ตอนที่ 37 - บทที่ 37 มันจะยากเย็นตรงไหนกัน!

บทที่ 37 มันจะยากเย็นตรงไหนกัน?!

"ถ้าอย่างนั้นก็เพิ่มความแข็งแรงก่อนก็แล้วกัน"

เฉินฟานตัดสินใจอย่างรวดเร็ว และเพิ่มระดับทันที

ความร้อนที่คุ้นเคยพุ่งออกมาจากหัวใจอีกครั้ง และไหลไปทั่วร่างกาย หลังจากหายใจไม่กี่ครั้งมันก็ค่อยๆหายไป

"ฮู้..."

เฉินฟานเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผากของเขา อาจเป็นเพราะอาหารที่เขาเพิ่งกินไปทำให้คราวนี้ความร้อนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย มันราวกับว่ามีไฟลุกอยู่ในร่างกายของเขา และทำให้เขารู้สึกมีพลังมากขึ้น

ระดับ: 5 (0/16)

กายภาพ: 29.26

ความแข็งแรง: 20.36

ความคล่องตัว: 12.59

จิตวิญญาณ: 8.05

แต้มศักยภาพ: 20 (3 คะแนน/1 วัน)

แต้มค่าประสบการณ์: 36

"เยี่ยม ตอนนี้ข้าควรใช้ธนูหนึ่งร้อยปอนด์อย่างสะดวกแล้ว"

เฉินฟานแสดงรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา โดยมองไปที่แต้มศักยภาพ 20 แต้มที่เหลือ

เขาสามารถเพิ่มระดับเพื่อเสริมความแข็งแกร่งโดยรวมให้ร่างกายของเขาต่อไปได้อีกครั้งหนึ่ง แต่เขาก็ลังเลเล็กน้อยว่าจะใช้มันในการฝึกยิงธนูในช่วงบ่ายหรือจะเก็บไว้ล่าสัตว์ในวันพรุ่งนี้เมื่อพลังงานและเรี่ยวแรงของเขาหมดลง

เพราะท้ายที่สุด การเพิ่มระดับไม่เพียงแต่เพิ่มความแข็งแกร่งโดยรวมของร่างกายขึ้น 10% เท่านั้น แต่มันยังสามารถฟื้นฟูความเหนื่อยล้าทางกายภาพได้อีกด้วย

"งั้นก็เก็บไว้วันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน"

หลังจากคิดเรื่องนี้แล้วเขาก็ยังเลือกอย่างหลัง เขาถ้าเขาเลือกเพิ่มระดับอีกครัั้งความแข็งแรงของเขาก็จะมีเพียง 22 แต้มเหมือนเดิม ถ้าเขาต้องการน้าวธนูสองร้อยปอนด์ เขาต้องการความแข็งแรงอย่างน้อย 40 แต้ม ซึ่งมันยังอยู่ไกลเกินไป

เป็นการดีกว่าที่จะเก็บไว้เป็นไพ่ตายในการช่วยชีวิตตัวเองจะดีกว่า

เมื่อเขาไปถึงโกดัง คนส่วนใหญ่ก็มาถึงแล้ว

"เจ้ามาแล้วหรือ?"

จางเหรินหันกลับมามองเขา

"ข้ามาแล้ว"

เฉินฟานพยักหน้า "ต่อไปข้าต้องรบกวนลุงจางแล้ว"

จางเหรินโบกมือ แสดงให้เห็นว่าไม่จำเป็นต้องพูดคำสุภาพเหล่านี้ "แม้ว่าเจ้าจะเริ่มฝึกไทจี้ฉวนแล้ว แต่เจ้าเพิ่งเริ่มต้นการเรียนรู้ไท่จี้ฉวนเท่านั้น ในอนาคตเจ้าจะเหนื่อยมาก เจ้าต้องเตรียมจิตใจให้พร้อมเข้าใจไหม?"

"ข้าเข้าใจแล้ว"

เฉินฟานก็เริ่มกังวลเล็กน้อยเช่นกัน

แต่เมื่อเขาเลียนแบบทุกการเคลื่อนไหวของจางเหริน เขารู้สึกว่าขาของเขาไม่ได้ออกแรงมากอย่างที่คิด และขาทั้งสองก็สบายขึ้นกว่าตอนแรกอย่างมาก

แต่มันก็ยังขึ้นๆลงๆ และไม่ใช่ความรู้สึกเบาและมั่นคงอย่างของจางเหรินเลย

หลังจากเสร็จสิ้นการฝึกไท่จี้ฉวนแล้ว เฉินฟานแทบรอไม่ไหวที่จะดูแถบทักษะ

【ไท่จี้ฉวนของตระกูลจาง: ไม่รู้อะไรเลย (0.01%)】

"เอ๊ะ?"

