที

หลังจากนั้นไม่นานก็มีข้อความเด้งขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง

"นายแน่ใจหรือว่านายต้องการแกนพลังขนาดใหญ่?"

"นายมีพิมพ์เขียวของยานพาหนะขนาดใหญ่แล้วงั้นเหรอ?"

"มันเป็นไปไม่ได้? ฉันอยู่ที่นี้มานานแล้ว ฉันยังไม่เคยเห็นใครในอาณาจักรที่มียานพาหนะขนาดใหญ่เลย"

"ฉันได้ยินมาว่าสิ่งนั้นหาได้ยากมาก ไม่สามารถใช้แต้มเกียรติยศในการแลกเปลี่ยนได้"

"น้องชาย ฉันสามารถสร้างแกนพลังงานได้โดยไม่ต้องใช้ทรัพยากรของนายแม้แต่นิดเดียว ตราบใดที่นายเปิดเส้นทางการบินมายังอาณาเขตของฉัน!"

"เหมือนกับข้างบน! ฉันเป็นเมืองขนาดกลางที่มีประชากรมากกว่า 200000 คน ได้โปรดเปิดเส้นทางการบินมาหาฉันด้วย! ฉันอยากออกไปจากที่นี้"

"นายช่วยพาฉันไปด้วยได้ไหม ประชากรของฉันเกือบจะถึง 200000 คนแล้ว ดังนั้นหากเปิดเส้นทางการบินมาที่ฉันมันไม่ใช่เรื่องเสียหายอย่างแน่นอน"

ในช่วงพริบตา ราชันระดับ 7 และระดับ 8 ต่างพากันส่งข้อความหาหลิน ยู

พวกเขารู้ดีว่ามูลค่าของยานพาหนะขนาดใหญ่นั้นมีมูลค่ามหาศาลขนาดไหน

ตราบใดที่มันอยู่ในเส้นทาง มันจะไปกระตุ้นให้อาณาเขตของเขาเจริญรุ่งเรืองอย่างแน่นอน

สิ่งเหล่านี้ต่างเชื่อมโยงกันทั้งพลังความศรัทธาและรายได้ของพวกเขา

บางคนรีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว

แถมพวกเขายังส่งข้อความมาหา หลิน ยู ผ่านแชทส่วนตัว โดยเสนอผลประโยชน์ต่างๆ เพียงเพื่อให้เขาผ่านไปยังอาณาเขตของตัวเองเมื่อเขาสร้างยานพาหนะขนาดใหญ่เสร็จ

ต้องรอบคอบให้มาก

มันเป็นความจริงที่เขาต้องการค้นหาประเภทของพิมพ์เขียวยานพาหนะที่อยู่ในมือของ หลิน ยู

สุดท้ายแล้วระหว่างยานพาหนะขนาดใหญ่มันก็ยังมีความแตกต่าง

หากความเร็วของมันช้าจนเกินไป มันก้จะเกิดข้อบกพร่องและข้อจำกัดต่างๆทำให้ไม่สามารถร่วมมือกันได้

หลิน ยู ไม่คิดว่าการตอบสนองของพวกเขาจะรุนแรงขนาดนี้

เมื่อมองดูข้อความที่โผล่ขึ้นมา ดวงตาของเขาก็ค่อยๆสว่างขึ้น

ดูเหมือนว่าความล้ำค่าของยานพาหนะขนาดใหญ่นี้จะสูงกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้ซะอีก

หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง เขาเปิดดูช่องแชทส่วนตัว

หลังจากที่คัดกรองมาซักพักหนึ่ง เขาก็เลือกราชัน 2 3 คนที่ไว้ใจได้ อาณาเขตค่อนข้างใหญ่และอยู่ห่างไกล พูดคุยกันผ่านแชทส่วนตัว

ในที่สุดผลการเจรจาก็ออกมา

พวกเขาจะมอบแกนพลังงานให้กับ หลิน ยู ฟรี ๆ แลกกับการที่หลิน ยู ต้องเปิดเส้นทางการบินมายังพวกเขาเพื่อทำการค้าขาย

โดยรวมแล้วเป็น หลิน ยู ที่ยังทำกำไรได้อย่างมากมาย

สุดท้ายแล้ว สถานที่ๆเขาเลือกคือเมืองใหญ่ที่มีผู้คนหลายแสนคนซึ่งเป็นโอกาศในการพัฒนาครั้งยิ่งใหญ่ของเมืองหวงซา

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือผู้ที่ร่วมมือกับเขานั้นเป็นราชันระดับ 8 ที่ค่อยสนิทกันภายในอาณาจักร พวกเขามีกองกำลังที่ดีและสามาถส่งคนไปดูแลความปลอดภัยของเส้นทางได้ ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกโจมตี

สำหรับราชันระดับ 9 นั้น ประชากรของพวกเขานั้นมีเป็นล้านคน

พวกเขาจึงไม่สนใจกำไรเล็กน้อยแบบนี้

คิดว่าคงต้องรอให้เขาพัฒนาขึ้นไปซะก่อน

ราชันกลายพันธุ์ตอนที่ 258