ตอนที่ 248 หอคอยแห่งบาป

เมื่อ หลิน ยู กลับมาถึงดินแดนมันเป็นเวลากลางคืนไปแล้ว

เมืองหวงซาสว่างไหวด้วยแสงไฟมันดูมีชีวิตชีวาอย่างมาก

ในช่วงสุดท้ายของวันที่แสนวุ่นวาย ผู้คนได้มารวมตัวกันที่ถนนเพื่อนเดินเล่น เสียงเหล่านั้นดังออกไปไกล

หลิน ยู ได้ให้หญ้าโคมไฟ ใช้เงียบสงบเพื่อเก้บเสียงเหล่านั้นเอาไว้

ตัวเขานั้นชอบดอกไม้ไฟ เพราะสิ่งนี้ทำให้เขานั้นรู้สึกว่าตัวเขานั้นยังอยู่ในโลกใบเดิม

อาจเป็นเพราะตัวเขานั้นอารมณ์หลังจากที่ของดีๆมา เขาเดินออกจากดินแดนมุ่งหน้าไปตามถนนที่สร้างใหม่ของเมืองหวงซา

"สายันสวัสดิ์ขอรับ นายท่าน"

"ข้าน้อยยินดีที่ได้พบขอรับ นายท่าน"

ระหว่างทางมีคนที่เห็นเขาก็รีบเข้ามาทักทายในทันที

หลิน ยู ตอบกลับด้วยรอยยิ้มเขาเดินไปจนสุดทาง

ผ่านไปไม่นาน

เขาก็ได้เดินทางมาถึงสนามฝึกซ้อมที่อยู่ในเขตเมืองชั้นใน และบังเอิญได้พบเข้ากลับเหล่าเยว่ ซึ่งกำลังสั่งสอน เหว่ย กัง และผู้ฝึกตนกลุ่มหนึ่งอยู่ สนามฝึกซ้อมเต็มไปด้วยเสียงตะโกนที่ฮึกเหิม

เย่ว เต้าหนาน ดูเหมือนจะสังเกตเห็นเขา

"สายันสวัสดิ์ขอรับ นายท่าน"

เสียงของเขาเต็มไปด้วยความเคารพ พวกเหว่ย กัง และคนอื่นที่กำลังพักผ่อนกันอยู่ที่ด้านข้างสนามก็ได้ยินเสียงของเขาก็หันกลับมา

"นายท่านมาที่นี้ได้อย่างไรขอรับ"

"นายท่าน เกิดเหตุอันใดถึงได้มาที่นี้ขอรับ"

เหว่ย กัง และเหล่าผู้ฝึกตนรีบลึกขึ้นเดินมาหา หลิน ยู เพื่อคำนับเขา

"ฉันแค่มาดูพวกนาย เฉยๆ ฝึกกันต่อไปเถอะ"

หลิน ยู ยิ้มออกมาเล็กน้อย บอกให้พวกเขาฝึกต่อไปไม่ต้องสนใจเขา

จากนั้นเขาก็เหลือบมองแวบหนึ่งก็พบว่ามีผู้ฝึกตนระดับ 7 อยู่เป็นจำนวนมากในสนามฝึก

แม้แต่เหว่ย กัง ก็ดูเหมือนจะพัฒนาขึ้น ดูเหมือนจะเข้าใกล้ระดับ 7 ไปอีกขั้น

ดูเหมือนว่าผลจากการให้คำแนะนำของ เหล่า เยว่จะดีมาก

เป็นไปตามคาดการมีผู้ฝึกตนระดับ 9 ค่อยฝึกสอนให้มันดีกว่าจริงๆ

"ใช่แล้ว"

ในขณะนั้นเอง เหว่ย กัง ก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้และพูดขึ้น "นายท่านกองคาราวานจากอาณาจักรเยว่ฮวา เมื่อเร็วๆนี้ถูกมอนสเตอร์ระดับ 7 ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยในทะเลทรายโกบีโจมตี ทำให้คนในกองคาราวานหลายคนได้รับบาดเจ็บ ท่านคิดว่าพวกเราควรทำอย่างไรดีขอรับ"

"มีมอนสเตอร์ระดับ 7 อีกงั้นเหรอ?"

