จากนั้นโจวโจวก็หารือกับลอร์ดคนอื่นเกี่ยวกับการจัดการกับเจ้าล่าสวรรค์ก่อนที่จะจบการประชุม
หลังจากนั้นเขาก็หยิบเอาเข็มทิศวิญญาณแห่งการล้างแค้นออกมา
โจวโจวถอนหายใจอย่างเสียดายในขณะที่เขามองดูจำนวนการใช้งานคงเหลือของมัน ซึ่งมันก็เหลือแค่ 2 ครั้งเท่านั้น
เข็มทิศวิญญาณแห่งการล้างแค้นนี่มีประโยชน์มากจริงๆ
น่าเสียดายที่มันมีจำนวนการใช้งานที่จำกัด
หลังจากการใช้งานไปแล้วสองครั้ง มันก็เหลือจำนวนครั้งในการใช้งานอีกแค่สองครั้งเท่านั้น
“ฉันน่าจะต้องลองอัพเกรดพรสวรรค์แห่งลอร์ดคนเก็บขยะและดูว่าฉันจะสามารถเพิ่มจำนวนครั้งในการใช้งานมันได้อีกไหม”
โจวโจวคิด
ในฐานะพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับบรอนซ์เขียว พรสวรรค์แห่งลอร์ดคนเก็บขยะก็ไม่จำเป็นต้องใช้ชิ้นส่วนคริสตัลพรสวรรค์แห่งลอร์ดจำนวนมากเท่าไรเพื่ออัพเกรดมัน เขาจึงสามารถลองดูได้
จากนั้นเขาก็หยุดคิดเกี่ยวกับมันและมองไปยังเข็มทิศวิญญาณแห่งการล้างแค้นที่อยู่ตรงหน้า เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และกล่าวว่า
“วิญญาณแค้นผู้ยิ่งใหญ่เอ๋ย ข้าต้องการล้างแค้นคนผู้หนึ่ง ท่านช่วยชี้นำข้าถึงตำแหน่งของคนผู้นั้นได้หรือไม่?”
หลังจากผ่านไปสามวินาที
หวือ
เข็มทิศก็ขยับเล็กน้อย และจากนั้นหมอกสีเลือดจำนวนมหาศาลก็แผ่ออกมาจากเข็มทิศ
โจวโจวมองดูภาพฉากนี้อย่างใจเย็น
ดวงตาสีเลือดคู่หนึ่งปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ จากหมอกสีเลือด
มันมองมายังโจวโจว
“มนุษย์แห่งความโกลาหล บอกข้ามาว่าศัตรูที่เจ้าต้องการแก้แค้นคือผู้ใด?”
เสียงอันคุ้นเคยของวิญญาณแค้นดังขึ้น
“ศัตรูที่ข้าอยากล้างแค้นก็คือลอร์ดแห่งเผ่าพันธุ์เทพล่าสวรรค์ เจ้าล่าสวรรค์!”
โจวโจวกล่าว
วิญญาณแค้นตอบด้วยเสียงทุ้มต่ำ
“ย่อมได้ ตามข้ามา”
หลังจากนั้นดวงตาสีเลือดคู่นั้นก็ค่อยๆ หายไปในหมอกสีเลือด จากนั้นหมอกสีเลือดก็ถอนตัวกลับเข้าไปในเข็มทิศ และห้องประชุมทั้งหมดก็กลืบคืนสู่สภาพเดิมของมัน
สายตาของโจวโจวมองไปยังเข็มทิศในมืออีกครั้ง
เข็มสีเลือดบนเข็มทิศเริ่มหมุนอย่างช้าๆ อีกครั้งซึ่งเขาคุ้นเคยกับภาพฉากนี้อยู่แล้ว สุดท้ายมันก็ชี้ไปยังทิศเหนือ
เมื่อเห็นเช่นนี้ เขาก็รู้สึกประหลาดใจขึ้นมา
เจ้าล่าสวรรค์อยู่ห่างจากเขาไปทางทิศเหนือ 17,625 กิโลเมตร
“ดูเหมือนว่าเจ้าล่าสวรรค์จะวิ่งเร็วกว่าฉันนะ”
โจวโจวคิดกับตัวเองและถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
ทิศทางนี้เป็นทิศทางที่ห่างจากวายุคลั่ง
ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ต้องกังวลว่าจะเจอเข้ากับวายุคลั่งเพราะเขาไล่ตามเจ้าล่าสวรรค์ไป
จากนั้นเขาก็บอกเหวินหยาถึงตำแหน่งของอีกฝ่ายและบอกให้เธอควบคุมยานบินไล่ตามเจ้าล่าสวรรค์ไป
ตู้ม!