เขาอ้าปากกว้างในทันที โดยคิดว่าเขากำลังประสาทหลอนอยู่ แม้ว่าเขาจะดูหลายครั้งแล้วก็ตาม

ความก้าวหน้า 0.01 งั้นเหรอ? จากการคำนวณ 5 นาทีเพิ่มขึ้น 0.01 เขาต้องใช้เวลา 50,000 นาที หรือ 833 ชั่วโมง หรือ 34.7 วัน!

แต่เขาสามารถฝึกฝนโดยไม่กินหรือดื่มเป็นเวลาหนึ่งเดือนได้หรือไม่?

ใช้เวลาเป็นเดือนสองเดือนเพื่อจะไปถึงระดับเริ่มต้นไท่จี้ฉวน มันจะไม่นานเกินไปเหรอ?

"รู้สึกยังไงบ้าง?"

จางเหรินหันกลับมา

ไท่จี้ฉวนของเขาต้องใช้กำลังขาอย่างมาก และเขาจำเป็นต้องลดจุดศูนย์ถ่วงลงเรื่อยๆเพื่อคงสภาพมันไว้ และมันแตกต่างจากไทเก็กที่ชายชราและหญิงชรารำในสวนสาธารณะก่อนเกิดการเปลี่ยนแปลง แม้ว่าจะเป็นชายหนุ่มก็ไม่สามารถยืนอย่างมั่นคงได้หากไม่มีเทคนิคการหายใจ ส่วนชายชราหรือหญิงชราก็เช่นเดียวกัน หากทำเช่นนี้พลังชีวิตของพวกเขาอาจหายไปครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว

สำหรับเฉินฟาน เขาแค่เหงื่อออกเล็กน้อย ซึ่งทำให้เขาประหลาดใจเล็กน้อย

เฉินฟานรีบพูดว่า "ลุงจางข้ารู้สึกโอเค แต่การเคลื่อนไหวไม่ค่อยคุ้นเคยมากนัก"

"มันจะไม่คุ้นเคยในตอนแรกเป็นเรื่องปกติ แต่มันจะดีหลังจากที่เจ้าคุ้นเคยกับมัน มาแสดงให้ข้าดูหน่อย"

"อืม"

ดังนั้นทั้งสองจึงหมกหมุ่นอยู่กับการเรียนและการสอนไท่จี้ คนหนึ่งเฝ้าดูจากด้านข้าง โดยให้คำชี้แนะสองสามคำเป็นครั้งคราว หลังจากเสร็จสิ้นฉากแล้วเฉินฟานก็รู้สึกเหนื่อยมาก และร่างกายของเขาก็เปียกโชกไปด้วยเหงื่อ

จางเหรินพยักหน้าเล็กน้อย

เด็กคนนี้เป็นคนที่สามารถน้าวคันธนูแปดสิบปอนด์งได้ และร่างกายของเขาก็ต้องพิเศษมากจริงๆ

"เจ้าพักผ่อนสักพักแล้วค่อยฝึกซ้อมกับข้าใหม่"

"ได้"

เฉินฟานตอบ และมองไปที่แถบทักษะด้วยแววตาประหลาดใจ

【ไท่จี้ฉวนของตระกูลจาง: ไม่รู้อะไรเลย (0.025%)】

มันเพิ่มขึ้น 0.015% ซึ่งมากกว่าครั้งที่แล้ว 0.005% ซึ่งทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นอย่างอธิบายไม่ถูก นี่แสดงให้เห็นว่ายิ่งมีพัฒนาการมากเท่าใดการเติบโตก็จะยิ่งเร็วขึ้นเท่านั้น

ดูเหมือนว่ามันจะยังพอยอมรับได้ แม้ว่ามันจะถือว่าขึ้นช้ามากอยู่ดี

รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาหายไป และเมื่อการเคลื่อนไหวของเขากลายเป็นมาตรฐานมากขึ้น ความเชี่ยวชาญของเขาก็ค่อยเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เช่น 0.02 เป็น 0.03 ต่อห้านาที