ดวงตาของหลิน ยู หดแคบลงเล็กน้อย

ก่อนหน้านี้ เพราะเขาได้นำกองทัพพืชออกไปต่อสู้ด้านนอก ทำให้ภารกิจในการคุ้มกันคาราวานถูกส่งมอบให้กับผู้ฝึกตนในเมืองหวงซา

ตอนนี้ดูเหมือนมันยังอันตรายเกินไป

ตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่จักรพรรดิเซิ่งเหยา ได้สังหารราชันระดับ 11 ของโลกหยวนซา ทำไมให้โชคชะตาของทวีปดึกดำบรรพ์เพิ่มขึ้นอย่างมาก แม้แต่จำนวนของมอนสเตอร์ก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ที่ทะเลทรายโกบีนั้น

ที่ส่วนลึกอาจจะเต็มไปด้วยมอนสเตอร์ระดับ 7 ซึ่งมันไม่เหมาะกับจะที่ให้เหล่าผู้ฝึกตนไปคุ้มกัน

หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พูดว่า "ในเมื่อเป็นแบบนี้ เดี๋ยวฉันจะส่งทหารพืชระดับสูงไปคุ้มกันในครั้งต่อไป"

"นอกจากนี้ กลับไปบอกเหล่า เซี่ยว ให้เขารับสมัครผู้ฝึกตนระดับ 7 ขึ้นไปให้มากขึ้น เพื่อความปลอดภัยของพวกเรา"

"ขอรับ ข้าน้อยจะบอกกับเขาเอง" เหว่ย กัง ตอบด้วยความเคารพ

กองคาราวานนั้นเป็นแหล่งเงินทุนหลักของเมืองหวงซาของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถปล่อยให้คาราวานโดนโจมตีได้

อย่างไรก็ตาม เขาแค่ต้องคุ้มกันทุกๆ 5 วันเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่น่าจะเป็นปัญหาที่จะส่งทหารพืชราชวงค์ไปเป็นผู้นำกองคาราวาน ในตอนนั้น

นี้คือเรื่องราวทั้งหมด

หลังจากที่ฟังรายงานจากเหว่ยกัง เกี่ยวกับการรับสมัครพ่อค้าและผู้ฝึกตนแล้ว หลิน ยู ก็ออกจากสนามฝึกกลับไปยังดินแดนทันที

......

เช้าวันรุ่นขึ้น

เมื่อท้องฟ้าสว่างขึ้น หลิน ยู ก็ลุกขึ้นทันที

หลังจากที่เตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว เขาเดินผ่านประตูมิติแห่งอาณาจักรลับมายังเมืองศักดิ์สิทธิ์

ก่อนที่จะเข้าสู่อาณาจักรลับ เขาก็ได้ดูรายการจัดอันดับบนแท่นศิลา

แน่นอนมันเป็นอย่างที่ราชันเหล่านั้นพูดจริงๆ รายชื่อทั้งหมดถูกรีเซ็ต ผู้ที่ติดอันดับทั้งหมดเป็นระดับ S

แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไปหน่อย

มีราชันหลายคนได้เคลียร์อาณาจักรลับระดับ SSS ได้ในวันแรก อีกทั้งคะแนนความยากก็ยังไม่ต่ำอีกด้วย

แม่แต่ เหวิน หยางหมิง ที่เขาพบก่อนหน้าก็อยู่ในอับดับ 3 เท่านั้น

"เจ้านี้กินยาอะไรเข้าไปเนี้ย? เป็นไปได้ไหมว่าโอกาศที่จะได้คะแนนสูงในช่วงเริ่มต้นของรายการ

ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย หลิน ยู พอ หลิง ซี ผ่านเหล่าราชันที่กำลังรวบรวมเพื่อนร่วมทีมเข้าไปยังอาณาจักร"

[โปรดเลือกระดับความยากของอาณาจักรลับ]

"อืมม.. งั้นเอาเป็นระดับ SSS มาทำคะแนนให้ถึง 1000 แต้มกันเถอะ"

ในครั้งนี้ หลิน ยู เลือกไปที่ระดับความยากสูงสุดทันที

เพราะก่อนหน้านี้กองทัพพืชของเขายังไม่ค่อยเป็นรูปเป็นร่างซักเท่าไร เขาจึงยังไม่กล้าเสี่ยงมาก