ราตรีประดับดาว 11 ลำและยานบินสีน้ำเงิน 20 ลำที่ได้มาจากพระบิดาระเบิดความเร็วสูงสุดออกมาและพุ่งไปยังทิศเหนือด้วยความเร็วสูงสุด
หลังจากผ่านไปสักพัก โจวโจวก็มองไปยังกองพิมพ์เขียวของเผ่าพันธุ์จักรกลที่อยู่ตรงหน้าของเขา
มันมีไอเท็มดรอปสามประเภทที่ทหารได้รับมาหลังจากเก็บไอเท็มดรอปมาจากพวกเผ่าพันธุ์จักรกล
พวกมันประกอบไปด้วยพิมพ์เขียวผลิตทหารจักรกลประเภทโจมตีรุ่นขวานยักษ์ พิมพ์เขียวผลิตทหารจักรกลประเภทโจมตีระยะไกลรุ่นพลปืนใหญ่ และพิมพ์เขียวผลิตทหารจักรกลประเภทต่อสู้และลาดตระเวนทางอากาศเหยี่ยวเงา (ระดับบรอนซ์เขียวขั้นต้น~ระดับแพลตตินั่มขาวขั้นสูง!)
พิมพ์เขียวพวกนี้มีจำนวนด้วยกันทั้งสิ้น 43 อัน
โจวโจวคิดด้วยความสงสัยอยู่สักพักก่อนที่จะแบ่งปันมันกับสุดยอดลอร์ด
สุดยอดลอร์ดไม่ได้มากพิธี หลังจากที่เขาบันทึกพิมพ์เขียวพวกนี้ไว้ในรายการทักษะของตัวเองแล้ว เขาก็สั่งให้เหวินหยาซื้อวัสดุที่จำเป็นต้องใช้ในการสร้างทหารจักรกลเหล่านี้ทันที นอกจากนี้เขายังเริ่มสร้างโรงงานผลิตทหารจักรกลเหล่านี้ขึ้นในดินแดนตะวันสาดแสงด้วย
ในเวลาเดียวกัน เขาก็บอกให้เหวินหยารวบรวมข้อมูลทางเทคโนโลยีของอารยธรรมดาวเคราะห์สีน้ำเงินในตลาดซื้อขายผ่านหลิงเอ๋อร์
เดิมทีความรู้ทางเทคโนโลยีของอารยธรรมดาวเคราะห์สีน้ำเงินถูกรวบรวมไว้โดยเหล่าลอร์ดจากดาวเคราะห์สีน้ำเงินเอง เป้าหมายแรกของพวกเขาก็เพื่อหารายได้จากพวกมันเท่านั้น
แม้ว่าราคาของมันจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก
มันเป็นเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือนเองที่พวกเขามาถึงทวีปจื้อเกา
ลอร์ดจากดาวเคราะห์สีน้ำเงินส่วนใหญ่ยังคงคิดเกี่ยวกับวิธีการเสริมสร้างกองกำลังและเพิ่มระดับของดินแดนของตัวเองอยู่ หรือแม้กระทั่งปัญหาพื้นฐานเกี่ยวกับการเอาชีวิตรอด
สำหรับการสร้างหรือการพัฒนาอารยธรรมทางเทคโนโลยีของดาวเคราะห์สีน้ำเงินต่อไปนั้น นอกเหนือจากลอร์ดจากดาวเคราะห์สีน้ำเงินในระดับแนวหน้าเพียงไม่กี่คนอย่างเจ้าอุตสาหกรรมการทหารแล้ว ลอร์ดคนอื่นๆ ก็แทบจะไม่สนใจทำเรื่องแบบนี้เลย
มันเป็นเวลาที่ถูกที่สุดสำหรับสุดยอดลอร์ดในการซื้อความรู้ทางเทคโนโลยีของดาวเคราะห์สีน้ำเงิน!
เขาทะเยอทะยานมาก!
เขาไม่เพียงแต่อยากดูดซับอารยธรรมเทคโนโลยีของเผ่าพันธุ์จักรกลในโลกนี้เท่านั้น แต่ยังต้องการดูดซับมรดกทางเทคโนโลยีของอารยธรรมดาวเคราะห์สีน้ำเงินอีกด้วย!