แม้ว่าจะเป็น0.03 ต่อห้านาที แต่ถ้าเขาอยากจะเรียนรู้ไท่จี้ฉวนได้ต้องฝึกเป็นเวลาสิบวันโดยไม่กินหรือดื่ม

"การพัฒนาของทักษะไท่จี้ฉวนยังช้าเกินไป"

เขาถอนหายใจออกมาเบา ๆ

เช่นเดียวกับการยิงธนูขั้นพื้นฐาน ตราบใดที่เขาเปลี่ยนเป็นธนูที่แข็งแกร่งขึ้น หรือเพิ่มจำนวนการยิงที่รวดเร็ว ความเชี่ยวชาญก็จะค่อยๆเพิ่มขึ้นเช่นกัน และหากใช้ในการต่อสู้จริงมันจะเพิ่มเร็วขึ้นอย่างมาก

แต่ดูเหมือนว่าไท่จี้ฉวนจะสามารถฝึกฝนอย่างช้าๆได้เท่านั้น และการต่อสู้จริงอาจพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เขาไปต่อสู้ที่ไหน? ต่อสู้กับผู้อื่น? หรือจะให้เขาจะใช้ไท่จี้ฉวนมือเปล่าฆ่าสัตว์อสูรงั้น? นี่ฟังดูไม่น่าเชื่อถืออย่างมาก

ดังนั้นในการวิเคราะห์ขั้นสุดท้าย เขายังต้องอาศัยการบวกเพิ่มแต้มค่าประสบการณ์อยู่ดี

หลังจากนั้นไม่นาน จางเหรินก็เข้ามาและสอนไท่จี้ฉวนต่อ

ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าการคาดเดาของเฉินฟานไม่ผิด หลังจากการฝึกซ้อมไม่กี่ครั้ง เมื่อจบการฝึกไท่จี้ฉวนชุดหนึ่งแล้ว ความเชี่ยวชาญกลับมาเพิ่มขึ้นยังคงที่ 0.02 ซะงั้น

และหากเขาต้องการเรียนรู้ไท่จี้ฉวนได้ เขาต้องฝึกเป็นเวลาครึ่งเดือนโดยไม่ได้นอนหรือพักผ่อน

"พอใช้ได้"

จางเหรินพยักหน้า "แต่นั่นแหละ ถ้าเจ้าฝึกฝนทุกวัน เจ้าก็จะสามารถเรียนรู้มันได้ภายในสามปี"

"อึก!"

เมื่อได้ยินประโยคนี้ หวังปิงและคนอื่นๆ ที่อยู่ไม่ไกลก็แทบจะพ่นโลหิตออกมาเต็มปาก

ใช้เวลาการฝึกถึงสามปีเลยงั้นเหรอ?

นี่เขาจะพูดเกินจริงไปหรือป่าว?

เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ท่าหวู่จี้จะใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์และท่าไท่จี้พื้นฐานจะใช้เวลาหนึ่งเดือนถ้าขยันและมีพรสวรรค์เล็กน้อย

จางเหรินมองดูพวกเขาและพูดอย่างเยาะเย้ยว่า: "สามปีที่ที่ว่านี้ต้องขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่เจ้ามีพรสวรรค์ที่ดีนะ แต่ถ้าเจ้ามีพรสวรรค์เล็กน้อยห้าปีอาจจะไม่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยซ้ำ หากพวกเจ้ายอมรับไม่ได้ พวกเจ้าสามารถเรียนรู้สิ่งอื่นๆและเทคนิคอื่นได้ เพราะเทคนิคอื่นๆพวกเจ้าอาจจะสามารถถึงขั้นเริ่มต้นได้ภายในหนึ่งปี"

"เทคนิคอะไรงั้นหรือครับ?"