แต่ตอนนี้ไม่เป็นแบบนั้นแล้ว

กองกำลังทั้งหมดของเขาไม่เพียงหลอมรวมกับมอสชีวภาพทั้งหมด แต่เขายังมีเป่าปิงที่เป็นมือสังหารบอสมอนสเตอร์อีกด้วย ซึ่งสามารถฝ่าความยากระดับสูงสุดได้อย่างง่ายดาย

ดังนั้นเขาจึงไม่ลังเล กดตกลงทันที

[การเลือกระดับความยากสำเร็จ กำลังดำเนินการจัดสรรอาณาจักรลับให้กับท่าน...]

[เนื่องจากอาณาจักรลับที่ท่านเลือกนั้นอยู่ระดับสูงสุด โปรดใช้ความระมัดระวัง]

นี้มัน?

ทำไมถึงมีแจ้งเตือนมากกว่าปกติ

หลิน ยู จำได้ว่าตอนที่เขาเข้ายังอาณาจักรลับก่อนหน้านี้ยังไม่มีแจ้งเตือนขึ้นมาแบบนี้

อาณาจักรลับนี้มีความยากระดับ 1000 คะแนนมันจึงแตกต่างไปจาก 999 คะแนนที่เขาเคยผ่านมาก่อนหน้านี้งั้นเหรอ

น่าเสียดาย

ที่มันไม่ได้เปิดโอกาศให้เขาครุ่นคิดแม้แต่น้อย

ได้มีแรงดึงดูดห่อหุ้มเขาเอาไว้

หวืดดดด

เกิดเป็นแสงสว่างวาบเขาปรากฏตัวในพื้นที่สีเทา ในขณะเดียวกันก็มีเสียงแจ้เตือนดังขึ้นในหัวของเขา

[อาณาจักรลับได้รับการจัดสรรเรียบร้อยแล้ว]

[อาณาจักรลับปัจจุบัน : หอคอยแห่งบาป (ความยากระดับ SSS ระดับ 7)]

[ระดับความยาก : 1000 (สูงสุด)]

[โปรดทราบเนื่องจากกลิ่นอายแห่งความโกลาหลได้แทรกซึมเข้าไปในมอนสเตอร์ ทำให้ค่าสถานะของมอนสเตอร์ทั้งหมดเพิ่มขึ้น 100% โปรดระมัดระวังด้วย]

[ตำแหน่งปัจจุบัน : ชั้น 1 ของหอคอยแห่งบาป]

"หอคอยแห่งบาป?"

หลิน ยู พูดออกมาอย่างมึนงง เขามองไปยังพื้นที่ขนาดใหญ่รอบตัวเขา มันดูไม่ออกเลยว่าเขาอยู่ในหอคอย

เพราะมันราวกับไม่ใช่หอคอยเหมือนกับโลกๆหนึ่งมากกว่า

เพราะมันเป็นหอคอยที่ใหญ่มาก

ผนังด้านในขอหอคอยสามารถมองเห็นได้อย่างเลือนลางจากระยะไกล ราวกับอยู่ระหว่างสวรรค์กับโลก ส่วนเพดานนั้นมันสูงจะมองไม่เห็นเลย

จากนั้นก็มีสายโซ่ห้อยลงมาจากท้องฟ้าโดยมีกรงขนาดยักษ์นับไม่ถ้วนห้อยลงมาเหนือหัวเขา

และบริเวณพื้นดินที่เขาอยู่นั้นปกคลุมไปด้วยกระดูกและเลือดที่แห้งกรัง ย้อมพื้นที่โดยรอบให้กลายเป็นสีแดงเข้ม

เสียงกร๊อบบแกร๊บบ...