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือด้วยอัลกอริทึมขั้นสูงสุดของเขา เขาก็สามารถทำได้ทั้งหมด
สุดยอดลอร์ดคงใช้เวลาไม่นานนักก็คงจะมั่นใจว่าตัวเองสามารถแซงหน้าเจ้าอุตสาหกรรมการทหารที่ทำการวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้มาสักพักแล้วได้!
หลังจากผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ในที่สุดโจวโจวและคนอื่นๆ ก็เห็นเป้าหมายของพวกเขาแล้ว
ในเวลานี้ มันเห็นได้ชัดว่าเจ้าล่าสวรรค์นั้นแข็งแกร่งขึ้นกว่าครั้งล่าสุดที่โจวโจวเจอกับเขาบนสมรภูมิแห่งลอร์ดสรรพเผ่าพันธุ์
จากระยะไกล จำนวนสมาชิกของเผ่าพันธุ์เทพเลี้ยงแกะที่เชี่ยวชาญในพลังแห่งกฎเกณฑ์ก็ได้เพิ่มขึ้นจากสี่คนเป็นแปดคนแล้ว!
นอกจากนี้พวกมันยังได้พาพันธมิตรแห่งลอร์ดที่ก่อตั้งขึ้นจากลอร์ดต่างเผ่าพันธุ์กว่า 100 คนมาด้วย ทำให้มันมีทหารกว่าหนึ่งล้านคนภายใต้การบัญชาการ!
ดวงตาของโจวโจวเปล่งประกายขึ้นมาในขณะที่เขามองไปยังลอร์ดต่างเผ่าพันธุ์พวกนี้
แม้ว่าครั้งนี้เขาจะไม่สามารถเอาชนะเจ้าล่าสวรรค์ได้ แต่โจวโจวก็รู้สึกว่าการเดินทางในครั้งนี้ของเขาจะไม่สูญเปล่าแน่ถ้าเขาสามารถจัดการกับคนจากต่างเผ่าพันธุ์พวกนี้ได้
อันที่จริงมันก็เป็นเรื่องปกติมากที่ลอร์ดที่ทรงพลังเช่นนี้จะนำสมาชิกพันธมิตรแห่งลอร์ดและลูกน้องของพวกเขาเข้ามายังสมรภูมิสุดท้าย
โดยเฉพาะในวันนี้!
มันมีลอร์ดจากพันธมิตรแห่งลอร์ดปรากฏตัวขึ้นเป็นจำนวนมาก!
ลอร์ดคนอื่นๆ ก็ไม่ได้โง่ และย่อมคิดในสิ่งที่โจวโจวคิดได้
นี่ยังเป็นเหตุผลว่าทำไมโจวโจวและซวีอันถึงสามารถสังหารลอร์ดต่างเผ่าพันธุ์ไปได้กว่า 3,816 คนภายในสามชั่วโมง!
มันเป็นเพราะพวกมันอยู่รวมกันนั่นเอง!
โจวโจวและคนอื่นๆ สามารถสังหารลอร์ดต่างเผ่าพันธุ์นับสิบหรือกระทั่งนับร้อยคนได้ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงแค่ครั้งเดียว ดังนั้นมันจะไม่เร็วได้ยังไง?
ดังนั้นแม้ว่าพวกเขาจะเจอกับเจ้าล่าสวรรค์แล้ว แต่โจวโจวก็ไม่ได้ลงมืออย่างบุ่มบ่าม
นี่เป็นเพราะเจ้าล่าสวรรค์กำลังนำชาวเผ่าพันธุ์เทพเลี้ยงแกะ 8 คน และสมาชิกในพันธมิตรแห่งลอร์ดต่อสู้กับลอร์ดอีกฝ่าย และกำลังเสียเปรียบอยู่ด้วย
สิ่งที่ทำให้โจวโจวประหลาดใจที่สุดก็คืออีกฝ่ายนั้นมีคนเพียงแค่สองคนเท่านั้น!
คนหนึ่งทอประกายไปด้วยสายฟ้า
และอีกคนก็ทอประกอยอยู่ในระลอกคลื่นแสงที่โปร่งใส ทำให้ผู้คนรู้สึกถึงความคลาดเคลื่อนเชิงมิติอย่างแปลกประหลาด
โจวโจวและคนอื่นๆ ไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของพวกเขาได้อย่างชัดเจนนักเพราะมีการบดบังของแสงสว่างอยู่
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้โจวโจวตกใจก็คือเมื่อเขาเห็นตัวตนทั้งสองนั้น เจตจำนงราชาผู้พิฆาตมังกรในร่างกายของเขาก็สั่นไหวอย่างรุนแรงที่สุดเท่าที่มันเคยเป็นมาเลย