ทุกคนถอดใจมาหาเทคนิคใหม่ที่ฝึกได้ไวกว่าทันที

จางเหรินพูดไม่ออก

อย่างน้อยในความเห็นของเขา การเรียนรู้ไท่จี้ฉวนก็เหมือนกัน เป้าหมายสูงสุดคือการได้รับความแข็งแกร่ง และแไท่จี้ฉวนเป็นเทคนิคพัฒนาสู่พลังงานที่แท้จริง

แม้ว่าจะเริ่มช้าแต่หลังก็จะฝึกฝนได้ง่าย แต่ถ้าเริ่มต้นแล้วต้องการผลสำเร็จที่เร็วก็อาจจะฝึกในส่วนหลังๆได้ยาก หรือไม่ก็ไม่อาจจะก้าวหน้าเลย

แต่เขาไม่สามารถอธิบายหลักการเหล่านี้ให้คนหนุ่มสาวเหล่านี้ฟังได้อย่างแน่นอน เพราะอีกฝ่ายไม่เข้าใจแม้ว่าพวกเขาจะพูดให้พวกเขาฟัง แต่พวกเขาก็ไม่เข้าใจอยู่ดี เพราะเขาก็เป็นแบบนี้เมื่อตอนที่เขายังเด็ก

"สิงอี้เฉวียน"

"หากพวกเจ้าต้องการเริ่มต้นอย่างรวดเร็ว พวกเจ้าควรเรียนรู้สิงอี้เฉวียน แต่ก่อนหน้านั้นพวกเจ้าก็ต้องฝึกสามท่าร่างเบื้องต้นนี้ก่อนเป็นเวลาประมาณสามเดือน"

"สิงอี้เฉวียน สิงอี้เฉวียน!"

หลายคนตะโกนออกมาอย่างรวดเร็ว

ทำไมพวกเขาถึงเลือกฝึกสิงอี้เฉวียนงั้นหรือ? เพราะหากพวกเขาพยายามอย่างเต็มที่ พวกเขาก็จะสามารถถึงระดับเริ่มต้นได้ภายในหนึ่งปีครึ่ง แต่ไท่จี้ฉวนแม้จะใช้เวลาสามปีก็อาจจะไม่สามารถถึงระดับเริ่มต้นได้

"เอาล่ะ เมื่อพวกเจ้าสำเร็จสามท่าร่างพื้นฐานได้เมื่อใด? ข้าก็จะสอนมันให้กับพวกเจ้า"

จางเหรินกล่าวเบาๆ

"ก็ลุงจาง ข้าก็อยากเรียนเหมือนกัน..."

"หือ?"

จางเหรินเหล่ตาและมองไปที่เฉินฟานราวกับกำลังบอกว่าเจ้ากำลังล้อข้าเล่นอยู่ใช่ไหม?

"ไม่ ลุงจาง ท่านกำลังเข้าใจผิด" เฉินฟานเหงื่อแตก “ข้าหมายความว่าเมื่อข้าบรรลุถึงระดับเริ่มต้นของไท่จี้ฉวน ข้าก็อยากจะเรียนรู้สิงอี้เฉวียนจากท่านด้วย”

จากมุมมองทักษะมากมายที่เขาได้รับ แม้ว่าทักษะเหล่านี้จะแตกต่างกันแต่ก็มีความคล้ายคลึงกัน และที่สำคัญมันสามารถเพิ่มค่าสถานะของเขาแบบซ้อนทับได้

ศิลปะการต่อสู่ก็น่าจะเหมือนเดิม ดังนั้นสำหรับเขาแล้วยิ่งเรียนรู้เยอะเขาก็ยิ่งแข็งแกร่ง!

"โอ้?"

จางเหรินลืมตาขึ้น จากนั้นมุมปากของเขาก็หยักขึ้นเล็กน้อย "เจ้าอยากจะเรียนรู้วิธีชกมวยเทคนิคที่สองหลังจากที่เจ้าบรรลุถึงระดับเริ่มต้นของมวยไท่จี้ฉวนงั้นหรือ? เจ้าช่างมีความทะเยอทะยานมากจริงๆ ถ้าอย่างนั้นเมื่อเจ้าเชี่ยวชาญไท่จี้ฉวนระดับเริ่มต้นแล้ว มาบอกข้าว่าเจ้าต้องการเรียนรู้เทคนิคการชกมวยเทคนิคที่สอง..หึๆๆ"

หลังจากพูดแล้วเขาก็หันหลังกลับและเดินจากไป

"หึๆๆ..งั้นหรือ?"

เฉินฟานรู้สึกว่าเขากำลังถูกเยาะเย้ย

เชี่ยวชาญไท่จี้ฉวนระดับเริ่มต้นงั้นหรือ?

มันจะยากเย็นตรงไหนกัน?

เดี๋ยวข้าจะทำให้ท่านดู!