ทันใดนั้น ก็มีเสียงฟันกระทบกันดังขึ้นมาจากระยะไกลพร้อมกับเสียงเคี้ยวบางอย่าง

หลิน ยู ตื่นตัวทันทีเรียกกองกำลังทั้งหมดของเขาออกมา

ภูติไม้สงครามโบราณทั้ง 120 ตัวที่นำโดยชิง กัง นำทางเข้าไปยังแหล่งที่มาของเสียงอย่างระมัดระวัง

ในบรรดาภูติไม้สงครามโบราณทั้ง 120 ตัว มี 30 ตัวที่มีมอสชีวภาพอาศัยรวมอยู่ส่วนที่เหลือเป็นทหารพืชที่ขยายพันธุ์ออกมา

ส่วนเห็ดระเบิดและ เหล่าาแบนชี และก๊อบลินที่อยู่ด้านหลัง หลิน ยู เก้บไว้อย่างละ 25 ตัว

หลังจากที่ใช้สกิลขยายพันธุ์ จำนวนของมันก็เพิ่มขึ้นอีก 4 เท่าเป็นกองกำลังที่ทรงพลังอย่างมาก

กองกำลังอื่นๆ เช่น ดอกไม้แห่งการกลืนกินกระบองเพรชยอดนักมวย ดอกแดนดิไรอัลและอื่นๆนั้น

เนื่องจากอัตราการกลายพันธุ์ได้นั้นค่อนข้างต่ำ ยกเว้นดอกไม้แห่งการกลืนทั้ง 10 ตัวแล้วตัวอื่นจะมีเพียงเลขหลักเดียวเท่านั้น

หลังจากที่ขยายพันธุ์ออกไป มันจนกลายเป็นกองกำลังขนาดใหญ่ปกป้องหลิน ยู ไว้ตรงกลางอย่างดี

เมื่อเดินผ่านกองกระดูก ในที่สุดเขาก็เห็นที่มาของเสียง

มันเป็นมอนสเตอร์ที่มีรูปร่างประหลาด ตัวของมันเล็กคลานอยู่ขอบสระเลือดคอยกินซากศพ

[ชื่อ : ปิศาจสมองบิดเบี้ยว]

[เผ่าพันธุ์ : ปิศาจ]

[ระดับ : ระดับ 7 ]

[ความแข็งแกร่ง : 900 (+1000)]

[ร่างกาย : 1000 (+1000)]

[ความว่องไว : 1000 (+1000)]

[วิญญาณ : 900 (+1000)]

[สกิล : เร่งความเร็ว , คลื่นกระแทกสมอง , ฉีกกระชาก]

[พลังความโกหาหล : ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น 100%]

[หมายเหตุ : มอนสเตอร์ที่บิดเบี้ยวตัวมันชื่นชอบไขสมองเป็นพิเศษ มันรวดเร็วอย่างมาก อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม มีพลังพลังชีวิตที่แข็งแกร่งอย่างมาก]

มอนสเตอร์อะไรกัน!!

หลิน ยู ตกตะลึงกับ ค่าสถานะที่น่ากลัวของมันน่ากลัวซะยิ่งกว่ากองกำลังระดับ 7 ของเขาซะอีก

สมกับเป็นอาณาจักรลับที่ยากที่สุด?

นี้เป็นเพียงระลอกแรกของมอนสเตอร์เองนะ มันก็ถึงกับระดับนี้แล้ว

ต้องบอกก่อนว่าด้วยทหารที่ขยายพันธุ์ที่มีมอสชีวภาพร่วมอยู่มีค่าสถานะสูงสุดเพียง 1890 เท่านั้น ไม่ถึง 2000 ด้วยซ้ำ

หากไม่เพราะออร่าแห่งพฤกษา เกรงว่าเขาคงรับมือได้ยาก

ขณะที่หลิน ยู ตกตะลึงอยู่นั้น ปิศาจสมองเหล่านั้นก็สังเกตเห็นการมาถึงของเขา พวกมันเงยหน้าขึ้นคำรามใส่เขาทันที

โฮกก

โฮกกก

โฮกก

ในชั่วพริบตาเด่ว ปิศาจสมองบิดเบี้ยวทั้งหมดระเบิดการเคลื่อนกลายเป็นเงาดำ พุ่งเข้ามาหาหลิน ยู จากทุกทิศทาง

มีความมันจำนวนมากแยกตัวกันออกจากกันในอากาศ จากนั้นก็กระโดดขึ้นไปบนกรงที่ถูกล่ามโซ่เอาไว้ซึ่งกลางอากาศ กระโดดลงมาอย่างกระทันหัน

จำนวนของพวกมันมีอย่างร้อย 2-3 พันตัว!

"ชิง กัง!!!"

เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีที่ถาโถมเข้ามา หลิน ยู จึงไม่ลังเลที่สั่งให้ ชิง กัง ปลดปล่อยเสียงคำรามแห่งโทสะออกมา

ในชั่วพริบตาเดียว ออร่าสีแดงก็กระจายออกมาทำให้ค่าสถานะของทหารพืชทั้งหมดเพิ่มขึ้นถึง 30% ปะทะเข้ากับปิศาจสมองเหล่านั้น

"ปัง ปัง ปังง!"

เสียงคำรามอย่างเกรี้ยวกราดดังขึ้น ภูติไม้สงครามโบราณที่อยู่แนวหน้าก็ได้รุมสังหารพวกมันทีละตัว เหวี่ยงแขนขนาดใหญ่ของพวกมัน รุมโจมตีปิศาจสมองเหล่านั้นไปทีละตัว

แต่สิ่งที่ให้หลิน ยู ตกใจก็คือ หลังจากที่ปิศาจสมองบิดเบี้ยวเหล่านั้นได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการโจมตีอย่างรุนแรง

มันก็ลุกขึ้นราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น พุ่งเข้ามาพร้อมกับคำรามออกมา

"ตั้งรูปแบบป้องกัน!"

หลิน ยู ตะโกนสั่งการทันทีสั่งให้ทหารพืชของเขาเปลี่ยนกลยุทธ์ พวกมันกระจายไปรอบป่าเถาวัลย์

โชคดีมีป่าเถาวัลย์คอยสนับสนุน

ภายใต้บัพเพิ่งค่าสถานะอันทรงพลัง ทำให้ชิง ถังปลดปล่อยเถาวัลย์ของมันออกมาอย่างบ้าคลั่ง โจมตีปิศาจสมองที่พุ่งเข้ามา

หลังจากการสนับสนุนของทหารพืชตัวอื่นมาถึง ในที่สุดสถานการณ์ก็กลับมาสงบลงอีกครั้ง

แต่สิ่งที่หลิน ยู ไม่คิดก็คือเป่าปิง ที่ได้รับบัพจากเปลวเพลิงมังกรทำลายล้าง

มันระดมโจมตีออกไปที่ด้านนอกอย่างต่อเนื่องราวกับเป็นปืนใหญ่ของจริง

กระสุนถั่วที่มีพลังของเปลวเพลิงมังกรพุ่งออกไปทะลวงเข้าไปในร่างของปิศาจสมองบิดเบี้ยว

ทำให้ร่างกายของพวกเขาถูกจุดด้วยเปลวเพลิงมังกรซึ่งเข้าไปยัดยั่งการฟื้นตัวเขาพวกมันทำให้พวกมันลงกับพื้นกรีดร้องออกมาอย่างโหยหวน

อีกทั้งกระสุนถั่วยังมีผลกระเด็นถอยหลังอีกด้วย

แม่ว่าพวกเขาจะไม่ถูกสังหารในทันที แต่พวกเขาก็ทำให้ถูกกระเด็นถอยหลังออกไปทำลายจังหวะในการโจมตีของพวกมัน ช่วยลดแรงกดกันให้กับทหารพืชตัวอื่นๆ

"เยี่ยมม!"

หลิน ยู ถอนหายใจออกมาเขาเปิดใช้งานพลังแห่งกฏ ปลดปล่อยพลังหนามไม้ยิงใส่ปิศาจสมองบิดเบี้ยวสองสามตัวที่เข้ามา

เพียงเวลาไม่กี่นาทีปิศาจสมองบิดเบี้ยวก็ลดลงอย่างรวดเร็วเหลือเพียงหนึ่งในสาม

ราวกับพวกมันรู้แล้วว่าไม่มีทางที่จะทะลวงการบอกการป้องกันของทหารพืชเหล่านี้ได้ พวกมันจึงส่งเสียงคำรามออกมาอย่าเกรี้ยวกราด

ทันใดนั้น ได้มีคลื่นเสียงบางอย่างปะทุออกมา ปกคลุม หลิน ยู และทหารพืชทั้งหมดของเขา

"ตูมมม!"

ภูติไม้โบราณที่มาจากสกิลขยายพันธุ์ที่อยู่ใกล้ที่สุดระเบิดออกในทันที!

ราชันกลายพันธุ์ตอนที่ 252